งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 471
บทที่471 กู้ชิงหลันเปิดเผยใบหน้า
“เห้อ เรื่องนี้ฉันช่วยคุณได้เพียงเท่านี้ ที่อยู่ของเธอนั้นฉันเองก็ไม่มั่นใจ โอเค ตอนนี้ดึกแล้ว ซวงซวงคุณพักผ่อนเถอะ ฉันวางสายก่อนนะ”
ซือเหม่ยหยวนพูดจบยังไม่ทันจะรอให้โจวซวงซวงตอบก็วางสายไปแล้ว
เมื่อเธอพูดแบบนั้น โจวซวงซวงจะนอนหลับได้อย่างไร ความน้อยใจในหลายวันมานี้มันอัดแน่นอยู่ในตัวของเธอโล่เฟยเอ๋อ
ถึงตอนนี้ก็มีเรื่องสนุกๆ ให้ติดตามแล้ว!
ซือเหม่ยหยวนยิ้มกระย่องออกมา พลางหลับไปอย่างสบายอารมณ์
เธอเดาไม่ผิดเลย ว่าโจวซวงซวงไม่ได้นอนทั้งคืนเลยจริงๆ เธอนอนซุกหมอนร้องไห้ด้วยความสิ้นหวัง
“โล่เฟยเอ๋อ!โล่เฟยเอ๋อ!โล่เฟยเอ๋อ!ฉันไม่ได้หาเรื่องอะไรคุณเลย!ทำไมแม้แต่ความรักสุดท้ายของฉันคุณก็ยังต้องเอามันไปนะ!ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไป!ชิงหลันต้องเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น!”
อาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อยมากแล้ว โจวซวงซวงเลยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อตื่นมาวันที่สองก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว
เธอตอบรับไปก่อนจะเก็บของแล้วออกไป
เมื่อส่องกระจก ใบหน้าเหลืองซีด แถมยังมีฝ้ากระอีก ดวงตาไม่ใหญ่ แถมยังไม่มีตรงไหนที่ดูมีราศีอีกด้วย และเรือนร่างก็ไม่ได้หุ่นดี
หน้าตาแบบนี้จะไปมัดใจผู้ชายเอาไว้ได้อย่างไร?
เธอคิดๆ ดูเมื่อตอนที่ได้เจอโล่เฟยเอ๋อ ถึงแม้ว่าหลังท้องแล้วแต่ก็ยังมีการรักษาหุ่นที่ดี ผิวก็ยังสวยมากถึงแม้ว่ามันจะขัดกันเป็นอย่างมาก
เมื่อคิดถึงพวกนี้ ในใจของโจวซวงซวงก็เกลียดมากขึ้นกว่าเดิม
ใครๆ ก็อยากเหมือนโล่เฟยเอ๋อไม่ใช่เหรอ?
แต่ว่าตอนนี้มืดมนไปหมด โจวซวงซวงเองก็ไม่รู้ว่าจะไปหาโล่เฟยเอ๋อที่ไหน ,ถึงอย่างไรเธอกับโล่เฟยเอ๋อก็ได้เจอกันแล้วครั้งหนึ่ง
อันที่จริงช่วงหลายวันมานี้กู้ชิงหลันเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ แคบๆ กินแต่มาม่า ร่างกายก็ผอมลงไม่เบาเลย
เมื่อคิดว่าตอนนั้นเขาเองก็ดูดีไม่น้อยเ ข้างกายมีคนตามจีบไม่ขาด แต่ว่าตอนนี้แต่งกับหญิงที่ไม่ได้รัก ชีวิตถูกเธอบังคับ แค่คิดกู้ชิงหลันก็รู้สึกน้อยใจ
ช่วงหลายวันมานี้กู้ชิงหลันเองก็พยายามจะแอดเป็นเพื่อนกับโล่เฟยเอ๋อ แต่ว่าไม่ว่าตัวเองจะเปลี่ยนบัญชีเท่าไหร่ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เท่าไหร่โล่เฟยเอ๋อก็ไม่สนใจตัวเองอยู่ดี
เขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะพยายามมากขนาดนั้น หลายวันที่ถูกกีดกันนี้ เขาเริ่มถอดใจแล้ว
เมื่อออกมาจากห้องเช่า แสงข้างนอกมันแยงตานิดหน่อย เขาเลยจัดผมที่ยุ่งเหยิงจากนั้นก็ไปซื้อซาลาเปาสักหน่อย เขายังซื้อเผื่อให้โจวซวงซวงหลายอันด้วย
โจวซวงซวงง้อง่าย ถึงแม้ว่าซาลาเปาที่กู้ชิงหลันซื้อมาให้จะเป็นแค่ของถูกๆ โจวซวงซวงเองก็มีความสุขมากแล้ว ความโกรธก็หายไปหมดเลย
แต่ว่าเมื่อกลับถึงบ้านกลับพบว่าโจวซวงซวงไม่อยู่บ้าน กู้ชิงหลันเองก็ทระนงพอที่จะไม่ติดต่อไปหาโจวซวงซวงก่อน จึงรอเธอกลับมาเอง
โจวซวงซวงจ่ายเงินไปเยอะมากเพื่อให้นักสืบส่วนตัวเพื่อให้ไปตามโล่เฟยเอ๋อไป
วันนี้โล่เฟยเอ๋อจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายก็ให้หซิวหชูเฉียวไปเป็นเพื่อน
ระหว่างทางทั้งสองคนคล้องแขนกัน จากนั้นก็พูดความในใจกันออกมา
“พวกเราทั้งสองคนไม่ได้มาเดินแบบนี้กันนานแล้ว” หซิวหชูเฉียวพลางพูดด้วยความบ่นอุบ
“เห้อ มีลูกแล้วก็ยุ่งยากหน่อย พูดไป คุณกับลู่ยู่ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ?” โล่เฟยเอ๋อเลิกคิ้วพลางพูดขึ้นอย่างมีนัย
หซิวหชูเฉียวไอขึ้น พลางพูดด้วยความ: “จะไปถึงขั้นไหนได้ล่ะ เขาเอาแต่ทำให้ฉันโกรธทุกวันเลย……”
ลู่ยู่ทำดีกับหซิวหชูเฉียวก็ต่อเมื่อมีคนอื่นเห็น แต่เวลาทะเลาะกันก็กลายเป็นเรื่องที่เห็นได้ปกติ
เพราะว่าทั้งสองคนไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันมานาน ดังนั้นเลยเลือกที่จะเดินไปที่โรงพยาบาล ระหว่างทางจะได้คุยกัน
“เฟยเอ๋อถ้าเกิดว่าคุณเดินจนเหนื่อยแล้ว พวกเราก็โบกแท็กซี่ไปก็ได้” โล่เฟยเอ๋อเพิ่งท้องได้ไม่นาน ดังนั้นหซิวหชูเฉียวเลยยังเป็นห่วงสุขภาพของเธอมาก
โล่เฟยเอ๋อกลับมีท่าทีนิ่งๆ พลางพูด: “แหม เดินไปไม่เท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
ทั้งสองคนนั้นคุยกันสนุกระหว่างทางก็ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดดังนั้นคนในโรงพยาบาลเลยเยอะมาก แค่จะรอคิวก็นานหลายชั่วโมงแล้ว
“ในที่สุดก็ได้คิวแล้ว……” หซิวหชูเฉียวพูด
“วันนี้ต้องรบกวนคุณแล้วนะ” โล่เฟยเอ๋อยิ้มพลางพูดออกมา
“พวกเราสองคนเป็นใครกัน คุณพูดถึงต้องพูดจาเกรงใจขนาดนี้” หซิวหชูเฉียวจับไหล่ของโล่เฟยเอ๋อพลางพูด
ในตอนนั้น ผู้หญิงที่สวมหมวก และปกปิดตัวเองอย่างแน่นหนาก็ปรากฏตัวที่โรงพยาบาล
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าเธอป่วยเป็นโรคผิวหนังอะไรถึงได้ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้สนใจ
เธอกวาดตามองไปรอบๆ สุดท้ายก็มองไปที่หซิวหชูเฉียวกับโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อกับหซิวหชูเฉียวในตอนนั้นเองกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พลางคุยไปเรื่อย เลยไม่ได้สังเกตว่ามีผู้หญิงแปลกหน้ากำลังเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ
“โล่เฟยเอ๋อ!ฉันอยากให้คุณตาย!” จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนพลางปรี่เข้ามากระชากผมของโล่เฟยเอ๋อ
ยังดีที่หซิวหชูเฉียวหูตาไวเลยดึงโล่เฟยเอ๋อไปอีกฝั่ง
ผู้หญิงคนนั้นคือโจวซวงซวง เธอเอาหมวกกับผ้าพันคอลงพลางเผยความเกลียดชังให้เห็น
หซิวหชูเฉียวยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้เกลียดโล่เฟยเอ๋อมากขนาดนั้น เพราะว่าอันที่จริงเพื่อนของโล่เฟยเอ๋อก็เป็นเพื่อนของหซิวหชูเฉียวเหมือนกัน
สำหรับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านั้น หซิวหชูเฉียวดูไม่คุ้นเคยสุดๆ
อันที่จริงท่าทีของโล่เฟยเอ๋อเมื่อครู่เหม่อไปเลย เธอคิดว่าหญิงที่อยู่ตรงหน้านี้คุ้นตา แต่ว่ากลับคิดไม่ถึงเลยว่า
คนรอบๆ นั้นก็มองมา เหมือนอยากจะรอดูความสนุก
“เห้ย!คุณเป็นใครเนี่ย!พวกเราไม่รู้จักกับคุณ” หซิวหชูเฉียวพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอกันแต่กลับถูกผู้หญิงบ้าคนนี้มาทำให้อารมณ์ไม่ดี
“เหอะ……นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ถ้าเกิดว่าคุณอยากมายุ่มย่ามก็อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจคุณนะ! “ในสายตาของโจวซวงซวงนั้นมีความอยากฆ่าแกงเป็นอย่างมาก เธอมองหซิวหชูเฉียวด้วยความเกลียดชัง พลางพูดด้วยความข่มขู่
หซิวหชูเฉียวไม่ได้กลัวเลยตอบกลับไปว่า: “ยัยผู้หญิงบ้า คุณอย่ามาแว้งกัดคนนะ!คนมองอยู่เยอะแยะ!ผู้รักษาความปลอดภัยล่ะ ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อครู่มีคนถูกทำร้าย?”
เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดดังนั้นผู้รักษาความปลอดภัยเลยอืดอาด ทำงานในโรงพยาบาลนี้มาสิบปียังไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย ดังนั้นพวกเขาเลยแจ้งเตือนไปตั้งนานแล้ว
“มีคนก็ดีสิ ทุกคนมาดูเร็ว ผู้หญิงคนนี้มีสามีอยู่แล้วแต่ว่ายังไปมีชายอื่นอีก!แล้วชายคนนั้นก็คือสามีของฉัน ตอนนี้ไม่กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ!คนนี้เป็นนังแพศยา เมียน้อย โสเภณี……” โจวซวงซวงด่าคำที่ไม่น่าฟังออกมา
คนที่อยู่รอบๆ นั้นมีสายตาเปลี่ยนไปมาก ทำให้คนที่ชอบดูละครที่มาหาเรื่องเมียน้อยต่างสนใจกัน