คุณสามีพันล้าน - บทที่ 433 ฟ้าหลังฝน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 433 ฟ้าหลังฝน
สีหน้าบัณฑิตาแย่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อคิดได้ว่าหลังจากนี้ต้องมองสีหน้าของบ้านสาม
เธอรู้ว่าลูกชายให้ความสำคัญกับความรู้สึกและรักเดียวใจเดียว
จากที่ไม่ว่าเปรมาจะปฏิบัติต่อเขายังไง เขาก็ยังคงรักมั่นในตัวเปรมาอย่างลึกซึ้งมาสิบกว่าปี จึงมองออกเลยว่า ลูกชายคนนี้ของเธอยึดมั่นในเรื่องของความรู้สึกมากเพียงใด
ก่อนหน้านี้เขารักเปรมา เธอก็ชอบเปรมาเช่นกัน ลูกชายยึดมั่นในเปรมา เธอก็หวังว่าเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จ คิดว่าการที่ลูกชายให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นจุดเด่น
ตอนนี้กลับกลายเป็นจุดด้อยของเขาเสียแล้ว
กนกอรมีอะไรดีกัน!
จนถึงตอนนี้ บัณฑิตาก็ยังคงยอมรับในตัวกนกอรไม่ได้
เพียงแต่ตอนนี้กนกอรเป็นแก้วตาดวงใจของลูกชาย บัณฑิตาอับจนหนทาง
กนกอรหลบอยู่ในห้องน้ำ เธอหยิบเสื้อผ้าเข้ามาในห้องน้ำด้วยเช่นกัน แต่ว่ายังไม่ได้เปลี่ยน
วาจาที่นฤเบศวร์เอ่ยกับมารดา กนกอรล้วนได้ยินในหู
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงลังเลเล็กน้อย
กลัวว่านฤเบศวร์จะละทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอขึ้นมาจริงๆ
แบบนี้ ก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างเธอกับแม่สามีเก่ามากขึ้น
เธอยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก
นฤเบศวร์เป็นคนส่งชุดราตรีมา เขาไม่มีทางให้เธอสวมชุดเปิดวับๆแวมๆ เจ้าหมอนั่นเอาแต่ใจจะตาย จะยอมให้เธอใส่ชุดเปิดวับๆแวมๆได้ยังไง ดังนั้นชุดราตรีชุดนี้จึงเป็นชุดที่เรียบร้อยมาก กระทั่งแผ่นหลังก็เผยออกมาน้อยมาก
คุณณัฏฐาด่าเธอแบบนั้น เป็นการหาเรื่องด่าล้วนๆ
“ปังๆ”
เสียงทุบประตูดังขึ้น
นฤเบศวร์ทุบประตูอยู่ข้างนอก ทุบไป พลางเรียกชื่อเธอ และขอโทษเธอไป
กนกอรพลันสงสารผู้ชายที่อยู่นอกประตูคนนั้น
แม้ว่าเขาจะร่ำรวย แต่กลับน่าสงสารมาก
แต่ก่อน เขารักมั่นในตัวเปรมา แต่คนที่เปรมาอยากแต่งงานด้วยคือยศพัฒน์ จึงเห็นเขาเป็นตัวสำรอง เพลิดเพลินไปกับการเอาใจใส่ของเขา ใช้ประโยชน์จากเขา เขารักมาสิบกว่าปีก็ไม่ได้รับความจริงใจตอบแทนกลับมาสักนิด
เมื่อเขาถูกทำให้เสียใจอย่างหนัก ตัดสินใจปล่อยมือ เปรมาพูดว่าจะเริ่มต้นใหม่กับเขาอะไรนั่น ก็เป็นเพราะเปรมารับความจริงที่แม้กระทั่งนฤเบศวร์ก็จะไปจากเธอไม่ได้ ถึงได้ก้มหัวร้องขอคืนดี
และคิดถึงการเริ่มต้นของเขากับเธอที่ต้องพบกับความรังเกียจและการขัดขวางต่างๆจากแม่แท้ๆของเขา กนกอรก็ถอนหายใจ เส้นทางความรักของเขานี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
“กนกอร ผมขอโทษ ผมมาช้าไป ตอนที่คุณได้รับความไม่เป็นธรรม จึงไม่สามารถอยู่ข้างกายคุณได้ ถ้าผมรู้ว่าคุณแม่พาผู้หญิงคนนั้นมาด่าคุณ ผมจะต้องมารับคุณก่อน แล้วค่อยกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแน่นอน”
นฤเบศวร์ขอโทษกนกอรอยู่นอกประตูไม่หยุด
“กนกอร คุณอย่าโกรธเลยนะ โกรธจนเสียสุขภาพ ผมจะเจ็บปวด กนกอร เปิดประตูให้ผมเข้าไปก่อนได้มั้ย”
กนกอรเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วตอบเขาว่า “นี่คือห้องน้ำหญิงนะ คุณจะเข้ามาทำอะไร”
กนกอรยอมตอบแล้ว นฤเบศวร์จึงโล่งใจ
เขากลัวว่ากนกอรจะไม่สนใจ ไม่ตอบอะไรที่สุด
กนกอรเปิดประตู
สองคนเผชิญหน้ากัน
นฤเบศวร์เห็นว่าเธอยังสวมชุดราตรีอยู่ ก้นบึ้งนัยน์ตาก็มีประกายยินดี แต่ไม่กล้าบุ่มบ่ามยื่นมือไปจับเธอ
“กนกอร คุณวางใจได้ เรื่องที่คุณณัฏฐาเหยียดหยามด่าว่าคุณ ผมจะระบายโทสะแทนคุณแน่นอน ผมจะให้เธอมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง!”
ตอนที่เขาทะเลาะกับกนกอร ทุกครั้งล้วนถูกกนกอรทำให้ไม่พอใจจนต้องแทบจะกระทืบเท้า ก็ยังไม่เคยด่า แล้วจะให้คุณณัฏฐาด่ากนกอรของเขาได้ยังไง!
ทั้งยังคิดจะวางมาดเป็นผู้อาวุโส
ใช้คำพูดของเทวิกา เธอ คุณณัฏฐาเป็นผู้อาวุโสของใคร?
ตอนที่เขายังรักเปรมา เขาเคารพ คุณณัฏฐา เพราะเห็นแก่เปรมา
ตอนนี้ เขาปล่อยมือจากเปรมาแล้ว คุณณัฏฐาก็ยังคงไม่รู้จักดูสถานการณ์ ก็อย่ามาโทษว่าเขาไม่เกรงใจแล้วกัน
ตอนที่รักใครคนหนึ่งอย่างแท้จริง รักจริงๆ ก็สามารถรักสุนัขของเขาด้วย
ตอนที่ไม่รัก ก็ไม่รักแล้วจริงๆ
ตอนที่รัก จุดด้อยก็กลายเป็นจุดเด่น ตอนไม่รักจุดเด่นก็กลายเป็นจุดด้อย
ดังนั้น ตอนที่คนคนหนึ่งไม่รักคุณ ก็ปล่อยมือเถอะ ล้วนดีกับทุกคน
“ความจริงแล้วคุณแม่ผมใสซื่อมาก ถึงได้ถูกคุณณัฏฐาหลอกใช้บ่อยๆ”
กนกอรแขวะในใจ แม่สามีเก่าเธอไม่ได้ใสซื่อ แต่โง่!
ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดออกไป อย่างไรเสียก็เป็นแม่แท้ๆของนฤเบศวร์
แม้ว่านฤเบศวร์จะมีคุณปู่คุณย่าเลี้ยงดูจนโตเหมือนยศพัฒน์ แต่ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่มีทางมีเขา บอกว่าแม่เขาโง่ต่อหน้าเขา อืม ไม่ดี
เป็นคน สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ ไม่พูดถึงเรื่องไม่ดีของพ่อแม่ต่อหน้าคนเป็นลูก
“กนกอร”
นฤเบศวร์เรียกด้วยความระมัดระวัง “อย่าโกรธเลยได้มั้ย”
“ไม่อย่างนั้น คุณด่าผมเถอะ คุณถูกด่าเพราะผม คุณด่าผมเถอะ อยากด่ายังไงก็ด่าเลย”
กนกอรมองเขา
“คุณด่าได้เต็มที่ ด่าแล้วไม่น่าฟัง ผมก็รับได้ ยังไงก็ถูกคุณทำให้โมโหจนเคยชินแล้ว”
กนกอรหัวเราะพรืด
“ถูกฉันทำให้โมโหจนเคยชิน จึงหาเรื่องให้ถูกด่าสินะ? ไม่ทำให้คุณโมโหสักวัน คุณจะรู้สึกไม่สบายตัวใช่มั้ย”
เห็นเธอหัวเราะ นฤเบศวร์ก็โล่งใจอีกครั้ง
วิกฤตน่าจะผ่านไปได้กว่าครึ่งแล้ว
“ไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย คุณณัฏฐาไม่ยอมแพ้ ถึงได้ด่าฉันแบบนั้น เธอน่าจะอยากเหยียดหยามด่าทอกระทั่งวิกา แต่เนื่องด้วยฐานะของวิกา จึงไม่กล้าด่า ถึงได้ระบายอารมณ์ใส่ฉันแทน”
“คุณแม่คุณน่ะ…มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณณัฏฐา และชอบเปรมามาตลอด เวลาที่ฉันรู้จักกับคุณก็ไม่นาน มากสุดก็เพิ่งไม่กี่เดือน จะเทียบกับเปรมาที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กมาสิบกว่าปีได้ยังไง คุณแม่คุณเข้าข้างพวกเธอก็เป็นเรื่องปกติมาก”
กนกอรยื่นมือไปช่วยจัดปกคอเสื้อให้นฤเบศวร์ “ฉันไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องทะเลาะกับคุณแม่คุณเพื่อฉัน แบบนั้นจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งระหว่างฉันกับเธอให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม”
“แต่ผมไม่สามารถให้คนอื่นรังแกคุณไดั แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นแม่แท้ๆของผม! กนกอร ในเมื่อผมอยากจะแต่งคุณเป็นภรรยา ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะปกป้องคุณไปตลอดชีวิต ผมจะยอมให้คนอื่นรังแกคนที่ผมต้องการปกป้องได้ยังไง”
นฤเบศวร์เอ่ยคำพูดที่ออกมาจากใจจริง
เขารักคนคนหนึ่ง ก็ยินยอมมอบทุกสิ่งให้หมด
ไม่รักคนคนหนึ่ง ก็ตัดขาดไม่เหลือเยื่อใย ไม่อืดอาดเยิ่นเย้อ
กนกอรชื่นชมที่เขาสามารถยกความรักขึ้นได้ และปล่อยวางลงได้
“ถ้าหากว่าความขัดแย้งระหว่างฉันกับคุณแม่คุณเลวร้ายลง คุณจะทิ้งทุกอย่างมาแต่งงานเป็นลูกเขยบ้านฉันจริงๆหรอ”
“ครอบครัวคุณยอมรับผมที่จะแต่งเข้าไปเป็นลูกเขยคนนี้มั้ย ผมกินเก่งและมีความสามารถ ขอแค่ครอบครัวคุณรับผมที่จะแต่งเข้าไปเป็นลูกเขยคนนี้ ผมต้องตรากตรำทำงานอย่างยากลำบากก็จะต้องให้คุณได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข!”
กนกอรมองเขานิ่งๆ
ครู่หนึ่ง เธอก็พูดว่า “คืนวันนี้คุณหล่อจริงๆ ความจริงคุณสวมชุดสูทสีขาวแล้วน่ามองกว่าชุดสูทสีดำ”
“แต่ว่าผมมีชุดสูทสีขาวแค่ชุดเดียว กนกอร คุณให้ชุดสูทสีขาวกับผมสักหลายชุดดีมั้ย ให้ผมสามารถใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันที่คุณชอบทุกวัน เพื่อเอาใจคุณ”
กนกอรช่วยจัดปกคอเสื้อให้เขาเสร็จแล้ว ก็บิดดวงหน้าหล่อเหลาของเขา
“ผีเท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำพูดคุณ”
คิดหาข้ออ้างมาให้เธอให้เสื้อผ้าเขา
“เครื่องประดับของคุณย่าคุณ ฉันไม่สวมนะ แบบนี้แล้วกัน นอกจากคุณรู้สึกว่าฉันน่าเกลียดมาก จำเป็นต้องให้เครื่องประดับเสริมความสวย ไม่อย่างนั้น ก็รีบไปกันเถอะ แม้ว่าคุณจะเป็นประธานบริษัท แต่ก็ไม่สามารถไปสาย แล้วให้ลูกค้ารอนานได้”
ได้ยินเช่นนั้น นฤเบศวร์ก็ยิ้มกว้าง
ผ่านช่วงวิกฤตไปได้อย่างปลอดภัย
“อย่ายิ้มเหมือนคนโง่แบบนั้นสิ”
กนกอรหัวเราะขบขันแล้วหยิกดวงหน้าหล่อเหลาของเขาอีกครั้ง จึงถูกเขาจับมือเอาไว้ เมื่อเขาออกแรงเล็กน้อย เธอก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนเขา พอเธอเงยหน้า ก็เป็นการให้โอกาสเขาได้ปิดปากเธอพอดี