งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 271
บทที่ 271 เต็มไปด้วยความสุขตอนดูหนัง
คืนนี้ซูซีมู่ต้องการโล่เฟยเอ๋อครั้งแล้วครั้งเล่า ทำเอาโล่เฟยเอ๋อเหนื่อยแทบไม่ไหว
วันต่อมา โล่เฟยเอ๋อถึงเที่ยงแล้วเพิ่งจะตื่นนอน
ตอนเธอลงมาที่ชั้นล่าง ยังถูกหซิวหชูเฉียวหัวเราะเยาะใส่อีกหนึ่งรอบ
ตกบ่ายโล่เฟยเอ๋อรู้สึกง่วงงุน เลยไม่ออกไปไหน
เดิมทีคุยกับซูซีมู่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ว่าจะไปร่วมงานเลี้ยงปิ้งย่าง แต่หซิวหชูเฉียวรั้งโล่เฟยเอ๋อให้เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทารกในอินเทอร์เน็ตกับเธอ เลยไม่ได้ไป
วันถัดมา เป็นวันฉายรอบปฐมทัศน์หนังเรื่องใหม่ ‘สุดปลายทาง’ของคุณจาง
ตอนที่กำลังทานอาหารเช้า เสียงออดประตูดังมาจากด้านนอก
คนรับใช้ไปเปิดประตู เมื่อกลับมาในมือมีซองจดหมายสีแดงขนาดใหญ่
“คุณซู เมื่อสักครู่คนที่ชื่อจางเสียงบอกว่าคุณโจวให้เขานำมาส่งให้”
ซูซีมู่ ‘อืม’ รับหนึ่งคำ วางตะเกียบที่อยู่ในมือ รับซองจดหมายจากมือคนรับใช้ส่งให้โล่เฟยเอ๋อ
“คืออะไร?” โล่เฟยเอ๋อถามอย่างไม่แน่ใจ
ซูซีมู่ไม่ได้บอกว่าของด้านคืออะไร บอกเพียง: “ที่คุณต้องการ”
เธอต้องการ? โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่ จากนั้นจึงเปิดซองจดหมายสีแดงในมือ ข้างในมีตั๋วหนัง’สุดปลายทาง’อยู่สามใบ
“ตั๋วหนังรอบปฐมทัศน์!” โล่เฟยเอ๋อน้ำเสียงมีทั้งดีใจและประหลาดใจ
เห็นใบหน้าชอบใจของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่มุมปากก็ยกขึ้นตามอย่างเงียบๆ
นั่งอยู่อีกฝั่งอย่างหซิวหชูเฉียวถามอย่างแปลกใจ “รอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องอะไร?”
“หนังเรื่องใหม่ของคุณจางไง” โล่เฟยเอ๋อยกตั๋วหนังมือพร้อมพูด
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่าเป็นตั๋วหนังรอบปฐมทัศน์หนังเรื่องใหม่ของคุณจาง หซิวหชูเฉียวก็ตาเป็นประกายทันที “จริงเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อหัวเราะอย่างสดใส เอียงหัวตอบอย่างน่ารัก “แน่นอนว่าจริงสิ คืนนี้สองทุ่ม เธอกับฉันไปโรงภาพยนตร์โป๋ไห่วานดูกัน”
“ฉันไปกับพวกเธอ?” หซิวหชูเฉียวชี้ตัวเองแล้วถาม
“ใช่ไง” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
หซิวหชูเฉียวเลิกคิ้วพูด “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ฉันไม่ไปรบกวนโลกของพวกเธอสองคนหรอก”
“เฉียวเฉียว รบกวนอะไรกัน? เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” โล่เฟยเอ๋อเบะปากอย่างไม่ชอบใจ
หซิวหชูเฉียวเหลือบตามองบน ฉันรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่เธอก็ต้องดูผู้ชายของเธอด้วย
“เฟยเอ๋อ ครั้งที่แล้วเธอรอซูซีมู่เพื่อดู《zero》รอบปฐมทัศน์ ตั้งแต่สองทุ่มรอจนถึงเที่ยงคืน ครั้งนี้ ‘สุดปลายทาง’รอบปฐมทัศน์ พวกเธอสองคนชดเชยความเสียดายรอบก่อนดี ๆล่ะ…..”
ซูซีมู่ฟังถึงตรงนี้ ประโยคข้างหลังก็ไม่ได้ยินผ่านเข้าหูแล้ว
เขาคิดมาตลอดว่าคืนที่ฉายรอบปฐมทัศน์ 《zero》นั้น โล่เฟยเอ๋อวางแผนแนะนำโล่หยิวซิวให้เขา ที่แท้คืนนั้นเธอไม่ได้อยู่กับโล่หยิวซิวตั้งแต่แรก แต่รอเขาอยู่ที่โรงพร้อมกับหซิวหชูเฉียว
และเพราะสายยุแยงเล็ก ๆ จากโล่หยิวซิว เขาไม่เพียงแต่ประสบอุบัติเหตุจนพลาดนัดกับเธอ ตอนที่เธอมาหาเขา ก็ยังไม่สนใจเธอ
จำได้ตั้งแต่ครั้งนั้นมา เขาเข้าใจเธอผิดครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะโล่หยิวซิว ซูซีมู่รู้สึกแน่นจนเจ็บไปทั้งก้นบึ้งของหัวใจ
เขาตอนนั้น ทำไมถึงได้โง่ขนาดเชื่อคำพูดของโล่หยิวซิวจนเข้าใจเธอผิด?
แต่ว่ายังดีที่ตอนนี้เธอเป็นคนของเขาแล้ว เขาจะดูแลเธออย่างดี จะไม่ทำให้เธอน้อยใจอีก…..
‘สุดปลายทาง’รอบปฐมทัศน์ หซิวหชูเฉียวไม่ได้ไปกับโล่เฟยเอ๋อและซูซีมู่ด้วย
ตั๋วของซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อ เป็นที่นั่งพิเศษแบบVIPอย่างหรูหราโอ่อ่าของโรงภาพยนตร์โป๋ไห่วาน
แถวที่นั่งเงียบสงบ อยู่ในระยะพอดีสายตา
นำขนมกินเล่นที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา กินขนมไปพลาง ดูหนังไปพลาง เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความเพลิดเพลินเลยก็ว่าได้
ซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อนั่งได้ไม่นาน หนังก็เริ่มฉาย
‘สุดปลายทาง’ที่ถ่ายทำต่อจาก《zero》ทำให้โล่เฟยเอ่อและซูซีมู่รู้สึกสับสนเล็กน้อย
“เรื่องนี้’สุดปลายทาง’เป็นภาคต่อของ《zero》เหรอ?” โล่เฟยเอ๋อหันมาถามซูซีมู่
“ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่เคยดู《zero》คุณเคยดูหรือยัง?”
“ไม่เคย” มองหนังบนจอตากะพริบปริบปริบ มองพระนางในหนังแยกกันท่ามกลางฝูงชน
ซูซีมู่เงียบไปหลายวินาที หันไปถามโล่เฟยเอ๋อข้าง ๆ “ไม่ใช่ว่าอยากดูมาตลอดเหรอ? ทำไมไม่ได้ดู?”
โล่เฟยเอ๋อหยิบคอเป็ดเข้าปาก ตอบ “คุณไม่ใช่ไม่ว่างตลอดเลย?”
เธอรอซูซีมู่ไปดู《zero》กับเธอตลอด แต่ซูซีมู่ไม่ว่างเลย โล่เฟยเอ๋อเลยไม่เคยได้ดู
ประโยคนี้ของโล่เฟยเอ๋อ ทำให้ในใจซูซีมู่ทั้งเศร้า ทั้งขมขื่น อย่างเต็มเปี่ยม
“คุณรอผมมาตลอดเลยใช่ไหม?” ซูซีมู่ถามอย่างติดจะไม่สบายใจ
โล่เฟยเอ๋อเคี้ยวคอเป็ดอย่างช้า ๆ จากนั้นไม่นานถึงตอบ “ใช่”
เธอรอมาตลอด เมื่อก่อนรอเขาตอบรับความรักของเธอที่แอบรัก ตอนนี้รอเขาสามารถซื่อสัตย์กับความสัมพันธ์ของพวกเขา….
ซูซีมู่ใจกระตุกอย่างแรง มีความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้แทบจะพุ่งออกมาจากหัวใจ
จากนั้นวินาทีต่อมา ซูซีมู่เอื้อมไปกอดโล่เฟยเอ๋อไว้ในอ้อมแขน
“ขอโทษ ทำให้รอตั้งนาน”
“ไม่เป็นไร”
“พวกเราครั้งหน้าค่อยไปดู《zero》กันดีไหม?”
“ดีค่ะ…..” สิบนิ้วประสานกัน พวกเขาหลังจากนี้ยังมีเวลา
วันต่อมาตอนเช้าซูซีมู่มีงานด่วนต้องจัดการ ไม่มีเวลาออกไปข้างนอก โล่เฟยเอ๋อดูหนังอยู่ในวิลล่าอย่างเชื่อฟัง
ดูได้ไม่นาน เธอก็เบื่อแล้ว เห็นคนรับใช้ยุ่งกันอยู่ในห้องครัว จึงตามเข้าไปที่ครัว
“คุณโล่ ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?” คนใช้ถามอย่างมีมารยาท
โล่เฟยเอ๋อชี้ไปที่หม้อข้างหน้าคนใช้แล้วบอก “ฉันอยากเรียนทำอาหาร เธอสอนฉันได้ไหม?”
คนรับใช้ยังไม่ทันได้ตอบ เสียงตกใจของหซิวหชูเฉียวก็ดังมาจากทางด้านหลังโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อเธออยากเรียนทำอาหาร?”
“ทำไม? ไม่ได้เหรอ?” โล่เฟยเอ๋อหันกลับไปตอบมองสีหน้าตกใจของหซิวหชูเฉียวอย่างไม่ชอบใจ
“ได้สิ เธอมีความสุขก็พอแล้ว” หซิวหชูเฉียวปากบอกว่าได้ แต่ตั้งมั่นในใจแล้ว จะไม่ชิมอาหารที่โล่เฟยเอ๋อทำเป็นอันขาด
ล้อเล่น คุณสามารถคาดหวังคนที่ทำเป็นแค่ต้มบะหมี่สำเร็จรูปทำอาหารไหม?
ไม่สิ เหมือนว่าก่อนหน้านี้โล่เฟยเอ๋อพัฒนาแล้ว ทำอาหารจานร้อนเป็นแล้ว
แต่ว่าอาหารจานร้อนกับปรุงอาหารเป็นสองอย่างที่ระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่พูดไม่ได้ หซิวหชูเฉียวคาดการณ์ไกลได้ดีมาก
ดูบนโต๊ะอาหารเช้า มองอาหารที่ไหม้เกรียมไม่กี่จานนั่นก็รู้แล้ว
โล่เฟยเอ๋อจ้องซูซีมู่และหซิวหชูเฉียวที่เข้าห้องอาหารมา สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “นั่นไม่ใช่ให้พวกเธอทาน…..กับข้าวพวกเธอคนใช้ไปต้มให้ใหม่แล้ว”
หซิวหชูเฉียวจุ๊ปาก เอ่ยด้วยสีหน้าเห็นใจ “เฟยเอ๋อยังดีที่บ้านคุณซูมีคนใช้ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องกินถ่านที่ทำทุกวัน”
โล่เฟยเอ๋อแก้มพองขึ้นเพราะการปลุกปั่นของหซิวหชูเฉียว ซูซีมู่เอ่ยปลอบใจ “ไม่เป็นไร ผมจะทำให้คุณทานเอง”
หซิวหชูเฉียวสีหน้าตกใจเอ่ยถาม “คุณซูทำอาหารเป็น?”
“เป็นสิ! อาหารที่เขาทำอร่อยกว่าเซฟที่ร้านอาหารทำเสียอีก” โล่เฟยเอ๋อภูมิใจเชิดคางขึ้น ราวกับว่าที่ทำอาหารเป็นคือตัวเธอเอง