คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 122 เดอ ครุช ค่าตอบแทนหมีวันที่หนึ่ง
122 ทำงานต่างประเทศที่แว็ง เดอ ครุช ค่าตอบแทนวันที่หนึ่ง
ในตอนเย็น เมื่อได้รับแจ้งว่า「ไม่สามารถขนขึ้นเรือเหาะได้มากกว่านี้อีกแล้ว」พวกเราเลยตัดสินใจถอนตัวกลับกันสำหรับในวันนี้
ดาดฟ้าเรือเหาะเต็มไปด้วยศพของสัตว์อสูร
เมื่อดูผลการต่อสู้แบบนี้ ฉันคิดว่าฉันล่าได้ไม่น้อย แต่ในส่วนของร่างกาย ฉันก็รู้สึกเหมือนในที่สุดก็สามารถวอร์มอัพจนเสร็จแล้ว ประมาณนั้น
เพราะไม่ว่าตัวไหนก็เหมือนแทบไม่ได้เคี้ยวเลย
แม้ว่าฉันพยายามทำให้สนุกด้วยการเปลี่ยนเทคนิคและวิธีการ แต่โดยพื้นฐานก็อ่อนแอเกินไป
เหมือนกับผู้ใหญ่ที่เหยียบบี้มด
ถ้าอย่างงั้นแล้วทำไมร่างกายถึงอบอุ่นได้
ม๊า ก็ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตอบได้เลยว่าสนุกอย่างน่าประหลาดใจ
สมกับเป็นโลกที่สามารถตัดสินกันได้ในกำปั้นเดียว ไร้ความยุ่งยากใจ
สิ่งเดียวที่ขัดความสนุกของฉันคือ สัตว์อสูรที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ล่าระหว่างทางล่ะมั้ง
รู้สึกจะเรียกว่าม้าขับขานวารี(มิโคบะ)รึเปล่านะ
เป็นม้าลึกลับที่มีร่างกายเป็นน้ำ เพราะการโจมตีทางกายภาพทำอะไรไม่ได้ ฉันจึงต้องใช้「คิ」ประเภทที่นาน ๆ ครั้งจะใช้ที
โอกาสในการต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่างเช่นนี้มีน้อยมาก ดังนั้นฉันคิดว่าจะเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า
“สมกับที่เป็นนักผจญภัยที่ทอร์คโดโนะพามาเอง……”
ในตอนแรก กัปตันและลูกเรือต่างชื่นชมยินดีกับผลการต่อสู้ และขับเรือจากเกาะลอยฟ้าแห่งหนึ่งไปยังอีกเกาะอีกแห่งหนึ่งอย่างยินดี แต่ตอนนี้กลายเป็นใบหน้ามีรอยย่นไปหมด
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ”
ริโนกิสตอบอย่างใจเย็น เมื่อฉันล่าไปมากกว่าเก้าส่วน ริโนกิสพูดว่า「หยุดกันเถอะค่ะ! ถ้ายังล่าแบบนี้ต่อไปจะสูญพันธ์เอาได้นะคะ!」นั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายวอร์มอัพไม่เต็มที่
ทว่า ม๊า คำตอบนั้นก็แน่นอน
จังหวะนี้มาขายชื่อนักผจญภัยริโนะกันเถอะ
――และ ทุกคนย่างฟุตมัชรูมกินด้วยกัน เนื่องจากริโนกิสใช้「คิเคน・เสียงอสนีบาตร」จนครึ่งบนกระจัดกระจายเอาไปขายไม่ได้แล้ว อร่อยจริง ๆ ถ้าฉันเอากลับไปที่โรงแรม พวกเขาจะทำอาหารดี ๆ ให้ฉันได้ไหมนะ
ยังเป็นเวลาเย็นอยู่ ดังนั้นจึงยังเร็วไปที่จะกลับมา แต่ก็ช่วยไม่ได้หากไม่สามารถเก็บซากสัตว์อสูรไปได้มากกว่านี้
ฉันไม่รู้ว่าวันนี้ทำเงินไปได้เท่าไหร่ แต่ ม๊า วันนี้ถือซะว่าเป็นการสังเกตการณ์ไปก่อนก็ได้ หลังจากวันพรุ่งนี้ ฉันจะมุ่งเป้าไปที่สัตว์อสูรที่มีราคาสูงอย่างจริงจัง
ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรแถวนี้จะอ่อนแอ ในอัตรานี้ฉันแทบรอเจอไม่ไหวแล้ว ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากจะเล็งไปที่สัตว์อสูรที่มีอันตรายระดับสูงในทันที
มีสัตว์อสูรที่ดูเหมือนจะมีมูลค่าหลายสิบล้านครัมอยู่ มาพิจารณาใส่เป็นเป้าหมายที่ต้องล่าดีไหมน๊า
อาจจะดูอันตราย แต่ฉันก็อยากจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างอันตรายนิดหน่อยแบบนั้นเหมือนกัน หวังว่าจะเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง
เมื่อกลับมาถึงที่ท่าเรือ ฉันกับริโนกิสก็ตัดสินใจกลับอย่างรวดเร็ว
การเก็บกวาดตกเป็นหน้าที่ของบริษัทเซโดนี
สะดวกจริง ๆ ขอขอบคุณการสนับสนุนส่วนที่ขาดไป
“――อะ ยะ ได้โปรดหยุดก่อน! กรุณาหยุดที่ตรงนั้นเลย!”
และพอกลับถึงโรงแรมก็ถูกพนักงานโรงแรมหยุดไว้อีกครั้งเหมือนเมื่อวาน
ฉันเดาว่าเป็นเพราะสภาพของพวกเรา
เป็นเพราะริโนกิสทำผิดพลาด จนทำให้เหยื่อบาดเจ็บ และเต็มไปด้วยเลือดมากมาย จริง ๆ เลย……ยังเป็นลูกศิษย์ที่ยังฝึกฝนไม่พอ ――อะ นี่คือเห็ดแหละ ช่วยทำอะไรให้ฉันหน่อยได้ไหม?
ในขณะนี้เนีย・ลิสตันกำลังล้างคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกบนร่างกายสีขาวในห้องอาบน้ำสาธารณะสำหรับนักธุรกิจซึ่งเป็นห้องที่ริโนกิสทำการเช่า
“――กลับมาแล้วเหรอครับ?”
กัปตันเรือเหาะที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทได้มาหาทอร์ค・เซโดนีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายและข้อมูลล่าสุดที่โกดังสาขาของบริษัทเซโดนีในเมืองหลวงแว็ง เดอ ครุช
ผู้ชายคนนี้ถูกขอให้ช่วยสนับสนุนนักผจญภัยริโนะ
ไปในที่ที่เธอต้องการไป และทำตามคำขอของเธอให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเมื่อริโนะกลับไปแล้วก็ให้มารายงานทันที
จากที่ได้ยินมาตอนคุยกันบนเรือความเร็วสูง ริโนะบอกว่าเธอจะไม่ออกล่าสัตว์อสูรในเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นดินแดนที่ไม่คุ้นเคย จึงตัดสินใจออกล่าเฉพาะเมื่อยังมีแสงเท่านั้น
เขาคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด
ทว่า เขาคิดตื้นไป
“เร็วมากเลยนะครับ”
หากมองไปที่ประตูทางเข้าจากในโกดังมืด ๆ จะเห็นได้ว่าภายนอกยังสว่างอยู่ ยังคงเป็นยามเย็น ประกอบกับเป็นหน้าหนาวที่เวลากลางวันสั้นลง แสดงว่าพวกเขากลับมาเร็วมาก
มีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจนทำให้ต้องกลับมาเร็วกว่ากำหนดหรือเปล่าน่ะ
บางทีริโนะอาจจะได้รับบาดเจ็บ
ทันใดนั้น ความรู้สึกแย่ๆ ก็แล่นเข้ามาในจิตใจของทอร์ก แต่――
“คือ เอ่อ มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น……”
ลางสังหรณ์ของทอร์คถูกต้อง
ยังไงก็ตาม เรื่องไม่ได้เป็นในทางที่ไม่ดี
“――หรือว่า……ไม่จริงหน่า…… !?”
「พวกเธอล่าสัตว์อสูรมามากมายจนไม่สามารถแม้แต่จะขนขึ้นเรือได้」คำพูดของกัปตันฟังดูเหลือเชื่อจนต้องขมวดคิ้ว「พูดเกินจริงไปรึ…… 」เขาพึมพำและไม่อยากยอมรับ
เขาคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เป็นไปไม่ได้
แต่ 「ไม่จริงหน่า」นั้นแม่นยำ
เขาไม่ได้คิดว่ากัปตันจะเล่าเรื่องตลกไร้สารถ แต่เขาก็คิดว่าคงเป็นการพูดเกินจริงไปหน่อย
เมื่อไปดูเรือเหาะเพื่อยืนยันผลการล่ากับกัปตัน ――ก็ตรงตามที่พูดเลย ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงแม้แต่น้อย
เมื่อมองแวบแรกก็ยังไม่มั่นใจมากนัก เนื่องจากมีผ้าคลุมเอาไว้อยู่ แตทอร์คก็รู้ดีกว่าใครว่ามีอะไรอยู่ใต้ผ้าคลุมนั้น เขาตระหนักได้จากผ้าที่โป่งขึ้นเป็นภูเขาอย่างผิดปกติ
เป็นเรื่องจริง
พวกเขากลับมาพร้อมกองสัตว์อสูรที่ไม่สามารถขนเพิ่มได้แล้ว ไม่สิ มาพร้อมภูเขาสมบัติต่างหาก
“มีซอร์ดเดียร์กี่ตัว!?”
กัปตันที่รีบตามมา ตอบคำถามของทอร์คที่เดินอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ว่า「มีแปดหัว」
แปดหัว
บังเอิญจริง
เขาสั่งไปสามหัว แต่นั่นก็เป็นเพียง「จำนวนขั้นต่ำที่เขาต้องการ」เพราะหากมากเกินไปอาจเป็นปัญหาได้ แต่ถ้าประมาณแปดหัวเขาก็ยินดีรับซื้อไว้
สมมติว่ารับซื้อที่ประมาณห้าแสนครัมต่อหัว
หากใช้เป็นวัตถุดิบและขายไปตามที่ต่างๆ ก็สามารถทำกำไรได้หนึ่งถึงสองร้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาที่มีลักษณะคล้ายดาบมีคุณค่าทางศิลปะสูง และอาจมีราคาได้ถึงล้านครัม ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ เขาแค่หวังว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย
“มีสโนว์ไทเกอร์ไหม!?”
เมื่อมาถึงตอนที่ต้องวิ่งขึ้นทางลาดก็ไม่ใช่การวิ่งที่สบาย ๆ อีกแล้ว เขาเกลียดร่างกายที่หนักของตัวเอง เพราะช่วงนี้ขาดการออกกำลังกาย
“มีสองตัวครับ!”
ว่าไงนะ
สองตัวเรอะ
“มีรอยแผลบนขนไหม!?”
“ไม่มีครับ!”
ถ้าแบบนั้น――ในหัวของทอร์คกำลังคำนวณมูลค่ากองสมบัติ แต่ก่อนที่จะได้คำตอบ เขาก็มายืนอยู่หน้ากองสมบัติแล้ว
“เอาผ้าออกที――”
เขาสั่งลูกเรือที่กำลังรวบรวมเชือกอยู่ใกล้ ๆ และในที่สุดเขาก็ถูกจับเข้ากับขุมสมบัติ――
“……”
และสูญเสียคำพูดทั้งหมด เขาพูดอะไรไม่ออก
สมบัติมากมายเข้าตาเขาทันทีจนไม่สามารถโฟกัสได้――เริ่มดูจากด้านหน้าสุด
เริ่มจากซอร์ดเดียร์
สัตว์อสูรตัวนี้ค่อนข้างดุร้ายเนื่องจากมีเขาที่เหมือนดาบ ต้องใช้นักผจญภัยธรรมดา ๆ สองสามคนกับใช้กับดักเพื่อฆ่าสักตัว
นอกจากนี้ เนื่องจากเดิมทีเป็นสัตว์กินพืชที่มีนิสัยขี้ขลาด จึงสามารถวิ่งหนีได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
แน่นอนว่า หากใช้กับดัก เขาและขนก็มักจะได้รับความเสียหาย ดังนั้นมูลค่าจึงลดลง
แต่จะคิดยังไง
ซอร์ดเดียร์อันงดงามกำลังเรียงแถวเคียงข้างกัน
“ฆ่าได้ยังไงกัน? ใช้ยาพิษ?”
ดูไม่มีร่องรอยอะไรเลย
ริโนะพกดาบไว้กับตัว แต่เหยื่อทั้งหมดที่ฆ่ามาจนถึงตอนนี้แทบไม่มีบาดแผลจากของมีคนเลย
นั่นเป็นเหตุผลที่บริษัทเซโดนีประเมินคุณค่าของเธอไว้สูง ถ้าหากต้องการแค่ฆ่าให้จบ ๆ ไป นักผจญภัยคนอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เห็นฝีมือระดับนั้นที่นี่
ทว่า หากใช้ยาพิษก็จะไม่สามารถทานเนื้อได้
เนื้อซอร์ดเดียร์มีรสอร่อย มีร้านอาหารและขุนนางมากมายที่ต้องการซื้อ
“เธอบอกว่าหักกระดูกคอครับ เช่นเดียวกับสโนว์ไทเกอร์”
โกหกหน่า
โฟกัสการตัดสินใจเบลอไปหมด เบลอโดยไม่ตั้งใจ
――ก็ดี มาดูสโนว์ไทเกอร์กันดีกว่า
หากซอร์ดเดียร์ว่าลำบากแล้ว แต่สโนว์ไทเกอร์ลำบากยิ่งกว่า
หากนับความแข็งแกร่งเฉพาะตัวแล้ว เพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถทำลายล้างทีมนักผจญภัยมืออาชีพที่ประกอบด้วยคนมากกว่าหนึ่งโหลได้
จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า 「พายุหิมะแห่งความตาย」
สโนว์ไทเกอร์จะเคลื่อนที่ไปตามพายุหิมะและล่าเหยื่อด้วยพายุหิมะ ก่อนที่จะได้สู้กับมันก็ต้องสู้กับสภาพอากาศที่เป็นศัตรูตัวหลักก่อน
ถ้าโชคร้ายถูกพบเข้าก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเตรียมตัวสำหรับรับความตาย
แต่จะคิดยังไง
จะเป็นไปได้อย่างงั้นหรือที่มนุษย์จะสามารถฆ่าและปล่อยให้ขนที่สวยงามเช่นนี้ไม่เสียหาย
ต้องมีมูลค่ามากกว่าห้าล้านครัมอย่างแน่นอน ――เดี๋ยวก่อน!
“นั่นมันอะไรกัน!?”
นี่เขายังเบลออยู่งั้นเรอะ เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ อาการใจสั่นที่ต่อเนื่องตั้งแต่ขึ้นทางลาดยังคงรุนแรง
“ผีเสื้อเรืองแสงครับ”
“แค่มองก็รู้แล้วน๊า! ปัญหาคือ ――”
ใช่ ปัญหาคือมันถูกจับได้ทั้งเป็น
ขวดขนาดไม่ใหญ่หลายขวดวางเรียงรายอยู่ และมีแสงกระพริบอยู่ข้างใน
เขามีความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงูเพลิงทะเล(คาคาจา)ตัวใหญ่ที่โดดเด่นสะดุดตาก่อนใคร นั่นคือสัตว์อสูรที่ทอร์คสั่งไว้เช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรูปร่างที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ และได้รับการรักษาไว้อย่างสวยงาม
ทว่า มากไปกว่านั้น
สิ่งที่ถูกจับกลับมาทั้งเป็น เป็นสิ่งที่ทอร์ที่เคยเห็นสัตว์อสูรมามากมายก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
ผีเสื้อเรืองแสง ก็ตรงตามชื่อ เป็นผีเสื้อที่มีปีกส่องแสงเป็นประกาย
แม้ว่าระบบนิเวศน์ของมันจะยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนัก แต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัตว์อสูร เนื่องจากมีหินเวทมนตร์เล็ก ๆ ที่อยู่ในตัว
ปีกที่เรืองแสงจะยังคงส่องแสงต่อไปประมาณครึ่งปีแม้ว่าตัวผีเสื้อจะตายไปแล้วก็ตาม แสงอันสวยงามที่อยู่เพียงชั่วคราวก่อนหายวับไปนั้น เป็นที่นิยมอย่างมากกับบางคน และขายได้ในราคาที่เหมาะสม แต่ ――
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นผีเสื้อเรืองแสงที่ยังมีชีวิต
ไม่อยากคิดเลยว่ามูลค่าจะมากแค่ไหน……ไม่สิ นี่คือความเป็นไปได้ หากสามารถขยายพันธุ์หรือเลี้ยงได้ในสภาวะนี้ ก็อาจกลายเป็นอุตสาหกรรมใหม่ได้
――มีดราก้อนเฮด และสโนว์แอร์โรว์ที่บาดเจ็บหลายตัว「เธอพาเด็กเล็กตามไปล่าด้วยกัน」ขณะเดียวกันเขาก็มั่นใจว่าได้ยินแบบนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจที่เด็กน้อยคนนั้นแข็งแกร่งพอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงขอให้พ่อค้าจากร้านสาขามาสนับสนุน และก็ทำบัญชีสมบัติต่อไปจนถึงเที่ยงคืน
ผลลัพธ์ของวันนี้
ซอร์ดเดียร์ แปดหัว
4 ล้านครัม
ดราก้อนเฮด สิบหกตัว
2 ล้าน 6 แสนครัม สามตัวให้ราคา 5 หมื่นครัมต่อตัวเนื่องจากความเสียหาย
แอสซาซินอีเกิล สามตัว
9 แสนครัม
สไลม์ประเภทอาศัยแถวขั้วโลก ขนาดใหญ่พิเศษหนึ่งตัว
ส่วนร่างกายถูกทิ้ง มีเพียงหินเวทมนตร์เท่านั้นที่รับซื้อ 7 แสนครัม
สโนว์ไทเกอร์ สองตัว
ทั้งสองสภาพดี 4 ล้านครัมต่อตัว
สโนว์แอร์โรว์ เจ็ดตัว และไข่สี่ฟอง
5 แสนครัมสำหรับนกห้าตัว อีกสองตัวมีตำหนิให้ 3 หมื่นครัมต่อตัว ไข่หนึ่งฟองต่อ 2 หมื่นครัม
งูเพลิงทะเล ตัวใหญ่ยักษ์หนึ่งตัว และปลาจำนวนมากที่ลอยขึ้นมาระหว่างการอาละวาด
10 ล้านครัม นอกจากนี้ค่าหัวเพิ่มเติมจากกิลด์นักผจญภัยอีก 2 ล้านครัม เนื่องจากปลามีจำนวนมากจึงระงับไว้ก่อนชั่วคราว
สัตว์ในตำนาน・ม้าขับขานวารี
1 ล้านครัม สำหรับข้อมูล สามารถเพิ่มเติมได้อีกหากให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ผีเสื้อเรืองแสง สามสิบสามตัว
2 ล้าน 8 แสนครัม ห้าตัวที่จับกลับมาได้ทั้งเป็น ราคาตัวละ 3 แสนครัม
ฟุตมัชรูม ขนาดใหญ่พิเศษหนึ่งตัว
มีเพียงหินเวทมนตร์ 2 แสนครัม
รวมทั้งหมด 34,490,000 ครัม
ช่วงนี้ปวดเอวกับก้นจนแปลไม่ค่อยออกเลย แถมร้อนอยู่ดีๆจู่ๆฝนก็ถล่มจนมีน้ำมูกไหลไม่หยุดอีก ฮา