คุณสามีพันล้าน - บทที่ 446 แค่อยากหลอกเธอมาเป็นภรรยาของฉัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 446 แค่อยากหลอกเธอมาเป็นภรรยาของฉัน
“อร เบาหน่อย เบาหน่อย”
นฤเบศวร์ที่ถูกกนกอรดึงหูทั้งสองข้างร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่มือกลับไม่ได้เคลื่อนไหวหรือทำอะไร
ถ้าอยากจะรักษาหูของตัวเองเอาไว้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเขา
เขารู้ว่ากนกอรกำลังโกรธและอยากจะระบายเพราะแบบนั้นเขาถึงยอมทน
เพราะไม่ว่ายังไง ไม่ว่าเธอจะออกแรงดึงแค่ไหนก็ไม่มีทางดึงหูของเขาจนหลุดติดมือออกมาได้อยู่แล้ว
กนกอรปล่อยมือออก
“ต่อไปถ้าหยิกแก้มฉันแล้วก็โกงฉันอีก ฉันจะดึงหูคุณ”
นฤเบศวร์ลูบใบหูของตัวเองพลางมองเธอด้วยสีหน้าขมขื่น แล้วพูดว่า “อร ผมหยิกแก้มคุณเบา ๆ เองนะ มีครั้งไหนที่ผมหยิกแก้มคุณจนคุณเจ็บบ้าง อีกอย่างก็เพราะผิวสัมผัสแก้มคุณมันรู้สึกดีมาก แล้วผมก็หยิกจนติดนิสัยไปแล้ว เลยอดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มคุณเล่นสักหน่อย”
“ผมไม่ได้โกงคุณนะ ผมแค่ทำไปตามความเคยชิน”
นฤเบศวร์ไม่ยอมรับว่าตัวเองโกงกนกอร
เพราะเขาทำไปตามความเคยชินจริง ๆ
ในความไม่แน่นอนของโลกธุรกิจ วัน ๆ ก็เอาแต่วางแผนว่าจะทำยังไงให้บริษัทของคนอื่นกลายมาเป็นบริษัทของตัวเอง
“โกงคนอื่นจนชินเลยใช่ไหม”
นฤเบศวร์ “…ต่อให้ผมหลอกโกงคุณจริง ก็คงมีแค่อยากจะหลอกให้คุณมาเป็นภรรยาของผม แล้วก็รักคุณไปตลอดชีวิต”
กนกอรพูดไม่ออก
เพราะประทับใจกับคำสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของเขาที่สารภาพออกมาอย่างคาดไม่ถึง
“ไหนว่าจะไปทานข้าวที่บ้านไง ยังไม่ขับรถอีก”
กนกอรได้แต่เร่งให้เขารีบขับรถ
ขณะเดียวกันเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเทวิกา และบอกกับเพื่อนรักว่าเย็นนี้เธอไม่อยู่ที่ร้าน และที่ร้านยังมีบอดี้การ์ดหลายคนจากตระกูลเดชอุปคอยช่วยอยู่ และให้วิกาไปจัดการเรื่องอื่น ๆ ก่อน ไม่ต้องรีบร้อนกลับไปที่ร้าน
จากนั้นก็โทรศัพท์ไปบอกแม่ว่าเธอจะไปทานข้าวที่บ้านตระกูลเดชอุป
หลังจากทักษอรได้ยินก็รีบพูดเตือนเธอว่า “ตอนนี้ลูกไม่ใช่สะใภ้ของตระกูลเดชอุปแล้ว ไปเยี่ยมผู้หลักผู้ใหญ่ถึงที่บ้านอย่างไปมือเปล่า”
“หนูรู้แล้วค่ะแม่”
“แล้วก็รีบกลับด้วย อย่าเอาแต่ไปค้างคืนกับนฤบ่อย ๆ ตอนนี้พวกลูกไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว เรื่องค้างคืนเอาไว้ให้เป็นสามีภรรยากันก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ผู้หญิงต้องรู้จักเคารพตัวเองก่อน ถึงจะได้รับการเคารพจากคนอื่น ๆ
ตระกูลภูสิทธ์อุดมกับตระกูลเดชอุปเดิมทีก็แตกต่างกันมากอยู่แล้ว ถ้าหากกนกอรไม่รู้จักเคารพศักดิ์ศรีของตัวเอง ก็จะยิ่งถูกคุณบัณฑิตารังเกียจเอา
ที่ทักษอรตักเตือนลูกสาวของเธอแบบนี้ก็เพื่อให้ลูกสาวของเธอเก็บไปพิจารณาในอนาคต
และเพื่อให้นฤเบศวร์รู้จักหวงแหนทะนุถนอมกนกอรมากขึ้น
ทุกคนล้วนมีรากเหง้าที่ไม่ดี ยิ่งได้มาง่ายก็ยิ่งไม่รู้จักหวงแหน ยิ่งได้มายากก็จะยิ่งล้ำค่า
“แม่คะ แล้วหนูจะรีบกลับค่ะ”
ทักษอรตอบอืมขานรับเบา ๆ แล้ววางสายไป
ตามด้วยถอนหายใจยาว
ลูกสาวโตแล้วรั้งไม่อยู่แล้ว
เห็นทีลูกสาวของเธอคงจะรั้งเอาไว้ไม่อยู่แล้วล่ะ
แม้ว่าในใจจะยังหวงแหนอยู่มากก็ตาม
คนเป็นพ่อแม่นั้นแปลกมาก พอลูก ๆ โต ตอนยังไม่มีคู่ยังไม่แต่งงาน พ่อแม่ก็รีบร้อนกลัวว่าลูกชายจะหาแต่งภรรยาไม่ได้ กลัวลูกสาวจะไม่ได้ออกเรือน พออายุถึงวัยแต่งงานก็รีบจับคู่นักดูตัวให้
แต่พอถึงวันที่ลูกสาวจะต้องแต่งงานออกเรือนไปจริง ๆ คนที่หวงแหนและไม่เต็มใจที่สุดกลับกลายเป็นคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ซะเอง
เมื่อคุณปู่เร็นได้ยินว่าหลานชายคนโตจะพากนกอรกลับมาทานอาหารเย็นด้วยเย็นนี้ก็ดีใจสุด ๆ ลงทุนสั่งให้พ่อครัวแม่ครัวเตรียมแต่อาหารโปรดของกนกอรโดยเฉพาะ
ความเคลื่อนไหวทางด้านบ้านใหญ่ เพียงไม่นานบ้านสองบ้านสามต่างก็รู้กันหมด
คุณปู่เร็นไม่คิดที่จะปิดบัง เพราะยังไงก็ปิดไม่มิด อีกเดี๋ยวพอนฤเบศวร์พากนกอรกลับมา คนอยู่บ้านหลังใหญ่หลังเดียวกัน คนรับใช้หลายคนก็คงจะเห็นกันหมด
ยิ่งไปกว่านั้นคุณนายสามซื้อตัวคนรับใช้บ้านใหญ่ไว้หนึ่งคน ฉะนั้นทุกการเคลื่อนไหวในบ้านใหญ่ คุณนายสามรู้ข่าวเร็วที่สุด
คุณปู่เร็นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็ทำเป็นหลับหูหลับตา มีลูกสะใภ้ที่ดุดันอย่างกับเสือทำให้ครอบครัวของลูกชายคนโตรู้สึกเกรงกลัวกันขึ้นมาบ้าง พวกเขาจะได้ไม่อวดดีจนเกินไป
เมื่อคุณนายสามรู้ว่ากนกอรจะมาทานข้าว ทีแรกเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร
แม้ว่าวันที่กนกอรมาทำความรู้จักกับญาติ ๆ เธอจะปฏิบัติกับกนกอรอย่างอ่อนโยน แต่นั่นก็ทำเพื่อจงใจยั่วโมโหบ้านใหญ่
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านฤเบศวร์กับกนกอรหย่าขาดกันแล้ว แต่นฤเบศวร์ตามจีบตามง้อกนกอรอีกครั้ง เรื่องนี้คุณนายสามก็แอบเอาใจช่วยเชียร์นฤเบศวร์อยู่เหมือนกัน
ขอเพียงแค่นฤเบศวร์แต่งงานกับกนกอร พื้นฐานครอบครัวของกนกอรก็จะกลายเป็นจุดอ่อน ต่อไปถ้าลูกชายของเธอได้แต่งงานกับคุณหนูตระกูลร่ำรวยก็พอจะเหยียบหัวของกนกอรได้
จนกระทั่งได้ยินว่าคุณปู่เร็นสั่งให้ห้องครัวช่วยเตรียมอาหารโปรดของกนกอรหลายอย่าง หลังจากคุณนายสามนั่งครุ่นคิดอยู่บนโซฟาได้สักพักก็พูดพึมพำกับตัวเองว่า “จะให้กนกอรแต่งเข้าบ้านไม่ได้เด็ดขาด”
สามีเธอซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะก้มกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์อีกครั้ง แต่ปากกลับพูดว่า “คุณบอกว่ากนกอรแต่งงานกับนฤเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ ทำไมอยู่ ๆ ถึงไม่อยากให้กนกอรแต่งเข้าบ้านแล้วล่ะ”
ลุงคนที่สามของนฤเบศวร์เป็นลูกชายคนสุดท้อง ดังนั้น จึงไม่มีแรงกดดันที่จะต้องสืบทอดธุรกิจของครอบครัว แน่นอนต่อให้เขาอยากจะสืบทอดธุรกิจครอบครัวมันก็ไม่มีทางเวียนมาถึงเขาได้
แต่เขาปล่อยวางได้ ถ้าไม่ให้เขาสืบทอดธุรกิจครอบครัว เขาก็จะไม่สืบทอด เพราะถึงยังไงพ่อก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาอดตายอยู่แล้ว ถึงยังไงก็ต้องแบ่งทรัพย์สินครอบครัวให้เขาบ้างอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ส่วนความไม่พอใจของภรรยากับลูกชาย ถึงเขารู้แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือสนับสนุน ปล่อยให้สองแม่ลูกทรมานดิ้นรนกันเอาเอง
“คุณพ่อชอบกนกอรเกินไป ถึงแม้ว่าฉันจะเคยเจอกนกอรไม่กี่ครั้งจนแทบจะนับครั้งได้ แต่ก็พอจะมองออกว่ากนกอรไม่ใช่พวกที่รังแรกได้ง่าย ๆ ได้ยินมาว่าทุกครั้งที่พี่สะใภ้ใหญ่กับคุณณัฏฐาไปหาเรื่องเธอทีไรก็ต้องหงุดหงิดโมโหกลับมาทุกครั้ง”
“ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณพ่อจะยังเป็นหัวหน้าครองครัวอยู่ แต่เรื่องเรือนภายในคุณพ่อก็ไม่ได้ดูแลอะไรมากนัก และครอบครัวของพวกเราอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยกัน ถึงแม่ว่าจะแยกกันอยู่ใครอยู่มัน แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีคนมาดูแล”
“ที่ผ่านมาคุณพ่อไม่ได้ให้ความสำคัญพี่สะใภ้ใหญ่นัก ถ้าพี่สะใภ้ใหญ่โชคดีอาจจะได้เป็นคุณย่าเลยก็ได้ คุณพ่อก็ไม่ได้บอกว่าจะให้เธอเป็นนายของบ้าน แต่ตอนนี้คุณพ่อให้ความสำคัญกับกนกอรมาก บางทีเขาอาจจะอยากฝึกให้กนกอรมาเป็นคุณนายของบ้านที่ดูแลตระกูลเดชอุปของพวกเราก็ได้”
“ให้ผู้หญิงสกุลเล็ก ๆ มาเหยียบหัวคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์อย่างพวกเราแบบนี้ฉันไม่ยอมหรอกนะ ยิ่งไปกว่านั้นกนกอรยังเด็กจะรับภาระหนักอึ้งแบบนี้ได้ยังไง พี่สะใภ้ใหญ่เป็นผู้นำครอบครัวไม่ได้ ส่วนครอบครัวบ้านสองก็เอาแต่อาศัยลมหายใจบ้านใหญ่ไปวัน ๆ แต่ว่าฉันทำได้นี่นา ไม่ว่าจะเป็นพื้นเพครอบครัว ความสามารถอะไรก็ตามฉันก็เก่งกว่าพี่สะใหญ่เป็นไหน ๆ”
“คุณพ่อควรจะมอบตำแหน่งคุณนายประจำตระกูลที่ขึ้นมาดูแลครอบครัวนี้ให้กับฉัน จะให้กนกอรได้ยังไง จะให้อำนาจทุกอย่างกับบ้านใหญ่ทั้งหมดแบบนี้มันไม่ได้หรือเปล่า”
ที่บริษัทถึงแม้ว่าลูกชายของเธอจะควบตำแหน่งรองประธาน แต่ก็ยังถูกนฤเบศวร์กดขี่อยู่เหมือนเดิม
ยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่ให้ความสำคัญกับนฤเบศวร์มาก เพียงเพราะนฤเบศวร์เป็นหลานชายคนโตของหุ้มส่วน ทั้ง ๆ ที่ลูกชายของเธอเก่งและโดดเด่นมากกว่า
นฤเบศวร์ใช้อารมณ์เกินไป ผู้ชายแบบนี้อารมณ์แปรปรวนง่าย เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งก็คงจะไม่เป็นไร แต่จะคาดหวังให้เขาเป็นผู้นำพาตระกูลเดชอุปไปสู่ระดับที่สูงขึ้นมันจะรอดเหรอ?
คุณนายสามไม่เชื่อว่านฤเบศวร์จะมีความสามารถพอ
ไม่เห็นหรือไงที่นฤเบศวร์กับยศพัฒน์แข่งขันกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกครั้งเขาก็จะแพ้ให้ยศพัฒน์ตลอด
ถ้าให้ลูกชายของเธอแข่งกับยศพัฒน์ อาจจะไม่ได้ชนะทุกครั้ง แต่อย่างน้อยต้องชนะแปดครั้งในสิบครั้งแน่นอน
คุณนายสามคิดเสมอว่าการที่นฤเบศวร์ได้นั่งตำแหน่งประธานของRA กรุ๊ป เป็นเพราะว่าคุณปู่ลำเอียง เพราะเอนเอียงไปทางลูกหลานของภรรยาคนเดิมของเขาเสียมากกว่า
ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าคุณปู่ให้ความสำคัญกับกนกอร คุณนายสามก็ยิ่งทนนิ่งต่อไปไม่ได้
จะปล่อยให้กนกอรขึ้นเป็นคุณนายประจำตระกูลเดชอุปไม่ได้เด็ดขาด