คุณหนูโลลิคลั่งเนีย ลิสตัน - ตอนที่ 160 และโลลิอาละวาดนั่นเอง
160 และอาละวาดนั่นเอง
“ก่อนอื่นจะทำการควบคุมดาดฟ้าเรือ จากนั้นกรุณาตามลงไปเมื่อฉันสามารถเข้าไปในเรือได้แล้ว”
ฉันให้คำแนะนำกับทอร์คซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าฉัน และกำลังทำหน้าที่บังคับแอนด์ของเรือเดี่ยว
“เข้าใจแล้ว ผมสามารถไปส่งโดยไม่ต้องลงไปด้วยได้ใช่ไหม?”
ใช่แล้ว
เมื่อเรือเดี่ยวเข้าไปใกล้พอ ฉันก็จะกระโดดลงไปยังเรือของโจรสลัดอากาศ และเริ่มเก็บกวาดพวกโจรสลัดเอง ส่วนทอร์คจะลงไปหลังจากนั้น เป็นเรื่องแบบนั้นแหละ
ไม่จำเป็นต้องลงไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
ยังไงซะก็คงจบอย่างรวดเร็วนั่นแหละ
นี่เป็นสถานการณ์ที่ลูกกระสุนปืนใหญ่อาจพุ่งเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้
เนื่องจากมีเวลาไม่มากนัก ฉันจึงตัดสินใจประชุมขั้นต่ำสุดกับทอร์คซึ่งจู่ ๆ ก็ตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มปราบปรามให้เสร็จในพริบตา
“――เช่นนั้น ไปกันเถอะ!”
สิ้นเสียงของนักผจญภัยริโนะ เรือเดี่ยวห้าลำก็บินออกจากช่องปล่อย
ท้องฟ้ามีลมแรง
เมื่อพ้นจากแนวป้องกันลมที่ล้อมรอบเรือความเร็วสูงไว้ ฉันก็พบกับลมแรงทันที
“กันล่ะนะ! จับให้แน่นล่ะ!”
เมื่อเสียงของทอร์คดังขึ้น เรือเดี่ยวที่ล่องลอยตามสายลมดุจใบไม้ที่ปลิวไสวก็เริ่มแล่นราวกับได้รับชีวิตอีกครั้ง
เมื่อฉันหันกลับไปก็เห็นริโนกิส แกนดอร์ฟ อันเซล และเฟรซาบินไปในทิศทางของพวกเขาเช่นกัน
มองไปข้างหน้า
เรือโจรสลัดอากาศสีเขียวที่จอดอยู่ วางตัวในแนวตะแคงใช้ด้านที่ใหญ่ที่สุดทำหน้าที่เป็นกำแพงสำหรับขัดขวางเรือความเร็วสูง
ที่ท้องเรือ มีแท่งไม้รูปร่างเหมือนค้อนติดอยู่บริเวณหัวของฉลามดำที่กำลังแหวกว่ายอยู่ เข้าใจล่ะ ให้ความรู้สึกสมเป็นโจรสลัดอากาศตั้งแต่แรกเห็น เป็นงานสีที่น่าประทับใจมาก
และบริเวณท้องเรือมีปืนใหญ่หกกระบอก กะแล้วระนาบเกาะติดกับเรือความเร็วสูง
“――เข้าไปใกล้จากด้านบน! ให้มองเห็นการปรากฎตัวของเรา!”
“――เอ๋ ให้มองเห็นงั้นเรอะ!?”
“――ยังไงก็ถูกเห็นอยู่ดี! ถ้าทำท่าซ่อนแปลก ๆ จะโดนระแวงมากขึ้น!”
พวกโจรสลัดกำลังเฝ้าจับตาดูอยู่บนดาดฟ้าเรือโจรสลัดที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าเข้าไปหา
พวกเขารู้ตัวว่าพรรคพวกของตัวเองยังไม่กลับมาสักที เป็นพวกเราก็ต้องตรวจสอบแน่นอน
หากซ่อนตัวด้วยวิธีแปลก ๆ พวกเขาจะเกิดความสงสัยแน่นอน
ทว่า ตอนนี้กัปตันไปแล้วยังไม่กลับมา ในจังหวะเวลาแบบนี้หากพวกเราบินเข้าไปอย่างเปิดเผย พวกเขาจะคิดไปว่าเราเป็นพวกเดียวกัน หรืออย่างน้อยก็เป็นผู้ประสานงาน ทำให้ไม่มีทางที่จู่ ๆ จะยิงใส่กันแน่ ๆ
ฉันวางแผนที่จะโจมตีทันที
――บนดาดฟ้ายืนยันโจรได้หกคน ดูเหมือนไม่มีใครแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เข้าใจดีเข้าใจดี อย่างที่คาดไว้ ฉันไม่ได้ผิดหวังหรอก เพราะเข้าใจอย่างถ่องแท้
ก่อนอื่น จัดการทั้งหกคนนั่นก่อน แล้วบุกเข้าไปในเรือกัน
“――ลงไปเลย! บินผ่านไป วนรอบ ๆ พื้นที่แล้วค่อยกลับมา! ฉันจะทิ้งที่เหลือให้คุณหลังทำความสะอาดดาดฟ้าเสร็จแล้ว!”
“――เข้าใจแล้ว!”
ขณะที่พวกเราบินผ่านเหนือเรือโจรสลัดโดยตรง ฉันก็กระโดดลงจากเรือเดี่ยว
โจรทั้งหกคนกำลังมองมาที่ฉัน
――ตั้งตาดูให้ดีล่ะ ห้ามกะพริบตาโดยเด็ดขาด
ฉันร่อนลงบนดาดฟ้า และกลิ้งตัวอย่างรุนแรงเพื่อซับแรงกระแทกจากการตกลงมา จากนั้นเคลื่อนที่ด้วยแรงเหวี่ยงเดียวกันพุ่งเข้าไปชกท้องเหยื่อรายแรก หันกลับมาฟาดคอเหยื่อคนที่สองที่ข้าง ๆ กัน แล้วคว้ากริชจากเอวขว้างใส่เหยื่อคนที่สามที่อยู่ไกลออกไปมากที่สุดโดยไม่ให้ส่วนคมปักเข้าไป
โดยไม่สนใจว่าด้ามกริชที่ขว้างไปนั้นกระแทกเข้าใส่หน้าเหยื่อคนที่สาม ฉันก็โจมตีเข้าใส่เหยื่อคนที่สี่ด้วย「คิเคน・เสียงอสนีบาตร」แบบไร้เสียงจากการก้าวไปข้างหน้าเร็วเป็นพิเศษ แล้วเตะออกไปอย่างชำนาญเข้าใส่หัวของเหยื่อคนที่ห้าไปกระแทกหัวของเหยื่อคนที่หก
ดีล่ะ จบแล้ว
มองหาสัญญาณ ตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บนดาดฟ้าแล้ว ฉันก็มุ่งหน้าไปที่ประตูสำหรับเข้าสู่ตัวเรือ――ที่ข้างหลังฉัน โจรทั้งหกล้มลงแทบจะพร้อม ๆ กัน
เป็นเพียงการหายใจอย่างรวดเร็ว
ม๊า การจัดการคนสิบสองคนก่อนหน้านี้ง่ายกว่ามาก การทำสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่เล็ก ๆ ทำให้ง่ายกว่ามาก เมื่อทุกอย่างถูกรวมไว้ในที่เดียว
โจรทั้งหกเห็นฉันกระโดดลงจากเรือเดี่ยว แต่ตั้งแต่ที่ฉันร่อนลงบนดาดฟ้าได้ พวกเขาก็ไม่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของฉันได้อีกต่อไป
กัปตันตัวตลกนั้นยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเขาจะชนะหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เขาสามารถตอบสนองได้
แต่ว่า ม๊า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็นคนธรรมดา
อาจจะยังไม่มีใครรู้สึกตัวถึงการโจมตี
ดูจะน่าสนใจกว่าสำหรับฉันหากพวกเขารู้ตัว แต่ฉันจะเดือดร้อนได้หากพวกโจรสลัดเกิดสับสนแล้วยิงปืนใหญ่ออกไป ดังนั้นแบบนี้ดีแล้ว
ซ้า ถัดไปคือข้างใน ไปกันเร็ว
สิ่งที่ต้องทำคือเอาชนะพวกโจรด้วยการโจมตีอย่างกระทันหันบนเรือซึ่งมีสถานที่ซ่อนมากมาย เป็นงานที่ง่ายกว่าการควบคุมดาดฟ้า
ขณะที่กำลังเข้าควบคุมเรืออย่างรวดเร็วและเงียบเฉียบ ――ซู่ม ฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากระยะไกล
เสียงที่ฉันได้ยินตอนนี้น่าจะเป็นเสียงเรือความเร็วสูงที่กำลังเร่งความเร็ว
ตามที่ประชุมเร่งด่วน ทอร์คจะลงจอดบนเรือลำนี้ช้านิดหน่อย จากนั้นเขาจะส่งสัญญาณไปที่เรือความเร็วสูง
ตอนนี้ไม่ต้องกังวลว่าเรือความเร็วสูงจะตกแล้ว
“นะ นั่นมันอะไรกัน!? ความเร็วนั่นมันอะไร!?――ห๊ะ!?”
ชายคนหนึ่งที่ฉันเดาว่าน่าจะเป็นผู้นำกำลังทำหน้าที่บังคับเรือแทนตอนที่กัปตันไม่อยู่ เพราะอยู่ในห้องควบคุม และมีรูปร่างสมส่วน พวกเขาประหลาดใจเมื่อเห็นเรือความเร็วสูงที่กำลังเฝ้าดูอยู่ออกตัวด้วยความเร็วสูง
และ แม้แต่ฉันที่เพิ่งเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เขาแปลกใจเช่นกัน
“สวัสดี”
หมอนี่เป็นคนสุดท้าย
ด้วยเหตุนี้ การปราบปรามเรือโจรสลัดอากาศจึงสิ้นสุดลง
เมื่อฉันกลับมาที่ดาดฟ้า ทอร์คก็ได้มัดกลุ่มโจรและเรียงแถวเอาไว้แล้ว
“จบแล้วงั้นเหรอ?”
“ค่ะ ข้างในมีเจ็ดคน”
เป็นตามข้อมูลจากกัปตัน ม๊า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่ว่ามีอยู่ประมาณสิบคนก็อาจจะมากไปสักหน่อย
บนเรือลำนี้มีสิบสามคน
ดังนั้น ถ้านับรวมพวกที่ลงไปเรือความเร็วสูงด้วย ดั้งเดิมแล้วจะมีคนอยู่บนเรือประมาณสิบแปดคน แปดคนถือว่าสูงไปหน่อย
……ม๊า ก็ไม่เป็นไร
หากมีข้อผิดพลาดเกินสิบคนก็อาจจะน่าสงสัยว่าเขาจงใจเผยแพร่ข้อมูลปลอม
ก็เขาเป็นกัปตันที่ดูสะเพร่าขนาดนั้น ดูเหมือนน่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีลูกเรืออยู่กี่คน ฉันไม่คิดว่าเขาจะโกหกโดยเจตนาเพื่อซ่อนคนจำนวนมากเช่นนี้
――ยังไงฉันก็ไม่สนอยู่แล้วว่าจะมีกี่คนที่นี่ แต่ฉันสงสัยว่าพวกลูกศิษย์จะไม่เป็นไรใช่ไหม……ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่เป็นไร แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในการต่อสู้จริง
“ว่าไปแล้ว ลิลลี่จัง”
เรือความเร็วสูงกำลังหลบหนี
มีเรือโจรสลัดอากาศอยู่เพียงสามลำที่นี่ เรือสองลำพวกลูกศิษย์ต่างกำลังต่อสู้อยู่บนนั้น ฉันไม่สามารถรู้สถานการณ์ได้จากที่นี่
ในขณะที่ฉันกำลังมองออกไป ทอร์คก็ตะโกนเรียกฉัน
“ค่ะ ฉันจะไปช่วยแล้ว”
“ไม่ ไม่ใช่เรื่องนั้น”
หืม? ไม่ใช่งั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าเป็น อย่ายืนเฉย ๆ มาช่วยผมที หรอกเหรอ?
“บางทีเธออาจจะแข็งแกร่งกว่าริโนะซังหรือเปล่า?”
…………
ม๊า ทั้งต้อนรับโจรสลัดอากาศบนเรือความเร็วสูง และทั้งปราบผู้มาโจมตี
นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่อาจนำมาสู่เรื่องนี้ เช่น การแบ่งกลุ่มเพื่อขึ้นเรือโจรสลัดอากาศเพียงลำพัง
สมแล้ว คิดว่าเป็นคำถามที่ดีที่จะถามเลย
หรือไม่บางทีที่ทอร์คมากับฉันก็เพื่อที่จะถามเรื่องนี้
――ฉันคิดว่าบางทีอาจจะมีใครบางคนได้ยิน จึงหันหลังกลับและบอกเขาไปว่า
“คุณไม่คิดว่าอาจจะมีบางอย่างที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้เหรอคะ? การที่ผู้คนจะเข้ากันได้นั้นจำเป็นต้องรู้สึกถึงระยะห่างที่เหมาะสมจริงไหมคะ? คิดว่ายังไงค่ะ ทอร์คซัง?”
หากพูดให้ชัดเจนก็คงเป็น「อย่าเข้ามายุ่งจนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะไม่มีการทำธุรกิจใด ๆ ร่วมกันอีกในอนาคต」อะไรประมาณนั้น
การรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรเอาไว้เพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกันได้ เป็นความสัมพันธ์ที่ดีจริงไหม คงไม่คิดที่จะยอมออกนอกเส้นทางเพื่อทำลายลงด้วยตัวเองหรอกใช่ไหม
“……เข้าใจแล้ว ขอโทษด้วย เป็นคำถามโง่ ๆ ผมอยากใกล้ชิดกับทั้งริโนะซังทั้งกับเธอมากกว่านี้ แต่ยอมแพ้แล้ว”
ใช่แล้ว มีคำตอบเดียวเท่านั้น นั่นคือยอมแพ้
ทว่า ฉันแน่ใจว่าในใจเขาไม่ได้ยอมแพ้
บางทีอาจจะกำลังคิดว่า「ครั้งนี้ใจร้อนไปหน่อย คราวหน้าจะใช้เวลา…….. 」อยู่ก็ได้ เขาเป็นพ่อค้าของแท้ ดังนั้นไม่มีทางที่จะละทิ้งความคิดในการทำเงินไปง่าย ๆ
ม๊า ฉันก็หวังว่าเขาจะทำอย่างระวัง
ในขณะที่ฉันจับโจรบนเรือมัด ตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ของเรือ และค้นหาสิ่งของมีค่า ฉันก็ได้รับสัญญาณจากเรือสองลำที่พวกลูกศิษย์มุ่งหน้าไปปราบปราม
ดูเหมือนว่าฝั่งโน้นทุกอย่างก็จบลงด้วยดีเช่นกัน