งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 35
บทที่ 35 ซูซีมู่ไปclubเจียงหนาน
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อลงมาจากชั้นบนโล่ชิงไป๋กับเห้อจิ้นเหยาก็ได้มารอเธอที่โต๊ะอาหารแล้ว
โล่ชิงไป๋ที่มีสีหน้าไม่พอใจมองโล่เฟยเอ๋อที่เพิ่งเข้ามา “ให้ผู้ใหญ่มานั่งรอเธอ มันถูกเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อรู้ตัวว่าผิดจึงไม่แก้ตัว
“คนกันเองทั้งนั้นรอนิดรอหน่อยไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เห้อจิ้นเหยามองไปที่โล่ชิงไป๋แล้วส่งรอยยิ้มที่มุมปากให้โล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อมาทานข้าวเร็ว”
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร เดินไปนั่งข้างเห้อจิ้นเหยาเพื่อทานข้าว
โล่เฟยเอ๋ออยากกลับตั้งแต่ทานมื้อกลางวันเสร็จ แต่เห้อจิ้นเหยายืนยันที่จะให้เธอทานมื้อเย็นก่อนค่อยกลับ
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้อยากอยู่ต่อ แต่ก็ต้องอยู่
ซูซีมู่เอาร่างกายที่เหนื่อยล้าเดินเข้าไปในคฤหาสน์ เขาไม่ได้เข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำเหมือนอย่างที่เคยทำ
แต่มานั่งพิงอยู่ที่โซฟามองดูความว่างเปล่า รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
จริง ๆ แล้วเขาควรจะพอใจที่คฤหาสน์กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม แต่เย็นวันนี้เขากลับรู้สึกหงุดหงิดแปลก ๆ
ซูซีมู่หยิบโทรศัพท์ที่วันนี้ทั้งวันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยออกมาจากกระเป๋า ก็โยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
แต่เพียงแค่เหยียบบันไดขั้นแรกโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งทิ้งไว้ที่โซฟาก็ดังขึ้น
เท้าที่เหยียบขั้นบันไดหยุดชะงัก ดวงตาคมลึกฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยแล้วก็วิ่งหน้าตั้งไปที่โซฟาเพื่อรับโทรศัพท์
มองไปที่ชื่อของคนที่โทรเข้ามากลับไม่ใช่ของคนที่คาดหวังเอาไว้ทำให้ความสุขที่แสดงอยู่ในดวงตานั้นหายไปแล้วกดรับสายด้วยความหงุดหงิด
ซูซีมู่ยังไม่ทันพูดเสียงของลู่ยู่ก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย “ซูซีมู่ฉันต้องการให้นายช่วย ว่างไหม?”
ซูซีมู่นึกออกเพียงแค่สองคำ “ไม่ว่าง”
“อย่ามาหลอกฉันเลย เมื่อกี้ฉันไปที่บริษัทมาผู้ช่วยบอกว่านายกลับบ้านแล้ว…อย่าพูดว่ามันเป็น ‘เรื่องส่วนตัว’ เรื่องนี้คอขาดบาดตายจริง ๆ ได้โปรดวาง ‘เรื่องส่วนตัว’ ของนายลงสักครู่…”
ซูซีมู่รู้จักลู่ยู่ดี นอกจากเรื่องงานของเขาเรื่องอื่นก็ล้วนไร้สาระหมด ในเมื่อไม่ได้คิดจะทำอะไรก็เลยคิดที่จะตัดสายทิ้ง
เขาไม่คิดว่าคำพูดต่อจากนี้ของลู่ยู่จะจริงจังอะไร “…ซูซีมู่ฉันจริงจังนะ วันนี้นายออกมาช่วยเหลือเพื่อนหน่อยสิ ขอร้องล่ะ…”
แค่ซูซีมู่ได้ยินลู่ยู่พูดแค่นั้นก็เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู
“…คุณท่านให้ฉันไปสร้างความบันเทิงให้คุณชายจากเกียวโตสิบคน ถ้ามีอะไรเขาบอกให้ฉันถามนาย ซูซีมู่ นายคงไม่ทิ้งเพื่อนคนนี้ใช่ไหม…”
ซูซีมู่รู้ภูมิหลังของบ้านลู่ได้ยินลู่ยู่พูดว่าคนเกียวโตสิบคนก็ไม่ได้แปลกใจอะไร แต่ให้ลู่ยู่สร้างความบันเทิงให้นี่สิแปลก
ซูซีมู่ลูบคิ้วอย่างใช้ความคิดแล้วเอาโทรศัพท์มาแนบหูอีกครั้ง “กี่โมง?”
“สองทุ่ม…” ลู่ยู่นิ่งไปชั่วครู่แล้วถามกลับด้วยความตื่นเต้น “แสดงว่านายจะมาใช่ไหมซูซีมู่? ฉันอยู่แถว ๆ บ้านนายให้ฉันไปรับไหม?”
ซูซีมู่เหนื่อยและไม่อยากขับรถและแน่นอนว่าต้องได้ดื่มแน่ ๆ จะขับรถก็ลำบากเลยตอบตกลงไป
ที่ลู่ยู่บอกว่าอยู่ใกล้ ๆ บ้านซูซีมู่ก็คือใกล้จริง ๆ ไม่ถึงสิบนาทีเขาก็มาถึงแล้ว
ซูซีมู่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้ายังไม่ทันผูกเนกไท
ยังไม่ทันเปิดประตูให้เขาเข้ามากว้างมากนัก
ลู่ยู่ก็เข้ามาแล้วร้องโอดครวญ “ฉันหิวน้ำมาก มีอะไรให้ดื่มบ้าง?”
“หาเอง” ซูซีมู่ตอบเสียงอย่างเฉยเมย
ลู่ยู่เกาจมูกแล้วเดินไปหาที่ห้องครัวด้วยตัวเอง
พอเปิดตู้เย็นสายตาของเขาก็เหมือนถูกติดกาวเอาไว้ให้มองแต่ที่ตู้เย็น
แปลก เขาเห็นอะไร?
เขาเห็นเค้กอยู่ในตู้เย็นของซูซีมู่! นี่มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งกว่ามนุษย์ต่างดาวบุกโลกอีกหรือเปล่า?
“ซูซีมู่…เค้กในตู้นี่…”
เค้ก? ซูซีมู่นิ่งไปครู่หนึ่งก็นึกได้ว่าเมื่อวานเขาซื้อทีรามิสุมาให้โล่เฟยเอ๋อแต่เธอไม่ทานแล้วเอาใส่ตู้เย็นไว้
เขาไม่คิดว่าจะถูกลู่ยู่เจอเข้า
ซูซีมู่รีบผูกเนกไทแล้วเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็ว
เขาหยิบชาดำออกมาหนึ่งกระป๋องพร้อมเปิดแล้วยื่นให้ลู่ยู่ก่อนจะปิดประตูตู้เย็นทันที
แล้วชวนลู่ยู่ออกมาจากห้องครัว
ลู่ยู่ได้สติกลับมาก็ตามไป “ซูซีมู่ เพื่อนสาวคนสวยของนายมาที่บ้านแล้วเหรอ?”
ซูซีมู่เปลี่ยนรองเท้าโดยที่ไม่สนใจที่จะตอบลู่ยู่
“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ นะซูซีมู่ว่าสาวงามคนนั้นเป็นคนยังไง” ลู่ยู่พูดอย่างตื่นเต้น
“จะไปไหม?” ซูซีมู่ที่เพิ่งสวมรองเท้าเสร็จถามลู่ยู่ถ้าไม่ไปเขาจะได้ไม่ไป
“ไปครับ…ไป…” ลู่ยู่รีบสวมรองเท้าแล้วเดินตามซูซีมู่
ซูซีมู่ไม่รอเขา เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับเข้าไปนั่งด้านใน
ลู่ยู่ปิดประตูคฤหาสน์แล้วตามเข้ามาในรถ “ซูซีมู่เค้กยังไม่ได้กินก็แสดงว่าเธอจะมาอีกเหรอ?”
เค้กยังไม่ทันได้กินเธอจะกลับมาอีกไหม? ซูซีมู่นิ่งไปครู่หนึ่งก็หันไปถามเสียงเย็น “ถามพอยัง? ถ้าพอแล้วก็รีบออกรถ”
อารมณ์ของเพื่อนวันนี้แปลกไปนะ! ลู่ยู่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากซูซีมู่ก็รีบปิดปากเงียบ
แต่ปากของลู่ยู่จะปิดได้ยังไง?
ไม่นานจากนั้นเขาก็เริ่มอีกครั้ง “ซูซีมู่หรือที่นายเป็นแบบนี้เพราะอกหัก?”
อกหัก? เขาอกหัก? ซูซีมู่มองป้ายไฟโฆษณานอกหน้าต่างอย่างคนสับสน
ลู่ยู่คิดว่าซูซีมู่จะปฏิเสธ รออยู่นานก็ยังไม่มีการตอบสนองจากซูซีมู่
เขาเหลือบมองซูซีมู่ผ่านทางกระจกเห็นว่าซูซีมู่หันไปมองข้างทางด้วยสายตาของคนที่กำลังสับสน
เพราะกลุ่มคุณชายจากเกียวโตทั้งสิบคนนี้เป็นแขกพิเศษ การต้อนรับของลู่ยู่ครั้งนี้จึงไม่ได้จัดที่คลับดี้เหา แต่เป็นclubเจียงหนาน ไนท์คลับขึ้นชื่อของเมือง A
แน่นอนว่าไม่ใช่ในห้องของclubเจียงหนานแต่เป็นวิลล่าแยกเพื่อสร้างความบันเทิงระดับวีไอพีของclubเจียงหนาน
เมื่อลู่ยู่กับซูซีมู่มาถึงวิลล่าของclubเจียงหนานก็มีคนหนุ่มสาวเจ็ดแปดคนอยู่ที่นั่นแล้ว
เมื่อเห็นลู่ยู่เข้ามา คนเหล่านั้นก็ลุกขึ้นทำความเคารพเขา
ซูซีมู่ไม่ค่อยเผยตัวต่อคนหมู่มากจึงไม่มีใครรู้จักเขา
แต่เพียงแค่เห็นว่าเขาเข้ามากับลู่ยู่ก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา สายตาของทุกคนจึงไปหยุดอยู่ที่เขากันหมด
แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่กับลู่ยู่ก็ยังมีคนเข้ามาชนแก้วกับเขาเพื่อตรวจสอบความเป็นมาของขา
ซูซีมู่หงุดหงิดกับคนพวกนี้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะลู่ยู่เขาคงลงมือไปแล้ว
หลังจากจัดการกับคนพวกนั้นได้ก็หมดไวน์แดงไปถึงสองแก้ว
เขาทนไม่ไหว ลุกเดินไปที่ระเบียงเพื่อสูดอากาศ
ลมในตอนกลางคืนของต้นฤดูหนาวนั้นเย็นไปหน่อย ซูซีมู่สวมเสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียว ร่างกายจึงรับรู้ถึงความเย็นได้ทันที
เขามองดูป้ายไฟที่ห่างตรงนี้ไม่มากนักกำลังจะหันกลับเพื่อเข้าไปข้างในแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน