งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 400
บทที่400 ซูยุ่นแต่งงานกับโจวเฉิง
ซูยุ่นหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมา
โจวเฉิงมองแผ่นหลังของเธอ แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ “ไม่ว่าสิ่งที่คุณต้องการจะเป็นการแต่งงานหลอกๆ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมตกลง…” เขายังพูดไม่จบ จู่ๆ ซูยุ่นก็หันกลับมา เธอชูกระเป๋าในมือขึ้นเตรียมจะขว้างเข้าที่ใบหน้าของเขา “ไหนบอกว่าจะไม่แต่งไม่ใช่หรอ? แล้วตอนนี้มาตอบตกลงทำไม?”
การกระทำที่มาแบบกะทันหันของซูยุ่น แต่เขาเป็นถึงโจวเฉิง ร่างสูงอึ้งเล็กน้อย แล้วเบี่ยงตัวหลบตามสัญชาตญาณ
โจวเฉิงหลบอย่างไว ทำให้ซูยุ่นยิ่งรู้สึกขายหน้า
หญิงสาวจึงขว้างกระเป๋าลงกับพื้น จากนั้นก็ร้องไห้พร้อมกับถามอย่างไม่เข้าใจ “ฉันอุตส่าห์หอบมาถึงที่นี่ เพื่อมาขอให้นายแต่งงานด้วย นายไม่แต่งก็ช่าง แต่ยังห้ามไม่ให้ฉันแต่งกับคนอื่น นายต้องการอะไร? พูดสิ…”
โจวเฉิงเห็นเธอร้องไห้ ก็กระวนกระวาย “ผมผิดไปแล้ว คุณจะให้ผมทำอะไรผมยอมทำทุกอย่าง หายโกรธได้ไหมครับ?”
ซูยุ่นมองหน้าเขา ไม่พูดอะไร
โจวเฉิงไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร จึงเพียงแค่ยืนมองเธออยู่เงียบๆ
“ไอ้หุ่นไม้บ้า ไอ้คนโง่…” จู่ๆ ซูยุ่นก็ด่าออกมา พร้อมทั้งเตะทั้งต่อยโจวเฉิงไม่หยุด
โจวเฉิงที่น่าสงสารกลัวจะทำเธอเจ็บ เขาจึงยืนนิ่งไม่หลบและก็ไม่ได้สวน แต่ปล่อยให้เธอเตะตีเขาตามสะดวก
แม้ว่าร่างกายของโจวเฉิงจะแข็งแรงกำยำ แต่ก็ไม่อาจทนกับแรงปะทะที่โถมเข้ามาแบบไม่ยั้งนี้ได้ ไม่นานจึงเกิดเป็นรออยแผล
ซูยุ่นทุบตีโจวเฉิงจนตัวเองหมดแรง ในที่สุดก็หยุด
จากนั้นก็เปล่งประกาศิตดังเช่นราชินี “พรุ่งนี้กลับไปแต่งงานกับฉัน”
ทั้งๆ ที่เธอทำร้ายร่างกายเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆ ที่เธอยังเชิดหน้าระหงในเวลาแบบนี้ แต่โจวเฉิงกลับไม่โกรธแม้แต่น้อย
ตรงกันข้าม มันทำให้เขายิ่งใจเต้นไม่หยุด ใช่แล้ว เขาชอบเธอที่เป็นแบบนี้ เขารักเธอที่เป็นแบบนี้
ตอนแรก พอได้ยินเธอพูดว่าจะแต่งงานกับเขาแบบหลอกๆ สมองสั่งให้เขาปฏิเสธ
แต่เมื่อเห็นเธอวิ่งเร่ออกไปขอใครก็ได้ให้มาแต่งงานด้วย สมองของเขาก็หยุดทำงานในชั่ววินาที หัวใจของเขาสั่งออกมาคำเดียวว่า จะให้เธอแต่งงานกับใครไม่ได้ทั้งนั้น นอกจากเขา
นาทีนี้ โจวเฉิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองแล้ว…
สูดหายใจลึก โจวเฉิงจัดการอารมณ์ตัวเองให้กลับสู่ปกติ แล้วถาม “ขอเวลาผมสักสองสามวันแล้วค่อยกลับไปแต่งงานได้ไหมครับ?”
ซูยุ่นเข้าใจว่าเขาคิดจะเลื่อนเวลาออกไป ใบหน้าก็ดำทะมึนขึ้นมาทันที “นายจะเลื่อน?”
“ไม่ใช่ครับ” โจวเฉิงส่ายหน้า แล้วอธิบาย “ธุระทางนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันถึงจะเสร็จเรียบร้อย ผมอยากรอให้ทุกอย่างเสร็จดีแล้วถึงกลับ”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น สีหน้าของซูยุ่นก็ดีขึ้นหน่อย
เธอพ่นเสียงหึ แล้วว่า “หลังจากจัดการเรื่องที่นี่เสร็จ รีบกลับพร้อมฉันทันที”
“ครับ” โจวเฉิงพยักหน้า
“ไปพบครอบครัวฉันที่เมืองหลวง แล้วค่อยไปจดทะเบียนสมรส”
“ครับ”
“เราจะไม่จัดงานเลี้ยง แต่ถ้านายจะจัด นายก็จัดไปคนเดียว”
“ครับ”
……
โจวเฉิงและซูยุ่นกลับมาหลังผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ และเพราะรับปากกับซูยุ่นไว้ว่าเมื่อกลับมาจะไปพบพ่อแม่ของเธอที่เมืองหลวงก่อน เพราะงั้นโจวเฉิงจำเป็นต้องโทรบอกซูซีมู่ถึงสาเหตุ
หลังจากที่ซูซีมู่ได้ฟังถึงสาเหตุที่โจวเฉิงไม่สามารถกลับเมืองAได้ เขาก็แปลกใจ “หืม? นายบอกว่าจะไปหาพ่อแม่ซูยุ่น??”
แต่ที่คิดไม่ถึง คือประโยคต่อมาของโจวเฉิง ทำให้เขาต้องแปลกใจหนักกว่าเดิม “ท่านประธานครับ ผมจะแต่งงานกับคุณซู จึงจำเป็นต้องไปพบคุณพ่อคุณแม่ของเธอที่เมืองหลวง”
ซูซีมู่เงียบไปไม่นาน” อืม กำหนดวันแต่งแล้ว โทรบอกฉันด้วย”
“ครับ ท่านประธาน…”
หลังจากที่ซูซีมู่วางสาย โล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็รีบถามขึ้น “ใครจะแต่งงานหรอคะ?”
“โจวเฉิงกับซูยุ่น” ซูซีมู่ตอบ
“ห้ะ?” โล่เฟยเอ๋ออุทานตกใจ ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “โจวเฉิงกับซูยุ่นไปคบกันตอนไหนคะ?”
ซูซีมู่เงียบไปแป๊บหนึ่ง ก่อนจะตอบ “คงจะตอนที่ไปเมืองหลวงครั้งก่อน”
โล่เฟยเอ๋อเอียงคอใช้ความคิด “คุณหมายถึงตอนที่ลู่ยู่กับเฉียวเฉียวแต่งงานกันหรอคะ?”
“อืม” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อร้อง ‘อ้อ’ แล้วพูดเสียงอุบอิบ “ไม่น่าล่ะ หลังจากนั้นซูยุ่นถึงได้ชอบถามข่าวคราวถึงโจวเฉิงบ่อยๆ …”
การแต่งงานของซูยุ่นกับโจวเฉิงเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่มาพบกับคนในตระกูลซูที่เมืองหลวงแล้ว ทั้งคู่ก็ไปจดทะเบียนสมรสกันที่เขต จากนั้นก็กลับเมืองAพร้อมกัน
เพราะไม่มีทางเรื่อง โจวเฉิงต้องรีบกลับมารายงานความคืบหน้าให้ซูซีมู่ทราบ ส่วนซูยุ่นก็อยากเจอเหซิงถิงพอดี ทั้งคู่จึงกลับมาด้วยกัน
“ซูยุ่น เธอจะแต่งงานกับเลขาคนนั้นของพี่ซีมู่จริงๆ อะ?” เหซิงถิงไม่อยากเชื่อ
ซูยุ่นพยักหน้า “อืม เราจดทะเบียนกันแล้ว”
“แต่เธอ…เธอชอบ…” คำว่า ‘พี่ชายฉัน’ เหซิงถิงไม่ได้พูดมันออกมา
ซูยุ่นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย “เธอก็รู้หรอว่าฉันชอบพี่ชายเธอ?”
“เอ่อ…ฉันไม่เคยบอกพี่หรอก” เหซิงถิงรีบแก้
“ไม่เป็นไร ใครๆ ก็รู้ว่าฉันชอบ อีกอย่างพี่เธอเขาก็รู้ตั้งนานแล้วล่ะ แถมปฏิเสธฉันด้วย” ซูยุ่นพูดเสียงเรียบ
พอได้ยิน เหซิงถิงก็ตกใจสุดๆ “พี่ฉันปฏิเสธเธอหรอ?”
“แปลกใจอะไรล่ะ? คนไม่ได้ชอบก็ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว” ซูยุ่นดึงมุมปาก
เหซิงถิงเงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วถามต่อ “แล้ว…เป็นเพราะว่าพี่ปฏิเสธ เธอก็เลยแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นใช่ไหม?”
ซูยุ่นส่ายหัวแบบไม่คิด “เปล่า”
ไม่ได้เป็นเพราะเหซิงโม่ แต่เป็นเพราะประเพณีประจำตระกูลนั่น เวลานี้เธอเข้าใจไปแบบนั้น
แต่เธอลืมคิด ถ้าหากเป็นเพราะประเพณีบ้าๆ นั่นล่ะก็ ทำไมวินาทีแรกเธอถึงตัดสินใจว่าต้องเป็นโจวเฉิง แถมต้องเขาคนเดียวเท่านั้น?
เสียดายที่ตอนนี้ซูยุ่นยังคิดไม่ตก ถึงได้เกิดเรื่องราวเหล่านั้นขึ้นในเวลาต่อมา…
ข่าวการแต่งงานของซูยุ่นกับโจวเฉิงเหซิงโม่ได้ยินมาจากเหซิงถิง
วันนั้นเขากับเหซิงถิงนั่งกินข้าวกันอยู่ และเธอก็พลั้งปากพูดออกไป
“พี่ รู้เรื่องที่ซูยุ่น แต่งงานหรือเปล่า?”
เหซิงโม่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่น้องสาวพูด ตะเกียบในมือก็ร่วงลง
เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาจับแน่น แล้วถาม “เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ?”
“ซูยุ่นแต่งงานแล้ว” เหซิงถิงตอบ
ซูยุ่นแต่งงานแล้ว? ไม่ จะเป็นไปได้ได้ยังไง? ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะสารภาพรักกับเขา ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แฟนด้วยซ้ำ จะแต่งงานได้ยังไง?
เหซิงโม่บอกตัวเองแบบนั้น ก่อนจะปั้นหน้านิ่งสงบ “ไปฟังข่าวลือนั่นมาจากไหน? ถ้าซูยุ่นแต่งงานจริง ทำไมตระกูลซูไม่เห็นออกมาประกาศอะไร?”
“เมื่อตอนเที่ยงฉันไปกินข้าวกับซูยุ่น เธอเป็นคนบอกฉันเอง” เหซิงถิงเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะว่าต่อ “เขาสองคนไปจดทะเบียนสมรส ไม่ได้จัดงานแต่ง คงไม่มีประกาศออกมาหรอก”
จิตใจอันแข็งแกร่งที่เหซิงโม่ใช้เวลาสร้างอยู่นาน ต้องพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าเพราะคำพูดของเหซิงถิง “เธอแต่งแล้วจริงๆ หรอ? เธอแต่งกับใคร?”
“แต่งกับเลขาคนนั้นของพี่ซีมู่ รู้สึกจะชื่อ…” เหซิงถิงหยุดคิดไปนิดหน่อย ถึงพูดชื่อออกมา “ชื่อโจวเฉิง”
เมื่อได้ยินชื่อโจวเฉิง ในใจของเหซิงโม่ก็สับสนวุ่นวาย
ตอนที่ซูยุ่นไล่ตามเขาทั้งวี่วัน เขากลับวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต กระทั่งวันที่ซูยุ่นสารภาพรัก เขาก็ยังปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขามารู้สึกตัวได้ว่าตัวเองตกหลุมรักซูยุ่น
ซูยุ่นดันแต่งงานกับโจวเฉิงแล้ว เขาสองคนแต่งงานกันแล้ว..