คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 119 เดินทางถึงหมี เดอ ยูริ
119 เดินทางถึงแว็ง เดอ ครุช
สกายสควิดที่ถูกแทงด้วยแท่งโลหะอาละวาดไปมา แต่ในไม่ช้าก็หยุดเคลื่อนไหว”
“เน๊? รู้สึกดีแบบคาดไม่ถึงเลยใช่ไหม?”
สำหรับฉัน มันเป็นสัตว์อสูรที่ต่ำกว่าความคาดหวังของฉัน แต่คิดว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับริโนกิส
ถ้าหากเป็นระดับประมาณนี้ เธอน่าจะสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องวอร์มอัพด้วยซ้ำ……หืม?
ริโนกิสมองลงมาที่ฉัน และพูดเสียงค่อย
“คุณหนูไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยเหรอคะ?”
โอ้ย มาเป็นอะไรเอาตอนนี้กัน มีอะไรรึไงน่ะ
“เป็นเธอต่างหากที่ประเมินฉันต่ำเกินไป เข้าใจไหม? ฉันอาจจะแข็งแกร่งกว่าหลายสิบหรือหลายร้อยเท่าของที่เธอคิดไว้?”
อาจารย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการให้ลูกศิษย์คิดว่าตนน่าทึ่งเสมอ
“ฮาๆๆ ยังก่อนยังก่อน แบบนั้นอาจจะมากเกินไป บางครั้งฉันก็ยังจำเป็นต้องแกล้งทำตัวเป็นเด็กต่อไป”
………..
ฉันยิ้มอ่อน ทำเป็นไม่สนใจบรรยากาศของเธอที่เหมือน「ค๊า ค๊า เข้าใจแล้วค๊า」ด้วยรอยยิ้มอ่อน ช่างเป็นลูกศิษย์เจ้าอารมณ์จังน๊า
“ม๊า ส่วนนั้นเองก็เรียกว่าน่ารักเหมือนกันค่ะ มีแต่ความน่ารักเต็มไปหมดเลยนะคะ”
ถ้ามากไปกว่านั้น จะโกรธนะ
จะว่าไปแล้ว เธอไม่ดูเลยรึไงว่าอาจารย์ของตัวเองสู้ยังไง จะบอกว่ามัวแต่ทำอะไร ๆ หลาย ๆ อยู่งั้นเหรอ ฉันไม่ถือหรอกนะ ……เอ๊ะ? ไม่ได้ดูเพราะมัวแต่ช่วยชีวิตคนอยู่เหรอ? ……ฟู๊~ว เหรอ ม๊า แบบนั้นก็ช่วยไม่ได้
ช่วย! ม๊ายด๊าย!
มีคนหกคนห้อยลงมาจากเรือเหาะ และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีผู้เสียชีวิต
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนสภาพร่างกายจะย่ำแย่มาก เนื่องจากต้องเผชิญหน้ากับลมแรงในจุดที่ซึ่งระบบป้องกันลมของเรือเหาะไปไม่ถึง
ที่แย่คือตอนนี้เป็นฤดูหนาวแล้ว ร่างกายจึงเผชิญกับอากาศที่เย็น ม๊า แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
“พะ พวกคุณเป็นนักผจญภัย……ช่วยได้มาก ……ถึงอย่างงั้นก็เป็นฝีมือที่น่าทึ่ง……”
กัปตันของเรือเหาะลำนี้ยังมีชีวิตอยู่
จะว่าไปแล้ว คนที่ไปลอยอยู่กลางอากาศเป็นผู้คุ้มกัน ดูเหมือนในตอนที่ถูกสกายสควิดโจมตี ลูกเรือจะถูกอพยพไปที่ห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว
ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ ที่ไม่มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
ม๊า เรือเหาะยังบินอยู่ได้ เรื่องนั้นก็ดูสมเหตุสมผล
ถึงภายนอกจะดูเละเทะแต่เครื่องจักรภายในที่เป็นส่วนสำคัญดูเหมือนจะปลอดภัยดี
นอกจากนี้ เรือลำนี้เป็นเรือเดินสมุทรที่เดินทางระหว่างเกาะลอยฟ้า และดูเหมือนว่าจะบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระธรรมดา ๆ มาด้วย
อย่างที่คาดไว้ พวกแขกยังออกมาบนดาดฟ้าไม่ได้ แต่ตอนที่พวกเขาต้องลงจากเรือ พวกเขาอาจเอะอะเหมือนตอนที่ถูกโจมตีอีกก็ได้ เพราะมีซากของสกายสควิดนอนอยู่บนดาดฟ้า
นับว่าโชคดีที่เวลาผ่านไปไม่นานนักนับตั้งแต่ที่สกายสควิดเข้ามาโจมตี
ทว่า บนท้องฟ้าไม่มีที่ให้หลบหนีได้ และเมื่อถูกจับเอาไว้แน่น แม้แต่เรือลำเล็กสำหรับหลบหนีฉุกเฉินก็ไม่สามารถส่งออกไปได้ เมื่อเป็นแบบนี้……ก็มองไม่เห็นอนาคต และไม่มีอะไรนอกจากความสิ้นหวัง
ด้วยความหวังอันน้อยนิด พวกเขาจึงส่งสัญญาณและรอด้วยความหวังว่าจะมีผู้ที่เห็นและมาช่วยพวกเขา
จากนั้น จากหน้าต่างห้องโดยสาร พวกเขาก็เห็นเรือความเร็วสูงที่พวกฉันโดยสารอยู่หยุดจอดอยู่ไม่ไกล และมีเรือลำหนึ่งโผล่ออกมา ดูเหมือนจะมุ่งหน้ามาหาทางพวกเขา
……พวกเขาไม่เห็นการต่อสู้เหรอ? ไม่น่าทึ่งเหรอ? จะไม่บอกใครหรอก แต่ไม่น่าทึ่งเหรอ? น่าทึ่งใช่ไหมล่ะ? ……มองไม่เห็น? มองไม่เห็นดาดฟ้าจากห้องโดยสาร? ……ฟู๊~ว ก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก
“ทั้งคนทั้งเรือปลอดภัยก็ดีแล้ว”
นักผจญภัยริโนะได้รับสายตาชื่นชมอาบไปทั้งตัวจากกัปตันและสมาชิกลูกเรือคนอื่น ๆ ที่ประหลาดใจที่สกายสควิดถูกฆ่าลงได้
……อืม แม้ว่าจะมีบางแง่มุมที่ดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็ยิ่งไม่สมจริงยิ่งกว่าหากบอกว่าเป็นเด็กเจ็ดขวบต่างหากที่เป็นคนฆ่า ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ การบอกว่าริโนกิสเป็นคนฆ่าจึงฟังดูสมจริงที่สุดแล้ว
นอกจากนี้ ชื่อของ「นักผจญภัยริโนะ」ก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในแว็ง เดอ ครุชเช่นกัน การขายชื่อเสียงก็เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ ดังนั้นแบบนี้ก็ดีแล้ว
――ยังไงก็ตาม วันเกิดของเนีย・ลิสตันอยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ตอนนี้เป็นต้นฤดูหนาว ดังนั้นเธอจึงอายุเจ็ดขวบแล้ว เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ควันสัญญาณได้หยุดลงแล้ว ดังนั้นเรือความเร็วสูงจึงมุ่งหน้ามาทางพวกเราอย่างช้า ๆ
ฉันจะปล่อยส่วนที่เหลือให้กับริโนกิสและทอร์ค ผู้ซึ่งบอกว่าเขาจะเป็นคนเจรจาเอง ส่วนฉันจะกลับไปที่เรือโดยเร็วที่สุด
ฉันต้องการกำจัดเมือกที่ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งทั่วร่างกายให้เร็วที่สุด
ยังไงก็ไม่มีใครมองมาที่ฉันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ฉันจะอยู่ที่นี่ ถ้านักผจญภัยริโนะอยู่ที่นี่ก็ไม่น่ารังเกียจหากฉันจะกลับมาก่อน
กลับไปนอนต่อกันเถอะ
คงจะดีถ้ามีอ่างอาบน้ำ แต่ฉันแน่ใจว่าไม่มี
ฉันกลับไปที่เรือความเร็วสูง แทนที่ทอร์คกับกัปตันที่ย้ายมาทางนี่กันสองคน
“ว้าย เหนะไปทั้งตัวเลย”
“เมือกลื่น ๆ นี่มันอะไรกัน”
“อ้า แบบนี้ฉันทำไม่ได้หรอก”
“ดูลามกนิดหน่อยล่ะ”
อย่างที่คาดไว้ ไม่มีอ่างอาบน้ำ ดังนั้นฉันจึงขอให้ลูกเรือหญิงสองสามคนช่วยเตรียมน้ำร้อน และถือโอกาสนั้นขอให้เช็ดตัวให้ด้วย
มีปฏิกิริยาบางอย่างที่น่าเป็นห่วงเล็กน้อย แต่ถ้าฉันไปสนใจ ฉันก็จะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดทาง ดังนั้นฉันจึงทำเป็นไม่สนใจ
ขณะที่กำลังเช็ดตัว ฉันก็ถูกถามเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างนักผจญภัยริโนะกับสกายสควิด แต่ฉันไม่สามารถพูดเรื่องจริงได้ ดังนั้นจึงตอบไปเพียงว่า「กว่าจะรู้ตัวทุกอย่างก็จบไปแล้ว」
ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกถึงกลิ่นคาวที่หลงเหลืออยู่บ้าง แต่ในสถานการณ์นี้ มีขีดจำกัดว่าจะล้างได้มากแค่ไหน ดังนั้นฉันจึงยอมแพ้
ซ้า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาคงไม่เคลื่อนไหวกันซักพัก
ยึดตามแผน ฉันจะพักอีกสักหน่อย
คราวนี้ฉันสามารถพักผ่อนได้เต็มที่จนถึงตอนเย็นโดยไม่ถูกปลุก
มีการสั่นครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียวในระหว่างทาง แต่น่าจะเป็นระหว่างการเร่งความเร็ว
ฉันรู้สึกเหมือนได้นอนหลับสบาย เหมือนได้ขจัดความเหน็ดเหนื่อยจากการถ่ายทำไปเลยล่ะมั้ง?
สกายสควิดไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ทำให้เหนื่อยเลย ดังนั้นจึงไม่นับ
หากมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งมีแสงสีแดงส่องเข้ามา คราวนี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างมั่นคง กำลังบินด้วยความเร็วสูงจนดูเหมือนเกาะที่อยู่ไกล ๆ กำลังเคลื่อนที่ได้
……อุมุ พักผ่อนพอแล้ว ตอนนี้ฉันอยากไปตรวจสอบสถานการณ์สักหน่อย
หลังจากออกจากห้อง ฉันถามลูกเรือที่ผ่านมาว่า ทอร์ค หรือ นักพจญภัยริโนะอยู่ที่ไหน เขาก็บอกว่าทั้งสองคนกำลังดื่มชาอยู่ในห้องอาหาร
เมื่อฉันโผล่หน้าไปที่นั่น ทั้งสองคนก็อยู่ที่นั่นจริง ๆ
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดคุยถึงเรื่องอะไรกันอยู่ แต่ดูจากบรรยากาศแล้วน่าจะไม่เป็นไรหากจะมีเด็กเข้าไปขัดจังหวะ ม๊า เอาไว้ถ้าดูเหมือนจะเข้าไปขัดจังหวะก็ค่อยถอยมาก็ได้
“การเจรจาจบลงแล้วเหรอคะ?”
และขณะที่ถามแบบนั้น ฉันก็นั่งลงบนที่นั่งเดียวกันกับที่นั่งทานอาหารเช้า เพราะริโนกิสกับทอร์คนั่งอยู่ที่เดิม
“ก็ดูเหมือนจะมีเรื่องซับซ้อนนิดหน่อยล่ะนะ ผู้โดยสารของทางนั้นดูเหมือนจะไม่สบายใจกัน และบางทีเรืออาจจะมีปัญหาด้วย ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจเลิกกันไปก่อน และไปเจรจากันในภายหลัง”
จากคำอธิบายของทอร์ค ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นด้วย ใช่แล้ว เป็นฉันก็คงไม่มีทางเจรจาต่อรองได้นานในสถานการณ์นั้นอย่างแน่นอน
“แล้วหินเวทมนตร์ของปลาหมึกล่ะคะ?”
“พวกเราจะไปเก็บทีหลัง ส่วนร่างกายเองก็ถูกฝากไปด้วย”
และคราวนี้เป็นริโนกิสที่ตอบ
“เรือลำนี้แบกน้ำหนักขนาดนั้นไม่ไหวล่ะนะ เลยเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”
งั้นเหรอ ฉันหวังว่าจะทำเงินได้บ้างน่ะ
“สาวน้อย พวกเราจะไปถึงแว็ง เดอ ครุชในไม่ช้านี้แหละ”
โอ้ อย่างงั้นเหรอ
แม้จะต้องอ้อมเล็กน้อย แต่พวกเราก็ฒาถึงทันเวลาอาหารเย็น
จักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุช
นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตในการทำงานต่างแดน
พอฝนหยุดแป๊บเดียว ร้อนตับแตกจริงๆ ดื่มน้ำเท่าไหร่ก็รู้สึกเหมือนไม่พอ แต่ก็ยังกินของชุบแป้งทอดหน้าตาเฉย ฮา