งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 104
บทที่104 เขาหลบหน้าเธอ
หลังจากวันนั้น โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้เจอหน้าซูซีมู่อีกเลย
เมื่อโทรไปหาเขา เขาก็รับ แต่จะยุ่งทุกครั้ง เธอจึงไม่กล้าไปรบกวนเวลาทำงานของเขา
ส่วนเรื่องพูดข้อมูลคลาสเรียนอบรมพิเศษนั้น โล่เฟยเอ๋อก็ไม่กล้าเอ่ยขอซูซีมู่ให้ช่วยแต่อย่างใด
เพื่อไม่ให้ตัวเองตกหล่นเรียนไม่ทันในคลาสอบรมพิเศษนี้ เธอจะใช้เวลาพักผ่อนของทุกวัน มาหาข้อมูลด้วยตัวเอง
ถึงแม้จะเหนื่อยเอามาก แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะโทรหาซูซีมู่ทุกวัน เมื่อได้ยินเสียงเขา เธอรู้สึกความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ได้จางหายไป
จนที่สุดก็ถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ทีแรกโล่เฟยเอ๋อยากพักผ่อนอย่าสบายใจ แต่ลู่ยู่กลับโทรหาเธอ นัดเธอออกไปเที่ยว
ทีแรกโล่เฟยเอ๋อจะปฏิเสธ เมื่อนึกได้ว่าก่อนหน้านี้ค่อยพูดไว้ว่าจะขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวลู่ยู่พวกเขา จึงพูดไปว่า”ก่อนหน้านั้นฉันเคยบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเธอ วันนี้เป็นยังไง”
โล่เฟยเอ๋อคิดดีแล้ว ว่าเดี๋ยวจะโทรหาซูซีมู่ แล้วเรียกเขาไปด้วย
ลู่ยู่ตอบไปตามตรงว่า” เฟยเอ๋อเลี้ยงข้าวทั้งที ก็ต้องว่างอยู่แล้ว เมื่อไหร่ล่ะ”
“คืนนี้ ที่หยู้ผินเซียง” พวกเขาเป็นคนรวยทั้งนั้น นอกจากหยู้ผินเซียงแล้ว ก็คงไม่มีที่อื่นที่เข้าตาพวกเขาแล้ว
ยังดีหน่อย ที่สองวันก่อนเงินเดือนเธอออก ในใจลึกๆโล่เฟยเอ๋อก็ดีใจจนหยุดไม่ได้แล้ว
“ยังอยากรบกวนให้คุณเรียกคุณเหซิงกับเหซิงถิงไปด้วย ฉันไม่มีเบอร์ของพวกเขา “โล่เฟยเอ๋อพูด
ลู่ยู่พูดหลังจากที่นิ่งเงียบไปหลายนาที “เหซิงโม่นะได้ แต่สองวันนี้เหมือนเหซิงถิงจะไปเมืองหลวงแล้ว”
“อ๋อ ได้สิ ” เมื่อโทรคุยกับลู่ยู่เสร็จ ก็โทรไปหาซูซีมู่เลย
ช่วงนี้ยุ่งมาทั้งสัปดาห์ วันนี้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซูซีมู่ต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้านแน่น
ตอนโล่เฟยเอ๋อโทรหาซูซีมู่นั้น เขากำลังนั่งพิงโซฟาดูข่าวเศรษฐกิจอยู่
เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าที่ตั้งพิเศษให้โล่เฟยเอ๋อโทรมานั้น ซูซีมู่ถึงกับตะลึงนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้กดรับ
“ฮัลโหล”
เสียงดีใจของโล่เฟยเอ๋อลอยเข้ามาทันที “ซูซีมู่ คืนนี้คุณว่างไหม”
ซูซีมู่นิ่งเงียบไปสักครู่ แล้วจึงตอบไปอย่างเย็นชาว่า”ไม่ว่าง”
“อ๋อ”เสียงโล่เฟยเอ๋อผิดหวังไปอย่างเห็นได้ชัด
ซูซีมู่กำมือถือไว้แน่น แล้วเม้มปากอย่างแรง จนสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วล่ะ บ๊ายบาย” โล่เฟยเอ๋อพูดเสร็จประโยคนี้ ก็รีบวางสายไปเลย
ซูซีมู่มองดูสายที่ถูกตัดไปอย่างตะลึง จนแล้วจนรอด จึงจะค่อยๆมือถือลง แล้วหันสายตาของตัวเองไปดูทีวีแทน
เมื่อกี้ยังดูข่าวเศรษฐกิจอย่างออกรส แต่ตอนนี้กลับดึงดูดเขาไม่ได้เลย
สมองเขามีแต่บทสนทนาที่คุยกับโล่เฟยเอ๋อทั้งนั้น
“ซูซีมู่ คืนนี้คุณว่างไหม”
“ไม่ว่าง”
“อ๋อ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วล่ะ บ๊ายบาย”
ในช่วงนี้ สิ่งที่เขาบอกกับเธอมากสุดคือไม่ว่าง และสิ่งที่เธอบอกเขามากสุดคืองั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วล่ะ บ๊ายบาย
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว โทรศัพท์เขานั้นได้ดังขึ้นอีกครั้ง
ซูซีมู่รีบเอามือถือที่อยู่ในโซฟาขึ้นมา ก็เห็นว่าไม่ใช่โล่เฟยเอ๋อ แต่เป็นลู่ยู่ที่โทรมา
เขาบอกกับเธอว่าไม่ว่างไปแล้ว และเธอก็บอกแล้วว่าจะไม่รบกวน แล้วจะโทรมาอีกได้อย่างไง
ซูซีมู่หัวเราะเยาะเย้ยตัวเองอยู่ในใจ แล้วจึงรับสาย
“มีเรื่องอะไร”
“ซูซีมู่ ทำไมแกยังไม่มาอีก พวกเรามากันหมดแล้วนะ”เสียงลู่ยู่ลอยออกมาจากในสาย
ซูซีมู่ประหลาดใจเล็กน้อย “อะไร”
“เฟยเอ๋อเลี้ยงพวกเรากินข้าว ทำไมเธอไม่บอกแกหรือไง เป็นไปไม่ได้……”
โล่เฟยเอ๋อเลี้ยงพวกเขากินข้าวเหรอ ที่เมื่อกี้เธอโทรหาเขาเป็นเพราะเรื่องนี้มั้ง
ซูซีมู่นิ่งไปหลายวิ จากนั้นจึงพูด “เธอบอกฉันแล้ว แต่ฉันไม่ว่าง”
“แกไม่ว่าง แกยุ่งอะไร”ลู่ยู่ถามอย่างแปลกใจ
ซูซีมู่ไม่ตอบคำถามเขา แต่กลับบอกว่า”อย่าดื่มเหล้า หลังกินข้าวเสร็จ ให้ส่งเธอกลับไปด้วย”
“อ๋อ รู้แล้ว” ลู่ยู่เอ่ยรับปาก
ซูซีมู่เอ่ยอือไปคำเดียว แล้วกำลังจะวางสาย ก็นึกอะไรขึ้นมาทันทีจึงรีบบอกกับคนในสายว่า” เอ่อใช่ ถึงแม้เธอพูดจะเป็นเจ้ามือ แต่แกก็ต้องจ่ายตังค์เอง เมื่อถึงเวลาฉันจะคืนตังค์ให้แกอีกที”
เมื่อได้ยินที่ซูซีมู่พูดแล้ว ลู่ยู่ถึงกับหัวร้อนขึ้นมาทันที “ฉันจะบ้า ซูซีมู่เมื่อกี้แกว่าอะไร แกเห็นฉันเป็นเพื่อนไหม เงินแค่นี้ ยังต้องให้แกคืนเหรอ”
“อือ หลังจากส่งเธอเสร็จ โทรมาบอกฉันด้วย” เมื่อพูดจบประโยค ซูซีมู่ก็ตัดสายไปทันที
“ไอ่ซูซีมู่นี่ตัวเองไม่ว่างมา ยังกังวลเรื่องเฟยเอ๋ออีก ……”เมื่อลู่ยู่คุยโทรศัพท์กับซูซีมู่เสร็จ ก็บ่นไปด้วย แล้วเดินเข้าห้องไปด้วย
เหซิงโม่ที่กำลังคุยกับโล่เฟยเอ๋ออยู่ก็เห็นลู่ยู่เดินเข้ามา จึงรีบถามขึ้น “ซูซีมู่จะมาเมื่อไหร่นะ”
ลู่ยู่พยักไหลแล้วตอบ”เขาบอกว่าเขาคุยกับเฟยเอ๋อแล้ว เขาไม่ว่างจะมา”
“อือ เขายุ่งมาก” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
“ทั้งวันเขาได้แต่ยุ่งๆๆ ดูเป็นคนบ้างานจริง แต่ช่างเขาเถอะ เรามาสั่งอาหารกันดีกว่า”ลู่ยู่ที่พูดไปด้วยแล้วก็เรียกพนักงานมารับเมนูไปด้วย
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็สั่งเหล้าไปขวดหนึ่ง
“เหล้าไม่ต้องแล้ว” แน่นอนไม่ใช่เพราะลู่ยู่เสียดายเงิน แต่เป็นเพราะเขารับคำสั่งจากซูซีมู่มา ว่าไม่ดื่มเหล้า
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วแล้วถาม”ลู่ยู่ทุกครั้งคุณจะดื่มเหล้า แต่ทำไมฉันเลี้ยง คุณถึงไม่ดื่มเหล้าแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อพูดซะขนาดนี้ ลู่ยู่จะปฏิเสธได้ไง
จึงได้สั่งไวน์แดงไปขวดหนึ่ง
ทั้งสามคุยไปกินไป เมื่อได้คุยกันอย่างสนุก ก็ลืมเรื่องดื่มไม่ดื่มเหล้าไปนานแล้ว
ซูซีมู่หลังจากฟ้ามืด ก็นั่งรอโทรศัพท์จากลู่ยู่ที่ห้องรับแขก
จากหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มก็แล้ว ลู่ยู่ยังไม่โทรศัพท์มาสักที
ธรรมดานั้น คงกินเสร็จกันทั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่ส่งเธอกลับบ้านอีก
หรือว่าไอ้ลู่ยู่นั้นจะลืมว่าต้องโทรหาเขา
ซูซีมู่เดินวนไปมาอยู่ที่ห้องรับแขกรอบแล้วรอบเล่า……จนถึงรอบที่ห้านั้น เขาก็สุดจนทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงได้เอามือถือออกจากกระเป๋า แล้วโทรหาลู่ยู่
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานก็ไม่มีคนรับสาย เมื่อตอนที่ซูซีมู่คิดว่าจะไม่มีคนรับสายแล้ว เสียงลู่ยู่ก็ลอยเข้ามา
“ฮัลโหล……อึก……”
ซูซีมู่ถามอย่างเย็นชา”แกส่งเธอกลับบ้านยัง”
“ใคร แกถาม…..ใคร……อึก…..”
ครั้งนี้ซูซีมู่รู้ชัดเลย ว่าลู่ยู่สะอึกเพราะเมาเหล้า เขาขมวดคิ้ว แล้วถาม “แกดื่มเหล้าเหรอ”
“ดื่มแล้ว……สามขวด……”ลู่ยู่ตอบอย่างลากลิ้น
ซูซีมู่ปวดขมับจนกระตุกอย่างแรง “เฟยเอ๋อล่ะ”
“เฟยเอ๋อ……อึก……”ลู่ยู่หยุดนึกไปหลายวินาที จากนั้นจึงบอก”เมาแล้ว…..เธอเมาแล้ว……”
เมื่อได้ยินลู่ยู่พูดว่าโล่เฟยเอ๋อเมาแล้ว ซูซีมู่ก็เกือบหลุดปากด่าออกมา
ไม่ให้เขาดื่มเหล้า ไอ้นี่นี้ ไม่เพียงตัวเองดื่ม ยังให้โล่เฟยเอ๋อดื่มเมาไปด้วยอีก
เขารู้อยู่แล้ว ว่าไอ้นี่ไว้วางใจไม่ได้
“พวกนายอยู่ไหน”ประโยคนี้ ซูซีมู่เค้นเสียงลอดไรฟันออกมา
ลู่ยู่ถึงกับมึนงง”ไหน……หยู้ผินเซียง……อ่ะ……”
ซูซีมู่ตอบย่างเยือกเย็นว่า”ดูโล่เฟยเอ๋อให้ดี”
“อ๋อ……ได้……”