คุณสามีพันล้าน - บทที่037 เทวิกาต่างหากที่เป็นรักวัยเด็กของเขา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่037 เทวิกาต่างหากที่เป็นรักวัยเด็กของเขา
“พี่พัฒน์……”
เทวิการ้องเรียกเขา แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เปิดปากอีก
คืนนี้ มันยาวนานมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฝนกระหน่ำซัดท่วมแผ่นดิน ส่วนตอนที่ฟ้าสว่างเต็มที่ฝนก็หยุด
เทวิการู้สึกหนาวนิดหน่อย ก็เลยค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ไออุ่นข้างกายของตัวเองตามสัญชาตญาณ
แขนอันแข็งแรงคู่หนึ่งโอบรอบเธอไว้ และเธอก็ได้กลิ่นบางอย่างทั้งที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคย
มันคือกลิ่นของยศพัฒน์!
เทวิกาตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าเขา แล้วก็เห็นว่าตัวเองกำลังมุดหน้าอยู่ในอ้อมแขนของยศพัฒน์ เธอตื่นตระหนกและผลักยศพัฒน์ จนตัวเองกลิ้งตกเตียงทันที
“ตึก!”
และเธอก็จูบเข้ากับพื้น
“วิกา”
ยศพัฒน์ตกใจตื่น เขารีบลุกขึ้นนั่นแหละเห็นเธอล้มอยู่บนพื้น ก็รีบกระโดดลงจากเตียงและอุ้มเธอขึ้นมาทันที วางเธอกลับไปบนเตียงแล้วก็เอาผ้าห่มบางๆ มาคลุมเธอไว้
เทวิกาหน้าซีด
เธอได้พิสูจน์และยืนยันเรื่องหนึ่ง
เมื่อคืน เธอกับพี่พัฒน์ได้ทำเรื่องที่ใกล้ชิดที่สุดที่สามีภรรยาเขาทำกัน
“วิกา”
ยศพัฒน์เห็นเธอกำผ้าห่มเอาไว้แน่น ก็รู้สึกทั้งน่าขำและน่าสงสาร เขาโน้มตัวลงไปหอมแก้มเธอ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “วิกา พี่ขอโทษนะ พี่บุ่มบ่ามเกินไปหน่อยเอง”
เอาแต่พัวพันอยู่กับเธอเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
เทวิกาจากหน้าซีดก็กลายเป็นหน้าแดงด้วยความเขินอายทันที
“พี่พัฒน์……”
ยศพัฒน์จูบลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ และกล่อมเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “เรียกสามีสิ วิกา เรียกพี่ว่าสามีให้ฟังหน่อย”
เทวิกายกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองไปทั้งตัว
เธอยังไม่ได้ดึงสติกลับมาจากความบ้าคลั่งเมื่อคืนนี้
มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?
“ภรรยา”
ยศพัฒน์อยากจะดึงผ้าห่มออก “อย่าปิดหัวแบบนั้นสิ มันอึดอัดนะ”
“พี่พัฒน์ เอาเสื้อผ้าให้ฉันหน่อยสิ แล้วพี่ก็ออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เทวิกาหลบอยู่ในผ้าห่มแล้วพูดออกมา
ยศพัฒน์ยิ้ม“ก็ได้”
เธอเขินอาย
ยศพัฒน์หยิบเสื้อผ้าให้เธอ แล้วก็ออกไปข้างนอกตามที่เธอบอก ให้เธอได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
แล้วเขาก็ไปเตรียมอาหารเช้าสำหรับคู่สามีภรรยา
“ก๊อกๆๆ ……”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ยศพัฒน์สวมใส่ผ้ากันเปื้อน มือถือตะหลิว และเดินออกไปพร้อมกับพูดว่า “มาแล้ว ใครมาน่ะ?”
พอเปิดประตูออก ก็เห็นใบหน้าที่มืดดำเหมือนกับถ่านของชเนนทร์
“พี่ มาแล้วเหรอ”
ยศพัฒน์ชะงักไป แล้วก็ยิ้มพร้อมกับทักทาย
ชเนนทร์ถูกเรียกว่าพี่จนขนลุก
เขาเข้าไปคว้าคอเสื้อของยศพัฒน์ด้วยความโมโห
แล้วพูดว่า “ยศพัฒน์ ใครเป็นพี่แก? ฉันไม่อนุญาตให้แกเรียกฉันว่าพี่หรอกนะ ไอ้เลว เมื่อคืนแกทำอะไรกับน้องสาวฉัน? โทรไปจนโทรศัพท์จะระเบิดอยู่แล้วก็ไม่รับสาย แล้วไม่อยากให้ฉันเข้าห้องด้วย ให้ฉันต้องเฝ้าอยู่ข้างนอกทั้งคืน จนแทบจะพังประตูเข้าไปแล้วทุบแกให้แหลกเป็นชิ้นๆ !”
ทั้งๆ ที่เขาพูดกับน้องสาวแล้วว่าจะมาที่นี่ทันที แต่พอเขามาถึง ห้องน้องก็ปิดสนิท เขาทั้งเคาะประตูทั้งโทรศัพท์ น้องก็ไม่ออกมาเปิดประตู
เทวิกาเคยให้กุญแจเขาไว้ เขาจะได้ไปๆ มาๆ อย่างอิสระ
แต่ สิ่งที่สมควรตายก็คือ ห้องมันถูกล็อกจากข้างใน
ต่อให้เขามีกุญแจก็เปิดไม่ได้
“พี่ พี่”
เทวิกาออกมาจากห้อง พอเห็นภาพนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปช่วยยศพัฒน์ทันที แล้วก็ยืนบังเขาเอาไว้ พร้อมกับพูดกับพี่ว่า “พี่ มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน เช้าขนาดนี้อย่าเพิ่งทำอะไรเลยนะ”
ชเนนทร์เห็นรอยคิสมาร์กที่ใต้คอเสื้อของน้องสาวตัวเอง แล้วเขายังจะไม่เข้าใจอะไรอีก
“ยศพัฒน์!”
ไอ้หมาป่า!
พอน้องสาวเขารู้จักตัวตนที่แท้จริง ก็แปลงร่างเป็นหมาป่าและกินน้องสาวเขาจนสิ้นซากงั้นเหรอ!
ชเนนทร์เหมือนกับเป็นบ้า เขากระชากยศพัฒน์มาแล้วต่อยลงไปอย่างแรง
ยศพัฒน์ก็ไม่หลบ
เทวิกาอยากจะเข้าไปห้าม แต่ก็ถูกพี่ชายผลักไปด้านข้าง
“วิกา ไม่ต้องไปห้ามพี่เขาหรอก ฉันไม่เป็นไร ยังทนไหวอยู่”
ยศพัฒน์ไม่ให้เทวิกาเข้ามาห้าม
และชายร่างใหญ่ทั้งสองคนก็ทะเลาะกันในห้องเช่าเล็กๆ
สุดท้าย ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงในห้องโถง ทั้งใบหน้าช้ำและจมูกบวม
เทวิกาหยิบยาขึ้นมา ทาให้พี่ชายและยศพัฒน์
“ยศพัฒน์ ไอ้เลว!”
ชเนนทร์ที่นอนหอบอยู่บนเตียงยังไม่ลืมที่จะเตะเพื่อนร่วมชั้นและน้องเขยที่อยู่ด้านข้างของตัวเอง
ยศพัฒน์เตือนพี่เขยของตัวเองอย่างอารมณ์ดี “ฉันกับวิกาจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พวกเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
“แล้วพวกแกรักกันหรือเปล่าล่ะ? นี่แกกำลังทำร้ายวิกาอยู่นะ”
“ใครบอกว่าพวกเราสองคนไม่ได้มีความรู้สึกต่อกัน ฉันกับวิการู้จักกันมา 11 ปีแล้ว ฉันใช้เวลา 11 ปีรอให้เธอโต เธอคือรักวัยเด็กของฉัน รักแรกที่ฉันคอยเฝ้ารอจนเติบโต”
แล้วเมื่อคืนก็เลยเด็ดเอามากิน
รักวัยเยาว์ สุกงอม และหวานหอม!
ช่างคุ้มค่ากับ 11 ปีที่เขารอมา
สองพี่น้องบ้านตระกูลวาชัยยุง:“……”
……
ที่คฤหัสถ์เมเปิล
ใต้ถนนที่มีต้นไม้เรียงราย ชายชราจับมือกับภรรยา และทั้งคู่ก็เดินเล่นในสวนหลังบ้าน
“คุณ ช่วงนี้พัฒน์ไม่ได้กลับมาเลยนะ”
ภรรยาของเขาก็ตอบกลับมา “บริษัทใหญ่ขนาดนั้น ก็คงต้องมีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ พัฒน์เป็นคนคอยดูแลก็ต้องยุ่งกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ก็คงจะไม่มีเวลากลับมาหรอก”
ชายชราหัวเราะ “จนถึงตอนนี้แล้วคุณยังช่วยพูดแทนเขาอยู่เลยนะ”
“แล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไร จะให้ด่าเขาเหรอ?”
“แต่งงานแบบสายฟ้าฟาดก็ไม่บอกครอบครัวสักหน่อย ถ้าเมื่อคืนเขาไม่ได้พาหลานสะใภ้ของพวกเราไปที่งานเลี้ยงนั่น ป่านนี้พวกเราก็คงยังไม่รู้อะไรเลย”
หญิงชราตอบว่า “ฉันคิดว่า พัฒน์คงมีเหตุผลแอบแฝงอะไรบางอย่าง บอกว่าหลานสะใภ้ของพวกเราไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของพัฒน์ไม่ใช่เหรอ? อาจจะเป็นเพราะว่าเหตุผลนี้ก็ได้ พัฒน์ถึงยังปิดบังพวกเราอยู่ กลัวว่าพวกเราจะไปหาหลานสะใภ้ แล้วก็ทำให้เธอตกใจเข้า”
“แล้วคุณไม่อยากเจอหลานสะใภ้ของคุณเหรอ?”
“ตาแก่นี่ จะให้ฉันออกไปเป็นตัวตั้งตัวตีอีกแล้วใช่ไหม ทุกครั้งก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย คุณอยากจะรู้เรื่องส่วนตัวของพัฒน์เมื่อไหร่ ก็จะผลักฉันออกไปเป็นคนแรก คิดว่าฉันไร้ยางอายหรือยังไง?”
คุณท่านหัวเราะออกมา “ก็คนที่พัฒน์นับถือมากที่สุดก็คือย่าอย่างคุณไง ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรกับเขา เขาก็จะพยายามทำให้มันสำเร็จจนได้ แค่คุณกดโทรออกไป พวกเราแค่ต้องอยู่ที่บ้านแล้วหลานสะใภ้ก็จะมาถึงหน้าประตูเองแหละ”
“เตรียมของขวัญการเจอกันครั้งแรกไว้หรือยัง?”
“พวกเรามีเครื่องประดับตั้งมากมายในห้องเก็บของ เข้าไปเลือกสัก 2-3 ชุดมาให้เป็นของขวัญหลานสะใภ้กันเถอะ”
หญิงชราตอบรับ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเลือกเครื่องประดับสำหรับเป็นของขวัญให้หลานสะใภ้กันก่อน เพราะถึงยังไงของพวกนั้นก็ถูกเก็บไว้ให้หลานสะใภ้ของตระกูลอริยชัยกุลอยู่แล้ว”
“ใช่สิ แล้วหลานสะใภ้ของพวกเราชื่ออะไรเหรอ?”
หญิงชราคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ได้ยินบอกว่าชื่อเทวิกา เป็นน้องสาวของเพื่อนร่วมชั้นสมัยมหาลัยของพัฒน์ที่ชื่อชเนนทร์ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เป็นเด็กกำพร้าที่บ้านตระกูลวาชัยยุงเก็บมาเลี้ยง แต่ว่าเทวิกาไม่รู้ว่าความจริงแล้วตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบ้านตระกูลวาชัยยุง”
คนอย่างพวกเขา ใช้เงินแค่นิดเดียวก็สามารถรับรู้ประวัติชีวิตของเทวิกาได้ไปครึ่งนึงแล้ว
อีกครึ่งหนึ่งก็คือตัวตนที่แท้จริงของเทวิกา ที่ยังสืบหาไม่เจอ ไม่แน่ใจว่าตอนแรกเทวิกาถูกทอดทิ้งโดยบังเอิญหรือไม่ และยังมีสายเลือดที่แท้จริงอยู่หรือเปล่า? และสายเลือดที่แท้จริงของเธออยู่ที่ไหน?