งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 395
บทที่395 หซิวหชูเฉียวคลอดลูก
หลังจากปฏิเสธคำชวนของเย่รู่ไป๋ เธอก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานของคาริน่า แต่เดินกลับมาที่รถพร้อมสงเฟยเหวิน ซูซีมู่ยังประชุมไม่เสร็จ โล่เฟยเอ๋อคุยเล่นกับสงเฟยเหวินอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกอ่อนล้าแล้วพิงกับพนักเบาะผล็อยหลับไป
สงเฟยเหวินห่วงว่าเธอนอนแบบนี้จะไม่สบายตัว จึงช่วยปรับเบาะลงเป็นระนาบ
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อหลับไปไม่นาน ซูซีมู่ก็กลับมา
“ประธานซูคะ…” สงเฟยเหวินพยายามกดเสียงให้เบาที่สุด
ซูซีมู่พยักหน้าเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่โล่เฟยเอ๋อซึ่งกำลังหลับปุ๋ย
เขามองเธออยู่สักพัก แล้วหันไปพูดกับสงเฟยเหวิน “กลับไปเถอะ”
“ค่ะ ประธานซู” สงเฟยเหวินพยักหน้า แล้วเปิดประตูเตรียมจะลงจากรถ
แต่ซูซีมู่ก็เอ่ยขึ้นอีก “เดี๋ยว”
สงเฟยเหวิน ตอบ ‘คะ’ แล้วหันกลับมา
ซูซีมู่พูดเสียงต่ำ “งานช่วงบ่ายเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้ให้หมด”
คุณนายหลับไปแล้ว ท่านประธานคงตั้งใจจะพาคุณนายกลับบ้านสินะ สงเฟยเหวินหันกลับมามองโล่เฟยเอ๋อเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “ค่ะ”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาถอดสูทออกแล้วคลุมลงบนร่างโล่เฟยเอ๋อ
จังหวะที่สงเฟยเหวินกำลังปิดประตูรถ เธอหันกลับมามองข้างใน เห็นซูซีมู่สัมผัสร่างที่กำลังนอนหลับใหลด้วยความแผ่วเบา เพราะไม่อยากทำเธอตื่น
ท่าทางตั้งอกตั้งใจแบบนั้น ราวกับว่าโลกทั้งใบของเขามีแค่เธอ
สงเฟยเหวินเหม่อมองภาพตรงหน้าอยู่สักพัก จึงปิดประตูลงอย่างเบามือ…
วันเวลาผ่านไป โล่เฟยเอ๋อขี้เซาขึ้นทุกวัน เพราะงั้นเธอเริ่มไม่ค่อยออกไปไหน
ผ่านไปสองเดือน ลู่ยู่โทรศัพท์มาบอกว่าหซิวหชูเฉียวคลอดลูกชาย
พอได้ยินข่าว โล่เฟยเอ๋อก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป เธออยากไปเมืองหลวง เพื่อเยี่ยมหซิวหชูเฉียวกับลูกชายบุญธรรมซะเดี๋ยวนี้
ซูซีมู่รู้ดีกว่าเธอสนิทกับหซิวหชูเฉียวมากขนาดไหน จึงรีบโทรไปจัดการเรื่องงานที่บริษัท แล้วเก็บสำภาระพาโล่เฟยเอ๋อไปเมืองหลวง
หซิวหชูเฉียวมองโล่เฟยเอ๋อเดินเข้าประตูมาอย่างตกใจ “เฟยเอ๋อ เธอมาได้ยังไงเนี่ย? ”
เธอนึกว่าคนที่ทั้งรักทั้งหวงโล่เฟยเอ๋ออย่างซูซีมู่ คงไม่ยอมให้เมียตัวเองที่ตั้งท้องสี่เดือนเดินทางจากเมืองA มาเมืองหลวงแน่
โล่เฟยเอ๋อพูดยิ้มๆ “ฉันก็มาดูหน้าลูกชายบุญธรรมฉันสิ ไม่ได้หรือไง? ”
“ได้อยู่แล้ว แต่สามีเธอยอมให้ออกจากบ้านแล้วหรอ? ” หซิวหชูเฉียวแซว
“เขาก็มาด้วยนะ” โล่เฟยเอ๋อว่า
“ฉันก็ว่าอยู่” หซิวหชูเฉียวทำท่าคลายความสงสัย “ไม่น่าล่ะ ฉันยังเผลอเข้าใจว่าเขาให้เธอมาถึงที่นี่คนเดียวนะเนี่ย”
โล่เฟยเอ๋อมองบน แล้วพูดต่อ “ถ้าไม่ต้อนรับฉันขนาดนี้ ฉันกลับก็ได้”
“ต้อนรับสิ ต้อนรับอยู่แล้ว” หซิวหชูเฉียวรีบแก้
โล่เฟยเอ๋อพ่นเสียงเหอะ แล้วเอ่ย “ฉันซื้อของให้ลูกชายบุญธรรมฉันด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงส่งมา”
“เธอซื้ออะไรมา? ถึงกับต้อง ‘ส่ง’ เลยหรอ? ” หซิวหชูเฉียวถามแปลกใจ
โล่เฟยเอ๋อใช้ความคิด แล้วตอบ “น่าจะซื้อมาเกือบหมดแล้วมั้ง”
“สุดเลิฟของฉัน สมกับที่เป็นเมียของท่านประธานบริษัทซูซื่อ แถมยังเปย์หนักซะด้วย เป็นบุญของลูกฉันจริงๆ ” หซิวหชูเฉียวพูดถอนหายใจ
โล่เฟยเอ๋อเบ้ปาก แล้วพูดโต้ “พูดอย่างกับสะใภ้คนโตแห่งตระกูลลู่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแบบเธอจนนักแหละ”
“พอ ฉันยอมแพ้ โอเค๊? ” หซิวหชูเฉียวไม่สู้
“ให้ฉันดูหน้าลูกชายบุญธรรมฉันก่อน แล้วจะยกโทษให้” โล่เฟยเอ๋ออ้อน
“เมื่อกี้พยาบาลอุ้มไปอาบน้ำที่ห้องข้างๆ แล้ว ต้องรอแป๊บหนึ่ง” หซิวหชูเฉียวเพิ่งจะพูดจบ พยาบาลก็เข็นเตียงนอนเด็กเดินเข้ามา
โล่เฟยเอ๋อรีบเดินเข้าไปทันที เมื่อเห็นเด็กน้อยนอนอยู่ในเตียงทารก ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจบอกไม่ถูก
ลูกของเธอ พอคลอดมาแล้วก็จะตัวเล็กแบบนี้เหมือนกันไหมนะ?
“เฟยเอ๋อ ลองอุ้มไหม? ” หซิวหชูเฉียวถามยิ้มๆ
โล่เฟยเอ๋อมองเด็กน้อยบนเตียง แล้วรู้สึกอยากจับอยากเล่น “เอาสิ”
หซิวหชูเฉียวหันไปสบตากับพยาบาล พยาบาลหันมาบอกโล่เฟยเอ๋อถึงข้อระวังในการอุ้มเด็กคร่าวๆ แล้วให้เธอลองอุ้มดู
คงเป็นเพราะโล่เฟยเอ๋อเองกำลังจะเป็นแม่คนในอีกไม่นาน เธอมองเด็กน้อยในอ้อมอกด้วยสีหน้าแววตายิ้มอย่างอ่อนโยน
ประตูห้องถูกเปิดออก ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา
เขาหน้าตาคล้ายๆ ลู่ยู่อยู่บ้าง แต่อายุน่าจะเด็กกว่าสองสามปี
เขาเห็นโล่เฟยเอ๋อที่กำลังอุ้มเด็กหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก็ต้องชะงัก
เขาเคยเจอหญิงสาวหน้าตาสวยๆ มาไม่น้อย อย่างเช่นพี่สะใภ้ที่เพิ่งคลอดลูกอยู่นี่ แต่กับผู้หญิงที่มีเครื่องหน้าราวภาพวาด ทั้งอ่อนโยนและบริสุทธิ์ เขาเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก เล่นเอาชายหนุ่มมองตาค้าง
โล่เฟยเอ๋อกำลังก้มหน้าเล่นกับเด็กน้อยจึงไม่ได้สังเกต แต่หซิวหชูเฉียวที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้เห็นทุกอย่าง
ถึงแม้จะรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มในครอบครัวเขาคนนี้ตาถึงใช้ได้ แต่เธอก็ต้องถอนใจที่รู้ว่าเขาไม่มีโอกาสอีกแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว
ล้อเล่นน่า สามีของโล่เฟยเอ๋อเป็นใคร? นั่นเป็นถึงซูซีมู่ ที่ใครเห็นก็ต้องก้มหัวให้
หซิวหชูเฉียวกระแอมเบาๆ สองที ดึงสติคนที่เข้ามาใหม่
ลู่หยางรู้สึกตัว เขาสังเกตได้ถึงสายตาของหซิวหชูเฉียว ก็ขัดเขินเล็กน้อย “พี่สะใภ้ คุณแม่ให้ผมเอาซุปมาให้”
“รบกวนนายแล้ว” หซิวหชูเฉียวพยักหน้า แล้วหันไปพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่ลู่หยางน้องชายของลู่ยู่”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าให้ลู่หยางน้อยๆ “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดี… ครับ” ลู่หยางตอบกลับอย่างตื่นเต้น
หซิวหชูเฉียวลอบถอนหายใจ ก่อนจะพูด “ลู่หยาง นี่คือภรรยาของพี่ซูของนาย เรียกเธอว่าพี่เฟยเอ๋อก็ได้”
ลู่หยางได้ยินคำพูดของหซิวหชูเฉียว ใบหน้าก็แข็งทื่อ
หลังจากผ่านไปหลายวินาที เขาจึงกันไปพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างอ่อนน้อม “สวัสดีครับพี่เฟยเอ๋อ”
โล่เฟยเอ๋อรับคำยิ้มๆ จากนั้นก็เล่นกับเด็กน้อยพร้อมทั้งคุยกับหซิวหชูเฉียวต่อ
ผ่านไปสักพัก ซูซีมู่กับลู่ยู่ก็เข้ามา
โล่เฟยเอ๋อเห็นซูซีมู่เดินเข้ามา ก็รีบกวักมือเรียกอย่างร่าเริง “ซูซีมู่มาดูเร็วๆ หนูน้อยน่ารักน่าชังมากเลย”
ซูซีมู่ส่งเสียง ‘อืม’ แล้วเดินไปยืนข้างๆ โล่เฟยเอ๋อ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นกับหนูน้อย แต่การที่ยอมเดินเข้าไปดูก็นับว่าไว้หน้าพอสมควร
หลังจากที่ลู่หยางรู้ว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นภรรยาของซูซีมู่ เขาก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีหวังอีกต่อไป แต่กระนั้นก็ไม่อาจตัดใจ
เขายืนอยู่อีกฝั่ง สายตายังคงลอบมองโล่เฟยเอ๋อ แม้แต่ซูซีมู่กับลู่ยู่เดินเข้ามาเขาก็ยังไม่รู้ตัว
ซูซีมู่สัมผัสได้ถึงบางอย่าง ไม่นานก็สังเกตเห็นสายตาของลู่หยาง
แต่เขาก็เพียงแค่กวาดตามองรอบหนึ่ง ไม่ได้ใส่ใจนัก
ก็แค่เด็กเห่อขนรักแร้ เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้มากจริงไหม?
ลู่หยางที่น่าสงสาร เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นแม้แต่เศษเสี้ยวสิ่งมีชีวิตอะไรในสายตาของท่านประธานซู ในใจของเขารู้ยังไง ไม่มีใครรู้
แต่สำหรับหซิวหชูเฉียว รู้สึกเห็นใจเขาอย่างสุดซึ้ง
จะไม่เห็นใจได้ไง? ก็ดันมีศัตรูหัวใจเป็นคนนี้ เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะลงชื่อแข่ง น่าสังเวชอะไรปานนี้!