งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 175
บทที่ 175 โล่เฟยเอ๋อโกรธจนหนีไปแล้ว
โจวเฉิงพูดตะกุกตะกัก “ไม่ทราบครับ”
“ไม่ทราบหรอ” สายตาของซูซีมู่กวาดมองไปที่โจวเฉิงอย่างทะลุปรุโปร่ง
โจวเฉิงรีบก้มหัวขอโทษ “ผมขอโทษครับ ประธานซู ผมสะเพร่าเอง แต่เดิมผมจัดคนให้อยู่เป็นเพื่อนคุณนาย ปรากฏว่าคนที่จัดไว้พาคุณนายเข้างานเลี้ยงไปแล้ว”
ได้ยินคำพูดของโจวเฉิง ชั่วพริบตา สีหน้าของซูซีมู่ก็ซีดเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด “ยังไม่ไปหาอีก”
“ประธานซู หรือว่าท่านจะขึ้นเวที…….” ยังไม่ทันให้โจวเฉิงพูดจบประโยค คำพูดที่หนาวเย็นเหมือนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือของซูซีมู่ก็แทรกเขาขึ้นมา “ไปหา”
“รับทราบ” โจวเฉิงยืดตัวตรงแน่ว ก่อนจะวิ่งสุดชีวิตออกไปจัดการสั่งคนให้ตามหาโล่เฟยเอ๋อให้เจอ
ห้องจัดงานเลี้ยงประจำปีใหญ่ขนาดนี้ โจวเฉิงพาคนไม่น้อยช่วยกันตามหาโล่เฟยเอ๋อ แต่นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครที่รู้จักโล่เฟยเอ๋อเลยสักคน จะหาตัวโล่เฟยเอ๋อได้มันโคตรยากมากเลยรู้ไหม!
ซูซีมู่ทางนั้นก็กังวลไม่หยุด จริงๆเขาควรที่จะออกไปกล่าวบนเวที แต่เขามีกะจิตกะใจซะที่ไหนกัน ก็เลยยกเลิกรายการนั้นไป
ยังไงก็ตาม ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่ไหน สุดท้ายโจวเฉิงก็หาโล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่มุมห้องเจอ
วินาทีที่ได้เห็นหน้าโล่เฟยเอ๋อ โจวเฉิงแทบจะร้องไห้ออกมา “คุณนาย ในที่สุดผมก็เจอคุณนายแล้ว”
“อ้ะ…….คุณโจว มาได้ยังไงเนี่ย” โล่เฟยเอ๋อเห็นโจวเฉิงก็อดแปลกใจไม่ได้
โจวเฉิงตอบ “โธ่คุณนายครับ ผมตามหาคุณนายอยู่ตั้งนาน ทำไมถึงมานั่งตรงนี้ล่ะครับเนี่ย”
โล่เฟยเอ๋อชะงักไป ก่อนจะตอบ “อ้าว คุณไม่ได้สั่งให้เลขาคนนั้นพาฉันมานั่งนี่หรอกหรอ…..หาฉันมีอะไรหรือเปล่า”
ยัยเลขาบ้านั่น……โจวเฉิงก่นด่าในใจ ก่อนพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “คุณนาย ประธานซูมาแล้วครับ”
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียง “อ๋อ” ออกไปหนึ่งคำ หลังจากนั้นก็พูดว่า “เขาต้องขึ้นพูดบนเวทีแล้วสินะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินพิธีกรเรียกเขาอยู่”
“เพราะว่าหาคุณนายไม่เจอ ประธานซูก็เลยยกเลิกพูดบนเวทีไปน่ะครับ” โจวเฉิงตอบตามจริงออกไป
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของโจวเฉิง โลเฟยเอ๋อก็อึ้งไป
เขาเพื่อที่จะหาเธอ ถึงกับยกเลิกพูดบนเวทีเลยหรอเนี่ย หรือว่าเพราะไม่มีเธอขึ้นเวทีเป็นเพื่อน เขากลัวจะพูดกับคุณท่านได้ไม่ดีพอ ก็เลยยกเลิกพูดบนเวทีไป
โจวเฉิงเห็นโล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร ก็พูดออกไป “คุณนายครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณนายไปหาประธานซูนะครับ”
โล่เฟยเอ๋อเหม่ออยู่นาน กว่าจะผงกหัว “อ้ะ…..ได้สิ”
ซูซีมู่เห็นโจวเฉิงหาโล่เฟยเอ๋อมาได้ ขณะในใจลึกๆแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความโกรธที่มาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆก็ระเบิดออกมา พร้อมด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธ
“เธอเข้างานมาเองได้ยังไงกัน โจวเฉิงไม่ได้บอกหรอว่าให้เธอรอฉัน”
โจวเฉิงเห็นซูซีมู่ระเบิดอารมณ์ใส่โล่เฟยเอ๋อ ก็รีบออกโรงอธิบายแทนโล่เฟยเอ๋อ “ประธานซูครับ คุณนายถูกคน……”
น่าเสียดายที่เขายังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกโล่เฟยเอ๋อแทรกขึ้นมา “ฉันเป็นคนขัดคำสั่งที่จะเข้างานเอง เรื่องพวกนี้ฉันจะอธิบายกับคุณท่านเอง ไม่ทำให้นายลำบากอย่างแน่นอน”
วันนี้โล่เฟยเอ๋อเก็บความโกรธไว้อยู่เต็มอก ตอนเช้าอยู่ดีๆก็ถูกซูซีมู่ตะคอกใส่ แล้วยังจะโดนทิ้งไว้ที่คลับส่วนตัวบ้านซูอีก
ซูซีมู่ได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ ก็โกรธจนสั่นไปทั้งตัว
เขาลืมไปได้ยังไง ว่าที่เธอมาร่วมงานเลี้ยงประจำปีครั้งนี้ก็เพราะเขาโกหกเธอว่าคุณปู่เป็นคนสั่งให้เธอมา
ทุกอย่างมันก็เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง แต่เขากลับเอาจริงเอาจังกับมันไปได้
ยังไงเรื่องจริงก็คือเรื่องจริงอยู่วันยังค่ำ เขากลับหลอกตัวเอง เพราะว่าโดน “พิษรักของโล่เฟยเอ๋อ” เล่นงาน
ตอนนี้คนที่หลอกตัวเองอย่างเขาถูกโล่เฟยเอ๋อพูดเรื่องจริงใส่ เขาทั้งเจ็บทั้งเสียใจมาก
เขาคงขอมากไปสินะ เธอมีคนในใจอยู่แล้ว เขาไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างพวกเขาเลยหรือไง
ซูซีมู่เม้มปากแน่น ใช้น้ำเสียงเย็นชาที่เขาใช้เป็นประจำพูดออกไป “ในเมื่อเธอจะไม่เข้าร่วม ก็ไปได้”
ความหมายของซูซีมู่ก็คือ ถ้าโล่เฟยเอ๋อไม่อยากร่วมงาน เขาเองก็จะไม่บังคับ
แต่ที่โล่เฟยเอ๋อได้ยิน กลับกลายเป็นว่า ถ้าเธอไม่อยากร่วมเล่นละครตบตา ก็อย่ามาอยู่ร่วมกันกับเขาอีกเลย
โล่เฟยเอ๋อพยายามอดกลั้น ไม่ให้ความน้อยเนื้อต่ำใจไหลปริ่มออกมาจากขอบตา พลางใช้น้ำเสียงราบเรียบที่สุดพูดกับซูซีมู่ “ได้ งั้นฉันไป”
หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ก็หมุนตัววิ่งออกไปยังทางลงบันไดทันที
เห็นโล่เฟยเอ๋อิว่งออกไป โจวเฉิงก็รีบพูด “ท่านประธานซู เดี๋ยวผมไปดูคุณนายเองครับ”
ซูซีมู่ หยุดเขาไว้พร้อมใบหน้าที่เย็นชา “ให้เธอไป”
โจวเฉิงแค่ได้ยินซูซีมู่บอกให้โล่เฟยเอ๋อไป ก็ร้อนใจจนอยู่ไม่สุข
“แต่ว่าประธานซู…..ตอนที่คุณนายออกมา ไม่ได้พกโทรศัพท์ กระเป๋าเงินก็ไม่ได้พก…..” โจวเฉิงยังไม่ทันได้พูดจบ ซูซีมู่ก็รีบโพล่งขึ้นมา
“ยังไม่รีบไปตามอีก”
“รับทราบครับ!” โจวเฉิงพยักหน้าไวๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปทางที่โล่เฟยเอ๋อหายออกไป
หลังจากที่โจวเฉิงออกไปแล้ว สีหน้าของซูซีมู่เรียกได้ว่าดูแทบไม่ได้
เขาก็แค่พูดว่าถ้าเธอไม่อยากร่วมงานล่ะก็ อยากจะออกไปจากตรงนี้ก็ได้ ทำไมเธอถึงวิ่งออกไปแบบนั้นกัน
ดึกขนาดนี้แล้ว เธอไม่พกเงินพกโทรศัพท์วิ่งออกไป…..ไม่รู้อีกว่าโจวเฉิงจะหาเธอเจอไหม
ซูซีมู่จ้องไปยังทางลงบันได ในใจลึกๆเนื่องจากโล่เฟยเอ๋อพูดแบบนั้น ก็เลยทำให้ความกังวลเข้ามาอัดแน่นอยู่เต็มอก
เพราะว่ากังวล ทำให้ซูซีมู่เริ่มนั่งไม่ติดกับที่ เขาถือโทรศํพท์มือถือไปพลางจ้องมองเวลาเป็นระยะๆ พลางหันไปมองทางลิฟต์กับทางลงบันได ผ่านไปไม่กี่วิ เขาตัดสินใจกดเปิดโทรศัพท์ ต่อสายหาโจวเฉิง
เสียงจากโทรศัพท์เพิ่งดังได้ไม่นาน ซูซีมู่ก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาในใจ
โจวเฉิงทำอะไรของมันอยู่วะ ทำไมถึงยังไม่รับสายอีก หูหนวกหรือไงกัน ถึงไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้า มีโทรศัพท์ไว้ประดับอย่างเดียวหรือไง
แต่คำพูดประโยคแรกที่ซูซีมู่พูดออกมา กลับกลายเป็น “หาเธอเจอหรือยัง”
“ยังเลยครับท่าน ตอนที่ผมออกมา ก็ไม่เห็นคุณนายที่ทางลงบันไดแล้ว ตอนนี้ผมอยู่ที่ประตูใหญ่ของบริษัท ไม่รู้เลยว่าคุณนายเดินไปทางไหน……”
คิ้วของซูซีมู่ขมวดเข้าหากันแน่น ก่อนจะตะคอกอย่างเย็นชาใส่โทรศัพท์ “หาไม่เจอ แล้วพวก รปภ. มันมัวทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่ดักเธอไว้”
“พวก รปภ. ไม่ทันได้สังเกตครับ…..” โจวเฉิงยังไม่ทันพูดจบ ซูซีมู่ก็แทรกเขาขึ้นมา
“ไม่ทันได้สังเกตหรอ ฉันจ่ายเงินให้มากขนาดนั้น เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!แกสั่งทุกคนเลยนะ ว่าออกไปตามตัวมาให้ฉันให้ได้” หลังจากที่พูดจบ ซูซีมู่ก็ตัดสายในทันที รีบพุ่งตัวออกไปทางลงบันได
เขาวิ่งไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินอย่างไม่รีรอ กระโดดขึ้นรถของตัวเอง ก่อนจะสตาร์ทเครื่อง ทยานตัวสู่ถนนใหญ่เพื่อตามหาโล่เฟยเอ๋อให้เจอ
บริษัทซูซื่อตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองหลวงที่เจริญมากที่สุด ถนนหนทางสะดวกและทันสมัย ซูซีมู่ควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาโจวเฉิงผู้เป็นตัวกลาง พลางชะลอความเร็วรถลง มองถนนซ้ายทีขวาทีผ่านกระจกรถ ก่อนจะขับเลียบถนนหา
ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นนั้นที่เขากำลังหา ถนนใหญ่ หรือจะเป็นตรอกซอยเล็กๆ ถูกเขาหาจนทั่วทุกซอกทุกมุม แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของโล่เฟยเอ๋อเลยแม้แต่น้อย
ฝั่งโจวเฉิงก็สั่งให้คนเป็นร้อยออกตามหา แต่ก็ไร้วี่แววเช่นเดียวกัน
“ประธานซูครับ ผมทางนี้ หาคุณนายไม่เจอเลยครับ”
ได้ยินโจวเฉิงพูดว่าหาโล่เฟยเอ๋อไม่เจอ สีหน้าของซูซีมู่ก็เย็นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เขาจ้องเผ็งไปที่ตึกบริษัทสูงใหญ่ ก่อนจะถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ตรวจดูกล้องวงจรปิดหรือยัง ว่าสรุปแล้วเธอได้ออกมาจากบริษัทหรือเปล่า”
จริงๆแล้ว ประโยคที่ซูซีมู่ถามขึ้นมานี้ มันแฝงไปด้วยปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ที่ว่าโล่เฟยเอ๋ออาจจะไม่ได้ออกมาจากบริษัท
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของซูซีมู่ ดวงตาของโจวเฉิงก็ส่องประกายความหวังออกมา
ไม่แน่ คุณนายอาจจะไม่ได้ออกมาจากบริษัทตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ!
“ผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”