คุณสามีพันล้าน - บทที่040 รสชาติที่หอมหวาน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่040 รสชาติที่หอมหวาน
“ก๊อกๆ”
มีคนมาเคาะประตู
One Day In Coffeeเปิดทำการอยู่ เพราะฉะนั้นปกติก็เลยไม่เคยปิดประตู แต่ว่าคนที่มาเห็นว่าเทวิกากับกนกอรกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ก็เลยเคาะประตูเรียก
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าท่านไหนคือคุณเทวิกาคะ?”
กนกอรมองไปที่เทวิกา
เธอใช้สายตาในการถามเทวิกาว่าคนที่มาคือใครกัน
เทวิกาสังเกตคนที่มา เธอสวมชุดสูทอย่างเป็นทางการ อายุยังดูไม่เยอะ น่าจะประมาณ 27-28 ปี และหน้าตาก็สวยมาก ออร่าก็ดูดี แต่ก็ดูมีไหวพริบและมีความสามารถ ดูท่าทางจะเป็นหัวกะทิในที่ทำงานอยู่เหมือนกัน แต่ว่าในมือของอีกฝ่ายถือดอกไม้มาช่อนึง”
ยิปโซฟีลาล้อมรอบดอกกุหลาบ มันเป็นช่อดอกไม้ที่สวยงามมาก
“ฉันเองค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ?”
เทวิกายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองคือเทวิกา
ไรยายิ้ม เธอคือดอกไม้และเดินเข้าไป พร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ให้เทวิกา เธอยิ้มและแนะนำตัว “ คุณเทวิกา สวัสดีค่ะ ฉันคือเลขาของคุณพัฒน์ ชื่อไรยา คุณพัฒน์สั่งดอกไม้ไว้ให้มาส่งให้คุณเทวิกาน่ะค่ะ”
ดอกไม้ที่ยศพัฒน์ส่งมาให้
เทวิการับดอกไม้ไฟและขอบคุณไรยา
ไรยารีบพูดว่า:“คุณเทวิกาไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ในฐานะที่เป็นเลขาท่านประธานของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป ไรยาเองก็ยุ่งมากเหมือนกัน
แม้แต่วินาทีเดียวก็จะเสียเปล่าไปไม่ได้
“ไรยาอยู่ดื่มกาแฟสักหน่อยไหมคะ?”
“ขอบคุณนะคะคุณเทวิกา แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันหน้าถ้าเกิดว่ามีเวลาเดี๋ยวฉันมาดื่มกาแฟที่นี่นะคะ”
คุณพัฒน์บอกว่านี่คือร้านกาแฟที่ภรรยาของเขาเปิด ถ้าเธอกลับไปแล้วให้บอกคนที่บริษัท ว่าถ้าทุกคนอยากดื่มกาแฟ ก็ให้มาที่ร้านของภรรยาท่านประธาน
ไรยารีบมารีบกลับ
เทวิกาถือช่อดอกไม้และมองดูซ้ำไปซ้ำมา
กนกอรพูดหยอกล้อว่า“เธอดูดอกไม้ออกด้วยเหรอ?”
“พวกนี้ก็เป็นดอกไม้ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมองก็รู้ว่ามันคือดอกไม้”
กนกอรพูดไม่ออก
“กริ๊งๆๆๆ ……”
โทรศัพท์เทวิกาดัง
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเห็นว่าคนที่โทรมาคือยศพัฒน์ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจรับสาย
“วิกา”
เสียงที่อบอุ่นดังขึ้น พอเทวิกาได้ยินแล้วก็รู้สึกว่า พี่พัฒน์ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่เสียงก็ยังน่าฟังอีกต่างหาก
กลมกล่อม และชวนให้หลงใหล
ถ้าเกิดว่าละครปลอมๆ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาแล้วล่ะก็ เธอไม่ได้เสียเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังได้กำไรอีกต่างหาก
ผู้ชายดีๆ อย่างยศพัฒน์ มันยากที่จะตามหา
น่าเสียดายที่เขามาจากตระกูลอริยชัยกุล เธอกับเขาก็แตกต่างกันมากเกินไป
หลังจากผ่านงานเลี้ยงวันนั้นมา เทวิกากล้าพูดเลยว่าเรื่องของเธอกลับยศพัฒน์ต้องไปถึงหูคนในตระกูลอริยชัยกุลอย่างรวดเร็วแน่นอน เธอได้แต่รอ รอแม่สามีมาถึงหน้าบ้าน แล้วก็โยนเช็คจำนวน 25 ล้านใส่หน้าเธอ บอกให้เธอไปจากยศพัฒน์ซะ!
“วิกา ฉันให้เลขาไปส่งดอกไม้ให้ เธอได้รับหรือยัง? ชอบไหม?”
“ได้รับแล้ว ไรยาเพิ่งไปเมื่อกี้นี้เอง ดอกไม้ช่อนี้สวยมากฉันชอบมากเลย”
เทวิกาพูดตามความจริง
ตอนที่ไม่ได้รู้สึกเกลียดยศพัฒน์ และทั้งสองคนก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆ เธอก็เลยไม่ได้มีความจำเป็นต้องกระมิดกระเมี้ยนอะไร
แม้ว่าคนของตระกูลอริยชัยกุลจะยอมรับเธอหรือไม่ เทวิกาก็ไม่ไปคิดอะไรให้วุ่นวาย ได้แต่รออยู่แบบนี้
ก่อนที่แม่ยายจะมาหาเธอ เธอก็ไม่ถือสาที่เธอกับยศพัฒน์จะเล่นบทสามีภรรยาที่เข้ากันได้ดี
คำพูดของเธอทำให้ยศพัฒน์อารมณ์ดี เขามองดูกรอบรูปบนโต๊ะ นี่เป็นวันแรกที่เขาเอามาวาง ในกรอบรูปนั้นเป็นรูปตอนเทวิกาอายุ 18 แน่นอนว่า เขาให้คนช่วยแอบถ่ายเอาไว้
เทวิกาไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าในมือของเขามีรูปถ่ายชีวิตประจำวันของเธออยู่มากแค่ไหนกัน
ตั้งแต่ตอนที่เขาตั้งเป้าหมายมาที่เธอ ก็ให้คนแอบถ่ายรูปเธอเอาไว้ ทุกเดือน เขาจะได้รับรูปถ่ายของเธอมากมาย รูปถ่ายพวกนั้นเก็บอยู่หลายอัลบั้ม เขาเก็บมันเอาไว้อย่างดี เป็นความลับของตัวเอง
“เธอชอบก็ดีแล้ว ตอนเที่ยงฉันเลิกงานแล้วพวกเราไปกินข้าวกัน”
เทวิกาบอกว่า “ตอนเที่ยงฉันต้องกินในร้านเนี่ยแหละ ถ้าเกิดว่านายไม่ถือสาก็มากินที่ร้านด้วยกันกับพวกเราสิ แต่ถ้ารังเกียจก็ช่างมันเถอะ”
นี่เป็นการปฏิเสธที่จะไปกินอาหารที่ภัตตาคารชั้นสูงกับเขา
สำหรับสถานที่ชั้นสูงอะไรแบบนั้น เทวิกาไม่ได้รู้สึกประหม่าที่จะไปหรอกนะ เหมือนกับว่าเธอสามารถปรับตัวเข้ากับสถานที่แบบนั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ว่า ไม่ได้ประหม่าไม่ได้หมายความว่าชอบ
“ฉันจะไปรังเกียจได้ยังไงกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารบ้านๆ แต่ถ้าได้กินกับเธอ ฉันก็สามารถกินได้อย่างเพลิดเพลินเลยแหละ”
เทวิกาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่พัฒน์ นี่นายกำลังพูดคำหวานอยู่เหรอ?”
ยศพัฒน์ยิ้ม “ถ้าเธอรู้สึกว่ามันเป็นคำหวาน ก็ถือว่าใช่”
“พี่พัฒน์ นายปรับตัวเร็วเกินไปหน่อยนะ”
เพราะว่าเขารอที่จะได้แต่งงานกับเธอมานานมากแล้ว
“ไม่ให้ฉันได้ตั้งตัวเลย”
“วิกา พวกเรามีเวลากันทั้งชีวิตและ”
ยศพัฒน์พูดด้วยความเสน่หา “ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เดี๋ยวเธอก็จะเข้าใจ”
เทวิกายิ้ม “ตอนนี้ฉันสับสนมาก หัวโล่งไปหมด วันนี้ยังไม่ได้เขียนอะไรเลยสักคำ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเขียนแล้ว เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
ยศพัฒน์พูดอย่างเป็นสุภาพบุรุษ
เขาหาเงินได้มากขนาดนั้นให้ใครใช้ก็ล่ะ?
แน่นอนว่าต้องให้เมียใช้สิ
มีเขาอยู่ แล้วเขาจะปล่อยให้เมียตัวเองต้องไปลำบากได้ยังไงกัน?
หลังจากสะกดอารมณ์มาหลายปี เขาซ่อนมันไว้ตลอดเวลา เฝ้าดูเธอเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ดูเธอเริ่มธุรกิจของตัวเอง และดูเธอยุ่งวุ่นวายจนถึงเที่ยงคืนเพื่อทำร้านกาแฟของเธอ
ใครจะไปรู้ ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาเกือบจะยั้งใจไว้ไม่อยู่ ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ
แต่ว่าตอนนี้ พวกเขากลายมาเป็นสามีภรรยากันแล้ว
เขาสามารถโอ๋เธอได้อย่างเปิดเผย เจ้าตัวเล็กของเขา !
“มันจะเป็นไปได้ยังไง บรรณาธิการของฉันบอกว่าบทความนี้อาจได้รับความนิยม แล้วฉันก็จะรอนับเงินจากมันจนเมื่อยมือ ถ้าเกิดว่ามันได้ตีพิมพ์เมื่อไหร่ แล้วขายให้ไปสร้างหนัง เอาไปทำการ์ตูน”
ผู้เขียนที่ไม่อยากตีพิมพ์ หรือให้สร้างเป็นภาพยนตร์ เกม หรือการ์ตูนนั้นถือว่าไม่ใช่ผู้เขียนที่ดี
เทวิกาเป็นผู้เขียนที่ดี เพราะฉะนั้น เธอต้องการทุกอย่าง ได้แต่ฝันทุกวัน และตั้งตารอคอยให้ฝันเป็นจริง
ยศพัฒน์จำคำพูดของเธอไว้ในใจ
“ไม่อนุญาตให้นายมาช่วยฉันด้วย!”
เทวิกาเหมือนมีตาที่มองทะลุได้ เธอเดาออกว่ายศพัฒน์จะใช้ความเป็นประธานของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปมาช่วยให้ความฝันของเธอสำเร็จ ก็เลยรีบถามทันที
“พัฒน์ ฉันอยากใช้ความสามารถของตัวเองในการทำตามความฝัน ไม่ต้องให้นายมาช่วยหรอก”
อยู่ๆ เธอก็เลิกเรียกเขาว่า “พี่”แล้ว
เทวิกาไม่ทันสังเกตเรื่องนี้ แต่ว่ายศพัฒน์นั้นสังเกตเห็น แล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก
เพราะว่าเขาไม่เคยอยากเป็นพี่ของเธอเลย!
สิ่งที่เขาอยากเป็นมาโดยตลอดก็คือสามีของเธอ เป็นผู้ชายของเธอ!
แน่นอนว่า ความรักที่ลึกซึ้งของเขา ไม่สามารถแสดงออกมาได้ทั้งหมดในตอนนี้
ให้เวลาเธอได้ปรับตัวและทำความคุ้นเคยหน่อยแล้วกัน
“ใช่สิ คนที่ให้รางวัลบทความของฉันคือนายหรือเปล่า?”
ตอนที่ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่และรางวัลนั้น เทวิการู้สึกดีใจมาก นึกว่าตัวเองได้เจอกับนักอ่านที่ร่ำรวย เลยคิดว่าเธอกำลังจะรวยแล้ว
ตอนนี้พอมารู้ตัวตนที่แท้จริงของยศพัฒน์ เธอเองก็ไม่ได้โง่ จะเดาไม่ได้เลยเหรอว่านักอ่านที่ร่ำรวยคนนั้นคือใคร?
นี่มันรวยที่ไหนกันล่ะ เงินเข้ากระเป๋าซ้ายออกกระเป๋าขวาชัดๆ แถมยังเสียไปครึ่งหนึ่งด้วย เสียครั้งใหญ่เลย!
ยศพัฒน์:“……คนหนึ่งคือฉัน ส่วนคนอื่นไม่ใช่ฉันนะ”
“คนโง่คนหนึ่ง!”
ยศพัฒน์ยิ้ม“แค่เธอมีความสุขก็พอแล้ว”
“ฉันก็นึกว่าฉันจะรวยแล้ว แต่ตอนนี้พอมาคิดดู ฉันสูญเสียนะ เพราะว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน เงินของพวกเราต้องแบ่งกัน ฉันจะดีใจอะไรล่ะ?”
ยศพัฒน์:“……”