คุณสามีพันล้าน - บทที่ 428 ทุกอย่างอยู่ในแผนการหมด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 428 ทุกอย่างอยู่ในแผนการหมด
เมื่อคุณหญิงสามถูกสามีมองมาแบบนี้ ทำให้หัวใจกระตุกไปหนึ่งครั้ง
เธอเดินกลับมา ไม่ได้นั่งข้างๆ ชล แต่กลับเดินมานั่งที่เมื่อกี้ ที่ที่อยู่ข้างๆ คุณหญิงย่า
“ชล ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน แกกลับมาทำไม?”
คุณหญิงย่าถามออกมาอย่างอ่อนโยน “มีเรื่องอะไรเร่งด่วนเหรอ?”
“แม่ ผมจะหย่า!”
ชลไม่อ้อมค้อม พูดเหตุผลที่เขากลับบ้านออกมาทันที
เมื่อคุณหญิงรองได้ยินก็ตาโตเป็นประกายขึ้นมาทันที แต่ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนเป็นมืดมนทันที
ถึงแม้เธอจะมีโอสได้ประชดคุณหญิงสามสองสามคำ แต่ความจริงเธอไม่ได้อยากให้คุณหญิงสามต้องหย่ากันแล้วถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลสาระทา สะใภ้ทั้งสองอยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปี ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน เวลารับมือกับสถานการณ์ก็จะง่ายขึ้น
เมื่อเปลี่ยนพลอยเข้ามา คุณหญิงรองรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพลอย
เธอที่เป็นบ้านสองยิ่งจะไม่ได้เปรียบอะไรเลย
ดังนี้น น้องสะใภ้สามคนเดิมดีที่สุด
“ชล นายพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?น้องสะใภ้แต่งงานกับนายมาหลายปีขนาดนี้ มีลูกให้นาย ไม่มีผลงานอะไรแต่ก็ทุ่มแทลำบากไปไม่น้อย นายทำเรื่องผิดต่อเธอ ไม่ได้ไปขอโทษดีๆ แต่กลับจะมาหย่า พวกเราก็อายุมากขนาดนี้แล้ว จะหย่าทำไมกัน?”
“นายจะให้ลูกนายมองนายเป็นคนยังไง?ลูกชายสองคนของนายโตและบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ลูกสาวแค่อายุเท่าไหร่เอง ความเจ็บปวดที่พ่อแม่หย่าร้างกันเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่นำพามาให้ลูก”
ตอนที่คุณหญิงสามได้ยินสามีพูดว่าจะหย่าออกมานั้น สีหน้าดำดิ่งไปทันที
แต่เธอคาดคิดไม่ถึงพี่สะใภ้รองที่เพิ่งพูดประชดเธอเมื่อกี้กลับช่วยเธอพูดขึ้นมาก่อน
แต่เมื่อตรึกตรองดูแล้ว ก็เข้าใจถึงสาเหตุที่คุณหญิงรองช่วยเธอพูด
น่าจะเป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นอำนาจหรือความร่ำรวยตระกูลของคุณหญิงรองสู้ตระกูลเลิศธนโยธาไม่ได้เลย
ถ้าพลอยเข้ามาในบ้าน บ้านสองก็จะไม่ได้เปรียบอะไรเลย
แต่ไม่ว่ายังไง เมื่อคุณหญิงรองยอมช่วยเธอพูด และคุณหญิงสามก็ยอมรับในความช่วยเหลือของคุณหญิงรอง
“แม่ ผมต้องรับผิดชอบพลอย”
ชลหันหน้าไปมองภรรยา แล้วพูดขึ้นว่า: “กานต์ ขอโทษด้วย เป็นความผิดของผมเอง ผมผิดต่อคุณ วางใจได้ ขอแค่คุณยอมหย่าก็ผม ผมไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน”
คุณหญิงสามชื่อณิชกานต์ เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลพัชรวิทิต ถูกพ่อแม่พี่ๆ รักและตามใจตั้งแต่เล็กจนโต
และชลเองก็เหมือนกันถูกรักและตามใจตั้งแต่เล็กจนโต。
หลังจากที่ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน หลังแต่งงานเป็นเวลานานมาก ที่ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยารักใคร่กันดีมาก ไม่งั้นณิชกานต์ก็คงไม่คลอดลูกสามคนติดต่อกันหรอก
“ฉันไม่มีทางหย่าเพื่อให้คุณกับนางแพศยาพลอยคนนั้นได้สมหวังกันหรอก!”
ตอนนี้ณิชกานต์เกลียดพลอยมาก
จะให้พลอยแต่งงานเข้าตระกูลสาระทาตามที่ต้องการได้ยังไง?
ถึงแม้ต้องยืดเยื้อไปจนตาย เธอก็จะยืดเยื้อไว้ไม่ยอมหย่า ถ้าพลอยแน่จริงก็ฆ่าเธอทิ้งเสีย ถึงแม้พลอยจะฆ่าเธอทิ้ง เธอก็ยังคงเป็นภรรยาตามกฎหมายคนเดียวของชล แต่พลอยเข้ามาก็คือเป็นเมียน้อย
“กานต์ คุณจะทำแบบนี้ไปทำไม?ที่ผมทำแบบนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของทุกคน มิฉะนั้น……หรือว่าคุณอยากเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกทั้งสามคนของเรา?”
ชลเกลี้ยกล่อมให้ณิชกานต์ตอบตกลงหย่าให้ “กานต์ คุณเองก็รู้นิสัยของพลอยดี เพื่อลูกๆ ของเราแล้ว พวกเราเลิกกันดีๆ ดีกว่า ถ้าคุณต้องการอะไรก็เอ่ยปากมาได้เลย อะไรที่ผมทำได้ผมทำให้แน่นอน”
ณิชกานต์ยิ้มเยอะแล้วลุกขึ้น พูดออกมาอย่างประชดว่า: “ถ้าคุณยอมตัดขาดความสัมพันธ์กับพ่อแม่ของคุณ ยอมตัดความสัมพันธ์กับพี่น้องของคุณ แล้วออกไปตัวเปล่า ฉันจะยอมแต่งงานกับคุณ ไม่งั้นไม่ต้องมาคุยกัน!”
พูดจบ ก็ไม่สนใจปฏิกิริยาของทุกคน ณิชกานต์เงยหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก
“ณิชกานต์ คุณอย่าทำเกินไปนะ!แม่ แม่ดูสิเธอมันผู้หญิงปากร้าย ผมทนเธอไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะลูกทั้งสามคน ผมหย่ากับเธอไปตั้งนานแล้ว……”
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือตบแรงๆ ลงไปที่ใบหน้าของชล
คุณหญิงย่าใช้แรงที่มีทั้งหมดตบลงไป หลังจากตบเสร็จล้มนั่งลงบนโซฟาด้วยอาการหอบ
คุณหญิงรองลูบหลังให้แม่สามีเพื่อให้หายใจคล่อง “แม่ อย่าโกรธเลย โกรธจนทำให้เสียสุขภาพไม่คุ้มหรอก”
คิดไม่ถึงว่าน้องชายสามีจะหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้
“แม่!”
“ออกไป!”
คุณหญิงย่าตะโกนด่าออกมา
ชลกุมบริเวณใบหน้าที่ถูกคุณแม่ตีไว้ แล้วเดินออกไปอย่างโกรธเคือง
ละครฉากนี้ของตระกูลสาระทา เทวิกาที่อยู่ไกลถึงเมืองแอคเซสซ์ ไม่รู้เรื่อง แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีประยสย์ก็รู้เรื่องนี้แล้ว
เขาเดินเข้าไปออฟฟิศประธานของบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปอย่างอารมณ์ดี
ยศพัฒน์กำลังคุยเรื่องธุรกิจกับชเนนทร์ เมื่อเห็นประยสย์เดินเข้ามา เขาได้หยุดชั่วคราว จากนั้นเดินเข้าไปหาประยสย์ ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “พี่รอง พี่มาได้ยังไง?”
สองสามีภรรยาได้พูดคุยกันแล้ว เวลาที่พี่ชายทั้งสองอยู่ด้วยกัน ให้เรียกพี่ใหญ่พี่รอง
ชเนนทร์อายุใกล้สามสิบแล้ว แต่ประยสย์เพิ่งยี่สิบสี่ปีเอง ดังนั้นเขาจึงเป็นได้แค่พี่รอง
“ไม่มีอะไรทำ แล้วเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เมื่อเดินเที่ยวมาถึงหน้าบริษัทนาย จึงเดินเข้ามาดูหน่อย ไม่รู้รบกวนนายกับพี่ชเนนทร์หรือเปล่า?”
ประยสย์อยู่เมืองแอคเซสซ์ไม่มีอะไรทำจริงๆ
และเขาก็ไม่อยากกลับไปเร็วมากนัก
ก่อนที่เขายังค้นพบตัวตนของหญิงสาวลึกลับไม่ชัดเจน เขายังไม่อยากกลับไปจริงๆ
นฤเบศวร์แนะนำบริษัทนักสืบที่ดีที่สุดในเมืองแอคเซสซ์ให้เขา อีกฝ่ายก็เก็บเงินมัดจำของเขาไปแล้ว แต่จนถึงวันนี้ก็ยังตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย
ประยสย์ไม่พอใจการทำงานของบริษัทนักสืบเล็กน้อย
กัญณิศา:พี่ใหญ่ พี่พึ่งมอบหมายพวกเราเมื่อไหร่เอง?ก็อยากรู้ผลสรุปแล้ว ถ้าพี่เก่งขนาดนั้นจริง ทำไมเมื่อก่อนใช่เวลาตั้งนานหลายปีก็หาน้องสาวไม่เจอหล่ะ
ประยสย์:……
ชเนนทร์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “ในเมื่อคุณมาถึงแล้ว ถึงแม้จะรบกวนพวกเรา ผมกับยสพัฒน์จะโยนคุณออกไปได้เหรอ?”
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้นได้ลุกขึ้นไปแทน้ำให้ยสพัฒน์ด้วย
ประยสย์พายศพัฒน์มาถึงหน้าโซฟา เขานั่งลงบนโซฟา ปรกติใบหน้าที่เย็นชาของเขาเมื่อเผชิญกับน้องเขยกับชเนนทร์แล้วถึงแม้จะไม่ได้ถือว่าอ่อนโยน แต่ก็ถือได้ว่าอบอุ่นอยู่
“ยศพัฒน์ ตอนนี้ฉันขอเจอวิกาหน่อยได้ไหม?มีข่าวดีจะแบ่งปันกับวิกา”
“ตอนนี้วิกากำลังแต่งหน้าอยู่ เนื่องจากตำแหน่งต่ำเกินไป ถ้าเรียกเธอขึ้นมาโดยพละกาล น่าจะไม่ดีต่อเธอ”
ยศพัฒน์ปฏิเสธออกมาอย่างอ้อมค้อม
จากนั้นยิ้มแล้วถามออกมาว่า: “พี่รองมีข่าวดีอะไรเหรอ แบ่งปันให้ผมกับชเนนทร์ได้ไหม?”
ประยสย์พูดเรื่องที่ชลจะหย่าร้างออกมาให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา
“ในที่สุดพวกเขาก็ผิดใจกันเสียที”
เมื่ออยู่ในออฟฟิศของยศพัฒน์ ประยสย์กล้าพูดความในใจออกมา
ยสพัฒน์สามารถคาดเดาแผนการของพ่อตาได้ ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างกำลังดำเนินการตามแผนการที่พ่อตาวางไว้ เขายิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า: “พ่อเป็นจิ้งจอกเฒ่า ไม่มีทางสู้รบกับเกมส์ที่ไม่มีทางชนะได้หรอก”
ชเนนทร์ไม่ได้ฉลาดแบบนี้เหมือนยศพัฒน์ เขาฟังแล้วรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ชลเป็นลุงแท้ๆ ของวิกาไม่ใช่เหรอ ดูเหมือนจะเป็นบ้านสาม เขาจำได้ตอนที่คุณลุงไซม่อนพาครอบครัวมาสนับสนุนวิกานั้น ตอนที่วิกานับญาติได้เรียกชลว่าลุงสาม
เขาหย่าร้างเป็นเรื่องสำคัญมากเหรอ?
คุณลุงไซม่อนกำลังสู้รบอะไรเหรอ?
ชเนนทร์ฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
เขาดูออกว่าประยสย์ไม่ได้จะอธิบาย
ในเมื่อเขาไม่มีไอคิวที่จะเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของคำพูดของประยสย์กับน้องเขย และพวกเขาก็ไม่ได้อยากอธิบาย แสดงว่าไม่อยากให้เขารู้เรื่องมากเท่าไหร่ เพราะว่าบางทีรู้เรื่องมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปดังนั้น เขาจึงไม่ถามอะไรมาก