งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 250
บทที่ 250 รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อมาถึงโรงแรม หซิวหชูเฉียวก็ยังไม่ตื่น
แม้ว่าโล่เฟยเอ๋อบอกเธอตั้งแต่เมื่อคืนว่า จะมาในตอนเช้า แต่หซิวหชูเฉียวก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะมาเช้าขนาดนี้
“เฟยเอ๋อ เธอทำไมมาเช้าจัง?” หซิวหชูเฉียวในชุดนอนเอื้อมมือไปลากโล่เฟยเอ๋อเข้ามาในห้อง
แน่นอนว่าโล่เฟยเอ๋อไม่มีทางบอกหซิวหชูเฉียวว่า ที่เธอออกมาตั้งแต่เช้า ก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะพบกับซูซีมู่
บอกเพียงว่า “ออกแต่เช้า ก็ทำอะไรได้เสร็จก่อน”
“อืม เป็นฉันที่ตื่นสายเอง” หซิวหชูเฉียวยักไหล่อย่างจนปัญญาและพูด
โล่เฟยเอ๋อยกมุมปากของเธอ และยกกล่องอาหารในมือแล้วพูดว่า “รีบไปล้างหน้าล้างตา แล้วพวกเรามาทานอาหารเช้าด้วยกันเถอะ”
“รับทราบค่ะ” หซิวหชูเฉียวทำความเคารพโล่เฟยเอ๋ออย่างเว่อร์ จนทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“เธอรีบไปอาบน้ำเถอะ ไม่งั้นฉันจะไม่รอเธอแล้วนะ”
เมื่อได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อบอกว่าจะไม่รอเธอ หซิวหชูเฉียวก็รีบในทันทีและพูดอย่างรีบร้อนว่า “รอฉันด้วย เธอต้องรอฉันนะ” และวิ่งเข้าห้องน้ำ.
มองไปยังด้านหลังที่รีบร้อนของหซิวหชูเฉียว โล่เฟยเอ๋อก็งอปากและวางอาหารเช้าไว้บนโต๊ะชา
หลังจากที่หซิวหชูเฉียวออกมา พวกเธอทั้งสองก็ทานอาหารเช้าด้วยกัน
หลังทานอาหารเช้า พวกเธอทั้งสองก็คืนห้องและนั่งแท็กซี่ไปเขตตะวันตก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา แท็กซี่ก็มาถึงที่หมายโล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวลงจากรถและเดินเข้าไปยังเขตชุมชนเก่า
แม้ดูเหมือนว่าเขตชุมชนนี้จะเก่าไปหน่อย แต่อันที่จริงเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นเขตชุมชนระดับสูงพอสมควร
ตอนนั้นที่นี่เป็นบ้านของโล่เฟยเอ๋อ แต่เพราะว่าโล่ชิงไป๋ไม่ค่อยมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ที่นี่จึงมีเพียงร่องรอยการใช้ชีวิตระหว่างโล่เฟยเอ๋อกับแม่ของเธอเท่านั้น
หลังจากแม่เสียชีวิตไป โล่เฟยเอ๋อก็ถูกโล่ชิงไป๋พาออกไปอยู่ข้างนอก
โล่ชิงไป๋เกลียดแม่ของเธอมาก และเกลียดที่อยู่อาศัยของแม่เป็นอย่างมาก เขาไม่อนุญาตให้โล่เฟยเอ๋อมาที่นี่ โล่เฟยเอ๋อทำได้เพียงแอบมาที่นี่อย่างลับๆ แต่ความถี่จำนวนครั้งนั้นน้อยมาก
ครั้งนี้เธอให้หซิวหชูเฉียวอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโล่ชิงไป๋เข้าสู่จุดเยือกแข็ง และเธอไม่ต้องกังวลกับโล่ชิงไป๋อีก
ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน โล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวใช้เวลาทำความสะอาดเป็นเวลานานพอควรก่อนที่พวกเขาจะทำเสร็จ
เพราะเธอขอลางานกับบริษัทเพียงครึ่งวันเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่โล่เฟยเอ๋อช่วยหซิวหชูเฉียวเก็บกวาดเสร็จก็แยกย้ายทันที
“เฉียวเฉียว เก็บกวาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันไปก่อนนะ”
เมื่อได้ยินว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังจะไป หซิวหชูเฉียวก็ขมวดคิ้วทันที “รอทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วค่อยไปสิ ระหว่างทางที่มา ฉันเห็นร้านอาหารดีๆ อยู่ใกล้ๆ หลายร้านเลย”
“ไม่ดีกว่า ตอนบ่ายฉันต้องไปทำงานอีก ถ้าทานอาหารกลางวันก็จะไม่ทันเวลา” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้าปฏิเสธ
เมื่อได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด หซิวหชูเฉียวก็ไม่ได้บีบบังคับใดๆ เพียงแค่บ่นว่า “เธองานยุ่งมากทุกวัน เมื่อไหร่เธอจะว่างทานข้าวเย็นกับฉันล่ะ?”
เธอกะพริบตาและพูดล้อเล่นว่า “ฉันจะไม่รังเกียจที่จะมาทุกวัน ถ้าเธอทำอาหารเอง”
“ได้สิ เย็นนี้ฉันจะลงมือทำอาหารเอง” หซิวหชูเฉียวกล่าวพลางยักไหล่
“ดี งั้นฉันจะมาทานอาหารเย็นด้วย”
โล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวได้นัดหมายกันเพื่อมาทานอาหารเย็นและออกจากอพาร์ตเมนต์ไป
เนื่องจากไม่มีรถแท็กซี่ที่อยู่ใกล้เขตชุมชนเก่า โล่เฟยเอ๋อจึงเดินไปที่สี่แยกที่ห่างจากเขตชุมชนเก่าไม่กี่ร้อยเมตรและเรียกแท็กซี่ให้ออกไป
ไม่นานหลังจากที่โล่เฟยเอ๋อจากไป ประตูของสโมสรที่อยู่ห่างจากด้านหลังเธอไปหลายสิบเมตร ก็ส่งเสียงแสดงความเคารพดังออกมา “ประธานซู?”
ซูซีมู่มองตรงไปที่สี่แยกที่โล่เฟยเอ๋อเพิ่งขึ้นรถแท็กซี่และไม่พูดอะไร
โจวเฉิงกลืนน้ำลายและถามว่า “ประธานซู ถ้าไม่เช่นนั้นให้ผมไปสืบดู ว่าคุณนายน้อยเพิ่งออกมาจากสถานที่ที่ไหน…..”
คำพูดของโจวเฉิงยังไม่จบ ซูซีมู่ก็ขัดจังหวะอย่างรุนแรง “ไม่อนุญาตให้ไปสืบเธอ”
“ครับ” โจวเฉิงหลบสายตาแต่ในใจของเขากลับรู้สึกเห็นต่างแต่ไม่กล้าพูดออกมา
เห็นได้ชัดว่าอยากรู้เหตุผลที่คุณนายน้อยมาปรากฏตัวแถวนี่ แต่ก็ไม่ต้องการให้สืบคุณนายน้อย ไม่รู้จริงๆ ว่าประธานซูคิดอะไรอยู่
ซูซีมู่ไม่ทราบถึงความคิดในใจของโจวเฉิง เขาหลบสายตาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “กลับ”
ไม่ใช่ว่ามาที่สโมสรเพื่อพูดคุยธุรกิจกับนักธุรกิจฮ่องกงเหรอ? ตอนนี้ก็อยู่ที่หน้าประตูสโมสรแล้ว แต่จะกลับไป?
โจวเฉิงมองไปยังใบหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึกของซูซีมู่ พยักหน้าพูดว่า “ครับ” จากนั้นเขาก็ไปที่ลานจอดรถด้วยความเร็วสูงสุด ขับรถมา ในหนึ่งชั่วโมงก็ถึงคฤหาสน์
ซูซีมู่แสดงเจตนาให้โจวเฉิงรออยู่ในรถ จากนั้นก็ลงจากรถและเข้าไปในคฤหาสน์
ไม่ถึงห้านาที ซูซีมู่ก็ออกมาจากคฤหาสน์อีกครั้ง
หลังจากนั้นโจวเฉิงก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ประธานซูเห็นคุณนายน้อยขึ้นรถแท็กซี่จากที่ประตูสโมสร จากนั้นก็ขอให้เขาส่งเขากลับไปที่คฤหาสน์เพื่อดูคุณนายน้อย ตอนนี้เจอคุณนายน้อยแล้ว ประธานซูคงกลับไปที่สโมสรเพื่อคุยธุรกิจกับลูกค้าแน่
“ประธานซู กลับสโมสรใช่ไหมครับ?”
ซูซีมู่ไม่ตอบคำพูดของโจวเฉิง และก็ออกรถอีกคันที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถและขับออกไป
ในความเป็นจริงโจวเฉิงทายถูกเพียงครึ่งเดียว ซูซีมู่ให้โจวเฉิงส่งเขากลับไปที่คฤหาสน์เพื่อดูโล่เฟยเอ๋อก็จริง
แต่เขากลับไม่เจอในสิ่งที่หาและไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่หดหู่ใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ทิ้งโจวเฉิงไว้และขับรถออกจากคฤหาสน์ไป
หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ซูซีมู่ไม่รู้ว่าเขากำลังจะไปที่ไหน เขาจึงขับรถไปอย่างเรื่อยเปื่อย วนไปวนมาไปตามถนนในปักกิ่ง
จนกระทั่งเป็นเวลาเจ็ดโมงเย็น ก็คิดว่าถึงเวลาที่โล่เฟยเอ๋อต้องกลับบ้านแล้ว จึงขับรถกลับไปที่คฤหาสน์
แต่น่าเสียดายที่เมื่อเขาเข้าประตูมา โล่เฟยเอ๋อก็ยังคงไม่กลับมา
เธอตกลงไปที่ไหน? ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ใจของซูซีมู่ก็ยิ่งอึดอัด สุดท้ายเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งข้อความไปหาโล่เฟยเอ๋อ
คุณยังยุ่งอยู่เหรอ? เมื่อไรถึงจะกลับบ้าน?
เป็นเพราะเธอได้นัดหมายกับหซิวหชูเฉียวเพื่อทานอาหารค่ำกับเธอแล้ว หลังจากที่เลิกงานโล่เฟยเอ๋อจึงไล่คนขับรถหลี่กลับไป แล้วก็นั่งแท็กซี่ไปหาหซิวหชูเฉียว
เมื่อไปถึงที่หซิวหชูเฉียว หซิวหชูเฉียวก็เตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าไม่ได้มากมาย แต่ก็เพียงพอสำหรับคนสองคนทาน
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ หซิวหชูเฉียวหันผลไม้ไว้จากหนึ่ง คนสองคนนั่งอยู่บนโซฟากินไปคุยไป
“เฟยเอ๋อ เธอตอนนี้อาศัยอยู่ที่ไหนเหรอ? อยากย้ายมาอยู่ด้วยกันไหม?”
โล่เฟยเอ๋อหยุดไปสักพักและตอบว่า “สัญญาเช่าของฉันที่นั่นยังไม่หมด คงต้องรออีกสักพักน่ะ”
“อืม ได้” หซิวหชูเฉียวพยักหน้า “อีกสักพัก พวกเราก็มาอยู่ด้วยกันและดูแลซึ่งกันและกัน”
โล่เฟยเอ๋อจิ้มแอปเปิลด้วยไม้จิ้มฟันและขณะที่เธอกำลังจะเอาเข้าปากเธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอ
โล่เฟยเอ๋อเอาแอปเปิลที่จิ้มด้วยไม้จิ้มฟันเข้าปาก หลังจากนั้นก็เคี้ยวและเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ
แอปเปิลหวานมาก โล่เฟยเอ๋อชอบมาก แต่เมื่อเธอเห็นเนื้อหาบนโทรศัพท์มือถือ แอปเปิลที่หวานอยู่ในปากของก็ไม่มีรสชาติขึ้นมาทันที
เป็นซูซีมู่ที่ส่งข้อความถึงเธอ คุณยังยุ่งอยู่เหรอ? เมื่อไรจะกลับบ้าน?
กลับบ้าน……ช่างเป็นคำที่สวยงามจริง
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองตรงไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ และดวงตาของเธอก็พร่ามัว
“เฟยเอ๋อ เป็นอะไร?” หซิวหชูเฉียวถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดมาตั้งนาน
“ไม่มีอะไร เป็นข้อความโฆษณาที่น่าสนใจนะ” โล่เฟยเอ๋อกลับมามีสติและปิดโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็จิ้มแอปเปิลเข้าปากต่อไป
“หซิวหชูเฉียวไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากนั้นก็พูด “อ้อ” ออกไปและคุยกับโล่เฟยเอ๋อต่อ