คุณสามีพันล้าน - บทที่ 480 งานแต่งงานของคุณชายกษิดิ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 480 งานแต่งงานของคุณชายกษิดิ
ญาณินถามซ้ำๆหลายครั้งแล้วมองดูการสีหน้าของลูกชายอย่างละเอียด พอรู้ว่าลูกชายไม่ได้โกหก
เธอพูดด้วยความเสียใจว่า: “ลูกอุตส่าห์เจอผู้หญิงที่ลูกชื่นชม ยังไม่ได้เริ่มต้นกันเลย”
วินาทีต่อมา เธอพูดอีกครั้งว่า: “ไม่เป็นไร ลูกติดต่อกับเธอต่อไป ไม่แน่ในอนาคตอาจจุดประกายไฟขึ้นได้ แม่มีลางสังหรณ์ว่าลูกทั้งสองคนจะกลายเป็นคู่รักกัน”
ประยสย์: “……แม่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง ผมจะคบกับเธอได้ยังไง แล้วถ้าเธอแต่งงานแล้วล่ะ บางทีลูกอาจจะโตเท่าควายเลยก็ได้”
ญาณินอ้าปากลิ้นเป็นปม พูดอะไรไม่ออก
“แม่ครับ ผมยังหนุ่มอยู่ ไม่ต้องรีบแต่งงานหรอก อีกอย่างแม่ก็รู้ว่าครอบครัวของเราเป็นยังไง ผมไม่อยากทำร้ายลูกสาวของคนอื่น ไว้ค่อยคุยกันใหม่ล่ะกัน ถ้าแม่ใจร้อนที่จะมีหลาน แม่ก็ไปเร่งวิกากับพัฒน์ ให้พวกเขารีบมีลูกไวๆ”
“ฉันก็อยากเป็นลุงเหมือนกัน”
ประยสย์พูดเพิ่มเติม
ญาณินถอนหายใจ “แม่ใจร้อนเกินไปจริงๆ ลูกพูดถูก ตอนนี้ครอบครัวของลูกเป็นแบบนี้ ลูกแต่งงานช้าหน่อยก็ดี”
“แม่ นั่นคือครอบครัวของเรา!“
ประยสย์เน้นย้ำ
หลังจากที่ญาณินเงียบไป เธอก็พูดขึ้นว่า: “หลักจากแม่กลับไป แม่จะไปคุยเรื่องหย่ากับพ่อของลูก ถ้าเขาไม่ตกลงที่จะหย่า แม่จะฟ้องหย่า”
“แม่ครับ พ่อมีเหตุผลของเขาเอง”
“แม่ไม่สนหรอกว่าเหตุผลของเขาคืออะไร เขาละเลยแม่ลูกเรามากว่ายี่สิบปี ปล่อยให้แม่โดนอาสะใภ้รองและอาสะใภ้สามหัวเราะเยาะแม่ แถมยังโดนกลั่นแกล้งอีกด้วย เมื่อแม่นึกถึงชีวิตยี่สิบปีที่ผ่านมา ความคับแค้นใจที่แม่ได้รับ แม่ก็ไม่สามารถให้อภัยพ่อของลูกได้”
“ไม่ แม่ไม่ได้เกลียดเขา ถ้าแม่เกลียดเขา เขาต้องหัวเราะตายแน่ แม่ไม่รักและเกลียดเขาอีกแล้ว แม่แค่อยากไปจากเขาและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก”
ที่เรียกว่าไม่รักก็ไม่เกลียดชัง
ญาณินไม่อยากไปเกลียดไซม่อนจริงๆ
แม้จะรู้ว่าในใจลึกๆ เธอยังคงเกลียดไซม่อนอยู่
เธอไม่สามารถทำเป็นไม่รักและไม่เกลียดไม่ได้จริงๆ
ประยสย์เงียบไปนาน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมแม่อีกต่อไป เขายังคงแค้นพ่อของเขา นับประสาอะไรกับแม่ของเขา
เขาไม่ใช่แม่เช่นกัน จึงไม่เข้าใจความเจ็บปวดที่พ่อของเขาทำไว้กับแม่ของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาเล่าให้แม่ฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาพูดว่า: “เมื่อคืนนี้พ่อของผมไปดื่มเหล้า บางทีเขาอาจจะเมานิดหน่อย เลยไปค้างคืนที่ห้องของแม่และยังคงกอดหมอนของแม่ไว้ไม่ยอมปล่อย”
สีหน้าท่าทางของญาณินผิดไปจากปกติและเธอด่าบางอย่างด้วยเสียงต่ำ
ประยสย์ได้ยินไม่ชัด
“แม่ครับ มันดึกมากแล้ว ผมจะกลับห้องไปพักผ่อนก่อน แล้วแม่ก็เข้านอนด้วยล่ะ”
หลังจากหันเหความสนใจของแม่ไปหาพ่อได้สำเร็จ ประยสย์ก็หนีไปอย่างรวดเร็ว
ญาณิน: “…… เจ้าลูกบ้า แม่ไม่รู้หรือไงว่าลูกจงใจน่ะ”
ตอนนี้เธอไม่โง่แล้ว
ผู้หญิงคนนั้นไม่เลวจริงๆ เหมาะสมกับลูกชายของเธอมาก แต่ไม่รู้ว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง ชื่ออะไร เธอแต่งงานแล้วหรือยัง
ญาณินตัดสินใจถ้าเจอลูกสาวจะลองคุยกับลูกสาวดู ให้เธอลูกสาวบอกลูกเขยให้ช่วยหาว่าผู้หญิงคนนี้มาจากครอบครัวไหน
แม้ว่าลูกชายของเธอจะไม่มีแผนที่จะแต่งงานในไม่กี่ปีข้างหน้า แต่เขาก็ต้องแต่งงานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
หลังจากนั่งเงียบๆสักพักญาณินก็กลับไปที่เตียงนอน นอนหลับฝันดีอีกครั้ง
ค่ำคืนนั้นเงียบสงบ
เวลาต่อมาทุกคนต่างยุ่งกันมาก
กลางวันและกลางคืนสลับไปมาในยามที่ทุกคนยุ่งอยู่ซ้ำๆ
ไม่นานก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์
วันเสาร์เป็นวันอภิเษกสมรสของคุณชายกษิดิและคุณหนูมิลินท์
หลังจากที่กษิดิกับลินท์ปรึกษาหารือแล้ว ก็เลือกที่จะจัดงานแต่งงานแบบตะวันตก และเลือกโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง
ทั้งกนกอรและณิศาต่างก็ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ลินท์
ณิศาเกิดมาพร้อมกับความงามอันน่าทึ่ง เธอกลัวว่าการเป็นเพื่อนเจ้าสาวจะขโมยความสนใจของเจ้าสาวอย่างลินท์ไป ดังนั้นเธอจึงขอให้ช่างแต่งหน้าช่วยแต่งหน้าให้เธอดูอัปลักษณ์สักหน่อย เพื่อที่เธอจะได้ไม่ขโมยความโดดเด่นของลินท์
ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวของกษิดินั้นอลังการมาก นอกจากเพื่อนของเขาแล้ว ยังมีลูกพี่ลูกน้องของเขา ประยสย์ ธนัทและนฤเบศวร์
นฤเบศวร์ตื้ออยากเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว กษิดิจึงไม่มีทางเลือกอื่น
วันดีๆแบบนี้ของเขา จะได้รับผลกระทบเพราะมาถึงของนฤเบศวร์ไม่ได้
เห็นแก่คุณกนกอร กษิดิจึงไม่หยุมหยิมกับนฤเบศวร์
ตระกูลอริยชัยกุลเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในเมืองนี้ และแม้ว่ากษิดิจะอยู่อันดับที่สอง เทียบกับยศพัฒน์ไม่ได้ แต่งานแต่งงานของเขาก็เป็นที่ฮือฮาในเมืองนี้
เมื่อมองไปที่กองคาราวานงานแต่งงานอันยาวเหยียดที่ประกอบไปด้วยรถหรู ทุกคนต่างพูดว่าไม่รู้ว่าถ้ายศพัฒน์กับเทวิกาจัดงานแต่งแล้ว จะยิ่งใหญ่ อลังการและน่าตื่นเต้นเพียงใด
ในโบสถ์ กษิดิสวมชุดสูท ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมีความสุขมาก
เมื่อเห็นมิลินท์ควงแขนพ่อเธอเดินมาหาเขาทีละก้าวบนพรมแดง ในสายตาของกษิดิก็มีเพีงภรรยาของเขาเท่านั้น
เทวิกาแนบตัวอยู่ข้างไยศพัฒน์ และพูดเบาๆว่า: “รอยยิ้มของกษิดิในวันนี้สดใสกว่าดวงอาทิตย์ข้างนอกอีก”
พัฒน์ตอบเบาๆว่า: “รอเราจัดงานแต่งงานด้วย ฉันก็จะยิ้มให้สดใสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์เหมือนกัน”
“ไม่ ตอนที่ได้จดทะเบียนสมรสกับเธอ ฉันก็ดีใจมากแล้ว”
เพราะในที่สุดก็หลอกล่อเธอมาได้
เทวิกาหยิกเขาเบาๆ
ตอนนั้นเธอโง่และไร้เดียงสาเกินไป ไปหลงเชื่องข้อตกลงการแต่งงานของเขา เซ็นชื่อในข้อตกลงนั้นก็ไร้ประโยชน์ เมื่อเขาอยากกินเธอ เขาก็กินเธอได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะเขาด้วยเธอถึงได้มีชีวิตที่มีความสุขในทุกวันนี้
ตอนนี้มีแต่คนบอกว่าเธอคือผู้ชนะในชีวิต
ตอนนี้ขาดเพียงมีลูกเท่านั้น
เขาสองคนยังไม่อยากมีลูก แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะมีลูกไม่ได้
ดังนั้น นี่ไม่ใช่ปัญหา
ขั้นตอนการแต่งงานทำเป็นแบบเดียวกันหมด
ถึงเวลาที่เจ้าสาวจะโยนช่อดอกไม้แล้ว
เทวิกาแต่งงานแล้ว ดังนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถแย่งชิงช่อดอกไม้ของเจ้าสาวได้
เทวิกามองไปที่พี่ชายแท้ๆของเธอ
หลังจากรู้สึกถึงการจ้องมองของน้องสาว ประยสย์ซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าวรีบถอยห่าง เขาไม่ต้องการแย้งช่อดอกไม้
ไซม่อนก็บินมาร่วมงานแต่งงานในเช้าวันนี้ ตอนนี้ตระกูลอริยชัยกุลเป็นลูกเขยของเขาแล้ว และไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่มาเข่าร่วมงาน
เมื่อเห็นว่าลูกชายของเขาดูเหมือนจะไม่อยากคว้าช่อดอกไม้ของเจ้าสาว ไซม่อนจึงพูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาว่า: “หาวิธีให้นายน้อยของพวกนายได้ช่อดอกไม้ของเจ้าสาว”
ว่ากันว่าคนที่ได้ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวจะได้รับความสุขด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มที่จะเป็นคนแต่งงานในครั้งต่อไป
การแต่งงานของไซม่อนไม่สามารถพูดได้ว่ามีความสุข แต่เขาหวังว่าลูกชายของเขาจะมีชีวิตที่ดีกว่าเขา
บอดี้การ์ด: “……”
หัวหน้าออกคำสั่งแล้ว พวกเขาจึงต้องไปช่วย
แค่กลัวว่าถ้าดอกไม้ตกอยู่ในมือพวกเขา จะทำให้หัวหน้าจ้องเขม็ง
เพื่อนเจ้าบ่าวที่ไม่ต้องการแต่งงานเร็วเกินไปต่างมองว่าช่อดอกไม้ในมือของลินท์เป็นอสรพิษ แต่นฤเบศวร์ เตรียมที่จะใช้ความว่องไวของเขาให้ถึงขีดสุด เพื่อที่จะคว้าช่อดอกไม้แต่งงานและกลายเป็นคนต่อไปที่จะได้แต่งงาน
ลินท์หลับตา ยิ้มและโยนช่อดอกไม้กลับไปอย่างแรง
คิดในใจใครโดนก็โชคดีไป
บอดี้การ์ดส่วนตัวของไซม่อนกระโดดขึ้นพร้อมกัน อยากจะตบดอกไม้ไปที่นายน้อยของพวกเขา