งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 157
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 157 เธอไม่ได้เป็นนางเอกสักหน่อย
หลังจากสงเฟยเหวินออกไป โล่เฟยเอ๋อจึงเปิดโน๊ตบุ๊ค แล้วหาละครสุดฮิตเรื่องหนึ่งขึ้นมาเปิดดู
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป สงเฟยเหวินก็กลับเข้ามาในห้องทำงานของซูซีมู่พร้อมผลไม้หนึ่งจาน
โล่เฟยเอ๋อมองสงเฟยเหวินที่เข้ามา ก่อนจะนำโน๊ตบุ๊คที่อยู่บนตัก วางกลับไปที่โต๊ะน้ำชา จากนั้นก็ตบที่นั่งข้าง ๆ แสดงความหมายว่าให้เธอนั่ง
สงเฟยเหวินนั่งลงข้าง ๆ โล่เฟยเอ๋อ หลังจากนั้นวางจานที่เต็มไปด้วยเชอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ไว้บนโต๊ะน้ำชา
โล่เฟยเอ๋อมองเชอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ที่อยู่ในจานผลไม้ จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานที่คนรับใช้หั่นผลไม้ใส่จานให้เธอ
เธอมักจะคิดมาโดยตลอดว่าเชอร์รี่และสตรอเบอรี่ที่อยู่บนจานผลไม้จำนวนมากนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งหมดคือการจัดเตรียมของซูซีมู่
พอมองเชอร์รี่และสตรอเบอรี่ที่จัดแต่งอยู่บนจานผลไม้แล้ว แววตาของโล่เฟยเอ๋อก็เปลี่ยนเป็นเหม่อลอยขึ้นมา
“คุณนายก็ชอบดูเรื่องนี้เหมือนกันหรอคะ?” สงเฟยเหวินหัวเราะแล้วเอ่ย
โล่เฟยเอ๋อได้สติกลับมา แล้วตอบกลับสงเฟยเหวิน “ใช่ค่ะ ชอบมาก”
เมื่อสงเฟยเหวินได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกเธอว่าชอบละครเรื่องนี้ เธอก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับละครเรื่องนี้กับโล่เฟยเอ๋อทันทีราวกับว่าเธอได้พบเพื่อน “ละครเรื่องนี้สนุกมาก เริ่มต้นที่พระเอกและนางเอกต่างก็มีสัญญาที่พ่อแม่หมั้นหมายไว้ให้ ผลปรากฏว่าทั้งพระเอกและนางเอกต่างก็ไม่เต็มใจที่จะแต่งงาน จึงหนีออกมาในคืนวันแต่งงาน สิ่งที่น่าสนใจคือหลังจากนั้นพระเอกและนางเอกก็ได้พบและตกหลุมรักกันระหว่างตอนที่หนีการแต่งงาน สุดท้ายก็ได้ครองคู่กันตลอดไป พวกเขาได้แต่งงานกัน”
พอได้ยินสงเฟยเหวินเล่าเรื่อง โล่เฟยเอ๋อก็อึ้งไป
จุดเริ่มต้นของละครเรื่องนี้ เหมือนกับตอนที่เธอและซูซีมู่ได้รู้จักกัน
ล้วนเป็นการพบเจอในตอนหนีงานแต่ง เพียงแต่ละครเรื่องนี้ พระเอกและนางเอกรักกัน แต่ระหว่างเธอกับซูซีมู่นั้นมีแค่เธอที่แอบรักซูซีมู่ข้างเดียว
แต่งงานเหมือนกัน แต่ในละครพระเอกกับนางเอกรักกัน ได้ครองคู่กันตลอดไป ส่วนเธอกับซูซีมู่ต้องผูกพันกันโดยบังเอิญ
ชีวิตคนเราก็เหมือนละครฉากหนึ่ง น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่นางเอก ถ้าหากเปลี่ยนให้เธอเป็นพี่สาว แบบนั้นพวกเขาก็อาจจะเหมือนในละครที่ พระเอกและนางเอกที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาที่ส่วนลึกในทรวงอก เธอกุมหน้าอกไว้ แล้วลุกขึ้นจากโซฟา
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” โล่เฟยเอ๋อพูดจบประโยค ก็ไม่รอสงเฟยเหวินบอกเธอว่าห้องน้ำอยู่ไหน แล้วรีบเดินออกจากห้องทำงาน
สงเฟยเหวินรีบลุกขึ้นและเดินตามออกไปก็เห็นโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ตรงทางเดิน เธอถึงได้ชะลอตัวลง
ขณะที่เธอกำลังจะเข้าห้องน้ำโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น คือสายจากคนที่เธอให้ไปซื้อทีรามิสุโทรมา
สงเฟยเหวินมองไปทางห้องน้ำแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็รีบลงลิฟต์ไปรับทีรามิสุ
พอเธอรับทีรามิสุมาเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็กลับมาที่ห้องทำงานของซูซีมู่แล้ว
เพียงแต่เธอไม่ได้ดูละคร แต่กำลังรับโทรศัพท์
“…ได้ เจอกันที่ร้านที่พวกเราไปทานบ่อย ๆ”
หลังจากที่เธอวางสาย ก็เห็นเค้กในมือของสงเฟยเหวินก่อนที่จะอึ้งไป แล้วเอ่ย: “ให้ฉันทานหรอ? แต่ตอนนี้ฉันจะไปแล้ว”
“ไป? ตอนนี้คุณจะไปไหนคะ?” สงเฟยเหวินมองโล่เฟยเอ๋ออย่างตกใจ
โล่เฟยเอ๋อเขย่าโทรศัพท์ในมือแล้วพูดว่า “ฉันมีนัดกับเพื่อนร่วมงานแล้วว่าจะไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน”
“แต่…ประธานซูยังอยู่ระหว่างการประชุมนะคะ” สงเฟยเหวินมองไปที่โล่เฟยเอ๋อด้วยความลำบากใจ
“เขายุ่งมาก ดังนั้นอย่าไปรบกวนเลย” โล่เฟยเอ๋อยิ้มเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นจากโซฟา “คุณสง ฉันไปก่อนนะ”
สงเฟยเหวินเห็นว่าคงรั้วโล่เฟยเอ๋อไว้ไม่ได้เลยบอก: “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันไปส่งคุณนะคะ”
ครั้งนี้โล่เฟยเอ๋อไม่ปฏิเสธสงเฟยเหวิน “ได้ค่ะ”
สงเฟยเหวิน นำเค้กวางไว้บนโต๊ะน้ำชาหลังจากนั้นส่งโล่เฟยเอ๋อลงจากตึก
หลังจากที่พวกเธอจากไปไม่นาน ซูซีมู่ก็รีบก้าวยาว ๆ เข้ามาในห้องทำงาน
เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องทำงาน แต่ก็ไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เพิ่งเตรียมที่จะออกจากห้องทำงานไปตามหา สายตาก็เหลือบไปเห็นจานผลไม้กับเค้กที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา
ยังไม่ได้กินเค้ก คงยังไม่ไปไหนไกล
ซูซีมู่ถอนหายใจเบา ๆ หลังจากนั้นเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วรอโล่เฟยเอ๋อกลับมา
ผลคือคนที่เขารอให้กลับมาไม่ใช่โล่เฟยเอ๋อ แต่เป็นสงเฟยเหวินที่กลับมาจากการไปส่งโล่เฟยเอ๋อเรียบร้อย
สงเฟยเอ๋อเข้ามาในห้องทำงานของซูซีมู่ เพื่อเก็บเค้กและผลไม้เข้าไปแช่เย็นในตู้เย็น
“เธอล่ะ?” ซูซีมูไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อกับสงเฟยเหวินอยู่ด้วยกัน ก็รีบถาม
สงเฟยเหวินชี้ไปข้างนอกอล้วบอก: “คุณนายเธอไปแล้วค่ะ”
พอได้ยินสงเฟยเหวินบอกว่าโล่เฟยเอ๋อไปแล้ว ซูซีมู่ ก็รีบลุกขึ้นยืนจากโซฟา “ไปแล้ว? ไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พอคุณนายรับโทรศัพท์เสร็จก็ไปเลยค่ะ” สงเฟยเหวินตอบ
เพิ่งไป? ซูซีมู่เดินไปข้างนอกพร้อมถาม “เธอได้บอกให้คุณบอกผมไหม?”
“ไม่ค่ะ” สงเฟยเหวินตอบตามตรง
พอได้ยินคำว่า ‘ไม่ค่ะ’สองคำนี้ ซูซีมู่ที่กำลังก้าวเท้าก็หยุดลง
เธอไม่ทิ้งข้อความไว้ให้เขา แถมยังไม่โทรศัพท์บอกเขาก็ออกไปเลย…
สงเฟยเหวินที่เห็นสีหน้าของท่านประธานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก็รีบนำคำพูดที่โล่เฟยเอ๋อบอกกลับมาพูดอีกรอบ
“คุณนายเธอได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานที่ชวนไปกินข้าวด้วยกัน เธอคิดว่าท่านคงยุ่งมาก ดังนั้นเลยไม่อยากรบกวนท่าน…”
“คุณออกไปเถอะ” ซูซีมู่เอ่ยจัดบทสงเฟยเหวิน
“ค่ะ” สงเฟยเหวินพยักหน้า ในตอนที่เตรียมจะหันตัวจากไป ซูซีมู่ก็เรียกเธออย่างกะทันหัน “เดี๋ยวก่อน”
สงเฟยเหวินหันหน้ามามองซูซีมู่
เม้มริมฝีปากแล้วชี้ไปที่โต๊ะน้ำชาและพูดว่า “เอาของออกไปโยนทิ้ง”
สงเฟยเหวินตะลึงไปสักพัก ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าของที่ซูซีมู่กำลังพูดถึงคือผลไม้และเค้ก
ประธานซูเป็นคนสั่งในเธอซื้อให้คุณนายโดยเฉพาะ จะโยนทิ้งได้อย่างไร?
สงเฟยเหวินมองท่านประธานของตนอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็พยักหน้าแล้วบอก ‘ค่ะ’ แล้วน้ำจานผลไม้กับเค้กออกไป
เธอไม่เพียงแต่จะไม่นำของไปทิ้ง ยังนำไปที่ห้องทำงานของโจวเฉิง
โจวเฉิงมองผลไม้กับเค้กในมือของสงเฟยเหวินด้วยความแปลกใจ “นี่ไม่ใช่ของที่คุณนายชอบหรอกหรอ? เธอเอามาทำไม?”
“ประธานซูให้โยนทิ้ง” สงเฟยเหวินตอบตามตรง
“โยนทิ้ง?” โจวเฉิงอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นถามเสียงเบาว่า “ประธานซูกับคุณนายทะเลาะกัน?”
“ไม่ได้ทะเลาะ คุณนายออกไปก่อนแล้ว” สงเฟยเหวินกลอกตามองบนแล้วตอบ
“อ๋อ ไปแล้ว มิน่าถึงจะโยนทิ้ง…” โจวเฉิงพูดประโยคนี้ด้วยเสียงเบามาก
สงเฟยเหวินฟังประโยคนี้ของโจวเฉิงไม่ชัดเลยถาม “นายพูดว่าอะไรนะ?”
โจวเฉิงไอเบา ๆ สองที: “แค่กแค่ก…ไม่มีอะไร เธอเอาเค้กไปไว้ในตู้เย็นเถอะ ตอนเย็นฉันส่งประธานซูกลับวิลล่าแล้วจะเอาไป”
“แบบนี้จะดีหรอ? ประธานซูคงไม่คลุ้มคลั่งหรอกนะ?” สงเฟยเหวินหรี่ตามองโจวเฉิง
“วางใจ ไม่หรอก…”
พอคุณนายกินเค้กประธานซูคงดีใจแทบไม่ทัน จะคลุ้มคลั่งได้อย่างไร?