คุณสามีพันล้าน - บทที่ 394 เพื่อนร่วมรบเปลี่ยนเป็นศัตรู
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 394 เพื่อนร่วมรบเปลี่ยนเป็นศัตรู
ยศพัฒน์เอียงหัวมองเธอ จริงๆแล้ว เขาอยากจัดงานแต่งให้เร็วหน่อย
แต่ฝั่งตระกูลสาระทาไม่ยินยอม
เทวิกาก็ยังไม่ได้กลับไปรู้จักบรรพบุรุษของตระกูลสาระทา เรื่องจัดงานแต่งจึงต้องหยุดไว้ก่อนชั่วคราว
แต่ เขาก็เคยให้คุณย่าเปิดปฏิทินโหราศาสตร์ ภายในปีนี้ ไม่มีวันดีที่เหมาะสมให้เขากับวิกาจัดงานแต่งงานเลย
ถึงจะบอกว่าเขาไม่เชื่อเรื่องดวง แต่การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต เขาจึงหวังว่าจะได้เลือกวันดีๆ
“ฉันไม่ถือสาจริงๆ”
เทวิกาพิงหัวไปบนไหล่ของเขาเบาๆ พูดขึ้น: “ที่รัก เราออกไปเดินเล่นกัน”
“ได้สิ”
สองสามีภรรยาเดินออกไป
ค่อยๆเดินไปตามถนนข้างล่างภูเขา บรรดาคนงานที่ตีนเขากำลังยุ่งอยู่กับงาน
“หลังจากที่พี่คุณกับคุณกัญณิศาได้เจอกันมีปฏิกิริยายังไงบ้าง?”
พัฒน์ถามอย่างใส่ใจ
ตอนนี้เธอรับบทแม่สื่อท่านหนึ่งอยู่ กำลังเป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของพี่ชายทั้งสองคนของเธอ
คนที่ถูกอกถูกใจยังเป็นพวกกิติยาสองพี่น้องด้วย ต้องบอกเลยว่าเธอสายตาเฉียบแหลมจริงๆ
พูดถึงเรื่องนี้ เทวิกาก็ถอนหายใจ “ณิศาสวยเว่อร์ มีเสน่ห์สุดๆ ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆเห็นเธอแล้วยังอดหลงไม่ได้เลย แต่พี่ฉันกลับเงยหน้ามองฟ้า ไม่ก็มองไปรอบๆ ไม่ได้สนใจณิศาสักนิด”
“ยังถลึงตาใส่เธอตั้งหลายรอบอีกต่างหาก ดีที่ณิศาใจกล้า ไม่ตกใจกับความเย็นชาของเขา”
ยศพัฒน์หัวเราะ: “ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้พี่คุณน่าจะไม่มีความคิดเรื่องแต่งงาน ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆคุ้นเคย ไม่แน่ทั้งสองคนอาจจะสปาร์คกันก็ได้ ถ้าไม่ลงรอยกันจริงๆ เราค่อยช่วยพี่คุณวางแผนอีกที”
“พี่ฉันเหนื่อยเกินไป”
เทวิกาสงสารพี่ชาย
“พ่อเหนื่อยกว่าอีกนะ วันนี้ที่พวกคุณออกไปชอปปิงน่ะ ผมคุยกับพ่อนานเลย”
ยศพัฒน์เล่ารายละเอียดที่เขากับพ่อตาคุยกันให้ภรรยาที่รักฟัง
หลังจากเทวิกาได้ฟังก็สีหน้าเคร่งขรึม สักพัก จึงพูดขึ้น: “จริงๆที่แม่ปฏิบัติกับพ่อก็บอกว่าไม่แคร์ได้ไม่เต็มปากหรอก จะพูดยังไงพวกเขาก็เคยรักกันมาก ไหนจะฉันกับพี่อีก เพียงแต่ แม่ฉันปล่อยวางอดีตไม่ได้ ต่อให้พ่อฉันจะจำเป็นต้องทำ แต่การเมินเฉยยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งอาการเสียสติ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นใคร ก็คงหมดหนทางปล่อยวางลงได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆอยู่ดี”
“พัฒน์ ช่วงนี้คุณยุ่งอยู่กับการไปลงทุนที่เมืองซูเพร่าไม่ใช่เหรอ?”
“อืม”
“ฉันอยากกลับไปเร็วหน่อย”
หลังจากที่ยศพัฒน์เงียบ ก็พูดต่อ: “ได้สิ ให้เวลาผมสองเดือนนะ”
“ที่รัก ขอบคุณนะ”
“เราเป็นสามีภรรยากัน เรื่องของคุณก็คือเรื่องของผม ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก”
เทวิกาไม่ได้เกรงใจเขา แค่รู้สึกขอบคุณจริงๆที่มีเขาอยู่เคียงข้าง ถ้าไม่ได้เจอเขา ชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอก็ไม่รู้ว่าจะได้รู้จักกับพ่อแท้ๆหรือเปล่า ต่อให้ได้รู้จักกัน แต่การที่เธอกลับไปที่ตระกูลสาระทาก็คงเป็นเหมือนเป้ากระสุน
“ตอนที่ฉันซื้อเสื้อผ้าให้พ่อ แม่ฉันเป็นคนเลือก เธอยังจำไซส์ของพ่อได้ ถึงปากจะบ่นก็เถอะ พ่อฉันยังคงรักษารูปร่างได้เป็นอย่างดี ยี่สิบกว่าปีแล้ว ยังคงเหมือนเดิม”
“เราไม่ต้องบังคับแม่ให้ยอมให้อภัยพ่อหรอก รอเวลาที่เหมาะสม ให้พ่อแม่ได้อยู่ด้วยกัน ปัญหาระหว่างสามีภรรยาของพวกเขา ให้พวกเขาจัดการเองดีกว่า พวกเราทำได้แค่คอยชี้นำทางสว่าง ถึงยังไงนั่นก็พ่อแม่คุณ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ หรือแม่ ก็ทำให้ลำบากใจทั้งนั้น”
พวกท่านสำคัญทั้งคู่นี่นา
เทวิกาอืมตอบรับ
รู้ว่าพ่อแบกรับภาระไว้มากมาย เธอก็สงสารพ่อมาก อดไม่ได้ที่จะให้อภัยพ่อแทนแม่ไปแล้ว
แต่ก็รู้ว่า เธอไม่ใช่แม่ เธอจนปัญญาที่จะให้อภัยพ่อแทนแม่ได้
สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือรีบกลับไปตระกูลสาระทา เพื่อช่วยพ่อล้อมจับ รอจนกระทั่งวันที่ทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว พ่อจะได้ใช้ชีวิตที่เหลือไปขอความเห็นใจจากแม่
……
เมืองซูเพร่า ตระกูลเลิศธนโยธา
คุณแก้วถือถาดอาหารเย็นยืนอยู่หน้าห้องลูกสาว เธอเคาะประตู ตะโกนเข้าไป: “พลอย เปิดประตูหน่อยได้ไหม? แม่ลงมือเข้าครัวทำอาหารที่ลูกชอบเองเลยนะ เปิดประตูให้แม่เข้าไปหน่อย ลูกไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วนะ”
“พลอย แม่รู้ว่าลูกเสียใจ แม่ก็เสียใจเหมือนกัน เป็นแม่เองที่ไม่ดี แม่ไม่ควรเตรียมน้ำหอมกระตุ้นอารมณ์ให้ลูก”
คุณแก้วพูดๆแล้วก็น้ำตาคลอ
สามีตำหนิเธอ เธอก็ตำหนิตัวเองเช่นกัน
ลูกสาวของเธอโศกเศร้ามาหลายวันแล้ว เธอในฐานะที่เป็นแม่ก็ทุกข์ใจมาก
เดิมที นี่เป็นเรื่องของสองตระกูล แต่ไม่รู้ว่าใครมันปากมาก ไม่นึกว่าจะแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป
ตระกูลเลิศธนโยธาของพวกเขาอยากจะรีบปกปิดข่าว แต่กลับถูกบอกต่อปากต่อปาก ขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว คนที่ไม่ควรรู้ก็รู้กันหมดแล้ว ปกปิดข่าวไม่ทันแล้ว
น่าโมโห!
พลอยไพลินได้ยินเสียงแม่ ก็ยังคงไม่เปิดประตู
เธอนอนอยู่บนเตียง มองเพดานอย่างเหม่อลอย นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น นึกถึงเธอที่ไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน ก็น้ำตาไหลพราก ความเกลียดชังค่อยๆลึกลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ
เป็นความผิดของชลทั้งหมด!
รู้ทั้งรู้ว่าคนที่เธอรักคือไซม่อน รู้ทั้งรู้ว่าเธอโดนวางยา ชลก็ยังจะเอาเปรียบเธอ
เขาทำให้เธอสลบแล้วค่อยส่งเธอกลับบ้านก็ได้นี่นา!
เกิดมาจากแม่คนเดียวกันแท้ๆ แต่ชลก็หมดหนทางที่จะเปรียบเทียบกับไซม่อน ชลยังปรารถนาที่จะแทนที่ตำแหน่งของไซม่อน ต้องการเป็นผู้นำของตระกูลสาระทา ยิ่งคิดที่จะสืบทอดทรัพย์สมบัติส่วนตัวมูลค่าแสนล้านด้วย
หึ!
ฝันไปเถอะ!
ถ้ายังมีเธออยู่ เธอไม่มีทางให้ชลได้สมหวังกับแผนการเลวร้ายเด็ดขาด
ชลเอาเปรียบเธอ ทำลายชื่อเสียงของเธอ ทำให้เธอหมดหนทางที่จะได้แต่งงานเป็นภรรยาของไซม่อน เธอกับชลน่ะเป็นศัตรูกันต่างหาก!
หลายวันนี้ พลอยไพลินเกลียดชลสุดๆ อยากจะบอกทุกอย่างที่ตนเองรู้ให้ไซม่อนฟังอย่างหมดเปลือก แต่คิดได้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวพันมาถึงตระกูลเลิศธนโยธามากเช่นกัน เธอเองก็ทำเรื่องเลวร้ายมาเยอะ ถ้าบอกไซม่อน เธอคงไม่ได้รับผลดีอะไร เธอถึงได้อดกลั้นเอาไว้
ไซม่อน……
นึกถึงไซม่อน น้ำตาของพลอยไพลินก็ยิ่งพรั่งพรูออกมา
เธออดอาหารมาหลายวันแล้ว ถึงไซม่อนจะบอกว่าจะมาหาเธอทุกวัน แต่เธอไม่เปิดประตู เขาก็ไม่ง้อเธอ ยืนอยู่ที่หน้าห้องเธอเพียงชั่วครู่ ก็บอกว่าที่บริษัทยุ่งมาก จึงขอตัวกลับไป
พลอยไพลินรู้ ไซม่อนรังเกียจเธอแล้ว รังเกียจที่เธอไม่บริสุทธิ์ รังเกียจที่เธอนอนกับน้องชายของเขาทั้งคืน……
ผู้ชายที่เธอหลงรักตั้งแต่อายุสิบกว่าปี
ตอนที่เกือบจะได้ครอบครองเขาแล้ว ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา
จะสอนเธอให้ไม่เกลียดชัง? ไม่ตำหนิได้ยังไง?
แต่พลอยไพลินไม่ได้เกลียดไซม่อน เธอเกลียดชล
นอกจากไซม่อนแล้ว เธอเกลียดทุกคนในตระกูลสาระทา วันนั้น เธออับอายขายหน้าที่ตระกูลสาระทา โดยเฉพาะคุณนายสามที่เคยเป็นคู่หูกันในอดีต ยิ่งทำให้เธอขายหน้า ไม่นึกว่าตอนที่เธอยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยก็จะลากเธอออกไปจากห้อง ให้พวกคนรับใช้เห็นสภาพที่น่าเวทนาของเธอ
เกลียดๆๆ!
เธอเกลียดพวกเขาจะตายอยู่แล้ว!
เธอไม่มีทางให้พวกเขาได้สงบสุขหรอก!
“พลอย เปิดประตู ได้ไหม? ยังไงลูกก็ต้องกินสักหน่อยนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ลูกต้องตายแน่”
แม่ร้องห่มร้องไห้อยู่นาน
พลอยไพลินจึงลุกขึ้นนั่ง หลังจากเช็ดน้ำตา ท้ายที่สุดก็ลงมาจากเตียง
หลายวันนี้ แม้เธอจะไม่ออกจากห้อง แต่กลับไม่หิว ในห้องของเธอมีขนมเยอะแยะ บางทีอาจจะเป็นเพราะอย่างนี้ ตอนที่ไซม่อนมาหาเธอ ถึงไม่ง้อให้เธอเปิดประตูออกมากินข้าว
เนื่องจาก เธอเคยลากเขาเข้ามาในห้องนอนของเธอ เขารู้ว่าในห้องของเธอมีของกินมีเครื่องดื่มมากมาย เธอหิวไม่ได้หรอก