งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 159
บทที่ 159 ผู้พิทักษ์ของดอกไม้ของคฤหาสน์ตระกูลซู
พอออกจากอาคารอพาร์ตเมนต์เก่าแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็บอกลาเรือนหลิง จากนั้นเรียกแท็กซี่กลับไปที่วิลล่า
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เวลาเลิกงาน แต่เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ ถนนก็เลยรถติดเล็กน้อย
ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเพื่อไปที่วิลล่า
หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็ยกกระเป๋าเดินทางลงจากรถ
คนรับใช้อยู่ในลานบ้านพอดี จึงเห็นโล่เฟยเอ๋อกำลังยกกระเป๋าเดินทางอย่างยากลำบาก จึงรีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วย “ทำไมคุณนายน้อยไม่กลับมาพร้อมกับคุณชายล่ะคะ?”
“พอดีฉันมีธุระอื่น ดังนั้นเลยไม่ได้อยู่กับเขา”
โล่เฟยเอ๋อตอบขณะที่เดินเข้าไปในวิลล่า
คนรับใช้เดินมาข้างหลังเธอพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง “คุณผู้หญิงจะให้นำกระเป๋าเดินทางไปไว้ที่ห้องของคุณหรือไม่?”
“เธอ…” โล่เฟยเอ๋อกำลังจะตอบพอดี เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดกับคนรับใช้ว่า: “เธอวางไว้ที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันเอาขึ้นไปเอง”
“ได้ค่ะ คุณนายน้อย”
หลังจากเห็นคนรับใช้ออกไป โล่เฟยเอ๋อก็กดปุ่มรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ?”
ถึง
“เธอคือโล่เฟยเอ๋อ?” เสียงของโจวหยุนดังขึ้น
โล่เฟยเอ๋อตะลึงไปชั่วขณะแล้วตอบ “ใช่ค่ะ นักออกแบบหยุนมีธุระอะไรหรอคะ?”
โจวหยุนไม่ตอบคำถามของโล่เฟยเอ๋อแล้วถามตรง ๆ ว่า “รูปออกแบบที่ฉันให้เธอวาดเป็นอย่างไงแล้วบ้าง?”
“ส่วนหนึ่งวาดเสร็จแล้วค่ะ ยังเหลืออีกส่วนหนึ่ง” โล่เฟยเอ๋อตอบ
พอได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าว่าเสร็จแล้วแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังวาดไม่เสร็จ โจวหยุนก็โมโหขึ้นมาทันที “เพิ่งวาดเสร็จแค่ส่วนเดียวเธอ กำลังร่างอะไรอยู่?”
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “นักออกแบบหยุน ฉันทำสุดความสามารถแล้วจริง ๆ ฉัน…”
โล่เฟยเอ๋อไม่ทันได้พูด นักออกแบบหยุนก็ขัดจังหวะเธอ
“เธอเอารูปออกแบบที่วาดเสร็จมาส่งให้ฉันเดี๋ยวนี้”
โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไป “ส่งเดี๋ยวนี้?”
“ใช่ เดี๋ยวนี้” นักออกแบบหยุนเน้นเสียงขึ้นอีก
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะไม่ยินยอม แต่ก็ยังคงเห็นด้วย
หลังจากถามที่อยู่เสร็จ เธอก็รีบไปเอารูปออกแบบในห้องแล้วออกจากวิลล่าไป
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้นั่งรถของคนขับรถหลี่แต่กลับเรียกแท็กซี่ที่นอกชุมชนมาหนึ่งคัน
เธอไม่ได้สังเกตว่ามีรถที่คุ้นเคยจอดอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม
“เฮ้ นี่ก็เริ่มมืดแล้วคุณนายจะออกไปไหนกัน?” โจวเฉิงมองไปยังโล่เฟยเอ๋อที่กำลังขึ้นรถแท็กซี่ฝั่งตรงข้ามด้วยความประหลาดใจ
เดิมทีซูซีมู่กำลังหลี่ตางีบหลับอยู่บนเบาะหลังก็ลืมตาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของโจวเฉิง
สายตาของเขามองไปทางที่โจวเฉิงกำลังมองอยู่ แล้วก็เห็นโล่เฟยเอ๋อขึ้นรถแท็กซี่คันนั้นจากไปพอดี
เขาโพล่งออกมาโดยไม่คิดว่า“ตาม”
“ตามไป?” โจวเฉิงนึกว่าเขาได้ยินผิดจึงหันไปมองซูซีมู่
ความจริงแล้วในตอนที่ซูซีมู่พูดว่า’ตาม’ก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยแต่คำพูดก็ได้ออกไปแล้ว
จึงพูดอย่างเฉื่อยชาอีกรอบ “ตาม”
ประธานซูจะตามคุณนายทำไม? จะสะกดรอยตามคุณนาย? ประธานซูไม่มีงานอดิเรกนี้นี่นา
โจวเฉิงหมุนพวงมาลัยไปด้วยพร้อมกับดูกระจกหลังแล้วเหลือบมองซูซีมู่อย่างแปลกใจแวบหนึ่ง
บนใบหน้าของชายหนุ่มรูปงามไม่มีการแสดงออกใดๆเขาทำคนเดาไม่ออกเลยสักนิดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ในเวลานี้บนถนนเริ่มมีรถติดพวกเขาขับตามรถแท็กซี่ของโล่เฟยเอ๋อใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการไปถึงประตูร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากตึกอวิ๋นเหซียง
มองจากระยะไกลก็เห็นโล่เฟยเอ๋อลงมาจากรถแท็กซี่คันนั้นโจวเฉิงจึงรีบบอก: “ประธานซูคุณนายจะลงจากรถแล้ว”
ซูซีมู่มองไปยังโล่เฟยเอ๋อที่ลงจากรถแท็กซี่อยู่ไม่ไกลแล้วพูดว่า“จอดรถข้างทาง”
โจวเฉินได้ยินคำสั่งจึงจอดรถที่ข้างทาง
เดิมทีโจวเฉิงคิดว่าซูซีมู่จะลงจากรถเพื่อไปหาโล่เฟยเอ๋อแต่เขาไม่คาดคิดว่าซูซีมู่เพียงแค่นั่งรออยู่ในรถโดยไม่ลงจากรถ
โจวเฉิงยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูซีมู่ผ่านกระจกมองหลังแล้วพิจารณาอย่างเงียบๆ
สีหน้าของซูซีมู่ยังคงไม่เปลี่ยน
ผ่านไปแล้วประมาณสิบกว่านาทีโล่เฟยเอ๋อก็กลับออกมาที่ริมถนน
เธอยืนมองหารถแท็กซี่อยู่ริมถนน
“ประธานซูพวกเราจะเขาไปรับคุณนายไหมครับ?”
ซูซีมู่แค่มองไปทางโล่เฟยเอ๋อแล้วไม่พูดอะไร
เมื่อไม่มีคำสั่งจากซูซีมู่โจวเฉิงก็ไม่กล้าขยับ
จนกระทั่งโล่เฟยเอ๋อขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าทิศทางที่ไปคือทางกลับวิลล่า ซูซีมู่ก็เอ่ยปากว่า “ตาม”
ครั้งนี้พอได้ยินคำว่า’ตาม’ โจวเฉิงก็ไม่สับสนอีกต่อไป
ล้อเล่นน่าเขาอยู่กับซูซีมู่มาหลายปีขนาดนี้จะไม่เข้าใจการเป็นผู้พิทักษ์ดอกไม้ของซูซีมู่อย่างนั้นหรือ?
ไปรับไปส่งด้วยตนเอง ก็กังวลว่าคุณนายจะไม่ชอบ
ดังนั้นเลยให้เขาขับรถตามหลังรถของคุณนาย…
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อกลับมาถึงวิลล่า ก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว
คนรับใช้เตรียมอาหารเย็นรอเธอไว้แล้ว
“คุณนายน้อย อาหารเย็นเตรียมเสร็จแล้วค่ะ”
โล่เฟยเอ๋อตอบ ‘อืม’คำเดียว สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้องรับแขก พอไม่เห็นซูซีมู่ เธอก็ถามอย่างมึนงงเล็กน้อย “เขาทานแล้วหรือยัง?”
คนรับใช้ตอบ “คุณชายยังไม่กลับเลยค่ะ”
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อได้ยินคนรับใช้บอกว่าซูซีมู่ยังไม่กลับ กำลังคิดจะถามคนรับใช้ว่าซูซีมู่ทำงานล่วงเวลาหรือเปล่า ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากข้างนอก
“คุณชายคงจะกลับมาแล้วค่ะ” คนรับใช้บอกก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของเธอกลับมองไปที่นอกประตู
ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ซูซีมู่ก็เดินเข้ามา
โล่เฟยเอ๋อก็ได้สติและรีบถอนสายตา แล้วเดินไปทางห้องน้ำ
ซูซีมู่กดเม้มมุมปากของเขาแรง ๆ จากนั้นยกเท้าขึ้นไปที่บันได
พอเขาสังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างบันไดเขาก็หยุดก้าวเดิน
“นี่กระเป๋าเดินทางของใคร?”
คนรับใช้ตอบตามตรง “คุณนายนำกลับมาตอนบ่ายค่ะ”
เฟยเอ๋อเอากลับมา?
ซูซีมู่มองกระเป๋าเดินทางทางอย่างสงสัยแวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวขึ้นไปชั้นบน
คนรับใช้เห็นซูซีมู่ขึ้นไปชั้นบนก็รีบถาม “คุณชายไม่ทานอาหารเย็นหรอคะ?”
ซู่ซีมู่เดินขึ้นชั้นบนไปด้วยแล้วตอบไปด้วย “ให้เธอทานไปก่อน”
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องน้ำ ก็นั่งรอซูซีมู่มาทานข้าวในห้องอาหาร ผลปรากฏว่าคนรับใช้บอกเธอว่า ซูซีมู่ให้เธอทานไปก่อน
พอได้ยินคนรับใช้พูดแบบนั้น โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกผิดหวังในใจ
ถือชามข้าวค้างไว้ อาหารบางอย่างเธอก็ทานแบบไม่รับรู้รสชาติ
เพิ่งจะทานไปไม่กี่คำ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็ส่งเสียงดัง
เธอวางชามกับตะเกียบลง แล้วเปิดโทรศัพท์มือถือดู มันเป็นข้อความ
โจวเฉิงส่งมาถามเธอว่ายังต้องการเค้กอยู่ไหม?
เค้ก? ใช่เค้กก้อนนั้นที่ซูซีมู่ให้สงเฟยเหวินซื้อหรือไม่?
ปลายนิ้วของสั่นแล้วตอบว่า: ต้องการ
โจวเฉิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว คุณนายเชิญเปิดประตูเพื่อรับเค้กเถอะ
เปิดประตู? อยู่ที่นอกประตู?
โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารทันที จากนั้นวิ่งไปที่ห้องโถงแล้วเปิดประตู
ก็เห็นโจวเฉิงยืนถือเค้กอยู่ที่นอกประตู