คุณสามีพันล้าน - บทที่ 403 คุณนายน้อยมาแล้ว
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 403 คุณนายน้อยมาแล้ว
กนกอรนั่งรถแท็กซี่มาถึงคฤหาสน์ตระกูลเดชอุปแล้ว ถืออาหารเสริมที่ซื้อมาลงจากรถ เธอไม่ได้โทรหานฤเบศวร์ กดกระดิ่งประตู
ตอนที่รถแท็กซี่ขับมายามของตระกูลเดชอุป ก็จ้องมองแล้ว
เห็นกนกอรลงจากรถ ยามที่เข้าเวรยังไม่ได้ตอบสนองกลับมา จนกระทั่งได้ยินเสียงกระดิ่งประตู เขาถึงได้นึกออกว่าเด็กสาวที่กดกริ่งประตูคือคุณนายน้อยของตระกูลพวกเขา
ที่คุณชายและคุณนายแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน ก็เพราะถูกชายชราบีบบังคับ ทุกคนต่างก็ทราบกันว่าคุณชายไม่ได้ชอบคุณนายน้อย แต่ชายชราพูดว่า คุณกนกอรก็คือคุณนายน้อยของพวกเขา
แม้ว่าคุณนายน้อยไม่ได้รับการต้อนรับ ยามก็ไม่กล้าขวางกั้นกนกอรให้เข้าไป รีบออกมาจากป้อมยาม เปิดประตูไปพลาง พูดทักทายด้วยความเคารพไปพลาง : “คุณนายน้อย”
กนกอรหยุดกดกระดิ่งประตู และยิ้มตอบกลับเล็กน้อย พูดอธิบายประโยคหนึ่ง : “ตอนนี้ฉันไม่ใช่คุณนายน้อยของพวกคุณแล้ว”
เธอและนฤเบศวร์หย่าร้างกันแล้ว ยังไม่ได้กลับมาแต่งงานใหม่ ไม่ต้องเรียกเธอว่าคุณนายน้อยแล้ว
ยามทำได้เพียงแค่ยิ้ม หลังจากเปิดประตูออก เขาทำท่าทางเชิญกนกอร “เชิญครับคุณนายน้อย”
กนกอรเม้มริมฝีปาก กลับไม่ได้มัวยุ่งปัญหาการเรียกนี้กับยามอีก
ต่างก็เป็นพนักงานรับจ้างกันทั้งนั้น เบื้องบนสั่งยังไง เบื้องล่างก็ปฏิบัติอย่างนั้น
กนกอรถืออาหารเสริมเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่
นอกจากซื้ออาหารเสริมมาแล้ว เธอยังให้แม่เคี่ยวซุปให้เธอด้วย ใส่มาในกระปุกข้าวเก็บอุณหภูมิ
เห็นแกที่นฤเบศวร์ได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ ทักษอรไม่พูดอะไรทั้งนั้น แอบสนับสนุนให้ลูกสาวนำอาหารเสริมมาให้อย่างเงียบๆ
ทักษอรรู้จากลูกชายว่าบาดแผลของนฤเบศวร์ไม่ได้ลึกอะไรมากมาย แต่ก็มีเลือดไหลออกมาเยอะ เธอไปซื้ออาหารตอนเช้า ผ่านที่เกิดเหตุ ก็เห็นมีคราบเลือดบนพื้น
หลังจากที่กนกอรเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ตระกูลเดชอุป ยามที่เข้าเวรรีบโทรศัพท์หาลุงเซน
หลังจากที่ลุงเซนรู้ว่ากนกอรมา ก็เดินมาในห้องอาหารแล้ว
ในห้องอาหารมีเพียงสามคนที่กำลังทานอาหาร คนอื่นๆยังคงสู้รบกับโจวกงอยู่นะ
ลุงเซนเดินมาถึงข้างกายของชายชรา เข้าไปใกล้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า : “คุณท่าน คุณนายน้อยมาแล้ว”
เมื่อได้ยิน คุณปู่เร็นดวงตาเป็นประกาย มองไปยังหลานชายคนโตที่อยู่ตรงข้ามแวบหนึ่ง ตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า : “ออกไปต้อนรับหน่อย”
นฤเบศวร์บาดเจ็บที่แขนขวา พันแผลแล้ว แต่ว่ายิ่งปวดแผลขึ้นเรื่อยๆ ปวดจนทานอาหารก็ต้องช้าๆ ถ้าหากว่าปวดอีกหน่อย มือขวาของเขาถือมีดก็ยังถือไม่นิ่งเลย
คริษฐ์ที่นั่งอยู่ข้างเขาพูดถามอย่างเป็นกังวลว่า : “พี่ใหญ่ คุณต้องการให้ช่วยอะไรไหม?”
“ไม่ต้อง”
นฤเบศวร์ตอบปฏิเสธอย่างนิ่งๆ
แม้ว่าเขาต้องการการช่วยเหลือ ก็ไม่มีทางให้นฤเบศวร์ช่วยเขา งั้นจะต่อไปนฤเบศวร์จะหัวเราะเยาะจุดอ่อนที่น่าขำของเขา
ระหว่างพี่น้องของตระกูลอริยชัยกุลเป็นพี่น้องปรองดองเคารพรักซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ตระกูลเดชอุปทำไม่ได้
สองคนพี่น้องรู้ดีอยู่แก่ใจ
คริษฐ์ก็แค่แสดงความเป็นห่วงพี่ชายต่อหน้าคุณปู่ก็เท่านั้นเอง
ชายชราก็มองไปที่แขนของหลานชายคนโตแวบหนึ่งแล้ว พูดถามอย่างห่วงใยว่า : “เบศวร์ แกปวดแผลไหม?”
“ปวด รู้สึกว่าปวดมากขึ้นเรื่อยๆ”
นฤเบศวร์ตอบกลับไปตามตรง “ผมได้แจ้งหมอประจำตระกูลของเราแล้ว อีกเดี๋ยวเขาจะมาช่วยเปลี่ยนยาให้ผมนะ”
จะต้องเพิ่มยาแก้ปวดถึงจะได้ ไม่เช่นนั้นปวดแบบนี้ บวกกับเป็นแผลที่แขนขวาพอดีอีก จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเขา
ชายชราพูดอืมออกมา “อีกเดี๋ยวเรียกหมอมาจ่ายยาแก้ปวดให้แกด้วยเลย”
มีเสียงก้าวเดินบนรถเท้าส้นสูงแผ่ซ่านมาจากบันได ไม่ต้องถามก็รู้ว่าบัณฑิตาลุกขึ้นแล้ว
แม้แต่ธารณ์ก็ลงไปชั้นล่างด้วย
สองสามีภรรยาเดินเข้าไปในห้องอาหาร เห็นคุณปู่และคุณหลานสามคนกำลังทานอาหาร สองสามีภรรยารีบทักทายชายชรา
ชายชราสีหน้านิ่ง เขาไม่อยากเจอหน้าลูกสะใภ้คนโตเข้าเรื่อยๆจริงๆ ตอนนั้นไม่ควรที่จะใจอ่อนตอบรับลูกชายคนโตเลยจริงๆ ขอลูกสะใภ้ที่ไม่มีสมองมา มีแต่จะถ่วงความเจริญของเบศวร์
ขอภรรยาสิ่งสำคัญก็ต้องดูว่าฉลาดหรือเปล่านะ
มองดูพวกลูกชายของภูธิป ไม่ว่าจะคนไหน ภรรยาที่ขอมาล้วนเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบทั้งนั้น อีกอย่างฐานะเดิมก็ไม่ด้อยเลย ข้อดีต่างๆทำให้ตระกูลอริยชัยกุลขายขี้หน้าจริงๆ
ได้ยินมาว่า สมาชิกในครอบครัวกลมเกลียวกัน ฮวงจุ้ยก็จะดีมากตามไปด้วย
ชายชราคิดๆก็โมโห ไม่คิดเลย แต่ว่าเขาบอกว่าจะต้องไปขอบคุณศัตรูคู่อาฆาตสักหน่อย ไม่ได้ไปตลอดเลย วันนี้อารมณ์ไม่ดี อีกเดี๋ยวไปนั่งที่ตระกูลอริยชัยกุล ไปทะเลาะกับศัตรูคู่อาฆาตสักหน่อย อ๋อ ก่อกวนให้คุณปู่ภูธิปโมโห จะทำให้อารมณ์ของเขากลับมาดีได้
คนรับใช้รีบยกอาหารเช้าของธารณ์สองสามีภรรยานั้นเข้ามา
“คุณลุง คุณป้าสะใภ้”
คริษฐ์ทักทายคุณลุงอย่างมีมารยาท
ธารณ์ยังทำแบบผิวเผินไม่จริงจังได้ ปฏิบัติต่อหลานชายอย่างอบอุ่นมาก บัณฑิตาสีหน้าเย็นชา แม้แต่อืมก็ไม่ได้พูดออกมา
เมื่อลงไปข้างล่าง เห็นลูกชายของบ้านสามทานอาหารอยู่ในบ้านของเธอ บัณฑิตาอารมณ์เสียอย่างมาก
แต่ว่า กลับช่วยเธอนำข่าวๆหนึ่งกลับมาให้คุณนายสามได้
“พ่อ”
บัณฑิตาพูดกล่าวกับชายชราพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า : “วันนี้ฉันนัดคุณนายและคุณหนูตระกูลจรัสธนวรภัทรมา คุณหนูตระกูลจรัสธนวรภัทรคุณเมญ่าอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเบศวร์ ปกติก็ยุ่งกับการทำงาน ตอนนี้ยังเป็นโสด ฉันอยากจะแนะนำเบศวร์และคุณเมญ่าได้ออกเดตกัน”
ตระกูลจรัสธนวรภัทรเป็นตระกูลร่ำรวยเล็กๆที่ถือว่าไม่ค่อยเอิกเกริกในเมืองเมืองแอคเซสซ์ และก็มีเพียงคนชนชั้นสูงอย่างพวกเขาเท่านั้นถึงจะรู้สถานการณ์ที่แท้จริงของตระกูลจรัสธนวรภัทร
บัณฑิตาคัดกรองตระกูลที่ร่ำรวยทั้งหมดในเมืองแอคเซสซ์รอบหนึ่งแล้ว ท้ายที่สุดถึงเลือกลูกสาวที่ร่ำรวยของตระกูลจรัสธนวรภัทร
เธอก็เคยเจอลูกสาวที่ร่ำรวยของตระกูลจรัสธนวรภัทร แม้ว่าคุณเมญ่าค่อนข้างแข็งกร้าว แต่ก็ได้รับการศึกษามีความรู้มีมรายาท ไม่ว่ายังไงก็ดีกว่ากนกอรหญิงสาวที่สวยแค่ในพื้นที่นั้นๆ
ชายชราพูดน้ำเสียงเบาๆ : “ถ้าหากว่าเบศวร์ยินยอมคบหากับคุณเมญ่า ฉันก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆเบศวร์หย่าร้างหนึ่งครั้ง และก็เคยเจ็บปวดกับความรัก เรื่องแต่งงานของเขา ฉันไม่มีทางแทรกแซงอีก แล้วแต่เขาละกัน เขาคิดจะเอายังไงก็เอาอย่างนั้น”
นฤเบศวร์ตำหนิอยู่ในใจ : คุณปู่โกหกโดยไม่ต้องใช้แบบร่างเลย
บัณฑิตาเห็นพ่อตาไม่มีความคิดเห็นอะไร มีความสุขมาก หลังจากที่เธอแต่งงานกับตระกูลเดชอุป แม้ว่าสามีจะตามใจอย่างมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อตาไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยจริงๆ
ถึงตอนนี้ เธอก็ไม่สามารถกลายเป็นคุณนายตระกูลเดชอุปได้
เพราะว่าพ่อตารังเกียจที่เธอไม่มีไอคิวมากพอ คิดว่าเธอไม่สามารถแบกความรับผิดชอบได้ เป็นคุณนายของตระกูลไม่ได้
ทางฝั่งบ้านสามมักคิดที่จะแย่งตำแหน่งนั้นกับเธอ
เธอมองไปที่ลูกชาย ถึงได้พบว่ามีผ้าก๊อซพันมือขวาของนฤเบศวร์ไว้อยู่ รีบถามว่า : “เบศวร์ มือของแกเป็นอะไร?บาดเจ็บ?บาดเจ็บได้ยังไง?”
ธารณ์ก็มองไปที่ลูกชายเช่นกัน รอลูกชายตอบกลับ
“คุณลุง พี่ชายของผมคือวีรบุรุษช่วยสาวงาม”
คริษฐ์ตอบกลับแทนนฤเบศวร์ “พี่สะใภ้ของผมระหว่างเลิกงานกลับบ้านตอนกลางคืนถูกโจรปล้นแล้ว พี่ชายบังมีดแทนพี่สะใภ้ ก็เลยได้รับบาดเจ็บแล้ว”
ที่แท้ ตอนที่พี่ชายไล่ตามภรรยา ไม่พาบอดี้การ์ดมาเลย
ถ้าหาก……
คริษฐ์มีความคิดที่ชั่วร้ายขึ้นมา ก็ถูกเขาสลัดทิ้งอย่างรวดเร็ว
สู้ ก็ต้องสู้อย่างเปิดเผยบริสุทธิ์และยึดมั่นในความเป็นธรรม อย่าทำผิดกฎหมาย
ไม่เช่นนั้น แม้ว่าเขาจะสู้ชนะ ชีวิตส่วนที่เหลือก็ต้องใช้อยู่ในคุก จะลำบากไปทำไม?
บัณฑิตาพูดอย่างไม่พึงพอใจว่า : “พี่สะใภ้ของแกที่ไหนกัน?พี่ชายของแกยังไม่แต่งงานนะ กนกอรไม่ใช่พี่สะใภ้ของพวกแกตั้งนานแล้ว เธอและพี่ชายของแกหย่ากันแล้ว”