งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 406
บทที่406 โจวเฉิงหายไป
ซูยุ่นหันกลับไป จึงเห็นโจวเฉิงยืนอยู่ไม่ไกล กระเป๋าใส่เอกสารของเขาหล่นลงกับพื้น
เขาได้ยินสิ่งที่เธอกับพี่เหซิงโม่คุยกัน? ในหัวของซูยุ่นผุดคำถามนี้ขึ้น ก่อนจะได้ยินโจวเฉิงพูดด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษที่รบกวนครับ เชิญพวกคุณตามสะดวก”
พูดจบ โจวเฉิงก็ก้มตัวเก็บเอกสารขึ้น แล้วหมุนตัวเดินจากไป
“นายหุ่นไม้…” ซูยุ่นวิ่งตามเขาไปแบบไม่คิด แต่กลับถูกเหซิงโม่รั้งไว้ “ซูยุ่น”
ซูยุ่นมองตามทิศทางที่โจวเฉิงเดินจากไป แล้วหันกลับมาพูดกับเหซิงโม่ว่า “พี่เหซิงโม่ พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะ”
“ฉันเข้าใจผิด?” ดวงตาของเหซิงโม่จ้องใบหน้าซูยุ่น
ซูยุ่นพยักหน้า “ค่ะ พี่เข้าใจผิด ฉันไม่ได้แต่งงานกับเขาเพราะถูกพี่ปฏิเสธรัก”
ถ้าไม่ได้แต่งงานกับโจวเฉิงเพราะถูกเขาปฏิเสธ งั้นเป็นเพราะชอบโจวเฉิงถึงได้…
นัยน์ตาของเหซิงโม่เผยแววไม่เชื่อหู เขาจับไหล่เล็กแน่นอย่างขาดการควบคุม จากนั้นเอ่ยซ้ำๆ “ไม่ไม่มีทาง เธอไม่มีทางชอบเขา คนที่เธอชอบคือฉัน ซูยุ่น พี่ชอบเธอ เมื่อก่อนพี่ผิดเอง พี่ผิดไปแล้ว ให้อภัยพี่เถอะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม?”
ในความทรงจำของซูยุ่น เหซิงโม่เป็นผู้ชายอ่อนโยนและสง่างาม เขาไม่เคยเห็นเขาในสภาพนี้มาก่อน จึงอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเรียกเขาเสียงดัง “พี่เหซิงโม่…”
เหซิงโม่จ้องเธออยู่สักพัก แล้วค่อยๆ สงบสติ
ซูยุ่นโล่งอก แล้วพูด “พี่เหซิงโม่ ฉันชอบพี่ ชอบพี่มาตั้งหลายปี แต่นั่นมันคือเมื่อก่อน นับตั้งแต่วันที่พี่ปฏิเสธฉัน ฉันก็ตัดใจเด็ดขาดแล้ว”
“ตอนแรกฉันเองก็เข้าใจว่าฉันไม่ได้ชอบเขา จนกระทั่งเมื่อกี้ที่พี่ถาม ว่าฉันแต่งงานกับเขาเพราะโดนพี่ปฏิเสธหรือเปล่า…ฉันถึงรู้ว่า ฉันชอบเขา เพราะชอบเขา ฉันถึงได้แต่งงานกับเขา”
ถ้าไม่ใช่เพราะชอบ ตอนที่แม่เธอบังคับให้ไปดูตัว เธอเลือกที่จะหนีไปให้สุดขอบฟ้าก็ได้ แต่เธอกลับเลือกที่จะแต่งงาน
ถ้าไม่ใช่เพราะชอบ ทำไมเธอถึงต้องบินไปหาเขาถึงประเทศM แล้วขอให้เขาแต่งงาน?
กระทั่งตอนที่เขาปฏิเสธ เธอถึงขั้นต้องวิ่งเร่ออกไปลากคนตามท้องถนนมาแต่งงานกับเธอเพื่อบีบเขา?
ถ้าไม่ใช่เพราะชอบ ทำไมตอนที่ย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลซู เธอถึงมานั่งปวดหัวว่าจะนอนห้องเดียวกับเขาต่ออีกไหม?
……
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าซูยุ่น เหซิงโม่ก็เข้าใจทันทีว่ามันสายไปแล้ว
ในเมื่อเธอชอบ งั้นเขาก็ทำได้แค่อวยพรให้
เก็บความเจ็บปวดลงใต้ก้นบึ้งของหัวใจ เหซิงโม่พูดออกมาทีละคำ “ฉันขอให้พวกเธอมีความสุข”
“ขอบคุณค่ะ พี่เหซิงโม่ฉันต้องไปตามหาเขาก่อน” ยิ้มให้เหซิงโม่เสร็จ ซูยุ่นก็วิ่งออกไปตามทางที่โจวเฉิงเดินออกไป
โจวเฉิงคิดไม่ถึง เขาแค่ไม่วางใจที่ซูยุ่นไปเข้าห้องน้ำคนเดียว ถึงได้ตามมาด้วย
กลับได้ยินซูยุ่นและคุณชายเหซิงคุยกันพอดี ในที่สุดเขาก็เข้าใจความจริงที่กำลังตามหาอยู่
ที่แท้คนในใจของซูยุ่นก็คือคุณชายเหซิง
ที่แท้ในเมืองหลวงวันนั้น ที่ซูยุ่นเสียใจมากขนาดนั้น เป็นเพราะคุณชายเหซิงไม่รับรักเธอ
แล้วเพราะคุณชายเหซิงไม่รับรัก เธอถึงได้แต่งงานกับเขา
……
ที่แท้มีอะไรตั้งมากมาย ที่เขาไม่รู้เลยสักนิด
โจวเฉิงเสียใจ เสียใจที่ตัวเองเดินตามเธอออกมา
ถ้าไม่เดินตามออกมา เขาก็คงไม่ต้องรับรู้
ไม่อย่างนั้นเขายังพอจะหลอกตัวเองได้ว่า เขามีโอกาสจะเอาชนะใจซูยุ่น
แต่ไม่มีคำว่าถ้า เขาตามซูยุ่นออกมาจนได้
เขาได้ยินซูยุ่นคุยกับคุณชายเหซิงโม่ เขาได้รู้ถึงคำตอบที่ตามหามาตลอด
โจวเฉิงในตอนนี้แค่อยากวิ่งหนีไปไกลๆ แล้วหนีไปหลบอยู่สักที่คนเดียว
ให้ตัวเองได้เยียวยาบาดแผล…
ตอนที่ซูยุ่นวิ่งตามออกไป โจวเฉิงหายไปแล้ว
เธอมองหาไปรอบๆ อย่างร้อนรน แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาโจวเฉิง
แต่โทรศัพท์ของโจวเฉิงปิดเครื่องไปแล้ว
ซูยุ่นโทรอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ติด จึงเรียกแท็กซี่ออกไปตามหาโจวเฉิง
เธอกลับไปที่วิลล่าหลันถิงก่อน
แต่เสียดาย ที่วิลล่าหลันถิงไม่มีใครสักคน ตู้วางรองเท้าหน้าประตูยังมีสภาพไม่ต่างจากตอนเช้า
แค่มองแวบเดียวซูยุ่นก็รู้ว่าโจวเฉิงไม่ได้กลับมา
แต่เธอก็ยังเดินวนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
หลังจากที่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ซูยุ่นก็ไปตามหาเขาที่บริษัทต่อ
เลขาบอกเธอว่าตอนเช้าหลังจากที่โจวเฉิงออกจากบริษัทเขาก็ไม่ได้กลับเข้ามาอีก
ที่บ้านไม่มี ที่บริษัทก็ไม่มี ซูยุ่นก็ร้อนรน
เธอเดินไปตามถนน มองผู้คนเดินผ่านไปมา รถคันแล้วคันเล่าขับผ่านมา วินาทีนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะไปหาโจวเฉิงที่ไหน
จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองรู้จักโจวเฉิงน้อยมาก เธอไม่รู้ว่านอกจากบ้านกับที่บริษัท เขายังจะไปไหนได้อีก
เธอไม่รู้ว่านอกจากพี่แล้วโจวเฉิงยังรู้จักใครอีก… จริงด้วย ถามพี่
ดวงตาของซูยุ่นเปล่งประกาย แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาซูซีมู่
ทันทีที่ปลายสายรับ ไม่รอให้พี่ชายเอ่ยปาก เธอรีบถามด้วยใจร้อนรน “พี่คะ พี่รู้ไหมว่าหุ่นไม้อยู่ที่ไหน?”
“โจวเฉิง?” ปลายสายเงียบไปไม่นาน แล้วตอบ “ไม่อยู่ที่นี่”
“ฉันรู้ว่าเขาไม่อยู่ที่นั่น ที่ฉันถามก็คือ นอกจากที่บ้านกับบริษัทแล้ว ยังมีที่ไหนอีกคะ?” ซูยุ่นพูดอย่างวิตกกังวล
ซูซีมู่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของเธอ “เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉัน…เขาได้ยินกับพี่เหซิงโม่คุยกัน เขารู้เรื่องที่ฉันสารภาพรักกับพี่เหซิงโม่ แล้วถูกปฏิเสธ…” เสียงตอนท้ายเริ่มเบาลงเรื่อยๆ แล้วเงียบไปในที่สุด
“เธอ…” หลังจากที่ซูซีมู่พูดคำว่า ‘เธอ’ เขาก็ดูเงียบไป
ซูยุ่นพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “พี่ เขาปิดโทรศัพท์ ไปหาที่บ้านกับที่บริษัทก็ไม่มี ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ก็เลยโทรมาหาพี่”
ในที่สุดซูซีมู่ก็เปล่งเสียงออกมาคำนึง “ไปดูที่ที่พัก”
“ที่พักอะไรคะ? อยู่ที่ไหน?” ซูยุ่นรีบถามทันใด
“หอพักที่บริษัทจัดไว้ให้หมู่บ้านหลานโป ตึกA ชั้นสาม ห้อง301”
“ค่ะ ขอบคุณ” หลังจากวางสาย เธอก็โบกแท็กซี่ตรงไปที่หมู่บ้านหลานโป
ตอนที่ซูซีมู่รับสายซูยุ่น เขากำลังนั่งข้างโล่เฟยเอ๋อ แม้เธอจะไม่รู้ว่าสายที่เขารับเป็นใครโทรมา แต่ดูจากปฏิกิริยาของซูซีมู่ เธอพอจะเดาได้ว่าเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้น
เมื่อซูซีมู่วางสาย เธอก็รีบถามทันที “เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“โจวเฉิงหายไป” ซูซีมู่โทรตามโจวเฉิง ขณะเดียวกันก็ตอบกลับ
โล่เฟยเอ๋อมองไปรอบๆ แล้วถาม “เมื่อกี้โจวเฉิงยังอยู่เลยไม่ใช่หรอคะ?”
ซูซีมู่ถอนหายใจ “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาโกรธซูยุ่นเลยหนีไปแล้ว”
“โกรธซูยุ่นเลยหนีไป? เกิดอะไรขึ้นคะ?” โล่เฟยเอ๋อสงสัย
“โจวเฉิงได้ยินซูยุ่นคุยกับเหซิงโม่…” ซูซีมู่ยังไม่ทันพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็ตัดบท “ทำไมถึงเกี่ยวกับเหซิงโม่อีกแล้วคะ?”
ซูซีมู่เล่าเรื่องทั้งหมดให้โล่เฟยเอ๋อฟัง “เมื่อก่อนซูยุ่นเคยสารภาพรักกับเหซิงโม่…”