งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 122
บทที่122 พวกเขามีบุญสัมพันธ์ต่อกัน
เมื่อรอโจวหยุนจากไป เรือนหลิงก็รีบวิ่งไปที่ห้องทำงานโล่เฟยเอ๋อ แล้วแอบถามโล่เฟยเอ๋อว่าโจวหยุนเคยมาหาเธอไหม
“นักออกแบบหยุนเหรอ ไม่มาหนิ ทำไมเหรอ”โล่เฟยเอ๋อมองเรือนหลิงด้วยความสงสัย
“ไม่เคยมาเหรอ งั้นฉันไปล่ะ “เรือนหลิงลูบจมูก แล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานโล่เฟยเอ๋อ อย่างรวดเร็ว จนโล่เฟยเอ๋อจะเรียกเธอไว้ก็ไม่ทันแล้ว
“เรือนหลิงเป็นไรกันแน่”โล่เฟยเอ๋อบ่นพึมพำ แล้วส่ายหัวไปด้วย จากนั้นจึงเปิดกระดาษวาดรูป เตรียมจะวาดอะไรสักหน่อย เพียงให้เวลาช่วงเที่ยงหมดไป แต่วาดไปวาดมา กลับเป็นการวาดที่คุ้นเคยขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายใบหน้าแสนเย็นชาก็ปรากฏอยู่แผ่นวาด โล่เฟยเอ๋อหยุดค้างดินสอไว้ แล้วจ้องมองกระดาษที่วาดด้วยความนิ่ง
ดวงตาที่สดใส ค่อยๆมีความเจ็บปวดเข้ามาแทรกอย่างทีละนิดๆ
โล่เฟยเอ๋อยกมือปิดหน้าตัวเอง แล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ไปทั้งตัว
แสงไฟที่สว่างไสวในห้องทำงานนั้น ได้ส่องไปโดนร่างกายเธอ เหมือนได้รับการแพร่กระจายไปด้วย จึงเผยกลิ่นไอเศร้าโศกออกมาเบาๆ
ผ่านมาสักพัก โล่เฟยเอ๋อนั่งตัวตรง พร้อมกับเอาภาพที่สเก็ตขึ้นมา แล้วขยำเป็นก้อน โยนลงถังขยะไป
เริ่มจากพรุ่งนื้ เธอจะไม่คิดถึงเขาอีก ไม่ เริ่มจากวันนี้ต่างหาก……
โล่เฟยเอ๋อหยิบกระดาษวาดแผ่นใหม่ขึ้นมา จากนั้นก็หยิบดินสอ แล้วเริ่มวาดออกแบบ…..
เพราะซูซีมู่ไปซื้อของขวัญวันคริสต์มาส เลยทำให้พลาดไฟล์ทบินก่อนหน้านั้น สุดท้ายจึงทันขึ้นไฟล์ทบินเที่ยงคืนแทน ตอนถึงเมือง A ก็ประมาณตีสี่แล้ว
หลังจากโจวเฉิงรับเขากลับวิลล่า ก็อาบน้ำ แล้วหลับไปพร้อมความเหนื่อยล้าทันที
ตอนเขาตื่นขึ้นมานั้น ก็เกือบประมาณช่วงเที่ยงสิบเอ็ดโมงแล้ว
ซูซีมู่ลุกจากเตียงมาล้างหน้าล้างตา แล้วกำลังจะเข้าห้องสมุด เสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
เป็นโจวเฉิงที่โทรมา พูดเรื่องผลการตรวจสอบเรื่องการจัดแสดงโชว์จิวเวลรี่ได้ออกมาแล้ว เขาจะส่งผลตรวจมาให้กับเขา พร้อมกับถามว่ากลางวันเขาจะทานอะไร เดี๋ยวเขาจะเอาไปให้
ซูซีมู่ดูดีว่าโจวเฉิงสามารถแจ้งผลทางโทรศัพท์ให้กับเขาได้ แต่ที่เขาจะมาส่งด้วยตัวเองนั้น เพราะกังวลว่าเขาจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน ที่ลืมทานอาหารกลางวัน
หลังจากบอกรายชื่ออาหารไม่กี่อย่างให้โจวเฉิงเสร็จ ซูซีมู่ก็ตัดสายทิ้ง แล้วเดินเข้าห้องสมุดไปดูเอกสารเลย
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป โจวเฉิงก็มาพร้อมกับอาหารที่สั่ง
ซูซีมู่ทานอาหารกลางวันไป ก็ฟังผลการตรวจของโจวเฉิงไปด้วย
“การจัดแสดงผลงานพวกนี้ที่จริงคือการทดสอบของนักเรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ครับ ความหมายของเย่รู้ไป๋คืออยากให้ลูกค้ามาลงคะแนนให้นักเรียนเองครับ”
ซูซีมู่หยุดการทานข้าว ” การสอบของคณะคลาสฝึกอบรมพิเศษงั้นเหรอ”
“ครับ ที่จริงจากข้อมูลคลาสฝึกอบรมพิเศษของเย่รู้ไป๋นั้น เคยระบุไว้ แต่กระผมไม่สังเกตดูเองครับ”โจวเฉิงตอบด้วยความรู้สึกใจแป้ว
ซูซีมู่อืมรับรู้เบาๆ จากนั้นก็ทานข้าวต่อ
โจวเฉิงแอบมองซูซีมู่แป๊บหนึ่ง แล้วเห็นว่าเขาไม่ท่าทีโกรธอะไร จึงถาม ” ประธานซู พวกรายชื่อนักเรียนการจัดแสดงโชว์ผลงานนั้น คุณจะดูสักหน่อยไหมครับ”
ทีแรกซูซีมู่จะบอกไม่ดูแล้ว แต่พอคำพูดถึงปาก จู่ๆก็รู้สึกว่าคำพูดโจวเฉิงมีความไม่ชอบมาพากลแปลกๆ
โจวเฉิงรู้จักนิสัยเขาดีอยู่แล้ว จึงไม่น่าถามอะไรที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้
ทำไมวันนี้เขาถึงเซ้าซี้เหมือนพวกผู้หญิงจัง
ซูซีมู่เงยหน้า มองดูโจวเฉิง แล้วเห็นท่าทาง’รอดู’มองมายังเขา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกมา ” ให้ฉันดูสิ”
“ครับ”โจวเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็ส่งข้อมูลไปให้ซูซีมู่ เหมือนกลัวซูซีมู่จะหาไม่เจอในสิ่งที่สนใจ จึงเปิดหน้าไว้ให้ซูซีมู่โดยเฉพาะ
ซูซีมู่ตั้งใจจะมองผ่านๆ แต่จู่ๆสายตาเขาก็หยุดนิ่งบนรายชื่อใครบางคนไว้
โล่เฟยเอ๋อ รายชื่อการจัดแสดงโชว์ผลงานนั้น มีชื่อโล่เฟยเอ๋อ
เธอเข้าร่วมคลาสฝึกอบรมพิเศษการสอบงั้นเหรอ ไม่ถูกสิ การสอบของคลาสฝึกอบรมพิเศษจะมีขึ้นในไม่กี่วันนี้หนิ แต่เธอลาออกไปตั้งนานไม่ใช่เหรอ
“โจวเฉิง เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ชื่อเธอปรากฏบนนี้ได้ไง”
“ประธานซู เย่รู่ไป๋บอกคุณหนูโล่เคยเข้าร่วมการแข่งออกแบบมาก่อน แล้วได้อันดับที่หนึ่งในการแข่งด้วย ถึงแม้เธอจะลาออกจากบริษัทดี้ก้วนแล้ว แต่เพราะเคยเรียนที่คลาสฝึกอบรมพิเศษมาก่อน จึงใช้ภาพออกแบบที่เคยจัดแสดงโชว์ผลงานแล้วได้อันดับที่หนึ่งของคุณหนูโล่มาร่วมสอบกับพวกนักเรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษด้วยครับ”
สำหรับเรื่องการแข่งขันนั้นของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่รู้มาก่อนแล้ว
ยังรู้อีกว่าในการแข่งขันนั้น ถังหซิวฉีนั้นได้ใส่ร้ายโล่เฟยเอ๋อด้วย เพียงแต่เขายังไม่เคยเห็นโล่เฟยเอ๋อเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบด้วยสิ
และตอนนี้ได้รู้ว่าผลงานชิ้นนั้นของโล่เฟยเอ๋อถูกจัดแสดงโชว์ด้วย ในใจก็อดไม่ได้ที่จะไปดู
ในใจซูซีมู่คิดแบบนี้ แต่ปากกลับไวพูดไปก่อน “รีบให้คนเอาผลงานแสดงโชว์ของเธอจากเมืองหลวงส่งมาด่วน ไม่สิ แกไปเอาเองมาจากเมืองหลวงเลย
โจวเฉิงถึงกับอึ้งเล็กน้อย แล้วตอบ “เอ่อคือ……ประธานซู ในเมืองหลวงไม่มีผลงานการจัดแสดงโชว์ของคุณหนูโล่แล้วครับ”
เมื่อได้ยินโจวเฉิงพูดว่าไม่มีผลงานแสดงโชว์ของโล่เฟยเอ๋อแล้ว สีหน้าซูซีมู่ก็เป็นเยือกเย็นทันที “ทำไมถึงไม่มีแล้ว เช็กให้ฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น”
เมื่อเห็นท่านประธานของตัวเองโมโห โจวเฉิงก็รีบอธิบาย “ประธานซู ผลงานที่จัดแสดงนั้นอยู่ในมือคุณแล้วครับ”
“อะไรอยู่ในมือฉัน เช็กให้ฉัน ถ้าเช็กไม่…..” จู่ๆซูซีมู่ก็หยุดพูด แล้วมองไปทางโจวเฉิง “หมายความว่าไง”
โจวเฉิงลูบจมูกตอบ “ประธานซู เมื่อวันแหวนที่คุณเอามาจากร้านจิวเวลรี่นั้น เป็นผลงานที่จัดแสดงโชว์ของคุณหนูโล่ครับ”
ที่จริงโจวเฉิงอยากจะพูดคือ อั๊ยย่ะ ช่างบังเอิญกันจริงๆ มีไม่มีล่ะ
“แหวนเหรอ”ซูซีมู่ตะลึงนิ่งไปหลายวินาที จากนั้นจึงลุกจากเก้าอี้อย่างรีบร้อน เพราะแรงที่มากไป เลยทำให้เก้าอี้ข้างหลังเขาถึงกับล้มลงไป
เขาไม่มีเวลามาเก็บเก้าอี้ล้มอยู่ขึ้นมา แต่กลับเดินลงไปชั้นล่างยังรีบร้อน
เมื่อเห็นท่านประธานลงชั้นล่างไปอย่างรีบร้อน โจวเฉิงจึงเก็บเก้าอี้ที่ล้มอยู่ขึ้นมาอย่างเงียบๆ
ไม่แปลกที่ประธานซูจะตื่นเต้นรีบร้อนขนาดนี้ แม้แต่ตอนที่เขาที่เห็นข้อมูลพวกนั้น ก็ตื่นเต้นรีบร้อนไม่แพ้กัน
ประธานซูกับคุณหนูโล่ช่างมีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ มีไม่มีล่ะ
ตอนประธานซูไปซื้อของขวัญวันคริสต์มาสในร้านจิวเวลรี่ให้คุณหนูโล่นั้น สุดท้ายดูไปดูมา กลับถูกใจแหวนการออกแบบของคุณหนูโล่ซะงั้น
ถ้าประธานซูนำแหวนที่คุณหนูโล่ออกแบบ ไปหาคุณหนูโล่ คุณหนูโล่ก็คงคืนดีกับประธานซูแน่ๆ
ซูซีมู่รีบวิ่งไปที่ห้องตัวเอง เขาไม่รอสูดหายใจพักเหนื่อย ก็รีบตรงไปที่หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วเอาเสื้อสูทที่ใส่เมื่อคืนลงมา
จากนั้นก็เอาแหวนจากกระเป๋าเสื้อสูทที่ได้รับจากร้านจิวเวลรี่ออกมา
เขาไม่คิดเลยจริงๆ ว่าแหวนนี้จะเป็นการออกแบบของโล่เฟยเอ๋อ
ตอนนั้นเขาแค่รู้สึกว่าแหวนนี้ มีคุ้นตาเล็กน้อยก็เท่านั้น
“คุ้นตาเหรอ”ซูซีมู่ขมวดคิ้ว แล้วจ้องมองแหวนนั้นอย่างละเอียด
หลังจากมองไปหลายวินาที เขาถึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคุ้นตากับแหวนวงนี้
เพราะที่จริงพลอยทับทิมอยู่ในวงแหวนนี้ ช่างเหมือนกับสีเล็บบนนิ้วนางขวาที่เขาเคยทาให้กับโล่เฟยเอ๋อวันนั้น แดงอย่างกับเลือดเลยทีเดียว……