งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 139
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 139 ทะเลาะกันในงานแต่ง (1)
แล้วจะช่างแต่งหน้าแต่งหน้าให้โล่เฟยเอ๋อเสร็จ
ก็ช่วยเอาชุดแต่งงานมาให้โล่เฟยเอ๋อ เธอเปลี่ยนใส่
แต่งหน้าพูดเสียงเบา ” อุ้ย ทำไมชุดแต่งงานถึงได้หลวมไปน่ะ”
โล่เฟยเอ๋อก้มมองแป๊บหนึ่ง ก็พูดอย่างไม่แคร์ ”
หลวมก็ให้มันหลวมไปเลย ไม่เป็นไรค่ะ”
“น่าเสียดายจัง ชุดแต่งงานนี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่สุดหรูของชาเนล มูลค่าประมาณสองล้านกว่าเลยนะคะ” ช่างแต่งหน้าถอนหายใจเสียดาย
โล่เฟยเอ๋อไม่คิดว่าชุดแต่งงานจะแพงขนาดนี้ จนรู้สึกอึ้งไปเลย
ช่างแต่งหน้าไม่ทันสังเกตท่าทางของเธอ ก็หยิบกล่องกำมะหยี่มาให้โล่เฟยเอ๋อ
กล่องกำมะหยี่เปิดออก ข้างในเป็นชุดเครื่องประดับจิวเวลรี่
แสงไฟสว่างไสวในห้องแต่งหน้า กระจายไปด้วยแสงระยิบระยับ
โล่เฟยเอ๋อมองปุ๊บก็รู้เลย ว่าเป็นเครื่องประดับที่แข่งขันทั่วโลกในปีก่อน ผู้ที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งคือข่าโร่ฉีในหัวข้อ‘Accompanied by this lifetime will never live up to’ ร่วมเคียงคู่ตลอดไป ยังไม่ทอดทิ้ง ในตอนนั้นเธอจำได้ว่าแค่แหวนอันเดียวยังประมาณเจ็ดล้านกว่า แล้วชุดนี้…….
ช่างแต่งหน้าไม่ได้บอกมูลค่าของราคาเครื่องจิวเวลรี่ชุดนี้ โล่เฟยเอ๋อเดาว่าเธออาจไม่รู้
หลังจากเที่ยงเตรียมพร้อมแล้ว ไม่นาน พิธีงานแต่งก็เริ่มขึ้น
เธอมากับคนของโล่ชิงไป๋ เดินออกมาจากห้องพักเจ้าสาว เดินผ่านทางเดินยาวๆ ก็เห็นยืนอยู่ที่หน้าประตู ด้วยรอยยิ้มทากว้างจนปากจะฉีกถึงหูแล้วอย่างโล่ชิงไป๋
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อเดินเข้ามา โล่ชิงไป๋ก็รีบไปรับ “เฟยเอ๋อ พ่อส่งเธอเข้าไปนะ”
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร แต่จ้องมองโล่ชิงไป๋ไปหลายนาที ฉะนั้นก็ยื่นมือมาควงแขนโล่ชิงไป๋ไว้
เพราะไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมโล่เฟยเอ๋อมาก่อน จึงทำให้สีหน้าโล่ชิงไป๋เกิดความแข็งทื่อ
โล่เฟยเอ๋อทำเหมือนไม่สังเกตเห็นเช่นนั้น แล้วพูดอย่างเบาๆ “นี่คือความรู้สึกที่ผู้สาวควงแขนพ่อหรอ เมื่อก่อนที่เห็นพี่สาวควงแขนพ่ออย่างสนิทสนม หนูอิจฉามาก จนอยากรู้สึกสักครั้ง วันนี้ก็เป็นอย่างที่หวังแล้ว……”
น้ำเสียงเฟยเอ๋อเสียงเบามากๆ แต่ทำให้โล่ชิงไป๋ที่อยู่ข้างกายนั้นสะเทือนไปอย่างแรง เขาอ้าปากอยากพูดอะไร แต่ตอนนี้ได้มีเสียงตะโกนจะข้างในห้องโถงออกมา ” ขอเชิญเจ้าบ่าว เจ้าสาวเข้ามาครับ”
เสียงที่พูดอยู่นั้นทำให้โล่เฟยเอ๋อก็ปล่อยมือจากโล่ชิงไป๋ แล้วก้าวเข้าไปที่ประตูทางห้องโถง
ตอนนี้โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่า ในพรมแดงอีกด้านหนึ่ง มีเซอร์ไพรส์อันใหญ่รอเธออยู่
โล่เฟยเอ๋อมองว่า การแต่งงานครั้งนี้เป็นเพราะตัวเธอมีภาระและหน้าที่ของสายเลือดบ้านโล่ เธอไม่เคยหวังเลยสักนิด ถึงแม้เธอจะเหยียบอยู่บนพรมแดง และได้ยินเสียงเพลงในพิธีงาน แต่เธอก็เลือกที่จะปิดตาลง
จนได้ยินเสียงแผ่วเบาขึ้นมา “เฟยเอ๋อ”
เป็นเสียงที่ไม่ดังมาก เพราะเสียงดนตรีที่ดังอยู่ในตอนนี้เลยทำให้ได้ยินไม่ชัดมาก แต่โล่เฟยเอ๋อก็ได้ยินจนได้ เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็เจอเหซิงถิงกับเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาวเป็นชุดเพื่อนเจ้าสาวยืมอยู่ห่างประมาณหนึ่งเมตร
“โอ้มายก็อด ก็ว่าทำไมพี่ซีมู่ให้ฉันมาเพื่อนเจ้าสาว เพราะเธอเป็นเจ้าสาวนี่เอง “เหซิงถิงพูดพลางเดินไปหาโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจในสิ่งที่เหซิงถิงพูดเลย “อะไรนะ”
เหซิงถิงไม่ตอบคำถามโล่เฟยเอ๋อ แต่กลับพูด” พี่ซีมู่ออกมาแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อเมื่อได้ยินในสิ่งที่เหซิงถิงพูด ก็หันไปมองตรงหน้า
ในระหว่างพรมแดงที่ยาวนั้น สิ่งที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ผู้ชายวัยห้าสิบกว่าอย่างที่คิด แต่เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยและหล่อเหลา
โล่เฟยเอ๋อเหมือนโดนกดจุด จนร่างกายแข็งทื่อดั่งก้อนหิน
ซูซีมู่อยู่นี่ได้ยังไง
หรือเพราะเธอเกิดภาพจินตนาการกันแน่น
ตั้งแต่เริ่มเหยียบบนพรมแดง สายตาซูซีมู่ก็จ้องเพียงแต่ร่างโล่เฟยเอ๋อ
จากวันที่เธอจากไปจนถึงวันนี้ ก็ห่างกันหนึ่งเดือนกับห้าวัน ในที่สุดเขาก็ได้พบเธออีกครั้ง
ใบหน้าสดไม่แต่งแต้มใดๆก็สวยอยู่แล้ว แล้วตอนนี้มาแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางอีก ก็ยิ่งสวยจนทำให้คนลืมหายใจไปเลย
แต่ว่า ทำเหมือนจะผอมกว่าครั้งสุดท้ายที่เขาพบเจอเธอ ปลายคางเรียวขึ้นเล็กน้อย หรือว่าเขาจะคิดไปเอง
สุดท้ายซูซีมู่ก็รู้ว่าไม่ได้คิดไปเอง เพราะเขาเห็นชุดเจ้าสาวของโล่เฟยเอ๋อหลวมไปอย่างเห็นได้ชัด
ชุดเจ้าสาวนี้ซูซีมู่วัดเลือกจากไซส์เก่าของโล่เฟยเอ๋อ ตอนนี้อยู่บนตัวเธอแล้วดูใหญ่ไป งั้นแปลว่าเธอต้องผอมไปแน่นอน
สมควรตายจริงๆ เขาคิดแต่อยากจะแก้แค้นแทนเธอ แต่กลับลืมไปว่าเธอถูกขังจะอยู่สบายไหม นัยน์ตาซูซีมู่เผยความเจ็บปวดออกมา
ในข่าวลือนั้น ท่านประธานบริษัทซูซื่อเป็นคนอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่ตอนนี้ที่เจ้าบ่าวออกมา กลับกลายเป็นผู้ชายหล่อเหลาอย่างน่าตกใจ
ในชั่วขณะในงานแต่งก็มีกระแสเดือดขึ้นมา
“คนนี้คือใคร เจ้าบ่าวเหรอ ”
“เจ้าบ่าวไม่ใช่ท่านประธานบริษัทซูซื่อหรือไง หรือว่าเปลี่ยนคนแล้ว”
…….
รอบข้างเริ่มเสียงมีซุบซิบนินทาเกิดขึ้น จนทำให้โล่เฟยเอ๋อได้สติกลับมา
เธอกระพริบตาถี่ ซูซีมู่ตรงหน้าก็ยังอยู่เหมือนเดิม
นี่ไม่ใช่ภาพจินตนาการของเธอ คือซูซีมู่จริงๆด้วย
ซูซีมู่มาที่นี่ได้ยังไง
ทีแรกโล่เฟยเอ๋ออยากถามเหซิงโม่ที่อยู่ข้างกาย แต่จู่ๆโล่หยิวชิวก็โผล่ออกมาจากผู้คนมากมาย ชี้ด่าโล่เฟยเอ๋อขึ้นมา “โล่เฟยเอ๋อ เธอกับแม่เธอหน้าไม่อาย ในวันแต่งงานนั้น ยังคิดหว่านเสน่ห์ผู้ชายอีก ”
“ฉันไม่ได้ทำ แม่ฉันก็ไม่ได้ทำ…….”สีหน้าโล่เฟยเอ๋อเริ่มซีด เธอถอยหลังด้วยร่างที่สั่นสะเทือน
เท้ายังไม่เหยียบมั่นคง ร่างกายเลยทรงตัวไม่อยู่ จนจะล้มลงที่พื้น ยังดีที่สุดเหซิงถิงกับซูยุ่นหูตาไวได้จะประคองเธอทัน
“เฟยเอ๋อ เธอเป็นอะไร…..”เหซิงถิงถามด้วยความกังวล
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย เพราะในสมองของเธอฉายซ้ำไปด้วยคำพูดของโล่หยิวชิว
“โล่เฟยเอ๋อ เธอกับแม่เธอหน้าไม่อาย ในวันแต่งงานนั้น ยังคิดหว่านเสน่ห์ผู้ชายอีก ”
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อได้รับการสะเทือนใจแบบนี้ใบหน้าโล่หยิวชิวก็ยิ้มอย่างผู้ชนะ
โล่เฟยเอ๋อ เธอคิดว่าซูซีมู่อยู่ตรงนี้ แล้วเธอจะพลิกเกมได้เหรอ
เธอฝันไปเถอะ ฉันจะทำให้เธอเสียหน้าจนหมดในต่อหน้าเขา และให้เธอแม้แต่จะแต่งงานกับท่านประธานบริษัทซูซื่อก็เป็นไปไม่ได้ไปเลย
เจ้าสาวถูกคนด่าต่อหน้าว่าไม่อาย หว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชาย จนงานแต่งตอนนี้ทุกคนเริ่มกระซิบ นินทากันอย่างเสียวเบา
“คิดว่าท่านประธานบริษัทซูซื่อจะเปลี่ยนเจ้าบ่าวแล้วซะอีก ที่แท้เพราะเจ้าสาวอ่อยผู้ชายนี่เอง”
“หน้าไม่อายจริงๆด้วย ในวันแต่งยังคิดอ่อยผู้ชายอีก”
“ช่างสงสารท่านประธานบริษัทซูซื่อจริงๆยังไม่ทันได้แต่งงานก็ถูกเจ้าสาวสวมเขาให้ซะแล้ว”
ซูซีมู่ที่ยืนอยู่ในพรมแดง ได้เห็นโล่หยิวชิวมาด่าโล่เฟยเอ๋อ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ เพราะตอนที่เห็นหน้าโล่เฟยเอ๋อซีดไปนั้น หน้าเขาก็เริ่มเคร่งขรึมจนจะฆ่าคนได้
“เรียกคนมา เอาผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้โยนออกไปให้ฉันด้วย”เขาสั่งให้โยนคนออกไป พร้อมกับรีบวิ่งไปตรงหน้าของโล่เฟยเอ๋อไปด้วย
เมื่อเข้าใกล้โล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ถึงรู้ว่าโล่เฟยเอ๋อสั่นไปทั้งตัว สมควรตายจริงๆ ต้องโทษที่เขาคิดจัดการไม่รอบคอบ ถึงทำให้โล่หยิวชิวผู้หญิงบ้าคนนี้มาทำร้ายเธอได้
ซูซีมู่พูดอย่างอ่อนโยน ” เฟยเอ๋อ เธอไม่ต้องไปฟังผู้หญิงคนนั้นพูดบ้าๆ เขาหลอกเธอ อย่าถือคำพูดเขาเป็นจริงนะ…….”
โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่อย่างไม่ได้สติ แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมา