คุณสามีพันล้าน - บทที่ 478 ชีวิตของคุณชายประยสย์อย่างฉันยังคงมีค่ามาก
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 478 ชีวิตของคุณชายประยสย์อย่างฉันยังคงมีค่ามาก
เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญหาอะไร นฤเบศวร์จึงออกมาจากบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป แต่ไม่รีบร้อนที่จะไปหากนกอรเพื่อลองอีกครั้ง
กนกอรกลับไปที่ร้านแล้ว และถ้าตอนนี้เขาไปหาเธอ เธอก็อาจไม่เต็มใจที่จะสมยอมกับเขา
เขาเหนื่อยและง่วงมากจึงกลับไปที่โรงแรมเพื่อนอนต่อ
นฤเบศวร์ขับรถออกไป
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงบ่ายอีก
พระอาทิตย์กำลังตกดิน ท้อฟ้าตาข่ายสีดำถูกโยนลงมา และวันเวลาก็ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด
ณิศารู้จากเทวิกาแล้วว่าประยสย์ไปที่บ้านตระกูลวาชัยยุง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้แจ้งให้ประยสย์รอเธอที่ชานเมือง
ในตอนกลางคืน เมื่อทุกคนหลับไป ณิศาก็ปลอมตัวและออกจากคฤหาสน์ตระกูลนนท์สัจทัศน์อย่างเงียบๆ
มอเตอร์ไซค์ของเธอจอดอยู่ที่ลานจอดรถซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้เคียง
เธอขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งไปตามถนน
โชคดีที่เมื่อเทวิกาและพัฒน์ประกาศการแต่งงาน เพราะความอยากรู้เธอเลยสืบสวนเทวิกาไปบ้าง และรู้ที่อยู่ของบ้านตระกูลวาชัยยุง
ในตอนกลางคืนบนถนนมีรถน้อยมาก และณิศาก็ขับมอเตอร์ไซค์อย่างรวดเร็ว
เวลาที่เธอออกเดินทางเป็นเวลาศูนย์นาฬิกา และเธอคาดว่าน่าจะไปถึงบ้านตระกูลวาชัยยุงเป็นเวลาตีหนึ่งกว่า
หลังจากเก็บเงินจากประยสย์แล้วก็รีบกลับไป น่าจะกลับบ้านก่อนรุ่งสางอย่างแน่นอน
เธอจะไม่ให้พี่สาวของเธอรู้ และจะไม่รบกวนคนอื่น
ณิศาคำนวณจังหวะเวลาได้แม่นยำมาก
เวลาตีหนึ่งกว่าเธอก็มาถึงหมู่บ้านที่บ้านตระกูลวาชัยยุงพักอาศัย ค่ำคืนของชนบทนั้นเงียบเหงามากและบ้านทุกหลังต่างก็ปิดประตูนอนหลับฟันดีกัน เธอขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนในหมู่บ้าน ซึ่งแม้แต่สุนัขในหมู่บ้านก็ขี้เกียจที่จะเห่า โดยคิดว่าเธอแค่เดินผ่านทาง
ไม่นานณิศาก็หยุดรถ
เธอเห็นสี่แยกใกล้บ้านตระกูลวาชัยยุงมีรถจอดอยู่ หน้าต่างรถเปิดอยู่และคนในรถดูเหมือนกำลังสูบบุหรี่
ดวงตาของชายคนนั้นเฉียบคมเช่นกัน และเมื่อเขาเห็นเธอ เขาก็โบกมือให้เธอ
คือประยสย์!
กัญณิศาสตาร์ทรถอีกครั้ง และไม่นานก็หยุดอยู่หน้ารถของประยสย์
ทันทีที่เธอจอดรถ สุนัขในหมู่บ้านก็เริ่มเห่าหอน
ในตอนแรกมีเพียงหนึ่งหรือสองเสียง และค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสุนัขทุกตัวในหมู่บ้านจะเริ่มเห่าหอนขึ้น ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และหลายคนก็ไม่ได้ยินเสียงสุนัขเห่าเลยด้วยซ้ำ
“คุณชายประยสย์ คุณรอฉันที่นี่เหรอ”
ณิศาถามด้วยรอยยิ้ม
“อืม”
ประยสย์ดับบุหรี่ เปิดประตูและลงจากรถ
“เธอทราบข่าวไวมาก พวกเราไม่ได้ทิ้งข้อมูลการติดต่อกันไว้ แต่เธอก็สามารถตามรอยมาที่นี่ได้”
ณิศายิ้ม “อันที่จริงฉันจับตาดูคุณชายประยสย์อยู่”
ประยสย์สูบบุหรี่ไปมากเมื่อพูดเลยมีกลิ่นยาสูบ ณิศาไม่ชอบกลิ่นยาสูบมาก ดังนั้นเธอจึงหยิบหมากฝรั่งแท่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง ยื่นให้ประยสย์แล้วพูดว่า: “คุณชายประยสย์ ฉันไม่ค่อยชอบกลิ่นยาสูบ”
“ขอโทษที”
ประยสย์รอจนเบื่อ เขาเลยสูบบุหรี่
โดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยสูบบุหรี่หรือไม่สูบด้วยซ้ำ
เขาหยิบหมากฝรั่ง เปิดห่อเอาหมากฝรั่งเข้าปาก เคี้ยวสองสามครั้งแล้วถามว่า: “เธอพกหมากฝรั่งติดตัวทุกครั้งเลยเหรอ”
“ฉันก็กินบ้างเป็นบางครั้ง ดังนั้นเมื่อออกไปข้างนอกฉันจึงมักพกมาด้วยเสมอ”
ณิศามองไปยังอาคารที่สร้างเองซึ่งอยู่ไม่ไกล และถามประยสย์ว่า: “นี่คือบ้านของน้อวงสาวคุณเหรอ”
“อืม เป็นที่ที่วิกาเติบโตมา”
ประยสย์หันไปมองบ้านตระกูลวาชัยยุง
คนของตระกูลวาชัยยุงหลับกันหมดแล้ว
ประยสย์มองไปที่สภาพแวดล้อมโดยรอบและพูดว่า: “ในตอนกลางคืน ฉันมองไม่เห็นทิวทัศน์ แต่ฉันได้กลิ่นอากาศที่บริสุทธิ์ ดังนั้นที่นี่จะต้องมีทิวทัศน์ที่สวยงามแน่”
พื้นที่ชนบทในปัจจุบันก็ไม่ได้แย่ และมีชนบทบางแห่งถูกสร้างให้เหมือนในเมือง
“ใช่ ที่นี่มีทิวทัศน์ที่สวยงามและอากาศก็ดีมาก ถ้าเดินไปตามถนนในหมู่บ้าน อากาศจะดียิ่งขึ้น ด้านในมีภูเขาและใต้เขามีลำธาร ภูเขายังไม่ได้รับการพัฒนาจึงยังคงไว้ซึ่งความสวยงามตามธรรมชาติ ชาวบ้านเพียงแต่ปลูกไม้ผลไว้บริเวณเชิงเขาเท่านั้น”
สถานที่ที่น้องสาวของเขาเติบโตมา แน่นอนว่าประยสย์เดินไปรอบๆมาแล้วจึงรู้ดีทีเดียว
หลังจากประยสย์พูดจบ เขาก็เปิดประตูเบาะหลังของรถและข่นกล่องจากด้านในออกมา
เขาเตรียมเงินสดจำนวนมากตามคำแนะนำของน้องสาว โชคดีที่พี่น้องตระกูลอริยชัยกุลมีความสามารถมากพอ ช่วยให้เขาได้เงินสดหลายกล่องตามคำขอของเขา
เปลือกตาของณิศา กระตุกขณะที่เฝ้าดูเขาถือกล่องออกมา
เธอให้เขายกเลิกคำสั่งไปแล้วเอาเงินมัดจำมาคืน คิดว่าแค่ไม่กี่แสนใช้กล่องเล็กๆใส่ก็น่าจะได้แล้ว แต่ตอนนี้เขากลับข่นกล่องลงจากรถหลายกล่อง และแต่ละกล่องก็ดูค่อนข้างหนัก เธอมองออกเพราะตอนเขาข่นกล่องเขาใช้แรงอยู่พอควร
“คุณชายประยสย์”
ณิศารีบหยุดประยสย์ไว้ไม่ให้ข่นกล่องออกมาข้างนอก
ถือโอกาสเหลือบไปมองในรถ ในนั้นเต็มไปด้วยกล่อง
เธอ: ……
“คุณชายประยสย์ ในกล่องนี้ใส่อะไรไว้ คือเงินสดเหรอ”
ณิศาถามอย่างระมัดระวัง
ประยสย์ตอบอืมด้วยเสียงต่ำและพูดเสียงต่ำว่า: “เธอช่วยฉันไว้ และแม้บุญคุณเท่าน้ำหยดเดียว ก็ต้องตอบแทนดุจสายธาร จะจ่ายเธอแค่เงินหลายแสนได้อย่างไร ชีวิตของคุณชายประยสย์อย่างฉันยังคงมีค่ามาก”
เขาลดเสียงลง ดวงตาสีดำล็อคไปที่คุณชายประยสย์และพูดว่า: “เท่าที่ฉันรู้ มีคนจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อลอบสังหารฉัน ราคานั้นก็สูงถึงกว่าพันล้าน”
ณิศา: “……”
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดเรื่องนี้กับเธอ
เธอหัวเราะและพูดว่า: “คุณชายประยสย์ คุณบอกฉันว่าคุณมีค่ามาก ไม่กลัวว่าฉันจะไปรับคำสั่งแล้วมาฆ่าคุณและได้เงินมากกว่าพันล้านเหรอ”
ประยสย์มองเธออย่างลึกซึ้งมากขึ้น และพูดด้วยเสียงต่ำว่า: “เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ช่วยฉันไว้”
“ตอนที่ฉันช่วยคุณ ฉันไม่รู้ว่าคุณคือนายน้อยของตระกูลสาระทา”
ประยสย์ยิ้ม
เธอโกหก!
“คุณเอาเงินมาทั้งหมดเท่าไหร่”
“หลักสิบล้านก็พอถึงอยู่”
ณิศา: “……”
“ฉันคิดว่ายังน้อยอยู่ สักหลักหมื่นล้าน ฉันยังรู้สึกเหมือนราคาตกเท่าราคาผักกาดเลย”
ณิศามองไปที่ประยสย์อย่างพูดไม่ออก
นี่ยังคงเป็นคุณชายประยสย์ที่เย็นชอยู่ไหม
“เธอขับมอเตอร์ไซค์มาที่นี่เหรอ มีกล่องเยอะขนาดนี้ เธอจะเอากลับยังไง หรือให้ฉันไปส่งเธอไหม”
ประยสย์พูดตามที่น้องสาวของเขาสอนเขา
ณิศาปฏิเสธ เธอพูดว่า: “คุณชายประยสย์ ฉันจะไม่รับเงินพวกนี้ แค่ให้ฉันกล่องหนึ่งก็พอแล้ว ที่ฉันช่วยคุณ มันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ คุณไม่ต้องจริงจังกับมันมากเกินไปหรอก”
“ที่ฉันยอมรับเงินกล่องเดียวมาก็เพราะฉันไม่อยากให้คุณรู้สึกว่าคุณเป็นหนี้ฉันตลอดเวลา เมื่อรับเงินมาแล้ว เราจะได้ไม่ติดหนี้กัน”
ประยสย์มองเธอครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “เธอไม่ชอบเงินสดเหรอ เงินสดกล่องเดียวใช้ไม่พอหรอก”
“เอากล่องพวกนี้วางเรียงกัน เปิดกล่องแล้วดูเงินสดในแต่ละกล่อง แบบนี้ถึงจะดีสิ”
กัญณิศาหัวเราะและพูดว่า: “ฉันคิดว่ากล่องเดียวก็เพียงพอแล้ว”
เธอก้มลงหยิบกล่องอย่างสบายๆ วางกล่องไว้หน้ามอเตอร์ไซค์ ก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกกันน็อคแล้วพูดกับประยสย์ว่า: “คุณชายประยสย์ ฉันได้รับค่าตอบแทนของฉันแล้ว หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก”
หลังจากพูดจบเธอสตาร์ทรถ และไม่นานก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
เธอกลัวประยสย์จะหยุดเธอ เธอจึงขับรถเร็วมาก