คุณสามีพันล้าน - บทที่ 441 โหมโรงก่อนการปะทะ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 441 โหมโรงก่อนการปะทะ
ปฏิกิริยาตอบสนองในการจัดการตอนนี้ของนฤเบศวร์ ทำให้กนกอรรู้สึกได้ว่าตระกูลสาระทาเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก
นฤเบศวร์ “…ไม่มี ผมก็รู้ไม่เท่าไรเหมือนกัน รู้แค่ว่าซับซ้อนมาก ตระกูลเลิศธนโยธาจับจ้องตาเป็นมัน อยากจะกลายเป็นพี่ใหญ่ของเมืองซูเพร่าตลอด ความจริงแล้ว ก็เหมือนกับการต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลังระหว่างผมกับพัฒน์”
“โกหกให้น้อยๆหน่อย การต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลังของคุณกับคุณพัฒน์ไม่ทำร้ายชีวิตคน และไม่ระบายความโมโหลงที่ใคร พวกคุณสองคนบอกว่าเป็นศัตรูกัน บางครั้งก็ดูเหมือนเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ล้วนเข้าใจอีกฝ่ายดีมาก บอกว่าพวกคุณเป็นคนรู้ใจกันก็ไม่มากไป”
เพียงแต่เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ บวกกับการมีตัวตนของเปรมา ทั้งสองคนจึงกลายเป็นคนที่ขัดหูขัดตากัน
นฤเบศวร์คนนี้ บางครั้งก็ถ่อยมาก บอกว่าเขาเป็นผู้ชายเจ้าแผนการก็ไม่เกินไป ทว่าต่อหน้าเรื่องสำคัญ ทัศนคติทั้งสามด้านของเขายังดีมาก
เขานำเรื่องการต่อสู้ระหว่างเขากับพัฒน์มาเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ของตระกูลสาระทาและตระกูลเลิศธนโยธา กนกอรไม่เชื่อเลยสักนิด
“อร ผมไม่รู้จริงๆ คุณคิดดูสิ ตระกูลสาระทากับตระกูลเลิศธนโยธาเป็นตระกูลแบบไหน บวกกับระยะทางที่ไกลขนาดนั้น ผมยื่นมือยาวไปถึงขนาดนั้นไม่ได้ จะสืบอะไรได้ ไม่ต้องพูดถึงผม กระทั่งพัฒน์ก็สืบไม่พบอะไรมาก ตอนนี้เขายังให้ผู้ช่วยสืบความจริงเรื่องที่ เทวิกาหายตัวไปในปีนั้นเงียบๆอยู่เลย”
“คุณดูสิว่าเขาสืบมาตั้งนาน สืบอะไรได้บ้าง ยังมีประยสย์ นั่นเป็นนายน้อยของตระกูลสาระทาเลยนะ ตอนที่เขาตามหาเทวิกา ตามหาไปกี่ปี เขาสามารถมาหาที่เมืองแอคเซสซ์ได้ ก็เป็นเพราะคุณปู่ของผม จะว่าไป เขาต้องขอบคุณคุณปู่ผมให้มากๆนะ”
นฤเบศวร์คิดว่า ครั้งหน้าตอนที่ประยสย์ยังวางมาดนายน้อยต่อหน้าตัวเอง ทำสีหน้าเย็นชาใส่เขาอีก เขาจะพูดทั้งหมดออกไป ทำให้ประยสย์วางมาดต่อหน้าเขาไม่ได้
ประยสย์ เขามองยังไงก็ขัดตา เจ้าหมอนั่น แม้ว่าจะเฉยชา แต่หล่อเกินไป ทั้งยังเป็นพี่ชายฝาแฝดของเทวิกา โอกาสที่จะติดต่อกับกนกอรมากเกินไป ใครจะไปรู้ว่าประยสย์จะชอบกนกอรหรือไม่
แรกเริ่มเขาไม่ได้มองประยสย์เป็นศัตรูความรัก
ประยสย์แค่นเสียงเย็น “ถ้าฉันชอบกนกอร ยังจะมีโอกาสให้นาย นฤเบศวร์อีกหรอ?”
ตอนนี้เขาสนใจแค่เด็กสาวลึกลับ
กนกอรไม่พูดอะไรอีก
เธอเป็นคนนอก ความสัมพันธ์ของวิกากับเธอดียังไง แต่เมื่อมีอันตรายขึ้นมา วิกาก็จะเห็นเธอเป็นคนนอก ไม่ให้เธอรู้อะไรทั้งนั้น กลัวว่าจะเดือดร้อนมาถึงเธอ
“อร ตกลงแบบนี้แล้วกันนะ ตั้งแต่วันนี้ก็ให้ธามกับคีทติดตามคุณ”
กนกอรไม่พูดอะไร นับว่ายินยอมแล้ว
เธอช่วยวิกาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่สามารถกลายเป็นตัวถ่วง
นอกจากกนกอรที่ต้องการการคุ้มครอง นฤเบศวร์ก็คิดว่าต้องจัดคนไปคุ้มครองทุกคนในตระกูลภูสิทธ์อุดม
ใครจะไปรู้ว่าพลอยไพลินจะทำเรื่องเสียสติอะไรออกมาภายใต้โทสะ
สำหรับความปลอดภัยของคนตระกูลวาชัยยุง คิดว่ายศพัฒน์ก็คงจะจัดคนไปคุ้มครองเช่นกัน
นั่นไม่ใช่แม่ยายของเขา เขา นฤเบศวร์จะไม่ยุ่งแล้วกัน
…
เมื่อออกมาจากRA กรุ๊ป พลอยไพลินสีหน้าย่ำแย่จริงๆ
เธอไม่ได้ทำความเข้าใจให้ชัดเจนก็มาหานฤเบศวร์ นึกว่านฤเบศวร์กับยศพัฒน์เป็นศัตรูคู่อาฆาต เธอยอมช่วยนฤเบศวร์จัดการกับยศพัฒน์ นฤเบศวร์จะยินดีร่วมมือกับเธอ
รอเธอได้พบกับบิดาที่ตามมา เพราะกังวลว่าเธอจะเสียเปรียบ ถึงได้รู้ว่านฤเบศวร์ไม่มีทางร่วมมือกับเธอจากบิดา
ไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้นฤเบศวร์กำลังตามจีบกนกอร เพื่อนสนิทของเทวิกา แม้ว่าจะไม่มีกนกอร นฤเบศวร์ก็ไม่มีทางร่วมมือกับเธอเช่นกัน
นึกถึงนฤเบศวร์ที่ปากพูดว่าจะพิจารณาเรื่องร่วมมือ ให้ความหวังกับเธอ พอหันกลับไป ก็ไปเตือนสองสามีภรรยายศพัฒน์ให้ระวังเธอ พลอยไพลินก็โมโหอย่างยิ่ง
ไม่เคยมีใครกล้าเล่นแง่แบบนี้กับเธอ พลอยไพลิน!
ไซม่อน : ฉันเล่นแง่กับเธอมาตั้งหลายปีแล้ว
พลอยไพลิน : …
“คุณหนู”
ชายชุดดำสองคนให้การต้อนรับพลอยไพลิน
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของพลอยไพลินจอดอยู่ที่ประตูใหญ่ของRA กรุ๊ป แม้จะพูดว่าเครื่องบินส่วนตัวของเธอไม่นับว่าใหญ่มาก แต่เนื่องจากเป็นเครื่องบิน จึงสะดุดตามาก
“เป็นยังไงบ้าง”
ชายคนหนึ่งเอ่ยถามเสียงขรึม
พลอยไพลินตอบเสียงเย็น “ล้วนถูกพ่อฉันเดาถูกหมด”
หลังจากขึ้นเครื่องบินแล้ว เธอก็เอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “ช่วยติดต่อคุณนิดาให้ฉัน บอกกับเธอว่า ฉันต้องการให้กนกอรอยู่ไม่สู้ตาย”
นฤเบศวร์ตามจีบกนกอร เช่นนั้นเธอก็จะลงดาบกับกนกอร ให้นฤเบศวร์เสียใจที่ล่วงเกินเธอ
ลงดาบกับคนที่คนอื่นแคร์มากที่สุด ถึงจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนที่สุด ขอแค่เกิดเรื่องกับกนกอร ก็จะทำให้เขาทุกข์ใจยิ่งกว่าเกิดเรื่องกับตัวนฤเบศวร์เอง
ทว่า ในเมืองแอคเซสซ์ พลอยไพลินลงมือตรงๆไม่ได้
ตอนแรก พ่อเธอจัดการให้คุณนิดาช่วยเธอ
เธอก็ให้คุณนิดาไปจัดการ
ลงมือกับเทวิกาไม่ได้ เธอจะจัดการกนกอรไม่ได้เชียวหรอ?
เธอในตอนนี้อาจจะไม่มีหวังได้แต่งงานกับไซม่อน เธอกับเทวิกาจะต้องได้ปะทะกันซึ่งหน้าแน่นอน ทว่า แม้ว่าเธอจะได้แต่งงานกับไซม่อน เธอกับเทวิกาก็ต้องปะทะกันซึ่งหน้าอยู่ดี
ดังนั้น พลอยไพลินจึงไม่ลังเลที่จะลงมือกับกนกอรเลยสักนิด
…
บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ ยศพัฒน์ก็รีบโทรหานฤเบศวร์ พูดอะไรกับนฤเบศวร์นั้นไม่รู้แล้ว
ทั้งสองคนคุยโทรศัพท์กันไม่มาก ในไม่ช้า เขาก็จบบทสนทนาลง
หลังจากคิดๆดูแล้ว ยศพัฒน์ก็โทรหาพ่อบ้านภูริช รอภูริชรับสายโทรศัพท์แล้ว เขาก็สั่งว่า “ภูริช ส่งบอดี้การ์ดมาให้ผมสองนาย ต้องการคนเชี่ยวชาญการซ่อนตัวและสะกดรอยตาม ผมต้องใช้ ยังมี จัดการส่งอีกแปดคนไปที่บ้านตระกูลวาชัยยุงเดี๋ยวนี้เลย ไม่ว่าจะใช้ข้ออ้างอะไร ก็ต้องพักให้ได้ คุ้มครองความปลอดภัยของทุกคนในบ้านตระกูลวาชัยยุง”
แม่ยายตัวเองพักอยู่ที่บ้านตระกูลวาชัยยุง เขารู้ว่าพ่อตาจัดคนให้คุ้มครองแม่ยายลับๆ
เขาส่งคนไปอีกหลายคน อยู่ในที่เปิดเผย มากน้อยยังไงก็ยังสามารถสร้างผลกระทบที่ทำให้เกิดความกลัวขึ้นมาได้บ้าง
ยศพัฒน์รู้สึกได้ว่าการแตกหักระหว่างตระกูลสาระทากับตระกูลเลิศธนโยธาจะเกิดขึ้นล่วงหน้า
เป็นไปได้ว่า หลังจากที่เขากลับไปเมืองซูเพร่าเป็นเพื่อนวิกาก็จะต้องเผชิญหน้ากับมรสุมความวุ่นวายเสียแล้ว
ตระกูลเลิศธนโยธาไม่มีทางให้เวลาพวกเขาได้ปรับตัว มีแต่จะลงมือจัดการจนทำให้รับมือไม่ทัน
“ครับ”
ภูริชไม่เคยถามถึงเหตุผล คุณชายสั่งให้เขาทำอะไร เขาก็ทำสิ่งนั้น
“ทางด้านคุณนายน้อย ผมจะไปคุยเอง”
“ครับ”
ภูริชไม่มีทางแย่งชิงความดีความชอบของคุณชาย
หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว พัฒน์ก็มองเวลา ช่วงเช้าผ่านไปแล้ว
เขาส่งข้อความหาภรรยาสุดที่รัก นัดเธอไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน
เดิมเทวิกาคิดจะปฏิเสธ แต่คิดไปคิดมาก็ตอบตกลงเขาไป
แค่หลังจากเลิกงานแล้ว เธอต้องหลบเลี่ยงคนอื่น ถึงจะสามารถไปนั่งบนรถผู้ชายของเธอได้
“วิกา ไปกัน ไปกินข้าวด้วยกัน”
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เพื่อนร่วมงานหนุ่มคนหนึ่งก็เดินมาตรงหน้าโต๊ะทำงานของเทวิกา ยิ้มหวาน พลางเชื้อเชิญเธอไปกินข้าวที่โรงอาหารของบริษัทด้วยกัน
เทวิกาลุกขึ้น เก็บของบนโต๊ะตัวเอง ปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมยิ้มๆ “ขอโทษนะ เพื่อนฉันส่งข้อความนัดฉันไปกินข้าวด้วยกัน ช่วงนี้งานยุ่งมากเกินไป เธอนัดฉันหลายครั้งแล้ว ฉันก็ไม่ได้ไปเลย วันนี้ถ้าไม่ไปอีก เธอต้องโกรธฉันแน่”
รอยยิ้มของเพื่อนร่วมงานหนุ่มแข็งค้างเล็กน้อย ทว่าก็ยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงท่าทางที่ดีว่า “แบบนี้เอง อย่างนั้นคุณรีบไปเถอะ จะได้ไม่ทำให้เพื่อนคุณโมโห ใช่แล้ว เพื่อนคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอ”
“เพื่อนมหาวิทยาลัยควบคู่เพื่อนสนิทของฉัน แน่นอนว่าเป็นผู้หญิง”
ตอนนี้เทวิกาโกหกได้โดยที่หน้าไม่แดง ลมหายใจไม่กระชั้นถี่ เหมือนกับที่ผู้ชายของเธอหลอกเธอแล้ว