งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 462
บทที่462 โชว์ความรัก ให้พวกเธอหวานจนเลี่ยน
ในเมื่อซูยุ่นพูดแบบนี้แล้ว โจวเฉิงก็วางใจลง หลังจากที่ทั้งสองทางหม้อไฟเสร็จก็พากันไปดูหนัง โดยรวมแล้ววันนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งสองได้เลือกหนังรักเรื่องหนึ่ง เป็นหนังรักดราม่า ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะอยู่ในช่วงโปรโมชั่นกันอยู่ ดูหนังประเภทนี้จึงไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่
แต่หนังเรื่องนี้ดัง ในเน็ตมีรีวิวทุกวัน ดังนั้นซูยุ่นจึงอยากดูมาตลอด
ดูคนเดียวมันไม่มีความหมายอะไร ดังนั้นในที่สุดเธอก็รอจนได้โจวเฉิงมาเป็นเพื่อน
แน่นอนว่าเมื่อถึงจุดไคลแมกซ์ของหนัง ซูยุ่นก็ร้องไห้ฟูมฟาย ซบอกโจวเฉิงด่าพระเอกห่วยแตกไม่ได้เรื่อง
เมื่อหนังจบ อารมณ์ซูยุ่นก็ยังปรับให้เป็นปกติไม่ได้ หนังเรื่องนี้พระเอกกับนางเอกนั้นรักกัน แต่ผ่านอุปสรรคมากมาย ในที่สุดก็น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
นี่จึงทำให้เธออดที่จะนึกถึงเธอกับโจวเฉิงไม่ได้ ก็ผ่านประสบการณ์มากมายไม่ใช่เหรอ แต่ว่ายังดี ที่ตอนนี้ได้อยู่ด้วยกันสักที
“พอแล้ว ยุ่นเอ๋อหยุดร้องไห้ได้แล้วนะ…..”โจวเฉิงปลอบใจผู้หญิงไม่ค่อยเป็น เมื่อเห็นซูยุ่นที่กำลังร้องไห้เสียใจอยู่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
“อันที่จริงฉันนึกถึงพวกเรา คุณดูสิพวกเราก็ผ่านอุปสรรคมากมายถึงจะอยู่ด้วยกันใช่ไหมล่ะ เพียงแค่เสียดายแทนพระเอกกับนางเอกในหนังเท่านั้น”ซูยุ่นเรียกร้องอย่างไม่ยุติธรรม แถมยังพูดว่าจะส่งมีดให้ผู้จัดผู้กำกับอะไรให้อีก เพราะอะไรตอนสุดท้ายพระเอกนางเอกถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน
“อาจจะเป็นการพบกันที่ดีกว่าในครั้งต่อไปมั้ง เธอไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ พวกเราอยู่ด้วยกันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ หนังยังไงมันก็คือหนัง……”
ในที่สุดการปลอบใจที่ไม่ค่าของโจวเฉิง สุดท้ายก็ทำให้ซูยุ่นสงบสติอารมณ์ได้
บนทางกลับ มือถือ”ตื๊ดๆๆ “ดังมาตลอด โจวเฉิงที่ตั้งใจขับรถดังนั้นจึงไม่ได้มอง
ซูยุ่นเปิดวีแชทออกมาดู กลุ่มเล็กๆ ของคนพวกนั้นเริ่มเมาท์สนั่นแล้ว
“เฮ้ยๆๆ เธอดูซูซีมู่ใช่คนรึเปล่า มาโชว์ความรักอย่างไม่แคร์ใดๆ ที่คอมเม้นต์ใต้โพสต์คนอื่น @โจวเฉิง@ซูยุ่น พวกเธอน่าสงสารจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ทำหน้าที่เป็นฉากหลัง”คนที่พูดนั้นคือลู่ยู่ ปากเขาทำได้เพียงพูดมาก
“พี่ซูแกไม่งั้นก็จะไม่โชว์ ถ้าจะโชว์จริงตอนไหนเคยทำให้แกผิดหวังล่ะ @ลู่ยู่”อันนี่คือเหซิงโม่พูด
“เชอะ ไม่พูดกับแกแล้ว คู่กรณีออกมาพูดหน่อยสิ”@ซูซีมู่@โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อแทบไม่มีหน้าพบผู้คนแล้ว ซูซีมู่พูดอย่างนั้นใต้โพสต์ของคนอื่นได้ยังไง
เรื่องราวเริ่มต้นนั้นเป็นแบบนี้ โจวเฉิงกับซูยุ่นโพสต์เซลฟี่เช็คอิน ในคอมเม้นต์โล่เฟยเอ๋อก็เขียนแสดงความคิดเห็น
“อิจฉาพวกเธอจังสามารถออกไปได้อ่ะ”
ปรากฏว่าซูซีมู่ผู้ซึ่งเหมือนไร้ตัวตนมาตลอดกลับตอบ
“อยากออกไปก็บอกฉันสิ ฉันพาเธอออกไปเอง”
คนอื่นอาจคิดว่าปกติ แต่เขาคือใคร ซูซีมู่ เอ๊ะ ผู้ที่มีฉายาเย่อหยิ่งไม่อาจรุกล้ำมาเสมอ ทำไมถึงโชว์ความหวานต่อหน้าสาธารณชนได้ยังไง แถมยังเป็นที่โชว์ความหวานของคนอื่นด้วย
เพราะคำพูดเดียวของซูซีมู่ ทันใดนั้นในพื้นที่แสดงความคิดเห็นนี้ก็พิมพ์เมาท์มอยกันสนั่น
“โธ่ คิดไม่ถึงเลยว่าหนีการอวดความหวานของซูยุ่นโจวเฉิงพ้นแล้ว การโชว์ความหวานนี้มาได้ไม่ทันตั้งตัวเลย
“ประธานซูชำนาญจริงๆ เลย”
“ใช่ๆ ”
“……”
พริบตาเดียวมีข้อความตอบกลับมากมาย
หลายปีมานี้ รายชื่อเพื่อนของโจวเฉิงเพราะเรื่องงานจึงกดไลค์คนไม่น้อย ดังนั้นถึงได้มีการเขียนแสดงความคิดเห็นมากมายขนาดนี้
ในกลุ่มยังคงเขียนแสดงความคิดเห็นกันอยู่ ซูยุ่นในฐานะ”ผู้ถูกกระทำ”ได้ออกมาพูดแล้ว “ทุกคนไม่ต้องเถียงกันแล้วค่ะ ฉันกับโจวเฉิงบ้านฉันยินดียอมรับความพ่ายแพ้ในการเดิมพันค่ะ”ในตอนท้ายยังมีอิโมจิกำปั้นควบคู่ไปด้วย
เหซิงโม่กับลู่ยู่พูดๆ ก็ช่างมันไปเถอะ คิดไม่ถึงว่าซูยุ่นจะมาร่วมแจมด้วย โล่เฟยเอ๋อปิดหน้า จ้องมองกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่อยๆ ไม่หยุด
แต่ซูซีมู่ที่เคาะแป้นตัวอักษรอยู่อีกข้าง ใบหน้านิ่งเฉย ยังคงจ้องมองข้อความในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง
“คุณสามี คุณทำไมไปพูดแบบนั้นในที่แสดงความคิดเห็นอ่ะ”โล่เฟยเอ๋อเข้ามาใกล้ซูซีมู่ถามอย่างแปลกใจ
“งั้นทำไมเธอถึงไม่บอกว่าเธออยากออกไปล่ะ กลับมาเขียนลงในที่แสดงความคิดเห็นของคนอื่น”
เมื่อเผชิญกับคำถามของซูซีมู่แล้ว โล่เฟยเอ๋อไม่สามารถตอบได้จริงๆ ” เพราะนั้นคือการพูดเล่นๆ เธอคาดไม่ถึงว่าซูซีมู่จะจริงจังได้”
“ในกลุ่มเราสองคนอย่างบ้าคลั่ง ตอบหน่อยดีไหม”โล่เฟยเอ๋อลองถามดู
เพราะถ้าซูซีมู่ไม่พอใจขึ้นมา นั่นไม่ใช่เรื่องที่ปลอบได้ง่ายๆ
“ไม่ต้อง โพสต์ลงในวีแชทโมเมนต์ “ซูซีมู่พูดอย่างนิ่งเฉย
ฮ้า โพสต์ลงในวีแชทโมเมนต์ คือเธอโพสต์หรือเขาโพสต์
สาเหตุเพราะซูซีมู่ไม่ชอบแบบนี้ สองคนอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ ที่จริงทั้งสองต่างก็ไม่เคยโพสต์แสดงความรักอะไรสักอย่างแหละ
มองดูโล่เฟยเอ๋อที่นิ่งชะงักไป ซูซีมู่กล่าวอย่างนิ่งเฉย “ฉันโพสต์เอง”
ทั้งสองคนมีรูปคู่ แถมยังเยอะมากด้วย แต่มีเพียงทั้งสองคนเท่านั้นที่เคยได้เห็นมัน รูปถ่ายที่น่าสงสารพวกนั้นไม่เคยเห็นแสงมาก่อน ซูซีมู่ยังตั้งใจเปิดภาพแรกที่ทั้งสองถ่ายออกมาโดยเฉพาะ ในตอนนั้นโล่เฟยเอ๋อยังวัยใสอยู่ ทั้งสองคนยังมีความเหินห่างเล็กน้อยแต่ก็ยังมีรอยยิ้มออกมา
โอ๊ยซูซีมู่ยิ้ม
“เธอดูสิว่ารูปเป็นไง”ซูซีมู่ส่งรูปให้โล่เฟยเอ๋อดู
โล่เฟยเอ๋อในตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ซูซีมู่วันนี้เป็นอะไรไป ทำไมจู่ๆ ถึงอยากโพสต์ลงในวีแชทโมเมนต์
“ได้สิ แต่ว่าจู่ๆ ก็โพสต์มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ……”โล่เฟยเอ๋อยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแปลก
“ไม่แปลก”
พูดได้เลยว่าซูซีมู่เป็นคนจัดการเรื่องได้อย่างว่องไวจริงๆ โดยการโพสต์ทันที
อันนี้ของเขาที่หมื่นปีฝุ่นจับเต็มไปหมด ผู้ที่ไม่เคยโพสต์ใดๆ ในที่สุดก็อัปเดตแล้ว
เขาโพสต์เพียงรูปเดียว ไม่มีแคปชั่น
ซูซีมู่ก็ยังคงเป็นซูซีมู่อยู่ดี ไม่เคยพูดไร้สาระเสมอ
แค่ภาพถ่ายเพียงภาพเดียวนั้นมีพลังสังหารมหึมาแล้ว
ระเบิดแล้วระเบิดแล้ว ระเบิดในพริบตาเดียว
ในรูปนั้นซูซีมู่ยังคงมีเสน่ห์มากมาย พูดตามความเป็นจริงว่าเขานั้นขึ้นกล่องมาก็จริงๆ ดูยังไงก็ดูดียังงั้น ส่วนโล่เฟยเอ๋อก็เหมาะสมกับเขามาก ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนั้นมันสะดุดตามากเกินไปจริงๆ
“แม่ง แก@ซูซีมู่แกโหดว่ะ พวกเรานับถือ”ลู่ยู่พิมพ์คอมเม้นต์อย่างร้องตกใจ
“ผู้หญิงที่สามารถทำให้ซูซีมู่โพสต์รูปคู่ได้เองนั้นมีเสน่ห์ยังไงเนี่ย”เหซิงโม่แกล้งเออออคล้อยตามอย่างลึกลับ
พูดตามจริง สองคู่นี้อยู่ด้วยกันทำให้คนอื่นอิจฉาจริงๆ สาว ๆ ในกลุ่มอดไม่ได้ที่จะพิมพ์แสดงความอิจฉาออกมา ซูซีมู่โพสต์การเคลื่อนไหวแล้ว อีกสองท่านจะน้อยหน้าได้ยังไงกัน
ต่างก็โพสต์การเคลื่อนไหว
แถมยังทำเหมือนกับสไตล์ของซูซีมู่ที่แค่โพสต์รูปเท่านั้น
คนโสดที่อยู่ในรายชื่อเพื่อนในวีแชทกับพวกเขาต่างกันอึ้งไปเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาปรึกษากันแล้วว่าเตรียมตัวอวดคู่โชว์หวานงั้นเหรอ
เป็นทำกรรมอะไรไว้เนี่ย วันเดียวต้องทนดูการอวดคู่มากมายขนาดนี้
แต่ว่า อวดคู่ก็ส่วนอวดคู่ แต่ความหวานนั้นหวานจริง โดยเฉพาะซูซีมู่คนที่ไม่เคยโพสต์อะไรมาก่อน ทำพวกเขาหวานจนแทบตายไปเลย
โจวเฉิงที่กำลังขับรถอยู่นั้น เห็นซูยุ่นถือโทรศัพท์แล้วยิ้มร่าตลอด ก็คิดว่าคุยแชทกับผู้ชายคนไหน ทันใดนั้นก็รู้สึกหึงขึ้นมา