คุณสามีพันล้าน - บทที่ 493 ว่าที่แม่สามีลูกสะใภ้
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 493 ว่าที่แม่สามีลูกสะใภ้
นฤเบศวร์นึกถึงที่เขาขอแต่งงานได้สำเร็จ ก็คือขอแต่งงานสำเร็จแล้ว เขาดีใจเกินไป ดื่มเหล้าไปไม่น้อยที่งานเลี้ยงงานแต่ง จากนั้นก็เมาหัวราน้ำ
คำพูดของกนกอรทำให้เขายิ้ม
ศีรษะที่ตอนแรกปวดมาก เขาก็ไม่รู้สึกปวดแล้ว
“จริงนะ อร งานแต่งเราจะจัดเมื่อไร? ฉันจะจัดงานแต่งอลังการให้เธอแน่ๆ เราจะจัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์เหมือนกับกษิดิ”
นฤเบศวร์ลงจากเตียงพลางจินตนาการความอลังการและอึกทึกครึกโครมของพิธีแต่งงาน
“ฉันอยากให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวที่สวยสุดของฉัน สวมชุดแต่งงานที่สั่งทำเอง……ฉันต้องรีบช่วยเธอสั่งชุดแต่งงานสิ”
จินตนาการถึงเรื่องแต่งงาน ก็ทำให้นฤเบศวร์พลันพบว่านอกจากเขาคนนี้เตรียมถวายตัวเรียบร้อยแล้ว อย่างอื่นเขายังเตรียมไม่เสร็จเลย อาจจะไม่สามารถจัดงานแต่งได้ภายในเร็วๆ นี้
ตอนแต่งงานครั้งแรก ทั้งคู่แค่จดทะเบียนสมรสกัน ไม่ต้องพูดถึงงานแต่งเลย แม้แต่เชิญทุกคนมาทานอาหารร่วมกันยังไม่มี พ่อแม่เขา แม่ยายและครอบครัวฝ่ายหญิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกเขย
ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามทำให้อรรู้สึกคับข้องใจ
“อร สิ่งที่ควรเตรียมในงานแต่งเรา ยังไม่ได้เตรียมเลย แต่เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะรีบเตรียมการ เธอไม่ต้องกังวลนะ จัดงานแต่งต้องเลือกวันที่ดี เรื่องนี้รีบไม่ได้ แต่เราไปดำเนินขั้นตอนที่สำนักกิจการพลเรือนก่อนได้”
วันแต่งงานของกษิดิและมิลินท์กำหนดอย่างเร่งรีบมาก แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวยอมรับพวกเขาเป็นคู่รักกันมานานแล้ว สินสอด สินเดิม ผู้ใหญ่ของทั้งสองครอบครัวเตรียมมอบให้คู่รักหนุ่มสาวล่วงหน้าแล้ว ฉะนั้นไม่ว่าพวกเขาจะเลือกวันที่อะไร ก็จะไม่มีผลกระทบต่อการจัดงานแต่งของพวกเขา
ในตอนนี้ นฤเบศวร์อิจฉากษิดิมากจริงๆ
คนที่แมนทั้งแท่งมากที่สุดคือกษิดิ แต่ตอนนี้คนที่มีความสุขมากที่สุดคือเขา
ชนะหัวใจสาวสวย สุขใจที่ได้เป็นพ่อคน เกิดเรื่องน่ายินดีสองอย่างขึ้นพร้อมกัน
“ตอนบ่ายเราไปดำเนินขั้นตอนแต่งงานที่สำนักกิจการพลเรือนกัน”
นฤเบศวร์เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้ากนกอร พวกเขาสองคนเกือบมีอะไรกันแล้ว สนิทสนมโดยไม่มีช่องโหว่
กนกอรว่าเขา “นายไม่เข้าไปอาบน้ำล่ะ เมื่อคืนนายหลับไปทั้งๆ ที่ไม่ได้อาบน้ำ ทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหล้า เปลี่ยนชุดไปกลิ่นพวกนั้นก็ไม่หายหรอก รีบไปอาบน้ำซะ วันนี้วันอะไร? วันอาทิตย์นะ นายไปที่สำนักกิจการพลเรือนต้องรอพรุ่งนี้ถึงจะดำเนินขั้นตอนได้”
วันนี้เขาไม่ทำงานกัน
จะดำเนินขั้นตอนอะไรล่ะ
“ฉันก็ไม่ได้รีบจดทะเบียนสมรสกับเธอหรอก รอพ่อแม่เราสองคนนั่งลงคุยกันอย่างสงบก่อนค่อยว่ากัน”
นฤเบศวร์ขอแต่งงานในที่สาธารณะ ทำให้เธอตื้นตันใจ เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของเขา
ถึงจะบอกว่าพ่อแม่และพี่ไม่พูดอะไร หลังจากนั้น กนกอรก็รู้สึกว่าตัวเองหุนหันพลันแล่นไปหน่อย
ตอบตกลงคำขอแต่งงานไม่เป็นไรหรอก แต่เรื่องการแต่งงานเธอห้ามดำเนินการแบบหุนหันพลันแล่นอีก
เรื่องใหญ่ชั่วชีวิตเลยนะ
เธอไม่อยากแต่งงานอีกครั้งแล้ว
“ก็จริง งั้นรอก่อนดีกว่า อร พ่อแม่ฉันไม่พูดอะไรอีกแล้วแหละ”
นฤเบศวร์รู้ว่าคุณปู่ช่วยเขาเตือนพ่อแม่ ให้พ่อแม่ไม่กล้ามาถ่วงขาเขาอีก
เขารู้สึกซาบซึ้งคุณปู่
เลี้ยงเขาจนโต สั่งสอนเขามากมาย อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังต้องเป็นห่วงเรื่องงานแต่งเขาอีก
ถ้าเขาไม่สามารถแต่งกนกอรเข้าตระกูลได้ เขาจะรู้สึกผิดต่อกนกอร
แน่นอนว่าเขาต้องไปสื่อสารกับพ่อแม่เขาเป็นการส่วนตัวสักหน่อย
ให้พวกเขายอมรับกนกอรด้วยใจจริง ไม่ใช่ถูกคุณปู่บีบบังคับ
เขาได้ยินมาว่า เมื่อแม่สามีกับลูกสะใภ้ทะเลาะขัดแย้งกัน จะเฝ้าคอยผู้ชายที่อยู่ตรงกลางมาไกล่เกลี่ย หากเขาไกล่เกลี่ยได้ไม่ดี ก็จะทำให้ความสัมพันธ์ของแม่สามีลูกสะใภ้ยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ
สถานการณ์แบบนี้ในปัจจุบัน แม่เขาถูกกดดันอยู่ฝ่ายเดียว ไม่รู้ภายในใจกลั้นความโกรธไว้แค่ไหน
สรุปแล้ว เขาอยากแต่งกนกอรเข้าบ้าน ห้ามให้กนกอรรู้สึกคับข้องใจเด็ดขาด และไม่อยากให้คุณแม่รู้สึกว่าเขาเป็นลูกชายที่ทำเพื่อภรรยาแม้แต่แม่ก็ไม่ต้องการ
“หลังจากกินข้าวแล้ว นายตื่นตัวเข้าไว้นะ ตอนกลางคืนเราจะไปคฤหาสน์เมเปิลกัน พรุ่งนี้วิกากับสามีเธอจะกลับเมืองซูเพร่าพร้อมกับพ่อแม่แท้ๆ ของเธอ การร่ำลาครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะได้รวมตัวกันอีกเมื่อไร เราต้องไปส่งเธอหน่อย กินข้าวด้วยกันสักมื้อ”
นฤเบศวร์หยิบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ ได้ยินเธอพูดแบบนี้ เขาก็ถอยออกมาจากในห้องน้ำ แล้วพูดขึ้น “อร ต่อไปครอบครัวเล็กๆ ของเรา เธอเป็นคนตัดสินใจนะ”
กนกอรหน้าแดงเล็กน้อย “ใครให้นายเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“เธอไง อีกไม่นานก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ เธอจะได้ไม่รังเกียจที่ฉันเหม็น เมื่อคืนเธอต้องรังเกียจที่ทั้งตัวฉันมีแต่กลิ่นเหล้าแน่ๆ เลยไม่อยากกินฉัน”
กนกอร: “……”
ขี้เกียจสนใจเขาแล้ว
หลังจากเขาเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำ กนกอรก็ช่วยเขาพับผ้าห่มบนเตียงให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องเขา
เดินได้ไม่กี่ก้าว ก็เจอกับบัณฑิตาว่าที่แม่สามี
บัณฑิตาเพิ่งขึ้นมาชั้นบน ไม่รู้ว่าอยากกลับห้องเธอหรือนึกเป็นห่วงลูกชาย
ทั้งคู่หยุดฝีเท้าในเวลาเดียวกัน
“น้าฑิตา”
กนกอรทำลายความเงียบของกันและกันก่อน
บัณฑิตายิ้มแล้วถามเธอ “เบศวร์ยังไม่ตื่นเหรอ?”
“ตื่นแล้วค่ะ ฉันให้เขาไปอาบน้ำก่อน อีกไม่นานคงเสร็จ”
บัณฑิตาตอบอืม “ฉันก็ไม่มีธุระอะไร แค่เห็นว่าเธอขึ้นมาข้างบนตั้งนานแล้วยังไม่ลงไป นึกว่ามีอะไรผิดปกติกับเบศวร์เลยขึ้นมาดูสักหน่อย ในเมื่อเขาตื่นแล้ว งั้นก็ไม่เป็นไร”
ขณะที่บัณฑิตาพูด ก็หันตัวจะลงไปชั้นล่าง คิดสักพักเธอหันมาถามกนกอรอีกครั้ง “ไปด้วยกันไหม?”
กนกอรรีบเดินไปข้างหน้า เดินไปพร้อมกับเธอ
“กนกอร”
“คุณน้า”
ทั้งคู่เอ่ยปากพร้อมกัน
บัณฑิตายิ้มอีกครั้ง แล้วยอมให้พูดก่อน “กนกอร เธอพูดก่อนสิ”
“คุณน้าพูดก่อน”
“งั้นก็ได้ ฉันพูดก่อนนะ กนกอร ในเมื่อเธอตกลงคำขอแต่งงานเบศวร์แล้ว ต่อไปต้องรักเขาดีๆ นะ เขาทุ่มเทให้กับเรื่องความรักมาก ความเจ็บปวดที่เปรมามอบให้เขา เธอก็รู้ เขากับเปรมายังไปไม่ถึงขั้นคุยเรื่องแต่งงาน ก็เลิกกันแล้ว เขาเคยเจ็บปวดมาก่อน และสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง”
“ระยะเวลาที่เขากับเธอรู้จักกันไม่ได้นานเท่าเปรมา แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอไม่แพ้เปรมาเลยสักนิด ลึกซึ้งกว่าด้วยซ้ำไป พวกเธอไปถึงขั้นแต่งงานแล้ว ตัดสินใจจะอยู่ด้วยกัน ต้องรับผิดชอบทั้งสองฝ่าย”
“ถ้าเธอทิ้งเขาไป เขาจะตายทั้งเป็น”
“หลังแต่งงาน พวกเธอสองคนอยากย้ายออกไปอยู่ก็ได้ ฉันไม่ก้าวก่ายพวกเธอ เวลาว่างก็กลับมาเยี่ยมคนแก่อย่างพวกเราสามคนก็พอ เบศวร์ถูกปู่เขาเลี้ยงจนโต ความรักที่ปู่เขามีให้เขานั้นลึกซึ้งที่สุด มาเยี่ยมปู่เขาเยอะๆ”
บัณฑิตาพูดโพล่งออกมารวดเดียว ไม่ให้โอกาสกนกอรตอบเลย เธอพูดคำเหล่านั้นจบแล้ว ก็ถอนหายใจอีกครั้ง “ที่จริงฉันไม่อยากประนีประนอมหรอก แต่ฉันรักเบศวร์ นั่นลูกชายฉัน เลือดเนื้อที่ฉันตั้งท้องมาสิบเดือนคลอดออกมา ฉันก็อยากให้เขามีความสุขเหมือนกัน”
“กนกอร เธอก็รักเบศวร์ เราสองคนรักผู้ชายคนเดียวกัน อยากให้เขาได้รับความสุข ความปลื้มปีติ ฉันคิดมานานมาก เบศวร์รู้สึกว่าได้อยู่กับเธอแล้วทำให้เขาผ่อนคลาย สดชื่น มีความสุขได้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยินยอม”
“ตราบใดที่พวกเธอสองคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ฉันก็ไม่มีอะไรแล้ว ยังไงคนที่อยู่เคียงข้างเบศวร์ตลอดชีวิตก็คือเธอ ไม่ใช่คนเป็นแม่อย่างฉัน”
บัณฑิตาสามารถไตร่ตรองอย่างเข้าใจ และพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ ก็ไม่รู้ว่าธารณ์กับคุณปู่เร็นช่วยเธอคิดมากแค่ไหน