งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 283
บทที่ 283 ที่แท้คนที่ทำร้ายเธอคือเห้อจิ้นเหยา
โล่เฟยเอ๋อตอบรับออกมา อืม จากนั้นหันไปพูดกับบอดี้การ์ดว่า:“นายออกไปข้างนอกก่อน ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อสักพัก”
บอดี้การ์ดลังเลเล็กน้อย“คุณหนู ให้ผมเฝ้าอยู่ที่ห้องดีกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมจะได้ดู……”
คำพูดของเขายังพูดไม่จบ ก็ถูกโล่เฟยเอ๋อพูดแทรกขึ้นก่อน“ฉันจะเกิดเรื่องอะไรได้ ?ฉันก็แค่นั่งเป็นเพื่อนพ่อสักพัก”
“ครับ คุณหนู”บอดี้การ์ดพยักหน้า แล้วออกไปจากห้อง
โล่เฟยเอ๋อยังไม่สงสัยเห้อจิ้นเหยา อีกอย่างโล่ชิงไป๋ก็พูดไม่ได้ เป็นขยะที่ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาไม่ต้องกังวล กับการที่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันลำพัง
หลังจากที่บอดี้การ์ดเดินออกไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง
“พ่อ พ่อบอกกับหนู่หน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น?คุณป้าเหยาบอกว่าซูซีมู่เป็นคนทำให้พ่อกลายเป็นอัมพาต อีกเรื่องหนึ่งทำไมคุณป้าเหยาต้องตีหนูให้สลบ แล้วให้คุณหมอฉีดยานอนหลับให้หนูด้วย?”
เมื่อโล่ชิงไป๋ได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ น้ำตาไหลออกมาทันที
มันเป็นความผิดของเขา เขาเป็นคนทำร้ายลูกสาวของเขาเอง
แต่โชคดีที่เฟยเอ๋อไม่ได้เป็นอะไร เขาไม่ได้ทำผิดพลาดมากจนไม่สามารถแก้ไขได้
โล่ชิงไป๋ยกมือขวาของเขาขึ้นอย่างสุดแรง แล้วกวักมือให้โล่เฟยเอ๋อมาหา
ที่แท้โล่ชิงไป๋เป็นอัมพาตที่ซีกซ้าย ร่างกายซีกขวายังมีความรู้สึกอยู่ เพียงแต่ถูกเห้อจิ้นเหยาเพิกเฉยมาโดยตลอดเท่านั้นเอง
โล่เฟยเอ๋อตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นถามออกมาด้วยความงุนงงว่า“พ่อ พ่อจะให้หนูเข้าไปหาใช่ไหม?”
โล่ชิงไป๋พูดไม่ได้ ได้แต่พยักหน้าออกมาอย่างยากลำบาก
โล่เฟยเอ๋อเหลือบไปมองที่ประตูห้อง แล้วควบคุมรถเข็น เพื่อขยับรถเข้าไปหาโล่ชิงไป๋
“อา……”โล่ชิงไป๋พูดกับโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็ยื่นมือขวาไปหาเธอ
โล่เฟยเอ๋อรีบยื่นมือออกไปหาโดยอัตโนมัติ แล้วจับมือของโล่ชิงไป๋ไว้
โล่ชิงไป๋ไม่ได้จับมือของโล่เฟยเอ๋อกลับ แต่พยายามพลิกมือของโล่เฟยเอ๋อให้แบออก
โล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไร ปล่อยมือของเขาออกแล้วถามขึ้นว่า“พ่อ พ่อจะทำอะไร……”
เธอยังถามไม่จบ โล่ชิงไป๋ได้เริ่มเขียนตัวหนังสือ ลงบนฝ่ามือของเธออย่างช้าๆ
“อย่าไว้ใจเห้อจิ้นเหยา เธอจะทำร้ายหนู”
ถึงแม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะสงสัยเรื่องนี้มาก่อนบ้างแล้ว แต่เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณป้าเหยาที่ปฏิบัติกับเธออย่างดีและดีกว่าลูกสาวแท้ๆของเธอเองมาตั้งแต่เด็กจะคิดร้ายกับเธอได้
แต่ตัวหนังสือที่โล่ชิงไป๋เขียนบนฝ่ามือถือ ทำให้เธอไม่เชื่อไม่ได้
“พ่อ เราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?”
เธอกับพ่อสองคน คนหนึ่งอัมพาต ส่วนอีกคนก็ถูกเห้อจิ้นเหยาฉีดยานอนหลับมาสองวัน
ยังมีบอดี้การ์ดอีกสองคนของเห้อจิ้นเหยา เฝ้าอยู่ข้างนอก โล่เฟยเอ๋อไม่รู้จริงๆว่าจะหนีออกไปยังไง
โล่ชิงไป๋เขียนตัวหนังสือไว้ในฝ่ามือของโล่เฟยเอ๋ออีกครั้ง:“หนูคิดหาวิธีหนีออกไปจากโรงพยาบาล”
“ให้หนูหนีไปคนเดียวเหรอ?ไม่ได้ หนูจะปล่อยให้พ่ออยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้”โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว เธอทำไม่ได้ที่จะปล่อยให้พ่ออยู่ที่นี่คนเดียว
“ไป หนูไป”สายตาของโล่ชิงไป๋มั่งคงแน่วแน่มาก
ในเมื่อเขาอยู่ในสภาพนี้แล้ว เขาแค่อยากปกป้องโล่เฟยเอ๋อ
อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่โล่เฟยเอ๋อจะเชื่อฟังโล่ชิงไป๋?
“พ่อ ไม่รีบ หนูคิดหาวิธีก่อน……มันต้องมีวิธีแน่……”
จู่ๆโล่เฟยเอ๋อก็นึกถึงซูซีมู่ขึ้นมา ดวงตาของเธอสดใสขึ้นทันที“ใช่แล้ว ฉันโทรศัพท์ให้ซูซีมู่ เขาต้องรับเราสองคนออกไปจากที่นี่ได้แน่นอน……”
แต่ทันใดนั้นโล่เฟยเอ๋อก็นึกขึ้นได้โทรศัพท์ของเธอได้หายไปแล้ว
เธอไม่มีโทรศัพท์ โล่ชิงไป๋ก็ไม่มี บอดี้การ์ดเฝ้าพวกเขาอยู่ แล้วเธอจะโทรศัพท์หาซูซีมู่ได้ยังไง
บางทีสามารถยืมโทรศัพท์กับคนอื่นได้ แต่ที่สำคัญคือเธอจะทำยังไงให้รอดจากสายตาของบอดี้การ์ด……
เมื่อมีแผนการแล้ว โล่เฟยเอ๋อจึงออกไปจากห้องของโล่ชิงไป๋ กลับไปที่ห้องของตัวเอง
เหมือนอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ หนึ่งในบอดี้การ์ดนั้นยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องของเธอ
โล่เฟยเอ๋อปิดประตูห้องเสร็จ จากนั้นก็บังคับรถเข็นเข้าไปในห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำสะอาดมาก ไม่มีสิ่งของอะไรที่สามารถใช้ได้เลย
โล่เฟยเอ๋อจึงกลับไปที่ห้อง แล้วมองไปรอบๆห้อง จากนั้นมองเห็นที่แขวนสเตนเลสที่ใช้แขวนน้ำเกลือโดยเฉพาะอยู่มุมห้อง
โล่เฟยเอ๋อหยิบที่แขวนสเตนเลส และดันมันเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นเริ่มจัดการกับก๊อกน้ำในห้องน้ำ
ใช่แล้ว เธอต้องการทำลายก๊อกน้ำให้เสียหาย แล้วล่อบอดี้การ์ดเข้ามา จากนั้นค่อยไปยืมโทรศัพท์กับคนอื่น
จัดการอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก๊อกน้ำก็ถูกโล่เฟยเอ๋อทำลายเสียหายจนได้ น้ำไหลออกมาจากก๊อกน้ำ พ่นใส่โล่เฟยเอ๋อจนเปียกน้ำไปทั้งตัว จากนั้นเธอควบคุมรถเข็นและดันที่แขวนสเตนเลสให้ไปอยู่ที่เดิม เสร็จแล้วเธอบังคับรถเข็นให้พาเธอเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วเธอก็กรีดร้องออกมา“อ้า……”
เสียงกรีดร้องของโล่เฟยเอ๋อที่ส่งเสียงออกมา มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากข้างนอก จากนั้นก็ได้ยินเสียงบอดี้การ์ดร้องออกมา
“คุณหนู……”
“ฉันอยู่ในห้องน้ำ” โล่เฟยเอ๋อขานตอบออกมา
บอดี้การ์ดเข้ามาถึงห้องน้ำอย่างรวดเร็ว และตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อถูกน้ำในก๊อกน้ำพ่นใส่และเปียกอย่างทุลักทุเล
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างไม่พอใจออกมา:“นายยืนงงอยู่ทำไม?ยังไม่รีบมาช่วยฉันซ่อมก๊อกน้ำอีก?”
“คุณหนู อันนี้มัน……”บอดี้การ์ดมีความลังเลเล็กน้อย
โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยความโมโหออกมา:“อันนี้มันอะไร?เร็วเข้า!”
บอดี้การ์ดตะลึงไปสักพัก พยักหน้าแล้วเข้าไปในห้องน้ำ
มีแสงแวบผ่านเข้ามาในสายตาของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นเธอดึงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่แล้วพูดขึ้นว่า:“ เสื้อผ้าของฉันเปียกหมดแล้ว ฉันขอไปเปลี่ยนก่อน นายอย่าเพิ่งออกมานะ”
บอดี้การ์ดเห็นโล่เฟยเอ๋อเปียกไปทั้งตัว จึงไม่คิดอะไรมาก พยักหน้าตอบตกลง
เมื่อเห็นประตูห้องน้ำปิดสนิทเรียบร้อยแล้ว โล่เฟยเอ๋อรีบดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากรถเข็น จากนั้นพาร่างกายที่อ่อนแรง เดินออกไปจากห้อง
แรงเสียดสีของรถเข็นดังเกินไป เธอกังวลว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ในห้องน้ำจะได้ยิน
โล่เฟยเอ๋อดึงประตูห้องออก และหันไปมองห้องพ่อที่อยู่ข้างๆ
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกโล่งใจ เพราะบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ข้างนอกไม่อยู่ จากนั้นเธอก็จับพิงกำแพงอย่างลำบาก ไปที่ห้องอื่นเพื่อขอยืมโทรศัพท์
ปรากฏเดินไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินคนร้องออกมา“อี คุณโล่ คุณออกมาทำไมเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อได้ยินมีคนเรียกเธอ หันกลับด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอเห็นคนที่เรียกเธอคือพยาบาลที่อยู่ห้องเธอก่อนหน้านี้ จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“คุณพยาบาล คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”
“ช่วยอะไรเหรอ?คุณโล่คุณพูดออกมาเลย”
โล่เฟยเอ๋อมองไปห้องด้านหลังที่อยู่ไกลจากเธอไม่มากนั้น จากนั้นพูดข้อร้องออกมากับพยาบาลว่า:“คุณพยาบาล คุณช่วยหาสถานที่ที่มิดชิดให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
ถึงแม้ว่าคุณพยาบาลจะไม่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อต้องการจะทำอะไร แต่ก็ตอบตกลงออกมา “ได้”
หลังจากนั้นคุณพยาบาลพาโล่เฟยเอ๋อมาถึงห้องทำงานของเธอ“คุณโล่ ที่นี่เป็นที่ทำงานของพวกเรา มิดชิดมาก”
“ขอบคุณมาก”โล่เฟยเอ๋อพูดขอบคุณพยาบาล แล้วถามว่า“คุณพยาบาล คุณช่วยยืมโทรศัพท์ของคุณให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
ตอนแรกคุณพยายาลตกใจเล็กน้อย แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ายื่นให้แก่โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อรับโทรศัพท์มา แล้วกดเบอร์ของซูซีมู่โทรออกอย่างรวดเร็ว