คุณสามีพันล้าน - บทที่ 475 ยังไงก็คิดว่ายศพัฒน์น่าเชื่อถือ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 475 ยังไงก็คิดว่ายศพัฒน์น่าเชื่อถือ
เมื่อคิดว่าต้องปล่อยกนกอรไป หัวใจของนฤเบศวร์ก็รู้สึกราวกับมีดบาด และใบหน้าของเขาก็ซีดลง
เขาไม่ใช่คนดีแต่เขาก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายเช่นกัน พระเจ้าอดใจทำกับเขาแบบนี้ได้อย่างไร
“นฤเบศวร์ นายเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า”
เมื่อกนกอรที่อยู่นอกประตูไม่ได้รับการตอบสนอง จึงเคาะประตูห้องน้ำอีกครั้ง
เกิดอะไรขึ้นกับเขา
“อร เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันเหนื่อยมากแล้วต้องพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม”
นฤเบศวร์รู้ว่าถ้าเขาไม่พูด กนกอรจะแคะประตูต่อไป
เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงแล้ว กนกอรยังคงเป็นเหมือนกระดาษขาว จึงยังไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา
จะให้เขาพูดความจริงกับเธออย่างไร
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะต้องเผชิญหน้ากับกนกอรในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่าเขาหย่อนสมรรถภาพทางเพศและต้องเลิกกับกนกอร หัวใจของเขาเหมือนถูกมีดควักออกมา และความเจ็บปวดนั้นก็มากเกินกว่าที่เขาจะทนได้
ตอนปล่อยวางเปรมา เขายังไม่รู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้เลย
อาจเป็นเพราะเขาเคยประสบความผิดหวังนับครั้งไม่ถ้วนจากเปรมา ดังนั้นตอนปล่อยวางถึงจะเจ็บปวด แต่ก็ไม่เจ็บปวดราวมีดบาดเหมือนตอนนี้
“นายไม่เป็นไรจริงๆนะ”
กนกอรถามด้วยความห่วง
เขาแปลกมาก
หลังจากยั่วยวนเธอจนไฟลุก เขาก็ถอนตัวและซ่อนตัวในห้องน้ำ ปล่อยให้เธอสับสนมึนงง
“ฉันสบายดี แค่รู้สึกเหนื่อยมาก เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะอาบน้ำก่อน”
กนกอรรู้สึกสงสัยมาก “อาบน้ำอีกทำไม นายออกมาก่อน ฉันขอดูก่อนว่านายไม่เป็นไรจริงๆใช่ไหม”
“อร ฉันสบายดี แค่เหนื่อยมากจริงๆ เธอกลับไปเถอะ ไว้ฉันพักผ่อนเสร็จแล้วจะไปหาเธอทีหลัง”
ฟังออกถึงความเหนื่อยล้าในคำพูดของเขา
เมื่อนึกถึงว่าเขาทำงานล่วงเวลาเพื่อรับมือกับเหตุการณ์กะทันหัน และบินกลับมาหาเธอทันทีที่ทำงานเสร็จจึงดูเหนื่อยมาก กนกอรพูดอย่างหมดหนทางว่า: “ก็ได้ นายไปแช่น้ำร้อนอีกครั้ง อย่าแช่นานแล้วหลับในอ่างอาบน้ำล่ะ ฉันจะกลับไปที่ร้านก่อน”
นฤเบศวร์ตอบเสียงอืม
ตั้งหูขึ้นฟังการเคลื่อนไหวของด้านนอก
เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วปิด เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากรอสักครู่ นฤเบศวร์ก็เปิดประตูห้องน้ำและเดินออกไป
กลับมาที่ห้องนอน มองไปที่เตียงขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างยุ่งเหยิง นึกถึงเขาอยากจะมีเพศสัมพันธ์กับกนกอรมาตลอด และในที่สุดกนกอรก็ยอมสมัครใจ แต่สุดท้ายเขากลับ……
นฤเบศวร์นั่งลงบนเตียงอย่างสลดใจ
ทั้งๆที่เขาร่างกายแข็งแรงมีพละกำลัง และยังให้ความสำคัญกับการรักษาร่างกาย มักจะไปออกกำลังกายอยู่เสมอ แล้วจะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ไง
ต้องเป็นเพราะเขาเหนื่อยเกินไปแน่
เขาต้องถามคนที่มีประสบการณ์แล้ว ถ้าเหนื่อยมากเกินไปจะเป็นแบบนี้ใช่ไหม
มันเกี่ยวข้องกับความสุขตลอดชีวิตของเขากับกนกอร นฤเบศวร์ทนรอไม่ไหวอีก และต้องการไปหายศพัฒน์ทันที
เมื่อคิดจะทำ นฤเบศวร์ก็เปลี่ยนชุด จากนั้นหยิบกุญแจรถแล้วรีบออกจากห้องดีลักซ์ไป
กนกอรไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนฤเบศวร์ เมื่อเธอกลับมาที่ร้าน เธอเห็นว่าเทวิกายังอยู่ที่นั่น แต่ในร้านมีลูกค้าจำนวนมาก เทวิกาและน้องพนักงานกำลังยุ่งอยู่ เธอไม่พูดอะไรแล้วแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เริ่มเข้าร่วมการเร่งรีบ
ทางนฤเบศวร์มุ่งตรงไปที่บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
สำหรับการมาถึงของนฤเบศวร์ ผู้คนในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปต่างคุ้นชินแล้ว
ในโลกธุรกิจไม่มีศัตรูถาวรและมิตรที่แท้จริงหรอก
คงไม่น่าแปลกใจหากวันหนึ่ง บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปและRA กรุ๊ปจะกลายเป็นพันธมิตรกัน
ยศพัฒน์ยุ่งมาก เพื่อที่จะพาภรรยาที่รักกลับบ้านที่เมืองซูเพร่า เลยต้องจัดการเรื่องสำคัญก่อนแล้วโยนภาระของบริษัทให้กับเซทท์และณภัทร
ตั้งแต่รู้ว่าพวกเขาต้องมาบริหารบริษัทช่วงเวลาหนึ่ง เซทท์และณภัทรจึงมาหาพี่ชายโตเวลาเดียวกัน โดยอยากให้พี่ชายโตเปลี่ยนใจ
แม้ว่าพี่ชายรองต้องอยู่กับพี่สะใภ้รอง และน้องสิบยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่ก็ยังมีพี่น้องคนอื่นที่สามารถเรียกใช้ได้นิ ไม่จำเป็นต้องจับพวกเขาสองคนใช้งานหนักเลย
ถ้าจะใช้งานหนักทุกคนก็ต้องทำด้วยเช่นกัน เปลี่ยนผลัดกันเป็นตัวแทนประธาน อย่างไรก็ตาม พวกเขาพี่น้องต่างเข้าใจการดำเนินงานของบริษัท ดั้งนั้นจะให้ใครมารับช่วงต่อก็ไม่เป็นไร
ในขณะนี้ ห้องสำนักงานของประธานบริษัท ยศพัฒน์กำลังจัดการเอกสารอย่างรวดเร็ว สองคนที่อยู่ตรงข้ามเขาคือลูกพี่ลูกน้องของเขา
เซทท์และณภัทร
“พี่ใหญ่ พี่กับพี่สะใภ้ใหญ่ทานอาหารที่โรงแรมกันเกือบทุกวัน กระเพาะต้องถูกฉันเลี้ยงจนดีแน่ พาฉันไปเมืองซูเพร่าด้วยสิ บริษัทของเรากำลังจะเปิดสาขาที่นั่น ในฐานะที่ฉันเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอริยชัยกุล ก็ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจบ้าง”
“ถ้าฉันตามไปด้วย ยังสามารถทำอาหารอร่อยๆให้พี่กินทุกวัน รับรองว่าจะเลี้ยงให้ขาวๆอ้วนๆเลย พอร่างกายแข็งแรงแล้ว จะได้เพิ่มหลานให้ฉันได้เร็วๆแน่นอน และถ้าเป็นหลานสาวจะดีกว่า ฉันชอบหลานสาวมากกว่า”
ลูกชายในตระกูลอริยชัยกุลนั้นไร้ค่า แต่ลูกสาวนั้นล้ำค่า
ณภัทรรู้สึกกระวนกระวายเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาทำอาหารไม่เก่งเท่าพี่ชายสาม แต่เขาสามารถวางตัวลงช่วยพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ทำความสะอาดบ้าน
“พี่ใหญ่ ฉันทำอาหารไม่เก่งเท่าพี่ชายสาม แต่ฉันขยันและมีความสามารถ ถ้าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่งานยุ่งเกินไป ฉันสามารถช่วยงานบ้านทั้งหมดได้ ตอนประยสย์มาเขาโม้ว่าเมืองซูเพร่ามีดียังไง พอดีเลย ฉันจะได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ไปดูว่าเมืองซูเพร่ามีดีตรงไหน”
ยังไงก็ตาม เขาจะไม่แบกรับภาระที่หนักหน่วงนี้
แค่ธุรกิจส่วนตัวของเขาก็เพียงพอให้เขายุ่งแล้ว แล้วยังเป็นผู้จัดการของสาขาหลายแห่งภายใต้บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป งานยุ่งเป็นลาทุกวันเลย แต่ถ้าเทียบกับประธานบริษัทแล้ว เขาถือว่าจิ๊บจ๊อยไปเลย เพราะเขายังมีทีมบริหารขนาดใหญ่อีกด้วย
ยศพัฒน์รู้สึกปวดหัวจากการถูกน้องชายสองคนพูดจู้จี้ ดังนั้นเขาจึงวางปากกาลงเสียงดัง
เขาเงยหน้าขึ้นมองน้องชายทั้งสอง
ตั้งแต่เขาวางปางลงเสียงดัง เซทท์และณภัทรก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“น้องสาม สิ่งที่นายพูดเมื่อกี้มีเหตุผลมาก นายเป็นสมาชิกของตระกูลอริยชัยกุล ก็ควรมีส่วนร่วมในธุรกิจของตระกูลอริยชัยกุล น้องสี่ นายก็เป็นสมาชิกของตระกูลอริยชัยกุล ฉันแค่พาพี่สะใภ้ของนายกลับบ้าน แล้วให้นายดูแลบริษัทระยะหนึ่งเท่านั้น ดูท่าทีของพวกนายสิ”
“ทำเหมือนบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปเป็นของฉันคนเดียวซะงั้น ฉันให้นายสองคนผลัดกันทำงาน ไม่เหนื่อยมากหรอก นายสองคนยังเกี่ยงกันอีก”
เซทท์พูดเสียงต่ำ: “พี่ใหญ่ ระยะหนึ่งของพี่มันนานเท่าไหร่ล่ะ ถ้าแค่สองสามวันฉันจะไม่พูดอะไรสักคำเลย”
ยศพัฒน์จ้องมาที่เขา
“ถ้านายสองคนยังเกี่ยงกันอีก ฉันจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทซะ แล้วไม่สนว่าใครจะรับช่วงต่อ เพราะยังไงปู่ก็จัดการเองได้ อย่าลืมสิ อันที่จริงฉันไม่ควรมานั่งตำแหน่งนี้”
ยศพัฒน์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขู่น้องชายสองคน
เขายังพูดอีกว่า: “นายดูที่คริษฐ์สิ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เก้าอี้ใต้บั้นท้ายของนฤเบศวร์ แต่เขาก็ยังนั่งไม่ได้ ส่วนฉันอุตส่าห์เสนอให้พวกนายมานั่ง แต่พวกนายกลับรังเกียจ”
ณภัทรเบะปากและพึมพำว่า: “พวกเราพี่น้องไม่ได้ขาดแคลนเงินสักหน่อย คริษฐ์จะเหมือนกับพวกเราได้อย่างไร”
พวกเขาทั้งหมดมีบริษัทเป็นของตัวเอง เลยไม่ต้องพึ่งธุรกิจของบรรพบุรุษเลยและไม่อยากสืบทอดธุรกิจของบรรพบุรุษ บางครั้งให้ช่วยแบ่งเบาภาระและบริหารบริษัทสาขาหลายแห่งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าให้แบกภาระที่หนักหน่วง พวกเขาจะไม่ยอมรับโดยเด็ดขาด
ยศพัฒน์จ้องมาที่เขา
ณภัทรไม่กล้าพูดอีกต่อไป