คุณสามีพันล้าน - บทที่ 444 แบตบอสฟ้อง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 444 แบตบอสฟ้อง
“ไม่ ไม่มี”
“ไม่มีจริงๆ?”
“คนที่เปิดตัวว่าตามจีบฉันนั้นไม่มีจริงๆ แต่ช่วงนี้มักจะมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งชอบรอเลิกงานพร้อมฉัน ตอนกินข้าวก็นั่งกับฉัน”
โกหกสามีในถิ่นของเขา เทวิการู้ว่าจะเกิดผลลัพธ์อะไรหลังจากนั้น
เธอจึงเอ่ยอย่างซื่อตรง
“พัฒน์ เขายังไม่ได้สารภาพรักกับฉัน และยังไม่ได้เริ่มตามจีบฉันจริงๆ คุณอย่า…ยังไงอีกไม่กี่วันฉันก็จะกลับเมืองซูเพร่าแล้ว”
เทวิการู้ดีแก่ใจว่าสามีจอมเอาแต่ใจจะทำให้เพื่อนร่วมงานหนุ่มลำบากใจ คิดได้ว่าไม่ได้เป็นความผิดของฝ่ายตรงข้าม เธอจึงเอ่ยร้องขอความเมตตาแทนอีกฝ่ายเล็กน้อย ตอนนี้จะหางานที่เหมาะสม เงินเดือนและโบนัสดีนั้นยากเกินไป
“เป็นฉันที่ปิดบังฐานะ ถ้าเขารู้ฐานะของฉัน ให้ความกล้าหาญกับเขา เขาก็ไม่กล้ามีความคิดอะไรกับฉัน”
ยศพัฒน์เอ่ยโดยหน้าไม่เปลี่ยนสีว่า “ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าจะทำอะไรเขา คุณก็รีบร้องขอความเมตตาแทนเขาแล้ว”
“ก็เพราะฉันกลัวว่าจะทำร้ายให้คนอื่นตกงานน่ะสิ”
เทวิกาวางตะเกียบ เขยิบเข้ามา ประคองใบหน้าของพัฒน์เอาไว้ ยิ้มตาหยี ขณะเขยิบเข้ามาใกล้ แล้วจูบลงบนริมฝีปากเขา พลางเอ่ยยิ้มๆ “สามี สาตาคุณดีจริงๆ คุณเห็นฉันแต่งหน้าน่าเกลียดขนาดนั้น ก็ยังมีคนสนใจฉันอีก อธิบายได้ว่าฉันยอดเยี่ยมมาก คุณแต่งฉันเป็นภรรยา ก็เพราะคุณสายตาดีมาก”
ยศพัฒน์ยิ้ม “ชมตัวเอง แถมยังชมซะสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ก็มีแค่ภรรยาผมนี่แหละ”
“สายตาของฉันดีมากเสมอ”
เขาคีบอาหารวิกาอีกครั้ง “โอเค ผมรับประกันเลยว่าจะไม่ทำอะไรกับคนที่มีสายตาเหมือนผม แต่คุณก็ต้องรับประกันกับผมว่า ไม่ว่าใครตามจีบคุณ คุณก็ไม่สามารถตอบรับได้ จำเอาไว้ว่า คุณเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว!”
“มีอัญมณีล้ำค่าอย่างคุณอยู่ตรงหน้า ฉันยังจะชอบใครได้อีก”
ยศพัฒน์ค่อนข้างภาคภูมิใจ “ก็ถูก มีสามีที่เก่งกาจขนาดนี้แบบผม ยังจะมีใครเหนือกว่าผมอีกหรอ อีกอย่าง กระทั่งผม คุณก็ยังทำให้อิ่มไม่ได้ จะคิดมีชู้ได้หรอ”
เทวิกา : “…”
ระยะนี้เธอก็ไม่ได้ให้เขาอดนะ
ทำไมถึงลากไปเรื่องในห้องหอได้กัน
“กินข้าวๆ สามี มา กินอาหาร คุณชอบกิน ฉันจะคีบให้คุณ”
เทวิการีบช่วยสามีคีบอาหาร “ฉันรับปากว่าจะป้อนคุณให้อิ่มแปล้เลย”
คุณชายบางคนเอ่ยความคิดที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจออกมา “ผมต้องการกินอิ่มในเรื่องนั้น”
เทวิกา : “….เวลาพักกลางวันมีไม่มาก”
“กลางคืนค่อยชดเชยกลับมาได้”
เทวิกาอ้าปาก แต่พูดอะไรไม่ออก
เที่ยงวันนี้ คุยกันไว้ว่าจะนอนกลางวัน สุดท้ายเธอก็ต้องป้อนหมาป่า ความหวังที่จะนอนพักกลางวันก็พังทลาย
โชคดีที่เขาไม่ได้กำเริบเสิบสานมากไป เอวของเธอยังรับไหว
คืนวันของเทวิกาก็ผ่านไปอย่างปกติมาก ไม่มีคลื่นลมอะไร
กนกอร เพื่อนสนิทของเธอ หลังจากนฤเบศวร์กลับไปถึง One Day In Coffeeเป็นเพื่อนเธอ ก็ได้รับการสอบสวนอย่างละเอียดจากทักษอรจริงๆ
รู้ว่าลูกสาวไม่ได้เสียเปรียบ ทักษอรถึงได้โล่งอก สายตาที่มองนฤเบศวร์ก็เมตตาและอ่อนโยนขึ้นมาก
ตอนที่เพิ่งจะกับถึงร้าน ตอนที่นฤเบศวร์ถูกแม่ยายในอนาคตถลึงตาใส่ ในใจเขาก็มีความรู้สึกหงอยๆหลายส่วน
โชคดีที่เขาเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง ไม่ได้ถือโอกาสเอาเปรียบกนกอร จึงทำให้ได้รับความรู้สึกดีๆจากแม่ยายของเขา
ดูสิ ตอนนี้แม่ยายยกจานขนมหวานมาให้เขาจานหนึ่งอีกแล้ว กลัวว่าเขาจะกินอาหารเดลิเวอร์รี่ตอนกลางวันไม่อิ่ม
“ขอบคุณครับคุณป้า”
หลังจากทักษอรวางจานขนมหวาน นฤเบศวร์ก็รีบแย้มรอยยิ้ม กล่าวขอบคุณทักษอร
ทักษอรมองเขาครู่หนึ่ง บนใบหน้าของมีรอยยิ้มเช่นกัน
สำหรับผู้ชายคนนี้ ทักษอรรู้สึกพอใจมากขึ้นเรื่อยๆจริงๆ
จำเป็นต้องกล่าวว่า เขาจริงใจกับลูกสาวตัวเอง ไม่ได้คิดเล่นๆหาความแปลกใหม่
เหตุการณ์เมื่อวาน หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายปกติ คงจะเอาเปรียบลูกสาวตัวเองไปนานแล้ว แต่นฤเบศวร์ฝืนทนเอาไว้ได้
เดี๋ยวก่อนนะ…ไม่ใช่ว่านฤเบศวร์ไม่ตั้งหรอกนะ?
ทักษอรพิจารณามองนฤเบศวร์อย่างรวดเร็ว ดูแล้วท่าทางแข็งแรงมาก คนรวยก็ดูแลรักษาสุขภาพมากเช่นกัน น่าจะไม่มีทางไม่ตั้ง
เธอจะต้องคิดมากเกินไปแน่นอน
ทักษอรหน้าแดงเพราะตัวเองเข้าใจว่านฤเบศวร์บกพร่องในเรื่องสมรรถภาพทางเพศกะทันหัน พบเจอกับสุภาพบุรุษที่แท้จริง เธอยังเข้าใจผิดว่าผู้อื่นใช้การไม่ได้ ความคิดแบบนี้เหลือทนจริงๆ
“คุณป้า ผมสามารถฟ้องคุณป้าได้มั้ยครับ”
นฤเบศวร์ถามอย่างจริงจัง
ทักษอรนัยน์ตาไหววูบ รักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ พลางเอ่ยว่า “คุณเบศวร์ เชิญคุณพูดได้เลย”
“คุณป้า คุณป้าเรียกผมว่านฤก็ได้ครับ คุณป้า เมื่อคืนอรฉีดเสื้อผ้าผมพังครับ คุณป้าว่า ผมควรให้เธอชดเชยมั้ยครับ”
ทักษอร : “…”
เธอตอบว่า “ตามเหตุผลก็ควรจะชดเชย”
“อย่างนั้น ตอนนี้ผมสามารถให้อรไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนผมได้มั้ยครับ ให้เธอชดเชยเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ผม”
ทักษอรเอ่ยในใจ : ผู้ชายเจ้าเล่ห์!
เห็นได้ชัดว่าอยากให้อรไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนเขา ยังจะใช้เรื่องชดเชยเสื้อผ้ามาเป็นข้ออ้าง ให้เธอที่เป็นแม่ไม่สามารถปฏิเสธได้
ทักษอรหันหน้าไปเรียก “อร ลูกมานี่”
หลังกลับมาถึงร้าน กนกอรไม่กล้าเข้าใกล้นฤเบศวร์เกินไป ร้อนตัวน่ะ กลัวจะถูกคุณแม่จดบันทึกความผิด กลับบ้านไปแล้วฟาดเธอ ดังนั้นเธอจึงนั่งอยู่ที่แคชเชียร์ตลอด นั่งนับเงินนิ่งๆให้เวลาผ่านไป
จู่ๆก็ได้ยินเสียงคุณแม่เรียกเธอ เธอจึงรีบรับคำ “แม่คะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้”
เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินอ้อมออกจากแคชเชียร์ ใบหน้าประดับรอยยิ้มเอาใจ เดินไปอย่างว่าง่าย “องค์ไทเฮา มีอันใดจะรับสั่งหรือเพคะ”
ทักษอรจิ้มหน้าผากเธอเบาๆ “ลูกฉีกเสื้อผ้าของนฤพัง ตามเหตุผลก็ต้องชดเชยชุดใหม่ให้เขาชุดหนึ่ง ตอนนี้ในร้านพวกเราหลายคนก็สามารถรับมือได้ ลูกออกไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนนฤเถอะ เขาชอบชุดไหน ลูกก็ซื้อให้เขา”
“ลูกเงินไม่พอ? ไม่พอล่ะก็ แม่จะโอนไปให้”
กนกอรนิ่งอึ้งไปนาทีนึงเต็มๆ ถึงได้สติคืนมา แล้วมองไปทางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ฝ่ายตรงข้ามกำลังยิ้มอวดดีให้เธอ
“แม่คะ หนูมีเงินพอ แม่ไม่ต้องโอนให้หนูแล้ว แต่ว่า แม่คะ หนูไม่ได้ฉีกเสื้อผ้าเขาพังนะคะ ก็แค่กระดุมหลุดไม่กี่เม็ดเท่านั้นเอง หนูเย็บคืนให้เขาก็ได้แล้ว ทำไมต้องซื้อใหม่ด้วย”
ตอนที่เพิ่งตื่น แล้วนฤเบศวร์หยิบเสื้อเชิ้ตที่กระดุมหลุดมา กนกอรก็รู้ว่าบนเสื้อผ้าของเขามีสัญลักษณ์ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเอ่ยเรื่องที่จะให้เธอชดเชยเสื้อผ้าออกมาต่อหน้าคุณแม่เธอ
เจ้าหมอนี่ กำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆจริงๆ
“ฝีมือการเย็บแบบนั้นของลูกน่ะนะ เย็บกระดุมให้นฤเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะเบี้ยวไปถึงไหนต่อไหน ลูกอยากให้นฤขายหน้าหรอ ผู้อื่นเป็นถึงท่านประธาน ต้องมีหน้ามีตา! รีบไป พาเขาไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่”
ทักษอรใช้นิสัยขององค์ไทเฮา ออกคำสั่งกับลูกสาว
จบกัน เธอเค้นเสียงเบาออกมา “ใครใช้ให้ลูกเมาเหล้าแล้วชอบลวนลามผู้ชายกัน?”
เป็นแม่ลูกกันมายี่สิบกว่าปี นี่เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าลูกสาวเมาเหล้าแล้วลวนลามผู้ชาย
หลังจากเข้าใจเรื่องราวที่แท้จริงเมื่อคืนจากลูกสาว ทักษอรก็รู้สึกหายใจลำบากเมื่ออยู่ต่อหน้านฤเบศวร์
เพราะลูกสาวเธอลวนลามนฤเบศวร์ ไม่ใช่นฤเบศวร์ลวนลามลูกสาวเธอ
กนกอรพึมพำเสียงเบา “แต่ก่อนหนูก็เคยเย็บกระดุม เบี้ยวไปถึงไหนต่อไหนเสียที่ไหนกัน”
มารดาเปลี่ยนท่าทีต่อนฤเบศวร์เร็วเกินไปจริงๆ ตอนนี้ยังเรียกอย่างสนิทสนมว่า “นฤ” แล้ว
หรือว่า แม่ยายทุกคนมองลูกเขยแล้ว ยิ่งมองก็ยิ่งชอบจริงๆ?