งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 284
บทที่ 284 ความรักได้เดินไปไกลแล้ว
โล่เฟยเอ๋อรับมือถือมา แล้วกดเบอร์ของซูซีมู่โทรออกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามมีเพียงเสียงสัญญาณตอบกลับอัตโนมัติของโทรศัพท์“เรียนคุณลูกค้าที่เคารพ หมายเลขที่ท่านเรียกได้ปิดเครื่องลงแล้ว กรุณาโทรใหม่อีกครั้ง”
ปิดเครื่อง?โทรศัพท์ของซูซีมู่ทำไมถึงปิดเครื่อง?โล่เฟยเอ๋อขมวคิ้วเข้าหากัน แล้วโทรออกอีกครั้ง
ยังคงได้ยินแต่เพียงเสียงสัญญาณตอบกลับอัตโนมัติว่าปิดเครื่องแล้วจากโทรศัพท์
หรือว่าโทรศัพท์ของซูซีมู่แบตหมด?
เนื่องจากโล่เฟยเอ๋อจำได้แต่เบอร์โทรศัพท์ของซูซีมู่ และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อซูซีมู่ได้ โล่เฟยเอ๋อได้พิจารณาแล้วว่าบอดี้การ์ดที่เห้อจิ้นเหยาจัดวางไว้คงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ ดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจก่อน
เมื่อโทรศัพท์เสร็จ โล่เฟยเอ๋อยื่นโทรศัพท์คืนให้คุณพยาบาล
“ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์ค่ะ ตอนนี้คุณสามารถส่งฉันไปห้องของคุณพ่อได้ไหมคะ?”
คุณพยาบาลได้ยินอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหาที่โล่เฟยเอ๋อโทรแจ้งตำรวจ เข้าใจแล้วว่าโล่เฟยเอ๋อกับโล่ชิงไป๋ถูกควบคุมโดยบอดี้การ์ดสองคนที่คุณนายโล่จัดวางไว้
ตอนแรกเธอคิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะรอที่ออฟฟิศพนักงานจนกว่าตำรวจจะมา นึกไม่ถึงว่า โล่เฟยเอ๋อจะไปห้องของโล่ชิงไป๋ก่อนที่ตำรวจจะมาถึง
“คุณโล่ คุณรอให้ตำรวจมาถึงก่อนค่อยกลับห้องจะดีกว่า”
“ไม่ได้ ฉันต้องกลับไป ถ้าฉันไม่กลับไป กลัวว่าบอดี้การ์ดสองคนนั้นจะทำร้ายคุณพ่อฉัน”โล่เฟยเอ๋อฝืนยิ้มตอบออกมา
คุณพยาบาลรู้ว่าคำพูดของโล่เฟยเอ๋อนั้นมีเหตุผล จึงไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้โล่เฟยเอ๋ออยู่ต่อ
เธอจึงไปหารถเข็นมาให้โล่เฟยเอ๋อ แล้วให้โล่เฟยเอ๋อขึ้นไปนั่งที่รถเข็น จากนั้นเธอจึงเข็นโล่เฟยเอ๋อไปที่ห้องของโล่ชิงไป๋
เมื่อเข้าไปในห้อง เป็นไปตามอย่างที่คิดไว้จริงๆบอดี้การ์ดทั้งสองคนอยู่ที่ห้องโล่ชิงไป๋
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อถูกพยาบาลเข็นเข้ามา สีหน้าของทั้งสองต่างรู้สึกแปลกใจ
“คุณหนู คุณกลับมาแล้ว?”
โล่เฟยเอ๋อตอบกลับอย่างไร้อารมณ์บนสีหน้า“ถ้าฉันไม่กลับมา พวกนายเตรียมจะทำอะไรพ่อฉันเหรอ?”
ในเมื่อเรื่องมันเดินมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีก เปิดอกคุยกันเลย
เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดออกมาแบบนั้น บอดี้การ์ดรู้เลยว่าโล่เฟยเอ๋อได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เห้อจิ้นเหยาทำแล้ว ฝืนยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างลำบากใจว่า“คุณหนู พวกเราแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า“ฉันรู้แล้ว ฉันได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว และตำรวจก็จะมาถึงที่นี่ในเร็วๆนี้”
เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองได้ยินว่าโล่เฟยเอ๋อได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว สีหน้าของทั้งสองตกใจมาก“คุณหนู คุณเคยคิดถึงผลของการทำเช่นนี้หรือไม่?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบคำถามของบอดี้การ์ด แต่ถามออกไปว่า“พวกนายทำงานตามคำสั่งของเห้อจิ้นเหยาเท่านั้นเอง เรื่องพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนาย พวกนายจะยอมติดคุก เพื่อเห้อจิ้นเหยาเหรอ?”
บอดี้การ์ดส่ายหัวพร้อมกัน“พวกเราไม่อยาก แต่ว่า……”
คำพูดพวกเขายังพูดไม่ทันจบ โล่เฟยเอ๋อก็พูดแทรกพวกเขาขึ้นมาก่อน
“ถ้าพวกนายไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ฉันจะถือว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋ออยากให้ตำรวจจับกุมบอดี้การ์ดทั้งสองคนให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตอนนี้โล่ชิงไป๋อยู่ในมือพวกเขา เธอไม่กล้าเอาชีวิตของโล่ชิงไป๋เป็นเดิมพัน
เมื่อได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ บอดี้การ์ดทั้งสองมองหน้ากัน และหนึ่งในบอดี้การ์ดพูดออกมาว่า“คุณหนูรับปากได้ไหมว่าตำรวจจะไม่มาหาเรื่องพวกผม?”
“ถ้าพวกนายออกไปแล้ว ฉันก็จะให้ตำรวจยกเลิกคดีให้เอง”โล่เฟยเอ๋อตอบออกมาทันที
สายตาของบอดี้การ์ดใสขึ้นมาทันที “คุณหนูพูดแล้วต้องทำตามอย่างที่พูดนะ?”
“แน่นอน”โล่เฟยเอ๋อก็ไม่อิดออดอะไร พยักหน้ารับปาก
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณคุณหนูมากๆ ”บอดี้การ์ดทั้งสองก้มขอบคุณออกมาพร้อมกัน จากนั้นออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาออกมาไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อรีบเข้าไปดูโล่ชิงไป๋“พ่อ พ่อไม่เป็นไรใช่ไหม”
โล่ชิงไป๋ส่ายหัว ส่งสัญญาณให้เธอว่าไม่เป็นอะไร
แต่โล่เฟยเอ๋อก็ไม่สบายใจอยู่ดี เธอจึงตามหมอมาตรวจร่างกายให้โล่ชิงไป๋อีกครั้ง จนแน่ใจว่าโล่ชิงไป๋ไม่เป็นอะไร เธอจึงสบายใจได้ในที่สุด
หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็มาถึง โล่เฟยเอ๋อทำตามที่สัญญาไว้ก่อนหน้านั้น ให้ตำรวจยกเลิกคดีของทั้งสองคนทิ้ง เหลือไว้แค่คดีของเห้อจิ้นเหยา
เมื่อจัดการธุระทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ก็ดึกมากแล้ว
เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีเสื้อผ้าอย่างอื่น โล่เฟยเอ๋อที่เปลี่ยนชุดผู้ป่วยชุดใหม่แล้วนั่งลงข้างๆเตียงของโล่ชิงไป๋ “พ่อ หนูเข้าใจซูซีมู่ผิดไปแล้ว หนูจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้”
ก่อนหน้านี้เธอเข้าใจซูซีมู่ผิด ไม่ฟังซูซีมู่อธิบายและตัดสายทิ้ง หลังจากนั้นถูกเห้อจิ้นเหยาฉีดยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลาสองวัน และไม่ได้ติดต่อกับเธอ
และเมื่อกี้เธอโทรศัพท์หาซูซีมู่ ได้ปิดเครื่องไปแล้ว
โล่เฟยเอ๋อยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกเป็นกังวล
โล่เฟยเอ๋อจะไปหาซูซีมู่โล่ชิงไป๋ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันดึกมากแล้ว บวกกับอาการของโล่เฟยเอ๋อยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นเขาไม่เห็นด้วยที่โล่เฟยเอ๋อจะไปตอนนี้
โล่ชิงไป๋เขียนตัวหนังสือลงบนฝ่ามือของโล่เฟยเอ๋อ:เฟยเอ๋อ ตอนนี้ดึกมากแล้ว อีกอย่างร่างกายของหนูยังไม่หายดี พรุ่งนี้ค่อยไปหาซูซีมู่ดีกว่า
“ไม่ได้ หนูต้องไปตอนนี้”โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว
โล่ชิงไป๋จ้องมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ แล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงพยักหน้าตอบตกลง
“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อค่ะ หลังจากที่หนูอธิบายกับซูซีมู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่อยกลับมาดูพ่อนะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วดันตัวเองให้ลุกจากรถเข็น จากนั้นค่อยๆเดินออกไปจากห้อง
เมื่อโล่เฟยเอ๋อเดินไปถึงหน้าประตูโรงพยาบาล ก็เหนื่อยแทบจะไม่มีแรงแล้ว
เวลานี้ดึกมากแล้ว บนถนนไม่ค่อยมีรถมากนัก
โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่ข้างถนน และยืนพิงต้นไม้ข้างทาง ยืนรอไปสักพัก ถึงมีแท็กซี่ขับผ่านมาหนึ่งคัน
โล่เฟยเอ๋อพยายามอย่างหนักกว่าจะยกมือขึ้นได้ แล้วโบกรถให้จอดรับ
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว แจ้งชื่อวิลล่าที่ซูซีมู่อาศัยอยู่ออกมา
วิลล่าที่ซูซีมู่พักอาศัยอยู่นั้นเป็นวิลล่าราคาแพงที่สุดในเมืองหลวง A โล่เฟยเอ๋อมาขึ้นรถกลางดึก แถมยังสวมใส่ชุดคนไข้อยู่ ดูยังไงก็ไม่ปรกติ คนขับแท็กซี่คิดในใจว่าลูกค้าคนนี้ต้องล้อเล่นกับเขาแน่ๆ
“คุณผู้หญิง คุณไม่ได้จำที่อยู่ผิดนะ?”
โล่เฟยเอ๋อตะลึงไปสักพัก จึงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองยังสวมเสื้อผู้ป่วยอยู่ เธอเงียบไปหลายวินาที แล้วหยิบแบงค์ใหญ่สองสามใบออกมาจากกระเป๋ายื่นไปให้คนขับ“พี่โชเฟอร์ รบกวนพี่เร็วหน่อย”
เมื่อเห็นลูกค้าให้เงินแล้ว แถมให้เยอะอีกต่างหาก โชเฟอร์จึงไม่ถามเยอะอีก สตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าออกไปยังวิลล่า
เมื่อโล่เฟยเอ๋อถึงวิลล่าแล้ว ไม่ได้รบกวนคนอื่น กดรหัสประตูแล้วเข้าไปข้างในเอง
เธอเปิดไฟ แล้วค่อยๆย่องขึ้นไปชั้นบนเบาๆ
จากนั้นค่อยๆเปิดประตูห้องนอนออก หลังจากที่กลับมาจากอ่าวโป๋ไห่แล้ว เธอและซูซีมู่ก็นอนด้วยกันที่ห้องนอนนี้มาตลอด
ภายในห้องมืดสนิท ไม่มีแสงเลยแม้แต่น้อย
โล่เฟยเอ๋อคิ้วขมวดเข้าหากัน แล้วเปิดไฟออก
บนเตียงนอนไม่มีใครนอนอยู่ การจัดเก็บภายในห้อง ก็ยังเหมือนเดิมเหมือนกันกับวันนั้นที่เธอออกไป
บนโต๊ะทำงานมีเอกสารหลายฉบับของซูซีมู่วางอยู่ บนโซฟายังวางแท็บเล็ตของเธอที่ใช้สำหรับดูทีวีไว้อยู่เลย
เช้าวันนั้นข้อความที่ซูซีมู่เขียนในกระดาษโน๊ตให้เธอยังวางไว้ในลิ้นชักหัวเตียงอยู่เลย
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่โล่เฟยเอ๋อกลับลุกลนอย่างอธิบายไม่ถูก
จากนั้นเธอก็รีบหันกลับและเดินออกจากห้องนอน แล้วไปยังห้องที่ซูซีมู่อาศัยอยู่ก่อนหน้านั้น