งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 127
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่127 โล่หยิวชิว(แทนที่จะยอมรับผิด)กลับย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
โล่ชิงไป๋พูดยืนยันกับโล่หยิวชิว “หยิวชิวลูกรัก โล่เฟยเอ๋อไม่มีโอกาสแย่งแฟนลูกแน่ เธอกับบริษัทซูซื่อมีพันธะวิวาห์กันแล้ว”
เมื่อได้ยินโล่ชิงไป๋พูดว่าโล่เฟยเอ๋อกับบริษัทซูซื่อมีพันธะวิวาห์กันแล้ว โล่หยิวชิวแอบดีใจเป้าหมายสำเร็จแล้ว
เพียงแค่โล่ชิงไป๋ตัดสินใจให้โล่เฟยเอ๋อกับบริษัทซูซื่อจะมีพันธะวิวาห์กัน ก็จบสิ้นความหวังทีจะเเป็นไปได้ระหว่างซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อแล้ว
โล่เฟยเอ๋อแต่งกับบริษัทซูซื่อแล้ว บ้านโล่กับบริษัทโล่ซื่อจะไม่ตกเป็นเธอโล่หยิวชิวได้ไง
ถึงตอนนั้นเธอปล่อยสิ่งล่อลวงใจนี้ออกมา ซูซีมู่จะไม่กลับมาแต่งงานกับเธอดีๆได้ไง
ในใจโล่หยิวชิวรู้สึกดีใจมาก แต่ภายนอกกับแกล้งทำเป็นอ่อนโยนแล้วถาม “จริงหรอคะ”
“จริงสิ พ่อเรียกเธอกลับมาคราวนี้ เพื่อจะบอกการตัดสินใจครั้งนี้ให้กับเธอ “โล่ชิงไป๋พูดเสร็จ ก็โทรศัพท์หาโล่เฟยเอ๋อ
หลายวันมานี้โล่เฟยเอ๋อยุ่งมาก เพราะโจวหยุนสั่งเธอออกแบบวาดรูปสองอันหรือมากกว่าสองอันให้ทำทุกวัน
เธอวาดออกแบบรูปจนมืดจนค่ำทุกวัน ถึงบางครั้งเธอถึงต้องทำโอที แต่ก็ยังดี เพราะนี่คืออาชีพที่เธอชอบ
และยังมีเรือนหลิงเพื่อนคนนี้คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอ
โล่เฟยเอ๋อจึงรู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว
วันนี้มีออกแบบรูป 3 แผ่นอีกแล้ว โล่เฟยเอ๋อทำโอทีที่เข้าทำงานเหมือนดังเช่นเดิม
“เฟยเอ๋อ วันนี้จะทำโอทีอีกไหม”เรือนหลิงเดินเข้ามาจะห้องทำงานข้างนอก
“อืม ยังมีอีกแผ่นที่ยังวาดไม่เสร็จ” โล่เฟยเอ๋อนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็พูดกับเรือนหลิง “เรือนหลิง ถ้างั้นเธอกลับไปก่อนดีไหม เธออยู่เป็นเพื่อนฉันมาหลายวันแล้วนะ”
“ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง ถึงกลับไปฉันก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ”เรือนหลิงพูดพลางนั่งลงตรงหน้าโล่เฟยเอ๋อ
“ขอบใจเธอนะเรือนหลิง”โล่เฟยเอ๋อยิ้มพลางขอบคุณเรือนหลิง จากนั้นก็ก้มหน้าวาดแบบต่อ
เรือนหลิงนั่งพิงเก้าอี้เล่นมือถือมาพักหนึ่ง ต่อมาเธอเลยวางมือถือลงแล้วจ้องมองแบบที่โล่เฟยเอ๋อวาด
จู่ๆเรือนหลิงก็พูดขึ้นมา”เฟยเอ๋อ เธอเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมนักออกแบบหยุนถึงให้เธอวาดออกแบบรูปเยอะขนาดนี้น่ะ”
“อะไรนะ”โล่เฟยเอ๋อที่กำลังโฟกัสจดจ่อกับงานวาดออกแบบอยู่เมื่อได้ยินคำพูดเรือนหลิง แต่กลับฟังไม่ชัดเจนว่าเรือนหลิงพูดอะไร
เรือนหลิงชะงักไปแป๊บหนึ่ง แล้วพูด “ฉันพูดว่ามื้อค่ำเธอจะกินอะไรดี ฉันออกไปซื้อให้เธอเอง”
“ฉัน……”โล่เฟยเอ๋อกำลังจะตอบเรือนหลิง แต่จู่ๆมือถือเธอก็ดังขึ้นมา
โล่เฟยเอ๋อเอ่ยขอโทษกับเรือนหลิง แล้วเอามือถือจากกระเป๋าเสื้อออกมา
เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของโล่ชิงไป๋ที่แสดงอยู่บนหน้าจอสายตาเธอกับกระพริบแล้วกระพริบอีก จึงรีบกดรับสาย
“คุณพ่อ กลับไปตอนนี้เลยหรอคะ พรุ่งนี้หนูยังต้องทำงาน……ค่ะ หนูรู้แล้ว เดี๋ยวจะรีบกลับไปค่ะ”
หลังจากวางสายแล้ว โล่เฟยเอ๋อแสดงสีหน้ารู้สึกผิดมาบอกกับเรือนหลิง “เรือนหลิง ขอโทษจริงๆ ฉันไปกินข้าวกับเธอไม่ได้แล้ว เพราะฉันจะต้องรีบกลับไป”
เรือนหลิงถามอย่างสงสัย “ตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอยังต้องกลับไปอีกหรอ”
“อืม คุณพ่อฉันบอกมีเรื่อง ให้ฉันกลับไปด้วย” โล่เฟยเอ๋อชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงบอก ” คืนนี้กลับไปก็ดีเหมือนกัน พรุ่งนี้ฉันยังสามารถรีบมาทำงานได้”
“แบบนั้นจะรีบเกินไปไหม ถ้างั้นพรุ่งนี้ลาดีไหม” เรือนหลิงเอ่ยอย่างกลุ้มใจ
“ถึงตอนนั้นฉันค่อยคิดดูอีกทีนะ”โล่เฟยเอ๋อเก็บของ และตอบไปด้วย
เรือนหลิงพยักหน้า “อืม ก็ได้”
ทั้งสองคนได้เดินออกจากห้องทำงานด้วยกัน พอเดินออกมาจากบริษัทแล้ว ถึงจะแยกย้ายกันไป
เรือนหลิงโบกรถประจำทางกลับไปแล้ว ส่วนโล่เฟยเอ๋อโบกเรียกแท็กซี่ไปส่งที่บ้านซูวิลล่า
ตอนโล่เฟยเอ๋อมาถึงวิลล่าก็ประมาณห้าทุ่มแล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าคนในบ้านคงนอนกันหมดแล้ว
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพอเธอเดินเข้ามาวิลล่านั้น โล่ชิงไป๋กับโล่หยิวชิวกำลังนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“คุณพ่อ พี่สาว”
เมื่อโล่หยิวชิวเห็นโล่เฟยเอ๋อ น้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาอย่างหนัก ดูแล้วช่างน่าสงสารมาก
โล่ชิงไป๋จ้องมองโล่เฟยด้วยความเย็นชา แล้วค่อยปลอบใจโล่หยิวชิวอย่างเป็นหว่ง
“พี่สาว เป็นอะไรไป” โล่เฟยเอ๋อถามยังไม่เข้าใจ
“แกยังมีหน้ามาถามพี่สาวแกอีกหรอ” โล่ชิงไป๋จ้องโล่เฟยเอ๋อด้วยความโกรธเคือง เหมือนว่าเธอได้ทำเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้เช่นนั้น
โล่เฟยเอ๋อมึนตื๊อกับเหตุการณ์ทั้งหมด “คุณพ่อ หนู….”
โล่ชิงไป๋พูดตัดคำพูดโล่เฟยเอ๋อ “โล่เฟยเอ๋อ ฉันบอกแกนะ ตั้งแต่วันนี้ไปแกต้องอยู่แต่ในบ้าน จนถึงวันที่บริษัทซูซื่อกับจะแต่งงานกัน””
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินว่าโล่ชิงไป๋จะให้เธอเกี่ยวพันธะวิวาห์ ทั้งร่างเธอเหมือนโดนฟ้าผ่าจนโง่ยืนอยู่ตรงนั้น
หลังจากอึ้งไปหลายนาที เธอถึงพูด “ไม่ค่ะ คุณพ่อ หนูจะไม่เกี่ยวพันธะวิวาห์กับบริษัทซูซื่อ
“ไม่มีที่ให้เจรจา แกต้องพันธะวิวาห์กับบริษัทซูซื่อเท่านั้น “ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งนี้น้ำเสียงโล่ชิงไป๋เอ่ยด้วยความเด็ดเดี่ยว
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที เธอไม่คิดเลยว่าตลอดหลายปีมานี้ พ่อบังเกิดเกล้าได้โทรหาเธอครั้งแรกนั้น ให้เธอกลับมา เพื่อให้เธอกลับมามีพันธะวิวาห์
“คุณพ่อกับคนต้องมีพันธะวิวาห์กับบริษัทซูซื่อควรพี่สาว ทำไมเป็นไปหนูได้ค่ะ”
“พี่สาวแกมีแฟนแล้วไม่นานก็จะแต่งงานกันแกอย่าคิดแต่แตะต้องแฟนพี่เด็ดขาด รอปรองดองวิวาห์ดีๆ”
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกตัวเองสับสนวุ่นวายไปหมด ” อะไรแฟนพี่สาว แล้วทางที่ดีหนูอย่าแตะต้องงั้นหรอ”
โล่ชิงไป๋มองโล่เฟยเอ๋อ ดวงตาไม่อุ่นแม้แต่น้อย “โล่เฟยเอ๋อ แกจำไว้ว่าซีมู่คือแฟนของพี่สาวแก ฉันเคยพบเขาแล้ว และจะจัดงานแต่งให้พวกเขาเร็วที่สุด แกอย่าคิดที่จะมีความคิดใดๆล่ะ”
ซีมู่งั้นเหรอ หรือจะเป็นซูซีมู่กัน
ในใจโล่เฟยเอ๋อถึงกับสะดุ้ง จึงได้ถามด้วยความประหลาดใจ”คุณพ่อ พ่อพูดถึงซูซีมู่ใช่ไหมคะ เขาคือแฟนของพี่สาวหรอคะ”
เธอไม่รอให้โล่ชิงไป๋ตอบ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพูดไปทางโล่หยิวชิว ” พี่สาว พี่ไม่มีทางเป็นแฟนของซูซีมู่เด็ดขาด”
สีหน้าโล่หยิวชิวถึงกับตกใจ แล้วมองโล่ชิงไป๋ด้วยท่าทางร้องไห้ “คุณพ่อ คุณพ่อดูโล่เฟยเอ๋อเธอ……”
“หยิวชิวลูกรัก พ่อจะไม่ให้เธอสมหวังแน่” เมื่อโล่ชิงไป๋เอ่ยปลอบโล่หยิวชิวด้วยความอ่อนโยนเสร็จ ก็หันมองโล่เฟยเอ๋อ ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นขีดสุด ” โล่เฟยเอ๋อ แกยังเป็นคนอยู่ไหม แม้แต่แฟนพี่สาวแกก็คิดจะแย่ง”
“คุณพ่อ ไม่ใช่นะคะ หนู…..”โล่เฟยเอ๋ออยากอธิบาย แต่โล่ชิงไป๋ไม่ให้โอกาสเธอได้อธิบาย และสั่งคนพาโล่เฟยเอ๋อไปห้องที่เขาเตรียมไว้