งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 148
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 148 แอบเป็นห่วง
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อออกมาออกมาจากห้องทำงานของโจวหยุน ก็ตรงกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองทันทีรีบลงมือออกแบบ
แน่นอนโจวหยุนมอบหมายงานให้เธอมากขนาดนี้ ต่อให้รีบเร่งยังไงเธอก็คงทำให้เสร็จวันนี้ไม่ได้หรอก
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลิกงาน โล่เฟยเอ๋อก็ลุกขึ้นเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน
เธอไม่ลืมว่าตอนนี้ตัวเธออยู่ในสถานะของภรรยาซูซีมู่แล้ว อีกอย่าง คนขับรถหลี่ ก็คอยเธออยู่ด้วย
เรือนหลิงกำลังเตรียมจะกลับบ้าน เห็นโล่เฟยเอ๋อออกมา พูดไปยิ้มไปว่า “เฟยเอ๋อเลิกงานแล้วหรือ? เรากลับบ้านด้วยกันนะ”
“เรือนหลิง…..ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วล่ะ” เฟยเอ๋อพูดอย่างลังเลใจ
เรือนหลิงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยถามว่า “แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“ฉันไปอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนน่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบไปอย่างคลุมเครือ
เรือนหลิงทำหน้าเสียดายและเอ่ยว่า “อ๋อ ถ้างั้นเราก็ไปกลับด้วยกันไม่ได้แล้วสินะ”
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย ที่ต้องโกหกเรือนหลิง เธอบีบจมูก แล้วกล่าวว่า : “เรือนหลิง ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร ตรงที่เธออยู่สภาพมันแย่มาก ไปอยู่กับเพื่อนก็ดีแล้วล่ะ” เรือนหลิงเปลี่ยนสีหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
“เออ….ใช่” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าพลางหัวเราะแห้งๆ
“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ” เรือนหลิงโบกมือให้โล่เฟยเอ๋อ แล้วรีบเดินไปยังป้ายรอรถประจำทาง
มองเบื้องหลังของเรือนหลิงจากไป โล่เฟยเอ๋อแอบถอนหายใจเบาๆ จากนั้นข้ามถนนไป ขึ้นรถ
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานการจราจรคับคั่ง รถติดมาก เดิมทีใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง แต่ตอนนี้ใช้เวลาสามชั่วโมงกว่า
เมื่อถึงบ้าน ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
เพราะว่าไม่มีกุญแจ โล่เฟยเอ๋อจึงต้องกดกริ่ง
คนรับใช้ออกมาเปิดประตู “คุณผู้หญิงกลับมาแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “อืม” เพียงคำเดียว แล้วถือกระเป๋า เดินเข้าไปประตูหน้าไป
คนรับใช้หยิบรองเท้าแตะให้โล่เฟยเอ๋อพลางบอกว่า “คุณผู้หญิงคะเลิกงานช้าจังค่ะ คุณชายกำลังรอทานข้าวอยู่ค่ะ”
ได้ยินคนรับใช้บอกว่าซูซีมู่รอทานข้าวพร้อมเธอ โล่เฟยเอ๋อรู้สึกตระหนก จากนั้นมองเข้าไปในบ้านโดยไม่รู้ตัว
ซูซีมู่ไขว่ห้าง นั่งพิงโซฟาดูข่าวเศรษฐกิจอยู่
หน้าต่างเปิดอยู่ ลมยามค่ำคืนพัดผ้าม่านให้พลิ้วไหว ตลอดเวลา กระทบโดนไหล่ของเขาเป็นครั้งคราว
โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่ที่โถงทางเดิน ตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตั้งสติได้
ซูซีมู่…..เขากลับมาแล้ว
ซูซีมู่ราวกับว่าสังเกตเห็นสายตาเธอ ค่อยๆหันศีรษะ มองไปทางเธอ
ร่างกายของโล่เฟยเอ๋อ ตัวเกร็งโดยธรรมชาติ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงรู้ตัวว่าเธอควรจะกล่าวทักทายซูซีมู่เสียหน่อย
“คุณอยู่บ้านหรือ!” โล่เฟยเอ๋อเข้าไปพลางส่งยิ้มให้ซูซีมู่
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบอะไร เขาดึงสายตากลับมาช้าๆ จากนั้นลุกขึ้นจากโซฟา เดินตรงไปทางห้องอาหาร
รอยยิ้มบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อแข็งทื่อทันที หลังจากนั้นสักพัก มุมปากของเธอก็หยุดนิ่ง
จากนั้นก็ก้าวเดิน ตามเข้าไปในห้องอาหารช้าๆ
เมื่อโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องอาหาร ซูซีมู่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่หัวโต๊ะ ทางด้านขวามือข้างหน้าของเขา มีตะเกียบและชามวางอยู่พร้อม นั่นเป็นตำแหน่งที่คนรับใช้จัดเตรียมให้เขา
โล่เฟยเอ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินเข้าไปนั่งลง
ซูซีมู่ไม่ได้เหลียวมองเธอเลยตั้งแต่แรก ทานอาหารของเขาด้วยท่าทางสง่างาม
สายตาของโล่เฟยเอ๋อมืดมน แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมา ก้มหน้า ทานข้าว
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้สึกอยากกินเลยสักนิด ประกอบกับเพราะซูซีมู่ด้วย ดังนั้นเธอจึงทานไปแค่สามสี่คำ แล้ววางชามพร้อมตะเกียบลง
“ฉันทานอิ่มแล้วค่ะ ขอตัวขึ้นข้างบนก่อน” พูดจบประโยคนี้ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่รอให้ซูซีมู่ตอบอะไร ลุกขึ้นเดินจากไป
เมื่อโล่เฟยเอ๋อหันหลังออกจากห้องอาหารไป ซูซีมู่ที่เอาแต่ก้มหน้าทานข้าวก็เงยหน้าขึ้นมา
สีหน้าของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ได้แต่มองเบื้องหลังของโล่เฟยเอ๋อเดินออกไปจากห้องอาหาร แล้วเขาจึงถอยสายตากลับมาที่ชามข้าวของโล่เฟยเอ๋อที่ไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่
เขาจ้องมองอยู่สักพัก แล้วจึงกวักมือเรียกคนรับใช้มา “ช่วยปอกผลไม้แล้วขึ้นไปให้คุณผู้หญิงหน่อย เชอร์รี่ ,สตรอเบอร์รี่เธอค่อนข้างชอบ เอาขึ้นไปเยอะหน่อย”
หยุดครู่หนึ่ง แล้วซูซีมู่เสริมต่อว่า “อย่าบอกว่าผมสั่งนะ”
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อกลับถึงห้อง ก็อาบน้ำอุ่นให้สบายตัวก่อน แล้วจึงเริ่มร่างแบบที่ตอนกลางวันทำไม่เสร็จ
ไม่นาน ข้างนอกก็มีเสียงเคาะประตู
ก๊อกๆๆ…..
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว จากนั้นลุกขึ้นไปเปิดประตู
“คุณผู้หญิงคะ ฉันปอกผลไม้มาให้คะ ท่านจะทานหน่อยไหมคะ?” คนรับใช้ถือจานใส่ผลไม้ไว้นอกประตู
เดิมโล่เฟยเอ๋ออยากจะปฏิเสธ แต่สังเกตเห็นจานผลไม้ที่คนรับใช้ถือมาให้ในนั้นมีเชอรี่และสตรอเบอร์รี่ที่เธอชอบเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงรับมันเอาไว้
ตอนสี่ทุ่ม ซูซีมู่ขึ้นมาชั้นสอง
ขณะที่เดินผ่านห้องของโล่เฟยเอ๋อ สังเกตเห็นแสงไฟลอดออกมาจากประตู เขาจึงหยุดก้าวเดิน
เขาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่างสงสัย จ้องมองไปที่แสงไฟสลัวที่ลอดออกมา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไม่มีวี่แววว่าแสงไฟจากห้องของโล่เฟยเอ๋อจะลดลงเลย ซูซีมู่ขมวดคิ้วแน่น แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋า กดโทรออก พูดเข้าไปในนั้นสองสามประโยค
ผ่านไปราว 4-5 นาที มีเสียงฝีเท้าเดินขึ้นบันไดมา ซูซีมู่เอาโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋า หันหลังเดินกลับเข้าห้องนอนด้วยเองไปหน้าตาเฉย
เขาปิดประตูห้องลงได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากห้องข้างๆ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนรับใช้กล่าวว่า “คุณผู้หญิงคะ ทำไมดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีกคะ?”
เสียงอ่อนโยนของโล่เฟยเอ๋อดังมาว่า “ฉันยังทำงานไม่เสร็จเลยน่ะ”
“คุณผู้หญิงคะ ดึกมากแล้ว งานที่ค้างอยู่พรุ่งนี้ค่อยทำต่อก็ได้นี่คะ” คนรับใช้พูดโน้มน้าวกับโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อนิ่งไปสองสามวินาทีแล้วตอบว่า : “อืม ฉันรู้แล้ว เธอไปพักผ่อนเถอะ”
“คุณผู้หญิงรีบเข้านอนด้วยนะคะ” เมื่อเสียงของคนรับใช้เงียบลง เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆไกลออกไป
ซูซีมู่เดินไปที่ระเบียง มือทั้งสองข้างจับราวเอาไว้ จ้องมองไปยังแสงไฟที่ลอดม่านออกมาจากห้องข้างๆตาไม่กระพริบ
จนกระทั่งแสงไฟจากห้องข้างๆดับลง เขาจึงได้เดินกลับเข้าห้องไป