งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 30
บทที่ 30 โล่เฟยเอ๋อเป็นแพะรับบาป
“โอเค” โล่เฟยเอ๋อตะโกนกลับไป จากนั้นก็หันไปทางซูซีมู่ “หัวหน้ากลุ่มเรียกฉัน … ”
“ผมรอคุณ” ซูซีมู่พูด
“ได้” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็มองทีรามิสุที่อยู่ในมือ “แล้วอันนี้ …”
“ผมถือไว้ให้คุณ” ซูซีมู่ยกมือขึ้นรับเอาเค้กมาจากมือโล่เฟยเอ๋อ “ผมไปรอคุณข้างล่าง”
“อื้อ!” โล่เฟยเอ๋อตอบรับอย่างดีใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน
“พี่หลิน พี่เรียกฉัน?” โล่เฟยเอ๋อถาม
หลินยี่ทสีหน้าไม่ค่อยดีนักหันไปพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “โล่เฟยเอ๋อ เธอมากับฉัน”
โล่เฟยเอ๋อมีสีหน้ามึนงง วันนี้เธอน่าจะไม่ได้ทำอะไรให้หลินยี่ไม่พอใจนะ
สงสัยอยู่แวบหนึ่ง โล่เฟยเอ๋อก็เดินตามไป
หลินยี่พาโล่เฟยเอ๋อเข้ามาที่ห้องของหัวหน้าแผนก “หัวหน้า มาแล้วค่ะ”
หัวหน้าส่งเสียงอึม พลางมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ “แบบร่างนี้เธอเป็นคนวาด?”
“แบบร่างอะไร?” โล่เฟยเอ๋อแสดงสีหน้างงงวย
หลินยี่มองไปทางเธอแวบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยปากพูด “หัวหน้าถามว่า นี่เป็นตัวอย่างที่ฉันให้เธอ”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สงสัยอะไร มองไปทางหัวหน้าและพยักหน้า “ใช่ พี่หลินให้ฉันเป็นตัวอย่าง”
หัวหน้าเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อยอมรับแล้วสีหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธ “เป็นผลงานที่รุ่นพี่ให้เธอเป็นตัวอย่าง ดังนั้นเธอก็เลยลอกผลงาน? เป็นถึงนักออกแบบจิวเวอรี่ รู้จักลอกผลงานแล้วรู้ผลที่จะตามมาหรือไม่?”
“เธอรู้มั้ยวันนี้เป็นวันเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทดี้ก้วน แต่เป็นเพราะการลอกผลงานของเธอ ทำให้ทุกอย่างพังหมด?”
“ลอกผลงานอะไร? งานเปิดตัวสินค้าใหม่อะไร?” โล่เฟยเอ๋อถามหัวหน้าด้วยความสงสัย
แต่กลับถูกหลินยี่พูดแทรกขึ้นมาก่อน “หัวหน้า เป็นความผิดฉันเอง กล้าเอาคนแบบนี้มาเป็นลูกน้อง… ”
“ปัญหาของเธอ เดี๋ยวค่อยว่ากัน” หัวหน้าตัดบทของหลินยี่ จากนั้นก็หันมาพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “เพราะเธอลอกผลงานทำให้บริษัทเสียหายอย่างมาก บริษัทตัดสินใจว่าจะไล่เธอออก”
“ฉันไม่ได้ลอกงานใคร” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า
หัวหน้าเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ยอมรับ ก็โมโหมากกว่าเดิม “ตอนแรกเธอยอมรับออกมาเอง แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธ?”
“ฉันพูดแล้วว่าฉันไม่ได้ลอก และฉันก็จะไม่มีวันยอมรับว่าฉันลอกผลงาน” โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
“ไม่ใช่ลอกแบบ? งั้นรูปออกแบบนั้นคืออะไร?” หัวหน้าโยนกระดาษออกแบบไปบนตัวเธอ
โล่เฟยเอ๋อจ้องไปที่กระดาษใบนั้นที่เธอไม่ใช่คนวาด “แบบร่างนี้ก็ไม่ใช่ฉันเป็นคนวาด… ”
กลับถูกหลินยี่ตัดบทอีกครั้ง “โล่เฟยเอ๋อ แบบร่างแผ่นนี้ เป็นผลงานที่เธอส่งให้ฉัน”
โล่เฟยเอ๋อตาแดงกร่ำหันไปพูดกับหลินยี่ “พี่หลิน พี่บอกหัวหน้า นี่ไม่ใช่แบบที่ฉันส่งให้พี่ ไม่ใช่ฉัน”
หลินยี่ทำสีหน้าเย็นชาพลางพูด “โล่เฟยเอ๋อ นี่เป็นแบบร่างที่เธอส่งให้ฉัน นี่คือตัวอย่างที่ฉันเอาให้เธอ … ”
“พี่หลิน เป็นพี่!” โล่เฟยเอ๋อหันไปทางหลินยี่
หลินยี่พูดออกมาเสียงเบา “โล่เฟยเอ๋อ พยาน หลักฐาน มันชี้ว่าเป็นเธอ”
“พี่… ” โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันได้พูดอะไร หัวหน้าก็หมดความอดทนโบกมือไปมา “ไปเรียก รปภ. เข้ามา เอาเธอออกไป”
สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อก็ถูกจับโยนออกมาจากบริษัทดี้ก้วน
ซูซีมู่ที่รออยู่ใต้ตึก รอแล้วรออีกยังไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ ก็ย้อนขึ้นไปแผนกออกแบบ
เพิ่งจะเดินไปถึงประตูใหญ่ของแผนก ก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ถกเถียงกันเรื่องโล่เฟยเอ๋อลอกผลงานอะไรสักอย่าง
ซูซีมู่ขมวดคิ้วจากนั้นก็เคาะประตู
ทุกคนหันมามองที่เขา เห็นผู้ชายหล่อเหลายืนอยู่หน้าประตู สายตาก็เป็นประกาย
“ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ?”
ซูซีมู่ถามด้วยความสุภาพ “ผมมาหาโล่เฟยเอ๋อ ไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ห้องทำงานมั้ย?”
“โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ทำงานที่บริษัทเราแล้ว”
ไม่ได้ทำงานอยู่ที่บริษัทดี้ก้วน? เมื่อครู่ยังดีดีอยู่เลย? ซูซีมู่ขมวดคิ้วแล้วถามอีกครั้ง “ทำไมเธอถึงไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว?”
“โล่เฟยเอ๋อลอกผลงานออกแบบ ทำให้งานเปิดตัวสินค้าใหม่เสียหาย ทางบริษัทเลยตัดสินใจไล่เธอออก”
โล่เฟยเอ๋อคัดลอกผลงาน? งานเปิดตัวสินค้าใหม่ล่ม? ซูซีมู่ขมวดคิ้ว ขอบคุณเพื่อนร่วมงานของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็หมุนตัวออกจากแผนก
เมื่ออกมาแล้วเขาก็โทรหาโจวเฉิงทันที เขาต้องการรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเปิดตัวสินค้าใหม่
โจวเฉิงได้ยินประธาณซูถามเรื่องนี้ขึ้นมา ตัวเขาก็ร่นไปหมด
พระเจ้า เขายังไม่ทันได้รายงาน ทำไมประธาณซูถึงได้รู้เรื่องงานเปิดตัวสินค้ามีปัญหา?
“เกิดเรื่องที่งานเปิดตัวสินค้า คุณไม่รู้?” ซูซีมู่กดเสียงต่ำเย็นชาจนถึงที่สุด ถึงแม้จะอยู่ในสายแต่โจวเฉิงก็อดไม่ที่จะตัวสั่น
“ประธาณซู ผมจัดการแล้วครับ ผลการตรวจสอบก็ได้มาแล้ว กำลังจะรายงานให้นายทราบครับ”
ซูซีมู่รู้อยู่แล้วว่าผลคืออะไร แต่ก็จงใจถาม “ตรวจสอบพบว่ายังไง?”
ทั้งทั้งที่เสียงของประธาณซูนั้นก็เหมือนปกติ แต่มือที่จับโทรศัพท์อยู่ของโจวเฉิงนั้นกลับสั่นไม่หยุด เขาหยิบเอาผลตรวจสอบที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทดี้ก้วนให้มานั้นอ่านให้ซูซีมู่ฟัง “พบนักออกแบบที่ลอกผลงานคนนั้นแล้ว เป็นแผนกออกแบบกลุ่มเอ … โล่เฟยเอ๋อ …”
เมื่อเห็นชื่อ “โล่เฟยเอ๋อ” บนกระดาษ โจวเฉิงก็สมองเบลอไปทันที
ให้ตาย กลายเป็นเรื่องไปหยุดอยู่ที่คุณโล่
เดี๋ยวก่อน ประธาณซูมาที่บริษัทดี้ก้วน ตั้งใจซื้อเค้ก หรือว่าไปหาคุณโล่?
(โจวเฉิง ไม่รู้สึกบ้างเหรอว่าคุณจับใจความสำคัญผิดประเด็น?)
“ฉันต้องการผล ก่อนฟ้ามืด” ซูซีมู่พูดจบก็ตัดสายทิ้งไป
โจวเฉิงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง
เขาหันไปมองทางผู้บริหารระดับสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา “นี่คือผลที่พวกคุณเอาให้ผม?”
“ผู้ช่วยโจว นี่เป็นการตรวจสอบ … ” ผู้บริหารระดับสูงยังไม่ทันได้พูดจบ โจวเฉิงก็ตัดบทเขา
“ผลการตรวจสอบ? คือหาแพะรับบาปให้ผม นี่เรียกว่าผลการตรวจสอบมั้ย?” โจวเฉิงเอาเอกสารในมือสะบัดใส่พวกเขา “เอาทุกคนที่เกี่ยวข้องมาที่นี่ ผมจะตรวจสอบเอง”
ผู้บริหารระดับสูงทั้งหลายได้ยินแบบนั้นก็ยืนงง
ผู้ช่วยข้างกายของประธาณซูจะตรวจสอบด้วยตนเอง?
พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าในใจของเขาลำบากแค่ไหน? ประธาณซูพูดแล้วว่าจะเอาผลก่อนฟ้ามืด จะไม่ให้เขาตรวจสอบเองงั้นหรือ? อีกอย่างเรื่องนี้ดันไปเกี่ยวข้องกับโล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่วางสายจากโจวเฉิง ก็โทรหาโล่เฟยเอ๋อ
โทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อดังอยู่อย่างนั้น แต่ไม่มีคนรับ
ซูซีมู่ร้อนรนถึงที่สุด โทรหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ยังส่งข้อความด้วย
ก็ไม่รู้ว่าโทรไปกี่สาย แต่ในที่สุดก็มีใครรับแล้ว
“ฮาโหล… ”
ได้ยินเสียงของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ก็ดีใจจนเสียงสั่น “คุณอยู่ไหน?”
“ฉัน … “ เสียงของโล่เฟยเอ๋อหายไปสักพัก “ฉันอยู่ข้างนอก”
“ข้างนอกไหน?” ซูซีมู่เดินออกมาข้างนอก
“ฉันอยู่ที่ทะเลสาบเย่ว” เสียงของโล่เฟยเอ๋อนั้นขึ้นจมูกอย่างชัดเจน
ทะเลสาบเย่ว? ซูซีมู่หลุบตาลงต่ำ จากนั้นก็พูดไปว่า “คุณรอผมอยู่ตรงนั้น อย่าไปไหน”
โล่เฟยเอ๋อเงียบไปครู่ใหญ่ถึงจะตอบกลับมาหนึ่งคำ “ได้