งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 172
บทที่ 172 เสื้อเชิ้ตตัวนั้นเป็นของใคร
หลังจากที่ได้ยินเสียง โล่เฟยเอ๋อก็รีบหันกลับไปมอง เห็นซูซีมู่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าละเอียดอ่อนแดงอย่างกับโดนน้ำร้อนลวกมาก็ไม่ปาน บนผมยังคงมีหยดน้ำหยดติ๋งๆ หยดน้ำค่อยๆไหลลงมาตามผม ผ่านคางได้รูป ก่อนจะไหลลงมาที่คอเรียวระหง แล้วก็หายไปที่ช่องว่างระหว่างเสื้อคลุมอาบน้ำที่ถูกเปิดออกเล็กน้อย
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดแสงกระทบ ทำให้ซูซีมู่ดูเซ็กซี่เย้ายวนใจไม่น้อย ทำเอาโล่เฟยเอ๋อสติหลุดไปชั่วครู่
จนกระทั่งเสียงกระแอมสองสามทีของโจวเฉิงดังขึ้น โล่เฟยเอ๋อถึงได้สติ ใบหูร้อนผ่าวไปหมด แก้มทั้งสองข้างของโล่เฟยเอ๋อแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ จากนั้นก็รีบเดินหนีอย่างลุกลี้ลุกลนเข้าห้องนอนไป
นัยน์ตาสีน้ำหมึก สะท้อนภาพของผู้หญิงตัวน้อยที่พยายามหลบหนีเขา ราวกับสัตว์ป่าตัวน้อย ซูซีมู่เรียกสติกลับคืนมา ร่องระหว่างคิ้วย่นเข้าหากันเป็นสามขีด ก่อนจะกวาดสายตาไปทางโจวเฉิง
เจอกับสายตาที่เย็นอย่างกับน้ำแข็งของท่านประธานของเขาเองเข้าไป ทำเอาขาทั้งสองข้างของโจวสั้นเป็นเจ้าเข้า
เขาสาบานเลยว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกระแอมทำลายบรรยากาศเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นหวัดจริงๆต่างหาก!
แถมประธานซู ถ้าท่านกะจะเล่นฉากสิบแปดบวกกับคุณนายล่ะก็ อย่ามาทำกันต่อหน้าลูกน้องแบบนี้สิ
ซูซีมู่ดึงสายตากลับมา ก่อนจะทอดไปทางห้องนอน จากนั้นก็เดินไปนั่งที่โซฟา “เครื่องบินออกกี่โมง”
“สิบโมงครับ” โจวเฉิงตอบด้วยความเคารพ
“อืม” ซูซีมู่พยักหน้า ผ่านไปไม่กี่วิก็พูดว่า “นายไปได้แล้ว”
โจวเฉิงโค้งคำนับซูซีมู่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ซูซีมู่รอจนประตูปิด ถึงลุกขึ้นยืนจากโซฟา เดินไปหน้าห้องนอน เคาะประตูสองที “โจวเฉิงกลับไปแล้ว”
ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับจากในห้อง ผ่านไปสองสามนาที ประตูห้องก็ถูกเปิดออก โล่เฟยเอ๋อเดินออกมาจากห้องอย่างช้าๆ ตอนที่เห็นซูซีมู่ยืนอยู่ที่หน้าประตู เธอก็รีบก้มหัวลงอย่างทันที ก่อนจะค่อยๆเดินเลี่ยงซูซีมู่ไปยังโซฟา รีบคว้าถุงใส่เสื้อผ้าสีชมพูสองใบ วิ่งปรู้ดเข้าไปในห้องน้ำ
ซูซีมู่มองดูเธอเงียบๆ จนกระทั่งประตูห้องน้ำถูกปิด มุมปากของเขาถึงค่อยๆยกขึ้นมา
จากนั้นก็เดินไปที่โซฟา หยิบเสื้อผ้าของตัวเอง เดินเข้าไปเปลี่ยนในห้อง
ตอนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ซูซีมูก็เจอกับปัญหาที่ว่า ในถุงมีเสื้อเชิ้ตสองตัว
หนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนกึ่งพับกึ่งไม่พับ เขาแน่ใจว่าเป็นของเขา แต่เสื้อเชิ้ตอีกตัวที่อยู่ในกล่องใหม่เอี่ยม ก็เป็นเสื้อไซส์เดียวกันกับที่เขาใส่
ซูซีมู่จ้องเสื้อตัวที่อยู่ในกล่องแวบหนึ่ง ก่อนจะแน่ใจว่าเสื้อตัวนั้นไม่ใช่ของเขา
เพราะเสื้อผ้าของเขาทั้งหมดล้วนถูกออกแบบโดยเวอร์ซาเชทั้งนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมาพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์แบบนี้
เสื้อเชิ้ตตัวนี้เป็นของใครกัน ของโจวเฉิงหรอ หลังจากที่ซูซีมู่เปลี่ยนเสื้อผ้าไปพร้อมกับความสงสัยเสร็จ เขาก็ควักโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าออกมาโทรหาโจวเฉิง
“เสื้อเชิ้ตตัวใหม่ในถุงนี่ของนายหรอ”
โจวเฉิงที่อยู่ตรงนั้นถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก “เสื้อตัวใหม่ที่ไหนกันครับ”
ซูซีมู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน “ก็เสื้อที่นายเอามาไง”
โจวเฉิงก็ถามอีก “ถุงไหนครับ”
ซูซีมู่มองไปทางถุงเสื้อผ้าที่อยู่บนเตียง “ถุงสีดำจากช็อปเวอร์ซาเช”
“ถุงสีดำจากช็อปเวอร์ซาเชหรอครับ” โจวเฉิงชะงักไปสองสามวิก่อนจะตอบ “ถุงนั้นเป็นถุงที่คุณนายหิ้วมาจากลานกว้างหวั้นด๋าเมื่อคืนนี่ครับ คงจะลืมไว้ในรถ ผมเห็น ก็เลยหิ้วขึ้นมาให้ด้วยเลย”
เฟยเอ๋อซื้อหรอ เธอซื้อให้ใครกัน ซูซีมู่หรี่ตาจ้องถุงช้อปปิ้งที่อยู่บนเตียง ก่อนจะพูดทิ้งท้ายใส่โทรศัพท์หนึ่งประโยค “มาเอาลงไปซะ” จากนั้นก็ตัดสายไป
โจวเฉิงที่ถูกตัดสายใส่ ถึงกับจับต้นชนปลายไม่ถูก ให้ขึ้นไปเอาอะไรนะ
แน่นอนว่าคำสั่งของซูซีมู่ ยังไงโจวเฉิงก็ไม่กล้าขัด
วิ่งหอบๆแหกๆขึ้นมาหน้าห้อง เคาะประตู ก่อนจะเจอกับหน้าที่มืดอึมครึมซะยิ่งกว่าก่อนหน้าของซูซีมู่
ประธานซูตอนนี้แค่ดูก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ระวังล่ะก็ คงจะต้องโดนหางเลขไปด้วยแน่ๆ
โจวเฉิงกลืนน้ำลายดังเอื้อกๆ ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ “ประธานซูครับ…….”
“เอาถุงลงไป รอสักพักค่อยให้เธอ” ซูซีมู่ยื่นถุงส่งให้โจวเฉิง โดยไม่ขยับเขยื้อนเปลือกตาเลยสักนิด
นี่ไม่ใช่ของที่คุณนายซื้อเมื่อวานหรือไง ประธานซูโกรธอะไรกัน
“รับทราบครับ” โจวเฉิงรับถุงไปด้วยความสงสัยเต็มประดา จากนั้นก็หมุนตัวเตรียมจะออกไป
แต่ซูซีมู่กลับเรียกเขาไว้ “รอก่อน”
โจวเฉิงชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันหน้ามา “ประธานซู มีอะไรจะกำชับผมอีกหรือครับ”
ซูซีมู่เม้มปากเบาๆ ก่อนจะพูดออกไป “ห้ามบอกเธอว่าฉันเห็นข้างในแล้ว”
“เอ่อ…..รับทราบครับ” โจวเฉิงชะงักไป ก่อนจะรีบพยักหน้า
หลังจากที่โจวเฉิงออกไปได้ไม่นาน โล่เฟยเอ๋อก็อาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ
ส่วนซูซีมู่ กำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะน้ำชา เห็นเธอเดินออกมา เขาก็ยกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยมองไปทางเธอ ก่อนจะทัก “กินข้าวเช้าสิ”
แต่เดิมโล่เฟยเอ๋อทำตัวไม่ถูก แต่พอได้ยินซูซีมู่เรียกให้เธอกินข้าวเช้า เธอก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อ๋อ โอเค”
ทั้งสองคน ต่างคนต่างนั่งกินข้าวเช้าอย่างมีเรื่องค้างคาใจ
หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็เก็บกวาดของบนโต๊ะน้ำชา
ซูซีมู่พูดเสียงเรียบ “เครื่องบินไปเมืองหลวงตอนสิบโมง เธอเก็บของซะ พวกเราต้องไปสนามบินแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อหันไปมองทางซูซีมู่แวบหนึ่ง ก่อนจะผงกหัวสองสามที “โอเค”
ซูซีมู่ส่งเสียง “อืม” ตอบกลับ ลุกขึ้นยืนจากโซฟา เดินนำออกไปจากห้อง
เมื่อรู้ว่าซูซีมู่กำลังรอเธออยู่ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้ชักช้า เธอรีบเก็บของบนโต๊ะน้ำชาเสร็จเรียบร้อย ก็รีบวิ่งไปทางห้องนอนหยิบของๆตัวเอง
โล่เฟยเอ๋อไปในห้องก็เพื่อที่จะหากระเป๋าถือกับถุงช้อปปิ้ง ผลปรากฏว่าเธอหาจนทั่ว แต่ก็เจอเพียงแค่กระเป๋าของตัวเองเท่านั้น ไม่เห็นถุงช้อปปิ้งสักถุง
ถ้าเป็นของอย่างอื่น โล่เฟยเอ๋อหาไม่เจอก็ช่างมันปะไร แต่ในถุงช้อปปิ้งใบนั้น มันมีเสื้อที่เธอซื้อให้ซูซีมู่จากลานกว้างหวั้นด๋าเมื่อวานน่ะสิ
หรือว่าจะวางไว้ที่ห้องนั่งเล่น โล่เฟยเอ๋อไฟลนก้นวิ่งออกไปที่ห้องนั่งเล่น แต่ก็หาถุงช้อปปิ้งไม่เจอในห้องนั่งเล่น
เธอเอาถุงช้อปปิ้งไปวางไว้ที่ไหนเนี่ย หรือว่าทำหายไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อยืนหงุดหงิดอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่น
ซูซีมู่ที่ยืนรอเธออยู่หน้าประตู เห็นโล่เฟยเอ๋อมีสีหน้าหงุดหงิด ก็ถามออกไป “เป็นอะไรน่ะ”
“ฉันทำของหาย” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ซูซีมู่หลุบตาเล็กน้อย ก่อนจะถาม “ทำอะไรหายล่ะ”
เป็นไปไม่ได้ที่โล่เฟยเอ๋อจะยอมบอกซูซีมู่ว่า ของที่เธอทำหายไปนั้น ก็คือเสื้อเชิ้ตที่เธอตั้งใจซื้อมาให้เขา ทำให้เธอได้แต่ตอบตะกุกตะกัก “ก็แค่ถุงช้อปปิ้งสีดำ”
เธอกำลังหาเสื้อตัวนั้นจริงๆด้วย……ซูซีมู่เม้มปากแน่น ก่อนจะพูดว่า “เธอลองไปถามโจวเฉิงดู เขาอาจจะเห็นก็ได้”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของซูซีมู่ ราวกับมีแสงสว่างส่องเบิกทางขึ้นมาตรงหน้าโล่เฟยเอ๋อ “จริงด้วย โจวเฉิงอาจจะเห็น เพราะเมื่อคืนฉันน่าจะทิ้งไว้บนรถ”
แสงส่องประกายจากนัยย์ตาของโล่เฟยเอ๋อ ราวกับมีดที่แหลมคม แทงเข้าที่ใจกลางของซูซีมู่จนเจ็บปวดไปหมด
ดูเธอแคร์เสื้อตัวนั้นซะเหลือเกิน ตอนที่รู้ว่าอาจจะได้เสื้อคืน ดวงตาถึงเป็นประกายขนาดนั้น
ซูซีมู่หมุนตัว พลางพูดเบาๆประโยคหนึ่ง “ไปกันเถอะ” ก่อนจะเดินนำไปที่ลิฟต์
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ว่าซูซีมู่เข้าใจเธอผิดเข้าให้แล้ว เธอเดินกอดกระเป๋า ตามซูซีมู่ไปอย่างว่านอนสอนง่าย