งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 305
บทที่ 305 ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อรอซูซีมู่อยู่ที่ด้านนอกคลับส่วนตัว ภายในคลับส่วนตัว ส้ายหลินน่าก็กำลังพูดถึงเธอ
“ซู คุณใจดำเกินไปแล้ว! เธอตามคุณมาตั้งแต่จัตุรัสว็องโดมจนถึงที่นี่ คุณยังปล่อยเธอถูกขวางอยู่ข้างนอก”
สีหน้าท่าทางซูซีมู่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มองเอกสารในมือด้วยท่าทางจริงจัง
แต่ชายชาวฝรั่งเศสที่นั่งอยู่กับพวกเขากลับถามขึ้นอย่างสนใจ “ใครตามซูมาตั้งแต่จัตุรัสว็องโดมจนถึงที่นี่?”
“สาวสวยชาวจีนคนหนึ่ง เพื่อตามซู เธอเกือบถูกรถชนเข้าแล้ว” ส้ายหลินน่าตอบอย่างยิ้ม ๆ
ชายชาวฝรั่งเศสได้ยินที่ส้ายหลินน่าบอก แปลกใจในตอนแรก แล้วพูดด้วยสีหน้าเสียใจ “หา บ้าบิ่นขนาดนั้นเลย! เสียดายที่ซูเฉยเมยกับผู้หญิงมาตลอด น่าสงสาร!”
“ไม่ใช่น่าสงสารหรอก” ส้ายหลินน่าขยิบตา จากนั้นพูดอย่างมีเลศนัย: “ซูเพื่อที่จะทำให้เธอเข้าใจผิด ถึงกับให้ฉันจูงมือเขา”
รู้จักกับซูซีมู่มาหลายปี รู้อยู่แล้วว่าซูซีมู่ไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้เขาแค่ไหน
แม้ส้ายหลินน่ารู้จักเขามาหลายปี แต่ยังเข้าใกล้เขาได้ยาก
จูงมือเขา ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เพื่อที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเข้าใจผิด จงใจให้ส้ายหลินน่าจูงมือเขา หมายความว่าซูซีมู่สนใจผู้หญิงคนนั้น
ชายชาวฝรั่งเศสตาเป็นประกาย จากนั้นหันไปมองซูซีมู่ “ซู ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน? คิดไม่ถึงว่าคุณสนใจขนาดนี้?”
ซูซีมู่ที่กำลังพลิกเอกสารชะงักไป จากนั้นทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน พลิกเอกสารในมือต่อด้วยสีหน้าเฉยเมย
ส้ายหลินน่าเห็นท่าทีทั้งหมดของซูซีมู่ เธอขยิบตาให้ชายชาวฝรั่งเศส จากนั้นเดินไปที่หน้าต่าง มองไปข้างนอก จากนั้นก็อุทาน: “โอ๊ะ เธอยังรออยู่ที่ด้านนอกนี่”
ซูซีมู่นิ้วที่กำลังพลิกเอกสารสั่นเบา ๆ แม้สายตาจะยังจ้องอยู่บนเอกสาร แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีมองเนื้อหาทั้งหมด ที่จริงแล้ว ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้สิบกว่านาที เขาไม่ได้อ่านเลยสักคำ
ใบหน้าซูซีมู่ปรากฏให้เห็นร่องรอยเย้ยหยันตัวเอง เขามันเกินเยียวยาแล้ว! โดนเธอทำร้ายจนเจ็บลึกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะยังสนใจเธอ
ยังติดตามเธอ จากจีนถึงสวิตเซอร์แลนด์ จากสวิตเซอร์แลนด์ถึงฝรั่งเศส…..
ตอนที่ซูซีมู่ใจลอยอยู่นั้น เสียงส้ายหลินน่าก็ลอยมาจากนั้นอีกครั้ง “โอ๊ะ ฝนตกแล้ว!”
ประโยคนี้ ในที่สุดกระทบเส้นประสาทของซูซีมู่ เขาหันกลับมาแล้วมองไปทางหน้าต่าง
แม้ไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ด้านนอก แต่เห็นเม็ดฝนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ชัดเจน
นึกถึงที่ส้ายหลินน่าบอก โล่เฟยเอ๋อรอเขาอยู่ข้างนอก ฝนก็ไม่หลบซูซีมู่ก็เริ่มร้อนใจ
มือที่จับเอกสาร ออกแรงเพิ่มขึ้น
แล้วส้ายหลินน่ายังคุยกับชายชาวฝรั่งเศสคนนั้น: “เปียกทั้งตัวแล้ว ทำไมเธอยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย? ไม่รู้จักหลบ…..”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ซูซีมู่ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ จากนั้นคว้าเสื้อตัวนอกบนราวแขวน แล้วเดินออกไป
ชายชาวฝรั่งเศสเห็นเขาเดินออกไป รีบถาม “ซู คุณจะไปไหน?”
แต่ซูซีมู่เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไร เดินออกจากที่นั่งพิเศษไปเลย
“ซูเป็นอะไรไป?” ชายชาวฝรั่งเศสมองไปทางส้ายหลินน่า
คนข้างหลังยิ้มอย่างลึกลับ “รีบไปเจอสาวสวย”
“สาวสวย? สาวสวยคนไหน?”
“แน่นอนว่าคนที่รออยู่ข้างนอกคนนั้นไง…..”
ออกมาจากคลับ ซูซีมู่ตากฝนตกที่หนัก เรียกรถแท็กซี่ข้างทางแล้วขึ้นรถไป
โล่เฟยเอ๋อที่สังเกตประตูคลับส่วนตัวอยู่ตลอด เห็นซูซีมู่ออกมาจากคลับส่วนตัว ขึ้นแท็กซี่ไป เธอรีบขวางรถแท็กซี่ไว้แล้วขึ้นรถตามไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถที่ซูซีมู่นั่งมาจอดที่หน้าโรงแรมโล่เฟยเอ๋อพักอยู่
ตอนแรก โล่เฟยเอ๋อคิดว่าซูซีมู่รู้ว่าเธอพักที่นี่ ดังนั้นเลยมาหาเธอที่นี่
เมื่อเห็นซูซีมู่เดินเข้าโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมที่เธอพัก เธอถึงรู้ตัวว่าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว
ที่แท้ก็แค่บังเอิญ ซูซีมู่ต้องการไปโรงแรมที่อยู่ตรงข้าม
โล่เฟยเอ๋อเก็บอาการดีใจกลับมา จ่ายค่าโดยสาร แล้วรีบเดินตามไป
เมื่อเธอเข้าไปที่โถงใหญ่ ซูซีมู่กำลังจะเข้าลิฟต์ไปพอดี
โล่เฟยเอ๋อกลัวตามซูซีมู่ไม่ทัน จึงวิ่งเหยาะ ๆ ตามไป เพราะก้าวยาวเกินไป ไม่ทันระวังข้อเท้าเคล็ด
“โอ๊ย…..” โล่เฟยเอ๋อเจ็บจนร้องอุทาน ล้มลงบนพื้น
ซูซีมู่ได้ยินเสียงเธออุทาน หยุดฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัว หันกลับไป
เห็นโล่เฟยเอ๋อล้มอยู่บนพื้น คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างหาสาเหตุไม่ได้ แม้กระทั่งเตรียมจะก้าวเท้าไปหาโล่เฟยเอ๋อแล้ว
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เข้าไป แค่หยุดเข้าลิฟต์ ล้วงโทรศัพท์ออกมากดโทรออก
ในที่สุดโล่เฟยเอ๋อก็ถูกพยุงขึ้น “คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ” โล่เฟยเอ๋อรีบกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย จากนั้นเดินขากะเผลกตามซูซีมู่
ตอนนี้ ซูซีมู่ขยับตัวแล้ว เดินเข้าลิฟต์ที่พึ่งมาถึงไป
โล่เฟยเอ๋อเห็นประตูลิฟต์ปิดไปแล้ว รีบร้อนตะโกน: “รอเดี๋ยว”
ซูซีมู่ที่ยืนในลิฟต์ไม่ขยับ แต่คนที่ยืนข้างซูซีมู่ กลับใจดีช่วยเปิดประตูลิฟต์ให้เธอ
โล่เฟยเอ๋อในที่สุดถูกพยุงขึ้นโดยพนักงานของโรงแรม “คุณหนู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” โล่เฟยเอ๋อขอบคุณพนักงาน จากนั้นเดินโซซัดโซเซไปข้าง ๆ ซูซีมู่
ซูซีมู่คุยโทรศัพท์ ไม่มองเธอเลยสักนิด
โล่เฟยเอ๋อถูกเขาเมินขนาดนี้ บวกกับอาการเจ็บที่ข้อเท้าอย่างรุนแรง รู้สึกเสียใจและน้อยใจ เธออยากยอมรับผิดกับซูซีมู่ เธออยากอธิบายกับซูซีมู่ แต่ท่าทีเฉยเมยก่อนหน้านี้ของซูซีมู่ ทำให้เธอไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่?
เมื่อลิฟต์มาถึงแล้ว ซูซีมู่คุยกับในสายหนึ่งประโยค ‘วางก่อน’ แล้วเดินเข้าลิฟต์ไป
โล่เฟยเอ๋อเม้มริมฝีปาก เดินขากะเผลกตามเข้าไป
ในลิฟต์มีเพียงพวกเขาสองคนแท้ ๆ กลับเงียบมาก
โล่เฟยเอ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ย “ซูซีมู่ ฉันผิดไปแล้ว”
จ้องซูซีมู่หนึ่งที โล่เฟยเอ๋อถึงพูดต่อ: “ตอนนั้นพ่อของฉันเส้นเลือดในสมองแตกที่โรงพยาบาล เห้อจิ้นเหยาบอกฉันว่า คุณเป็นคนทำ…..”
โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่จับ ซูซีมู่ก็ขัดเธอขึ้นมา “เรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับผม คุณไม่ต้องมาบอกผม”
ได้ยินที่ซูซีมู่พูด ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อแดง รีบพูด: “ซูซีมู่ ฉันรู้ว่าผิดไปแล้ว ที่ไม่ได้เชื่อคุณ แต่กรุณาฟังฉันอธิบายหน่อยได้ไหม?”
“คุณไม่ต้องอธิบายกับผม ผมไม่อยากฟัง” ซูซีมู่ยิ้มเอ่ยเสียงเย็น: “คุณไม่รู้หรือว่าผมต้องการมาตลอดไม่ใช่คำอธิบายของคุณ…..”
พูดถึงตรงนี้ ซูซีมู่เหมือนคิดถึงอะไรบางอย่างได้จึงเงียบไปทันที
เขาเป็นอะไรไป? ตัดสินใจปล่อยมือแล้วแท้ ๆ
ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่? หรือว่าลืมความเจ็บปวดสิ้นหวังตอนนั้นไปแล้ว?
หรือว่ายังเจ็บไม่พอ?
ซูซีมู่สูดลมหายใจเข้าลึก เก็บคำนั้น ‘ที่ผมต้องการมาตลอดคือหัวใจของคุณ’ กลืนลงคอไป เปลี่ยนเป็น “ไม่ต้องตามผมแล้ว ผมไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก”