งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 448
บทที่448 คืนดีกัน (1)
“ฉันผิดไปแล้ว……”
บรรยากาศที่อึดอัดถูกทำลายไปด้วยเสียงขอโทษของเหซิงโม่ เขาก้มหน้าพูดขอโทษอย่างสำนึกผิด
ซือจิ้งสวนฝันก็คิดไม่ถึง ว่าเหซิงโม่คนนี้ที่เคยดื้อรั้นเย่อหยิ่งใจร้อนไม่ฟังใครยืนอยู่หน้าตัวเอง กลับยังมีวันที่ยอมอ่อนข้อก้มหน้าพูดขอโทษด้วยอีก
ถึงในใจของเธอจะมีความโกรธความแค้นอยู่ แต่ตอนที่เหซิงโม่เอ่ยขอโทษนั้นความโกรธความแค้นทั้งหมดก็กลายเป็นน้ำตาแห่งความน้อยใจไหลออกมา
“เธออย่าร้องไห้เลย……ฉันผิดไปแล้วจริงๆ นะ กลับไปกับฉันได้ไหม ฉันจะปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี”
เมื่อเห็นซือจิ้งสวนร้องไห้ เหซิงโม่ก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจทำอะไรไม่ถูกไปอีก เขาอยากไปเช็ดน้ำตาให้ซือจิ้งสวนแต่ก็กลัวเธอจะขยะแขยงเขา
การระมัดระวังเช่นนี้เหมือนกับที่ซือจิ้งสวนเคยกระทำต่อเขาในเมื่อก่อน
ซือจิ้งสวนไม่พูดอะไรเพียงเช็ดน้ำตาออกอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ไม่เป็นความจริงมากๆ
ตั้งแต่เด็กจนโตซือจิ้งสวนนั้นเป็นคนที่ชอบเอาชนะ และเป็นเพราะจุดนี้เองดังนี้จึงทำให้พบกับอุปสรรคไม่น้อย เธอจึงถูกมารดาปกป้องไว้ในให้อ้อมกอดอย่างแน่นหนา แทบจะบังฝนบังลมทั้งหมดแทนเธอไว้ เธอจึงมีชีวิตที่ถูกประคบประหงมลูกราวกับไข่ในหินมาโดยตลอด
ตั้งแต่โตมาช่วงเวลาที่แต่งงานกับเหซิงโม่เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกยากที่จะทนความทุกข์ทรมานที่สุดและเป็นการได้รับความลำบากที่ไม่เป็นธรรมที่สุด
สองสามีภรรยาคู่นั้นไม่กล้าเดินไปไกล เพราะซือจิ้งสวนเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวจะอยู่กับผู้ชายตามลำพังสองต่อสองในห้องได้ยังไงมันไม่น่าไว้วางใจ
อาจเป็นเพราะได้ยินร้องไห้ซือจิ้งสวน สองสามีภรรยาก็รีบผลักประตูเข้ามาทันที
“เสี่ยวสวนเธอไม่ต้องกลัวนะ”ผู้หญิงกอดซือจิ้งสวนไว้ ผู้ชายยืนบังอยู่ข้างหน้าพวกเธอ แล้วตั้งคำถามขึ้นมา”ผมไม่สนว่าคุณเป็นลูกมหาเศรษฐีบ้านไหน เสี่ยวสวนเป็นผู้หญิงน่าสงสารคนหนึ่ง ผมขอบอกคุณไว้เลยว่าคุณจะรังแกเธอไม่ได้”
“ไม่ใช่……พวกคุณเข้าใจผิดแล้วนะครับ”
เมื่อเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหันแล้ว เหซิงโม่จึงทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
“น้าจางลุงหลี่ พวกคุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ
เขาคือเพื่อนของหนูเองค่ะ”ซือจิ้งสวนเช็ดน้ำตา พูดเสียงแหบแห้ง
เพื่อน…..
หัวใจของเหซิงโม่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทั้งสองคนจัดงานแต่งและทะเบียนก็จดกันแล้วแท้ๆ แต่ทำไมขณะนี้มาถึงปากเธอถึงกลายเป็นเพื่อนไปได้…..
จู่ๆ เหซิงโม่ก็นึกขึ้นมาได้ มีงานเลี้ยงครั้งหนึ่งที่จำเป็นต้องพาผู้หญิงไปด้วย จึงจำใจต้องพาซือจิ้งสวนไปด้วยอย่างไม่มีทางเลือก ตอนที่แนะนำซือจิ้งสวนให้คนอื่นรู้จักเหซิงโม่ก็บอกว่าเธอคือเพื่อนของตัวเองอย่างไม่แยแส
ระดับความเสียใจของซือจิ้งสวนในตอนนั้นก็คงไม่น้อยไปกว่าเหซิงโม่ในตอนนี้หรอก
“ที่แท้คือเพื่อนเธอเอง คนนี้……คุณชายคนนี้ฉันดูลักษณะท่าทางของคุณเหมือนคนไม่ธรรมดาทั่วไป แถมเสี่ยวสวนก็ไม่เหมือนคนแบบพวกฉันด้วย ถ้าสามารถพาเธอออกไปได้ก็พาเธอออกไปเถอะ สภาพแวดล้อมในที่ตรงนี้มันไม่ดี ข้างนอกก็มีพวกนักพนันอีก ถึงตอนกลางคืนก็มีเสียงดังเอะอะโวยวาย ห้ามก็ห้ามไม่ไหว ตอนนี้เสี่ยวสวนกำลังท้องอยู่ด้วย ต้องพักผ่อนดีๆ “น้าจางพูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุดกับเหซิงโม่
เหซิงโม่พยักหน้า หันไปมองซือจิ้งสวนอย่างจริงใจแล้วพูดอย่างจริงจัง “ฉันอยากพาเธอออกไป”
ซือจิ้งสวนลังเลสักพัก พูดพลางยิ้มอย่างขมขื่น”อย่าเพิ่งดีกว่า คุณสามารถมาหาฉันได้……ฉันก็รู้สึกมากพอแล้ว ให้ฉันคลอดลูกให้เสร็จอยู่ที่นี่คนเดียวเถอะ……”
ตอนนี้หน้าท้องของซือจิ้งสวนยังไม่ถือว่าใหญ่ รอให้ถึงตอนที่ใหญ่จริงๆ แล้วตัวเองต้องค่อยดูแลตัวเองอีกมันคงยากลำบากน่าดู
เหซิงโม่หาเธอเจออย่างลำบาก จะกลับไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้ยังไง
“เธอยังคงโกรธฉันอยู่ใช่ไหม จิ้งสวนเธอกลับไปกับฉัน ฉันจะชดใช้ให้เป็นอย่างดีนะ”เหซิงโม่พูดพลางแสดงแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจเช่นเดิม
“ฉันเหนื่อยแล้ว……”ซือจิ้งสวนพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
นี่เธอผิดหวังขั้นสุดจริงๆ ความรู้สึกเงียบเหงาที่ต้องอยู่ในห้องว่างเปล่าคนเดียวทุกคืนนั้นเธอกลัวจริงๆ
ถึงแม้ตอนนี้จะใช้ชีวิตลำบากไปหน่อยแต่ก็มีชีวิตที่อิสระ
และในตอนนี้ เสียงหยาบกระด้างก็ดังขึ้นมา “ซือจิ้งสวนเธอจะจ่ายค่าห้องไหม ถ้าไม่จ่ายก็ย้ายออกไปให้ฉันซะ”
ในเวลานี้มีหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามา แต่งหนังเข้มๆ จัดๆ ดูหน้าตาแล้วเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากมาก
“หวางโผ อาทิตย์ก่อนฉันเพิ่งจ่ายไปไม่ใช่เหรอ”ซือจิ้งสวนขมวดคิ้ว เอ่ยถาม
หวางโผจะยอมปล่อยไปแบบนี้เหรอ จึงตะโกนเสียงดังออกไปอย่างกินปูนร้อนท้องเล็กน้อย”อาทิตย์ก่อนเธอจ่ายแล้วเหรอ เธอจ่ายตอนไหน อย่าหาข้ออ้างมาพูดกับฉัน เช่าบ้านไม่ไหวก็ไปตายซะ อย่าทำฉันเสียเวลา”
ซือจิ้งสวนกำมือไว้แน่ หวางโผคนนี้มีชื่อเสียงเรื่องไร้ความสัจจะ แถมยังชอบเอารัดเอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ เป็นพิเศษ และยังใช้วิธีที่สกปรกมาตลอดทางที่ดีอย่าไปยุ่งดีกว่า
เห็นเพียงน้าจางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากในกระเป๋าแล้วถามหวางโผ”เสี่ยวสวนติดเงินคุณเท่าไหร่”
“ว้าวๆๆ จางเหม่ยลี่เธอเจริญแล้วใช่ไหม เธอติดฉันแปดร้อย บ้านเธออาทิตย์หน้าก็ต้องจ่าย…….”
ไม่รอให้หวางโผพูดจบ น้าจางนับธนบัตรสีแดงแปดใบ กัดฟันยัดใส่มือหวางโผ พูด “ให้เธอ ไปซะ”
“น้าจาง คราวก่อนก็เป็นคุณที่ช่วยฉันสำรองจ่ายไปก่อน”ซือจิ้งสวนร้อนใจ จึงแย่งเงินแปดร้อยนั้นออกมาจากมือหวางโผกลับมา แล้วเอาคืนให้น้าจาง แล้วพูดกับหวางโผ “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้ติดหนี้คุณก็คือไม่ได้ติดหนี้คุณ อาทิตย์ก่อนฉันก็จ่ายให้คุณแล้ว”
หวางโผคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซือจิ้งสวนคนที่เคยพูดน้อยมาตลอด กลับกล้าต่อปากต่อคำกับตัวเอง ความโกรธเธอจึงถึงขีดสุด แล้วตวาดออกไปด้วยความโกรธ”ยัยนี่แกดี ฉันจะบอกแกว่าแกยั่วโทสะฉันมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ระวังว่าฉันจะทำให้แกกับมารหัวขนในท้องของแกมีชีวิตไม่ถึงพรุ่งนี้”
เหซิงโม่ที่อยู่ข้างๆ ทนดูต่อไม่ไหวนานแล้ว บนโลกทำไมถึงมาคนหน้าด้านไร้ละอายเช่นนี้ เขาพูดอย่างเย็นชา “ถ้าแน่จริงคุณพูดคำพูดเมื่อกี้ของคุณอีกรอบสิ”
หวางโผนิ่งไปสักพัก ประเมินเหซิงโม่ที่อยู่ตรงหน้า ดูหน้าตาการแต่งตัวของเขานั้นก็รู้เลยเป็นคนมาตังค์ เธอจึงกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ “อั๊ยย่ะ ซือจิ้งสวนเธอมีมันมีความสามารถดีจริงๆ ผู้ชายดีขนาดนี้ ก็สามารถยั่วติดได้ ฉันจะบอกให้นะคนหล่อ ซือจิ้งสวนคนนี้มันพาผู้ชายไม่ซ้ำหน้ากลับมาด้วยทุกคืนไม่แน่ว่า……”
โดยตลอดที่ผ่านมานั้นเหซิงโม่เป็นที่ยอมรับว่าคนทำอะไรสุขุมใจเย็นและนิสัยดี ครั้งนี้เขาจะไม่ทน จึงแตะหนักๆ ไปยังหวางโผ ตวาดต่อว่าเสียงดัง”เธอลองพูดมั่วอีกประโยคหนึ่งสิ ”
หวางโผนิ่งไปทันที เธอกุมท้องกลิ้งไปมาบนพื้น ปากยังไม่หยุดพูดคำหยาบคายที่ไม่น่าฟัง
เธอกดโทรออกไป เธอพูดเบลอๆ ประมาณเรียกคนมาช่วยเช่นนี้
ผ่านไปสักพัก กลุ่มผู้ชายร่างกำยำก็มา
หัวหน้าได้ประคองหวางโผขึ้นมา พูด “หวางโผคุณมีอะไรจะสั่งครับ”
“ตี ตีพวกเขาให้ตายให้ฉัน”หวางโผกุมท้องอย่างเจ็บปวด ชี้ไปทางเหซิงโม่พวกเขา ความเกลียดชังแทบล้นออกมาจากแววตา
เหซิงโม่เอาร่างมาบังเพื่อปกป้องซือจิ้งสวนกับน้าจางลุงหลี่ พูดอย่างเคร่งขรึม “เป็นผู้ชายก็มาลงที่ฉัน”
คนพวกนั้นมองเหซิงโม่หัวเราะเกรียวกราว ถึงแม้เหซิงโม่จะร่างสูงยาว แต่ร่างไม่บึกบึนเท่าพวกเขา พูดอีกคือพวกเขาคนเยอะกองกำลังแข็งแกร่ง เหซิงโม่ไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
ซือจิ้งสวนเป็นห่วงเล็กน้อย พูดเสียงเบา “คุณไม่ควรทำอะไรวู่วามแบบนั้น จัดการพวกเขามันไม่ง่ายเลยน่ะ”
“ไม่เป็นไร ฉันจะปกป้องเธออย่างดี”เหซิงโม่พูดอย่างจริงจัง คำพูดนี้เต็มไปด้วยความจริงใจ