งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 477
บทที่477 มาหาด้วยความไร้ยางอาย
“จริงสิ คงไม่ยุ่งอะไรหรอก” โล่เฟยเอ๋อพลางพูดด้วยความยิ้มแย้ม
ซูยุ่นโอบแขนของโล่เฟยเอ๋อ พลางส่ายหัว แล้วพูดด้วยความดีใจ: “จะไม่ว่างได้อย่างไร?ฉันสะดวกสุดๆ เลยล่ะ!จากนี้พี่เฟยเอ๋อมาบ่อยๆ ก็ได้นะ ถ้าเกิดไม่รังเกียจยุ่นเอ๋อเองก็ไปนั่งเล่นที่บ้านพี่เฟยเอ๋อได้นะ”
“โอเค”
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องด้วยความยิ้มแย้ม
ตอนที่เข้าไปในห้องก็พบว่าโจวเฉิงเองก็อยู่ โล่เฟยเอ๋อเลยอึ้งไป พลางถาม: “โจวเฉิงในเวลานี้คุณควรจะอยู่ที่ทำงานไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ แต่ว่าผู้ช่วยโม่ที่มาใหม่อยากจะคุ้นชินกับงานดังนั้นงานของฉันเลยให้เขาทำไปก่อน” โจวเฉิงยิ้มขมขื่นออกมา
หรือว่าไม่ได้รับความเอ็นดูจากจากที่ซูซีมู่แล้ว?
“เห้อ ฉันไม่ได้มาด้วยความบังเอิญแต่อย่างใด คุณเห็นว่าพวกคุณทั้งสองมาเจอกันมันไม่ง่ายเลยฉันเลยใช้โอกาสนี้มา” โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยความตำหนิตัวเอง เธอคิดว่าตัวเองมาขัดทั้งทองคนแล้ว
“ไม่ๆ วันนี้ฉันกับโจวเฉิงไม่ได้มีแผนการอะไร ดังนั้นคุณมาก็ดีแล้ว” ซูยุ่นรีบโบกมือพลางพูด
จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มคุยเรื่อยเปื่อย ผู้หญิงมาเจอกันก็มีเรื่องคุยไม่หยุด
ยังผ่านไปไม่นานโทรศัพท์ของโจวเฉิงก็ดังขึ้นมา บอกว่ามีเรื่องที่จัดการไม่เสร็จรอเขาอยู่ ผู้ช่วยโม่มาทำงานใหม่มันไม่ง่ายเลยที่จะเจอเรื่องที่จัดการไม่ได้เลยต้องการเขา
โจวเฉิงรอยยิ้มที่ความมั่นใจอยู่บนใบหน้าของเขา เป็นความรู้สึกที่คู่ควรกับเขาเหลือเกิน
“บริษัทมีเรื่องเดี๋ยวฉันไปก่อนนะ พวกคุณค่อยๆ คุยกันไปนะ~” หลังจากบอกเสร็จก็สวมสูทพลางเดินออกไป
เมื่อเห็นว่าเขากระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ซูยุ่นทำปากมุบมิบพลางพูด: “เห็นแล้วใช่ไหม เจอเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เหมือนจะสละทุกอย่างไปได้เลยล่ะ”
“โอเค พี่คุณเองก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?ผู้ชายก็ควรจะมีงานทำอยู่แล้วล่ะ ถ้าเกิดคุณเบื่อจริงๆ ก็มีลูกอีกสักคน จะได้ไม่มัวแต่สนใจโจวเฉิง~” โล่เฟยเอ๋อยิ้มพลางพูดขึ้น
เมื่อได้ยินบอกให้มีลูกอีกคน ซูยุ่นก็หน้าแดงขึ้นมา พลางพูดอย่างเขินอาย: “ตอนนี้จะเร็วไปไหม เรื่องแบบนี้ต้องคุยกับโจวเฉิงก่อนไม่ใช่เหรอ?”
โจวเฉิงเพิ่งจะออกไปก็เห็นว่าซือเหม่ยหยวนเดินวนอยู่รอบๆ เหมือนจะตัดสินใจว่าจะเข้าไปดีไหม
“คุณมาที่หน้าบ้านฉันทำไม?” โจวเฉิงถามด้วยความไม่สบอารมณ์ เขาไม่ดีรู้สึกดีๆ กับซือเหม่ยหยวนสักเท่าไหร่
เมื่อเห็นโจวเฉิง ซือเหม่ยหยวนก็รู้สึกผิดนิดหน่อย เธอเลยแกล้งพูด: “แน่นอนว่ามาหาซูยุ่นน่ะสิ ตอนนี้ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเธอนะ!”
เมื่อได้ยินแบบนี้โจวเฉิงก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เข้าใจซือเหม่ยหยวนมาก แต่ก็รู้ว่าเธอไม่ได้วางตัวดี “ซูยุ่นไม่อยู่บ้าน อย่ามาป้วนเปี้ยนในบ้านฉัน”
เมื่อพูดจบโจวเฉิงก็ขับรถออกไป เพราะปลายสายดูรีบร้อน ต้องการตัวเองไปช่วยแก้ไข ดังนั้นเธอเลยไม่สามารถมาเสียเวลากับซือเหม่ยหยวนได้มาก
ซือเหม่ยหยวนโทรหาซูยุ่นหลายสายแต่ซูยุ่นกลับไม่รับ
เพราะว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ได้พกโทรศัพท์
ซือเหม่ยหยวนไม่เชื่อ คิดอยู่สักพักก็เดินเข้าไปในสวนของบ้านพัก
แม่บ้านเห็นว่ามีคนเดินเข้ามาก็พูดทักทาย “คุณนายเป็นใครคะ?”
“อ๋อ ฉันมาหาซูยุ่น” ซือเหม่ยหยวนตอบกลับ
“คุณมาหาคุณนายทำไมกัน?” แม่บ้านไม่เคยเจอซือเหม่ยหยวนเลยต้องถามเยอะหน่อย
ซือเหม่ยหยวนเริ่มหงุดหงิด เธอเดินอยู่ที่ประตูตั้งนานก่อนจะถาม สุดท้ายกลับโดนแม่บ้านถามแบบนี้
“ฉันเป็นเพื่อนของซูยุ่น มาหาเธอน่ะ” ซือเหม่ยหยวนพยายามควบคุมตัวเองพลางพูด
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ระบายอารมณ์ออกมา แม่บ้านก็ฟังออกว่าเธอไม่พอใจเท่าไหร่ เลยบอกว่าจะไปบอกซูยุ่นให้
“คุณนาย ข้างนอกมีคนนายคนหนึ่งบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณมาหาคุณน่ะ” แม่บ้านเข้ามาพูดด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินว่ามีคนมาหาเธอ ซูยุ่นก็เหม่อไป ปกติตัวเองก็มักจะมีเพื่อนมาที่บ้านมากมาย แม่บ้านก็น่าจะรู้จัก
“ออกไปดูหน่อยเถอะ” โล่เฟยเอ๋อเสนอ
“โอเค……” ซูยุ่นรู้สึกแปลกใจ
เมื่อเดินออกไปดู ก็ทำให้โล่เฟยเอ๋อกับซูยุ่นผิดคาด เพราะผู้หญิงตรงหน้าคือซือเหม่ยหยวน……
โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซือเหม่ยหยวนหน้าด้านขนาดนี้ คำพูดของเธอในวันนั้นชัดเจนเลยว่าไม่อยากติดต่อกับเธอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าซือเหม่ยหยวนจะกล้ามาหาอีก
ในขณะเดียวกัน ซือเหม่ยหยวนเองก็ตกใจ ไม่ได้บอกว่าโล่เฟยเอ๋อกับซูยุ่นไม่สนิทใจกันไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้คล้องแขนกันเดินออกมา ดูสนิทกันมากเลย
ซือเหม่ยหยวนคล้องแขนซูยุ่นด้วยความสนิทใจพลางพูด: “ฉันว่าวันหยุดคงนัดกับคุณไม่ได้แล้วดังนั้นเลยมาหาคุณตอนนี้ คุณคงไม่บอกว่ามันกะทันหันเกินไปนะ”
“ตั้งตัวไม่ทันเลยล่ะ……” ซูยุ่นอยากจะดึงแขนกลับ เธอคุยกับซือเหม่ยหยวนมาสักพัก แต่จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้
ซือเหม่ยหยวนไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนนอก เลยเดินเข้าไปในห้องพลางถอนหายใจไม่หยุด “ห้องของบ้านคุณนี่ตกแต่งเป็นอย่างดีเลยนะ!ฉันชอบอะไรที่ดูโบราณๆ น่ะ”
“ทำอย่างไรดี?พี่เฟยเอ๋อ……” ซูยุ่นขมวดคิ้ว พลางถามโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อตบมือของซูยุ่นด้วยความนิ่งเฉยแล้วพูด: “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะแก้ไขเอง”
หลังจากที่ซือเหม่ยหยวนเข้าไปในห้อง ก็นั่งลงบนโซฟา ดูคุ้นเคยมาก
ซูยุ่นรู้สึกท้อใจเป็นอย่างมาก พลางมองโล่เฟยเอ๋อด้วยความทำตัวไม่ถูก
จากนั้นซือเหม่ยหยวนก็หาเรื่องคุยกับซูยุ่น เลยไม่ได้สนใจโล่เฟยเอ๋อ เหมือนโล่เฟยเอ๋อเพิ่งมาแบบนั้นล่ะ
ตอนนี้ยู่ในสถานการณ์ที่คุณถามฉันตอบแล้ว ซือเหม่ยหยวนถามอะไร ซูยุ่นก็ตอบแบบนั้น มันทำตัวไม่ถูกสุดๆ เลยล่ะ
“คุณว่ามันดึกแล้วนะ ฉันเลี้ยงข้าวคุณดีกว่า” ซือเหม่ยหยวนจับมือของซูยุ่นพลางพูดขึ้น
ซูยุ่นดึงมือกลับ พลางพูด: “ไม่ต้องหรอก ฉันกับเฟยเอ๋อจะกินที่บ้าน ตอนนี้ไม่เช้าแล้ว คุณรีบกลับไปเถอะ”
นี่ยังพูดไม่เข้าใจอีกเหรอ?ว่าไม่อยากสนใจคุณแล้วน่ะ
แต่ซือเหม่ยหยวนเองก็พยายามปิดกั้นแล้ว แต่ยังมาตามติดอีก เลยพูดอย่างใจดี: “เอาแบบนี้ ฉันทำอาหารไม่เลวเลย ให้ฉันทำให้คุณไหม?”
“ไม่ต้องหรอก……” ซูยุ่นเริ่มรำคาญ ใบหน้าก็มีความเกลียดขึ้นมา
ซือเหม่ยหยวนไม่ได้โง่ เธอมองออกว่าซูยุ่นไม่อยากเจอเธอเลย เธอเลยโค้งให้ซูยุ่นพลางขอโทษ: “ขอโทษนะ……ขอโทษจริงๆ แต่ไม่ได้จะท้าทายคุณกับโจวเฉิงจริงๆ ฉันคิดไปเอง ฉันไม่มีเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ขอแค่คุณคุยกับฉัน ฟังฉันพูดบ้าง ฉันไม่อยากจะเสียเพื่อนอย่างคุณไป!”
ซูยุ่นอึ้งไป เธอจะหาเรื่องแบบไหนอีก?พูดวกวนไปจนตัวเองก็อึ้งไปโดยที่ฟังอะไรไม่เข้าใจเลย