งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 194
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 194 สับเปลี่ยนที่นั่ง
ซูซีมู่เป็นห่วงโล่เฟยเอ๋อว่าจะไม่สบายใจกับคำพูดของซูยี่ ดังนั้นระหว่างทางที่กำลังจะพาโล่เฟยเอ๋อไปหาคุณปู่ จึงได้ใส่ใจเธอเป็นพิเศษ
และระหว่างทางสีหน้าของโล่เฟยเอ๋อไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย จึงทำให้เธอเบาใจขึ้น
เขาส่งโล่เฟยเอ๋อไปที่หน้าบ้านของคุณปู่ตลอดทาง “คุณเข้าไปเถอะ คุณปู่อยู่ข้างในครับ”
เธอเข้าไป?แล้วเขาไม่เข้าไปหรือ?โล่เฟยเอ๋ออยากจะถาม แต่เมื่ออ้าปากจะถามก็ได้กลืนกลับไปอีก
เรื่องของเขา เธอเหมือนจะไม่มีสิทธิ์ถามอะไรทั้งนั้น
แต่ซูซีมู่พูดเสริมอีกว่า “ผมมีธุระต้องออกไปสักพัก กลับมาสายหน่อย”
ได้ยินซูซีมู่บอกความเคลื่อนไหวของตน โล่เฟยเอ๋อจึงรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกความเคลื่อนไหวของตนกับเธอ ถึงแม้เมื่อก่อนตอนที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังดีอยู่ก็ไม่เคยมีเลย
ซูซีมู่ไม่รู้ความคิดของโล่เฟยเอ๋อ ถ้าหากรู้ก็คงรายงานกำหนดการเดินทางของตัวเองให้โล่เฟยเอ๋อทราบทุกวันแน่นอน
“คุณไปพบคุณปู่ก่อน ถ้าอยู่ต่อไม่ไหวก็ให้ไปที่บ้านของผม ต้นพลัมสีขาวที่สวนหลังบ้านน่าจะออกดอกแล้ว”บ้านหลังที่ซูซีมู่พูดถึงก็คือบ้านที่ครั้งก่อนๆพวกเขามาพักหนึ่งคืน
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นพูดว่า “ระวังตัวระหว่างเดินทางด้วยนะคะ”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่าเดินทางอย่างระมัดระวังด้วย ดวงตาของซูซีมู่ก็มีความเซอร์ไพรส์เปล่งออกมา เขาใช้แรงเม้มปากแล้วพยักหน้า “อืม” หนึ่งคำ จากนั้นก็หันหลังจากไป
โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่กับที่มองส่งซูซีมู่แล้วถึงจะเข้าไปภายในบ้าน
คุณปู่เห็นโล่เฟยเอ๋อเข้ามาก็ดีใจเป็นอย่างมาก “เฟยเอ๋อมาสิ มานั่งเร็ว”
“คุณปู่” โล่เฟยเอ๋อขานเรียกว่าคุณปู่และไปนั่งข้างคุณปู่อย่างเชื่อฟัง
สายตาของคุณปู่มองไปด้านนอกแวบหนึ่ง “เฟยเอ๋อมาคนเดียวหรอ?ซีมู่ล่ะ?”
“ซูซี……เขามีธุระที่ต้องทำกะทันหันค่ะ ดังนั้นจึงไม่ได้มาพบท่านพร้อมกันค่ะ” ตอนแรกโล่เฟยเอ๋ออยากจะพูดว่า ซูซีมู่ แต่ผลปรากฏว่าพูดถึงปลายปากก็นึกขึ้นได้ว่าหากเรียกว่าซูซีมู่ จะทำให้คุณปู่สงสัยได้ จึงรีบเปลี่ยนคำเรียก
คุณปู่ไม่รู้สึกแปลกใจที่ซูซีมู่มีธุระ พยักหน้าตอบว่า “อืม”หนึ่งคำ
โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเบาใจลง อันที่จริงเธอกลัวคุณปู่จะโกรธที่ซูซีมู่ไม่ได้มาพบเขาพร้อมกัน
แต่ก็ยังดี……
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อคิดว่าจะอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่จนกว่าซูซีมู่จะกลับมา แต่คิดไม่ถึงว่า เธอยังอยู่ไม่ทันไร ผู้ใหญ่ที่ลานหน้าบ้านก็มากันหมดแล้ว
พวกเขามาก็ยิ่งทำให้คุณปู่ดีใจ ชมโล่เฟยเอ๋อต่อหน้าพวกเขาอย่างภูมิใจ ทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกอึดอัดนัก
หลังจากที่เธออยู่ต่อได้สักพักก็หาข้ออ้างออกไป
หลังจากที่ออกจากบ้านของคุณปู โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้ไปที่บ้านหลังข้างหน้า
เหตุผลหลักคือคำพูดของซูยี่ได้เตือนเธอว่าเธอขายหน้าในงานแต่งงานขนาดไหน
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ต่อหน้าซูซีมู่ เธอจงใจแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่เธอไม่มีความกล้าที่จะไปเผชิญอีกครั้ง
ยิ้มเยาะเย้ยตัวเองเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็หันหลังไปบ้านของซูซีมู่
ยังไม่ทันถึงบ้านของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อก็ได้กลิ่นความหอมละมุน นึกคำพูดของซูซีมู่เมื่อกี้ได้ว่าพลัมสีขาวออกดอกแล้ว ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อเป็นประกาย จากนั้นก็รีบเดินไปที่บ้าน
ทั่วทั้งบ้านได้ออกดอกสะพรั่ง เมื่ออยู่ใต้เงาแสงสีขาวเงินของพระจันทร์ ทำให้ดอกที่ขาวผุดผ่องประสมประสานลงตัวกับเกสรที่เหลืองหยกอย่างสวยงาม
โล่เฟยเอ๋อเดินไปใต้ต้นพลัมสีขาว กลิ่นหอมที่ละมุนได้เข้ามายังปลายจมูกและแทรกซึมเข้าสู่ปอด ทำให้เป็นสิ่งที่โล่เฟยเอ๋อจดจำมิลืมเลือน
พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน บนท้องฟ้าก็มีหิมะเม็ดเล็กๆล่องลอยลงมา
อันที่จริงหิมะในเมือง Aนั้นไม่มาก ยิ่งไม่มีหิมะที่มากมายอย่างเมืองหลวง
และวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าตามปฏิทินจีน ต้นพลัมสีขาวออกดอกสะพรั่ง แล้วยังมีหิมะตกเล็กน้อยอีก
ต้นพลัมสีขาวกับหิมะได้สะท้อนกันอย่างลงตัว มันหาดูยากมากที่ทิวทัศน์งดงามอย่างนี้
โล่เฟยเอ๋อยืนหม่อลอยอยู่ใต้ต้นพลัมสีขาว
จนถึงตอนที่คุณปู่ส่งคนมาบอกโล่เฟยเอ๋อให้ไปกินข้าวด้วยกัน เธอถึงจะเข้าไปภายในบ้าน
ถึงแม้หิมะจะตกเพียงเล็กน้อย แต่โล่เฟยเอ๋อยืนนานเกินไป จึงทำให้เสื้อผ้ามีความชื้นเล็กน้อย
แต่โล่เฟยเอ๋อกังวลว่าจะทำให้พวกคุณปู่รอนาน จึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ รีบตามคนรับใช้ไปที่ลานหน้าบ้าน
ขณะที่กำลังเดินไป เธอยังกังวลว่าซูซีมู่ยังไม่ได้กลับมา จึงได้โทรไปหาเขา
ได้ยินซูซีมู่พูดว่าเขากำลังจะถึงแล้ว เธอจึงจะวางใจ
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะรีบเดินไปก็ตาม แต่ตอนที่เธอถึงลานหน้าบ้านทุกคนก็มาถึงกันหมดแล้ว เหลือที่นั่งเพียงสองที่ด้านซ้ายมือของคุณปู่ น่าจะวางไว้ให้เธอกับซูซีมู่
เห็นโล่เฟยเอ๋อมาคนเดียว ไม่เห็นซูซีมู่มาด้วย คุณปู่จึงขมวดคิ้วขึ้น “ซีมู่ยังไม่กลับมาหรือ?”
“เขาใกล้จะถึงแล้วค่ะ”โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างเชื่อฟัง
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่าใกล้จะถึงแล้ว คุณปู่ก็พยักหน้า จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เฟยเอ๋อ หนูมานั่งที่นี่สิ”
“ค่ะ คุณปู่” โล่เฟยเอ๋อลังเลชั่วครู่แล้วเดินเข้าไป
เธอไม่ได้นั่งตำแหน่งที่เข้าใกล้คุณปู่ แต่นั่งข้างๆตัวนั้น ถึงแม้ว่าตำแหน่งที่เธอนั่งจะมีซูยี่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เธอก็ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งของตัวเอง
เพราะซูซีมู่ยังกลับมาไม่ถึง ดังนั้นคุณปู่จึงไม่ได้เริ่มรับประทานอาหาร ทุกคนได้นั่งล้อมโต๊ะแล้วพูดคุยกัน
ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อมองด้านล่างอย่างเงียบสงบ
ผ่านไปประมาณห้านาที ซูซีมู่ก็เข้ามา
“กลับมาแล้วหรอ?”คุณปู่
“คุณปู่” ซูซีมู่พยักหน้าเดินมาทางนี้
เมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่นั่งข้างๆโล่เฟยเอ๋อคือซูยี่ ระหว่างคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย จากที่เดินไปถึงตำแหน่งข้างๆคุณปู่ก็หันกลับไปเดินแล้วหยุดอยู่ที่ด้านหลังของโล่เฟยเอ๋อ
“เฟยเอ๋อ คุณนั่งข้างๆคุณปู่นะ”
“หา?”โล่เฟยเอ๋อตามคำพูดของซูซีมู่ไม่ทัน
คนที่นั่งข้างๆโล่เฟยเอ๋ออย่างซูยี่ เมื่อได้ยินคำพูดของซูซีมู่ก็รู้สึกหดหู่มาก พี่ชายที่เขาเทิดทูนดั่งเทพบุตรกำลังหลีกเลี่ยงเขาอยู่หรือ
คนอื่นที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารรู้สึกว่าท่าทางของซูซีมู่แปลกๆ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร แม้แต่คุณปู่ก็แค่เหล่ตามอง จากนั้นก็สั่งให้คนรับใช้เสิรฟ์อาหารขึ้นโต๊ะ
ซูซีมู่ไม่ได้พูดซ้ำ ยื่นมือไปจับไหล่ของโล่เฟยเอ๋อโดยตรง ลากเธอไปนั่งตำแหน่งข้างๆ จากนั้นตัวเองก็นั่งลงที่ที่นั่งของโล่เฟยเอ๋อ
ตอนที่มือได้ยื่นกลับมามือของโล่เฟยเอ๋อ เขาก็รู้สึกว่ามือมีความชื้นเล็กน้อย เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็หันมามองโล่เฟยเอ๋อ
เมื่อเห็นเสื้อกันหนาวของโล่เฟยเอ๋อมีความชื้นจริงๆ ระหว่างคิ้วของเขาจึงขมวดขึ้น
“ทำไมเสื้อกันหนาวถึงเปียกชื้นล่ะ?”
ทำไมเขาถึงรู้ว่าเสื้อกันหนาวของเธอเปียกชื้น?โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่ด้วยความสงสัย จากนั้นก็ตอบว่า “เมื่อกี้ดูพลัมสีขาวแล้วมีหิมะติดนิดหน่อยค่ะ”
มีหิมะติดนิดหน่อย สามารถทำให้เสื้อกันหนาวเปียกขนาดนี้เลยหรือ?เกรงว่าจะดูดอกเหมยสีขาวนานเกินไปล่ะสิ
ซูซีมู่ถอนหายใจหนึ่งครั้ง จากนั้นก็พูดว่า “ฉันให้คนเตรียมเสื้อกันหนาวให้คุณเปลี่ยนนะ”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหัวพลางพูดว่า “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอกค่ะ ในบ้านมีไออุ่นไม่หนาวค่ะ”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบอะไร สั่งคนรับใช้ให้ไปเอาเสื้อกันหนาวให้โล่เฟยเอ๋อทันที