งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 200
บทที่ 200 พาคุณกลับบ้าน
เหซิงโม่เห็นโล่เฟยเอ๋อขอโทษอย่างตั้งใจ ก็รู้สึกตัวเองหยอกล้อเกินเหตุแล้ว เขาจับที่จมูกแล้วพูดว่า “คิกคิก……ที่จริงผมแค่ล้อคุณเล่นเอง”
เธอก็รู้ว่าเหซิงโม่กำลังล้อเล่นอยู่!ในใจของซูซีมู่มีคนสำคัญอยู่หนึ่งคนจริงๆ แต่คนคนนั้นไม่ใช่เธอ
โล่เฟยเอ๋อมองด้านล่างปกปิดความรู้สึกหดหู่ใจ “ฉันรู้ค่ะ”
เหซิงโม่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของโล่เฟยเอ๋อแม้แต่นิดเดียว เห็นโล่เฟยเอ๋อไม่ได้โกรธ เขาก็เปลี่ยนบทสนทนาขึ้นมาคุย ถือว่าทั้งสองสนิทกันพอสมควรอยู่แล้ว จึงคุยกันได้ถูกคอ
พอคุยไปได้สักพัก ทันใดนั้นมือถือของเหซิงโม่ก็ดังขึ้น
เขายิ้มอย่างขออภัยให้กับโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็เอามือถือออกจากกระเป๋า
เมื่อเห็นเบอร์ในมือถือ เขาก็รีบเงยหน้าพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า“เป็นซูซีมู่”
ได้ยินเหซิงโม่บอกว่าซูซีมู่โทรมา โล่เฟยเอ๋อจึงตกใจจนเกือบทำรีโมทหล่นพื้น
เหซิงโม่ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของโล่เฟยเอ๋อ เขากดปุ่มรับสายแล้วเอามือถือมาแนบข้างๆหู
“ฮัลโหล ซูซีมู่”
“นายอยู่บ้านไหม?”เสียงเย็นชาของซูซีมู่ส่งมาตามโทรศัพท์
เหซิงโม่ถามอย่างสงสัยว่า “ผมอยู่บ้าน”
“ออกมาเปิดประตู ตอนนี้ผมอยู่หน้าประตูบ้านของนาย” เสียงเย็นชาของซูซีมู่ส่งมาอีกครั้ง
เหซิงโม่ถามอย่างแปลกใจว่า “นายอยู่หน้าประตูบ้านของผม?”
จากนั้นอีกฝั่งหนึ่งของสายไม่ได้ตอบอะไร เพราะซูซีมู่วางสายแล้ว
“วางสายเร็วจังเร็ว!” เหซิงโม่ส่ายหัวพลางบ่นพึมพำ จากนั้นก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า “เฟยเอ๋อ สามีคุณมาแล้ว ผมไปเปิดประตูนะครับ”
จากนั้นไม่รอให้โล่เฟยเอ๋อตอบสนอง เขาก็เดินออกไปทางหน้าประตูบ้าน
ได้ยินเหซิงโม่พูดว่าซูซีมู่อยู่หน้าบ้านตระกูลเหซิง โล่เฟยเอ๋อก็ทำตัวไม่ถูก
เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าซูซีมู่จะมาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
เขาไม่ใช่อยู่ที่เมืองMหรือ?ทำไมถึงมาบ้านเหซิง?
เป็นเพราะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ถึงมาหรือเปล่า?ในสมองโล่เฟยเอ๋อพึ่งโผล่ความคิดนี้ขึ้นมา เธอก็ได้ปฏิเสธทันที
ตั้งแต่ตอนที่เขาออกจากประเทศก็ไม่เคยโทรมาหาเธอสักครั้งเลย เป็นไปไม่ได้ที่เธออยู่ที่นี่แล้วเขาจะมาหาเธอ?เขาน่าจะมาหาเหซิงโม่มากกว่า
ในใจของโล่เฟยเอ๋อว้าวุ่น แต่ยังคงหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงของซูซีมู่ที่หน้าประตู แต่คิดไม่ถึงว่าสบตาเข้าอย่างจังกับซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงว่าจะสบตาของซูซีมู่ ตกใจแล้วละสายตากลับมา
เห็นปฏิกิริยาของเธอ ซูซีมู่ก็เม้มปากแรงๆ
เหซิงโม่ที่อยู่ข้างๆไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่เลย ยังพูดอย่างดีใจว่า“ซูซีมู่ นายมาได้พอดีเลย เฟยเอ๋อก็อยู่ที่บ้านของผม”
แน่นอนว่าซูซีมู่ไม่มีทางบอกเหซิงโม่ว่าเขามารับโล่เฟยเอ๋อโดยเฉพาะ เพียงแต่พูดเรียบๆ “อืม”หนึ่งคำ
เหซิงโม่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับท่าทางที่เย็นชาของซูซีมู่เลย เขาพาซูซีมู่เข้าห้องรับแขก
ซูซีมู่กวาดสายตามองรอบๆห้องรับแขก เห็นว่านอกจากเหซิงโม่กับโล่เฟยเอ๋อแล้วก็ไม่มีใครเลย และทีวีกำลังออกข่าวเศรษฐกิจอยู่ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหซิงโม่เป็นคนดู
นั่นแสดงว่าทั้งห้องรับแขกมีเพียงโล่เฟยเอ๋อกับเหซิงโม่……สายตาที่เย็นชาได้เพ่งไปมองแผ่นหลังของซูซีมู่
เหซิงโม่รู้สึกหลังเย็น จึงตกใจหันหลังไปสบตาที่เย็นชาดุลน้ำแข็งของซูซีมู่เข้า
เขาทำอะไรหรอ?ทำให้ซูซีมู่มองเขาด้วยสายตาเช่นนี้?
เหซิงโม่รู้สึกตัวสั่นคลอ ถอยหลังไปสองก้าว
ซูซีมู่ละสายตาแล้วพูดเรียบๆว่า “นายอยู่บ้านคนเดียวหรอ?”
“ไม่ใช่ คนอื่นยังไม่ตื่น” เหซิงโม่หยุดชะงักไปชั่ววูบแล้วส่ายหัว
เฟยเอ๋อชอบตื่นแต่เช้า ตื่นในเวลาเป็นเรื่องที่ปกติ
แต่คนอย่างเหซิงโม่ ชอบตื่นเช้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ดวงตาของซูซีมู่มีแสงแวบผ่าน หันหน้าไปมองโล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่ขยับ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเธอ
จังหวะที่ซูซีมู่เดินมาทีละก้าว ใจของโล่เฟยเอ๋อก็เต้นตุ๊บตั๊บ
ตอนที่ซูซีมู่เดินมาถึงข้างกายเธอ ฝ่ามือของเธอก็ได้มีเหงื่อเต็มไปหมดแล้ว
ซูซีมู่พูดอย่างเรียบเฉยหนึ่งประโยคว่า “ไม่ง่ายเลยที่นายจะตื่นแต่เช้า” แล้วนั่งลงข้างๆโล่เฟยเอ๋อ
“เมื่อคืนกลับจากต่างประเทศ ร่างกายยังปรับเปลี่ยนเวลาไม่ทัน”เหซิงโม่พูดเสร็จ ก็เหมือนจะคิดอะไรได้กะทันหันแล้วถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว เฟยเอ๋อบอกว่านายไปที่เมืองM กลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?”
ซูซีมู่มองด้านล่างอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้มองโล่เฟยเอ๋อแม้แต่แวบเดียว ตอบว่า“เมื่อวาน”
ที่แท้เขากลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว……โล่เฟยเอ๋อดึงเสื้อผ้าลงด้านล่างแรงๆ
ซูซีมู่กลับประเทศเมื่อวาน ทำไมเฟยเอ๋อถึงไม่รู้?
ดวงตาของเหซิงโม่ฉายแววแห่งความสงสัย ถามว่า “นายกลับเข้าประเทศก็ไม่บอกเฟยเอ๋อสักคำเลยหรอ?”
เขาอยากจะบอกอยู่ แต่เธอไม่สนใจไง
ซูซีมู่เม้มปากแรงๆ ไม่ได้พูดอะไร
และโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของเหซิงโม่ มือที่กำเอาไว้ซีดขาว เล็บมือได้แทงเข้าไปที่เนื้อหนัง เจ็บราวกับโดนแทงที่หัวใจ
เหซิงโม่รู้สึกแปลกใจ ทำไมโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ไม่คุยกัน และเมื่อดูสีหน้าของทั้งคู่ในตอนนี้ก็เข้าใจทันทีว่าพวกเขามีเรื่องกันแน่ๆ
เขาแอบด่าตัวเองว่าโง่เขลา ดวงตาชำเลืองไปเห็นคนใช้ยกอาหารเดินออกมาจากห้องครัว รีบเปลี่ยนเรื่องคุยว่า “เฟยเอ๋อ เตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว คุณจะกินไหม?”
“ออ กินค่ะ”โล่เฟยเอ๋อหยุดชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็พยักหน้าลุกขึ้นยืน ตามเหซิงโม่เดินไปทางห้องอาหาร
ผลปรากฏว่าเพิ่งเดินไปได้สองก้าวก็ถูกซูซีมู่ดึงแขนเอาไว้
“เธอไม่กินข้าวเช้า” ซูซีมู่พูดอย่างเย็นชาต่อแผ่นหลังของเหซิงโม่เสร็จก็ลากโล่เฟยเอ๋อเดินออกไป
โล่เฟยเอ๋อดิ้นด้วยจิตใต้สำนึก “ซูซีมู่ คุณคิดจะทำอะไร?”
ซูซีมู่หยุดเดิน “พาคุณกลับบ้าน”
พาเธอกลับบ้าน?พา……โล่เฟยเอ๋อมองข้อมือที่ถูกซูซีมู่บีบจนเจ็บ อยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
เหซิงโม่ได้ยินซูซีมู่พูดก็หันหลังกลับมา จึงเห็นซูซีมู่ลากโล่เฟยเอ๋อเดินออกไป ถามอย่างเร่งรีบว่า “ซูซีมู่ นายจะพาเฟยเอ๋อไปไหน?”
ซูซีมู่ไม่ได้หยุดเดินและไม่ได้ตอบคำถามของเหซิงโม่ด้วย เขาลากโล่เฟยเอ๋อเดินออกจากบ้านเหซิงมาถึงรถของตัวเอง จากนั้นไม่รอให้โล่เฟยเอ๋อตอบสนองเปิดประตูรถออก ใช้มือข้างเดียวผลักเธอเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูแรงๆ จากนั้นก็ย้อนเดินไปด้านหน้ารถไปขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่ง เขาได้สตาร์ทเครื่องแล้วจากไป
รอเหซิงโม่เดินออกมา เห็นเพีงรถของซูซีมู่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ซูซีมู่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”จ้องมองรถซูซีมู่ที่จากไป เหซิงโม่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ซูซีมู่ชำเลืองมองกระจกรถ เห็นเหซิงโม่ที่ตามออกมายิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป ดวงตาก็มีแสงที่เยือกเย็นขึ้น
เขาพาเฟยเอ๋อกลับไป เหซิงโม่ตามออกมาทำไม?เขายุ่งมากเกินไปแล้วหรือเปล่า?