งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 5
บทที่5 รักแรกนอกใจ
เพราะเมื่อคืนนัดกันไว้กับลู่ยู่แล้ว ดังนั้นสองทุ่มตรง เขามาถึงห้องที่จองไว้ในคลับดี้เหาตรงเวลา
เพิ่งเข้าไป ก็เห็นบนโซฟาหนังแท้สไตล์ยุโรป มีผู้ชายสวมชุดสูทใส่รองเท้าหนังนั่งอยู่หลายคน ในอ้อมแขนของผู้ชายหลายคน ยังคงพึ่งพาเด็กสาวสวย อายุราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปดปี เนื้อหนังอ่อนนุ่มจนราวกับสามารถคั่นเอาน้ำออกมาได้
ซูซีมู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย หยุดเดิน ดูเหมือนว่าวินาทีต่อไป เขาเตรียมจะหมุนตัวแล้วเดินออกไป
ในเวลานี้ลู่ยู่ที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ลุกขึ้นยืน “ซูซีมู่ นายมาแล้ว รีบนั่งสิ” พูดแล้วเขาก็ชี้ไปที่ที่นั่งว่างข้างๆ บนโซฟา
ลู่ยู่เอ่ยปากแล้ว ซูซีมู่รู้สึกไม่ดีที่จะไม่ไว้หน้าเขา ก็เลยอยู่ต่อ
หลังจากที่ถอดเสื้อคลุมส่งให้บริกร ก็หาที่นั่งว่างๆ ค่อนข้างไกลจากพวกลู่ยู่,ซูซีมู่รินเหล้าหนึ่งแก้ว ชูแก้วเหล้าให้กับคนที่ดื่มอวยพรกับเขา พอกำลังจะดื่ม ลู่ยู่ก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ “ซูซีมู่ นั่งดื่มคนเดียวตรงนี้จะไปสนุกอะไร มาด้วยกันสิ”
ซูซีมู่หนังตาไม่กระดิก พูดอย่างเรียบเฉย “ถ้านายยังเอาร่างที่มีกลิ่นน้ำหอมที่ทำให้คนขยะแขยงเข้าใกล้ฉันอีกนิ้วเดียว ฉันจะโยนนายออกไปทันที”
ลู่ยู่เข้าใจซูซีมู่มาก ไปยินประโยคนี้ของเขา ชูสองมือขึ้นทันที และถอยหลังสองก้าว “อย่า ฉันไม่เข้าใกล้นาย”
ซูซีมู่ไม่สนใจเขา เอนตัวพิงพนักพิงนุ่มๆบนโซฟา ม่านตามองต่ำ จ้องไวท์ในมือ
ลู่ยู่ส่ายหน้า จากนั้นพูดกับซูซีมู่ “ฉันว่านายติดนิสัยรักความสะอาดมากเกินไปมันดีจริง ๆ เหรอ แม้แต่กลิ่นน้ำหอมยังรับไม่ได้ อนาคตของนายยังจะแต่งงานไหม หรือว่าแต่งกับผู้หญิงที่ไม่ใช้น้ำหอมเหรอ ตอนนี้นอกจากคนบ้านนอกที่อยู่บ้านนอก ยังมีผู้หญิงแบบนี้…”
แต่งกับผู้หญิงที่ไม่ใช้น้ำหอมเหรอ ซูซีมู่หยุดการกระทำที่กำลังยกแล้วเหล้าลง
ในหัวมีใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อแวบเข้ามา บนร่างกายของเธอเหมือนกับจะไม่มีกลิ่นน้ำหอม…
“ซูซีมู่?” ลู่ยู่เห็นซูซีมู่จู่ ๆ ก็ยกแก้วเหล้าไม่ขยับ ตะโกนเรียกเขา
เขากำลังคิดถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ ซูซีมู่สัปหงก จากนั้นพูดกับลู่ยู่ประโยคหนึ่ง “ฉันออกไปเดินเล่นสักหน่อย” แล้วว่าแก้วที่อยู่ในมือลง ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง
ทุกคนเห็นลุกซูซีมู่ออกไปกะทันหัน นึกว่าเขาเป็นอะไร ก็หันมาไปอย่างพร้อมเพรียงกัน,ลู่ยู่หัวเราะแห้งๆแล้วพูดกับคนอื่นหนึ่งประโยค ‘เขาออกไปเดินเล่น’จากนั้นก็เรียกทุกคนให้ดื่มต่อ
ซูซีมู่ออกมาจากในห้อง เดินผ่านทางเดิน มาถึงระเบียงที่เปิดโล่งสุดทางเดิน
เขาสวมแค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว ลมตอนกลางคืนของปลายฤดูใบไม้ร่วงพัดมา ความเยือกเย็นแทรกซึมทั่วทั้งร่างกายทันที และยังพัดเอาความคิดที่ยุ่งเหยิงในหัวของเขาเมื่อกี้ออกไป
ยืนอยู่ตรงนั้นสิบกว่านาที เขากำลังเตรียมจะกลับห้อง เพิ่งจะหมุนตัว ก็เห็นเงาคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง ยืนห่างด้านหน้าห้องหลายเมตร
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ซูซีมู่หยุดเดิน สายตามองไปที่โล่เฟยเอ๋อ
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเป็นเบอร์ห้องที่ถังหซิวฉีบอก โล่เฟยเอ๋อก็ยกมือขึ้นเคาะประตูหลายครั้ง ด้านในกลับไม่ตอบกลับ ตอนที่เธอกำลังจะเคาะประตูอีกครั้ง ก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค ลังเลอยู่หลายวิ จากนั้นเธอก็ค่อยๆผลักประตูออก
พอประตูเปิด ก็มองเห็นด้านในห้อง ผู้ชายคนหนึ่งด้านหลังหันไปทางประตู ถือดอกกุหลาบช่อใหญ่ คุกเข่าต่อหน้าถังหซิวฉี
ตอนที่มองออกว่าผู้ชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าถังหซิวฉีเป็นใคร โล่เฟยเอ๋อกลับสูดหายใจ เบิกตาโตจ้องมอง ไม่เชื่อนิดหน่อย
รุ่นพี่กู้… นี่กำลังทำอะไรอยู่ ถังหซิวฉีขอความรักจากถังหซิวฉีเหรอ
ไม่ รุ่นพี่กู้ทำไมถึงชอบถังหซิวฉีละ แน่นอนว่าต้องจำคนผิด โล่เฟยเอ๋อบอกกับตัวเองแบบนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ทว่าวินาทีถัดมา บทสนทนาของผู้ชายกับถังหซิวฉี ทำลายจิตนาการของโล่เฟยเอ๋อ
“ชิงหลัน ฉันนึกว่าคุณเป็นแฟนกับเฟยเอ๋อ ตอนเรียนมหาลัย พวกเธอไปไหนก็ไปด้วยกัน” ในน้ำเสียงของถังหซิวฉีบ่นเบา ๆ
“ไม่ใช่ เธอเข้าใจผิดแล้ว ระหว่างฉันกับโล่เฟยเอ๋อไม่มีความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น” เขาอึ้งสักพัก ก็พูดขึ้นอีก “บางที ฉันอาจจะยังไม่ดีพอ แต่ฉันสัญญาฉันจะเป็นคนที่ดีกับเธอที่สุดในโลกใบนี้ โปรดตอบตกลงเป็นแฟนกับฉันนะ”
ถังหซิวฉีแสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะต่อโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็พยักหน้าอย่างเขินอายให้กู้ชิงหลันที่คุกเข่าอยู่บนพื้น
กู้ชิงหลันลุกขึ้นยืนอย่างดีใจ จากนั้นอุ้มถังหซิวฉีขึ้น เดินไปรอบ ๆ ในห้อง
“อย่างทำแบบนี้ มีคนมองอยู่นะ” ถังหซิวฉีกอดคอเขาไว้ มองออกไปนอกประตูอย่างเขินอาย
“ใครกล้ามอง ฉัน…” แววตาของกู้ชิงหลันประกายความโกรธ อุ้มถังหซิวฉีอยู่แล้วหมุนตัว ตอนที่เห็นโล่เฟยเอ๋อยืนอยู่ตรงประตู เขาก็หยุดพูด อารมณ์สีหน้าของเขาก็อึ่งทึ่ง
ผ่านไปประมาณสิบกว่าวินาที เขาถึงได้สติกลับมา ถามอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย “เฟยเอ๋อ เธอมาได้อย่างไร”
ฉันมาได้ยังไงนะเหรอ เพราะว่าเธอบอกให้ฉันมายังไงล่ะ
ไม่ ไม่ใช่เธอบอกให้ฉันมา แต่เป็นถังหซิวฉีพูดกับฉันว่าต้องการให้ฉันมา
ให้ฉันมาดูเธอคุกเข่าขอเขาเป็นแฟน
ถังหซิวฉีพูดอย่างดวงตายิ้มแย้ม “ชิงหลัน ฉันให้เฟยเอ๋อมา เดิมทีฉันคิดว่าเฟยเอ๋อกับฉันและเธอล้วนคุ้นเคยกัน เธอเชิญฉันมา ตอนที่ฉันอยู่บริษัทก็เลยถือโอกาสเรียกเฟยเอ๋อมาด้วย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเซอร์ไพรส์ให้ฉันชุดใหญ่ขนาดนี้”
กู้ชิงหลันมองถังหซิวฉีแวบหนึ่ง จากนั้นมองโล่เฟยเอ๋ออยากพูดแต่ก็ไม่พูด “เฟยเอ๋อ ฉัน…”
ไม่รอให้กู้ชิงหลันพูดจบ ถังหซิวฉีก็ยืนมือไปจับบนตัวของกู้ชิงหลันอย่างสนิทสนม อมยิ้มแล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ เธอจะอวยพรฉันกับรุ่นพี่กู้ไหม”
โล่เฟยเอ๋อรู้ว่า ถังหซิวฉีตั้งใจถามแบบนี้ เขาต้องการเห็นเธอเสียใจ
และถังหซิวฉีก็ทำสำเร็จ เธอเสียใจจริง ๆ
เธอคิดมาตลอดว่าระหว่างเธอกับกู้ชิงหลันเหลือแค่เจาะหน้าต่างกระดาษชั้นนั้น ตอนนี้กู้ชิงหลันบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดใด เขายังอุ้มผู้หญิงที่มักทำให้เธอลำบากมาตลอดอย่างสนิทสนม โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเจ็บปวดใจจนหายใจไม่ออก
เธอกัดริมฝีปากแรงๆ ถึงกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาได้
“อวยพร อวยพรให้เธอกับรุ่นพี่กู้มีความสุข อย่างยาวนาน”
“ขอบใจเธอมาก เฟยเอ๋อ” หลังจากที่ถังหซิวฉีพูดประโยคนี้จบ หันหน้าพูดกับกู้ชิงหลันเสียงอ่อน “ชิงหลัน ฉันหนาว เสื้อคลุมอยู่บนระเบียง เธอช่วยไปหยิบมาให้ได้ไหม”
กู้ชิงหลันเก็บสายตาที่มองโล่เฟยเอ๋อ แล้วพยักหน้า “ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” พูดจบ เขาก็ออกไปที่ระเบียงอย่างรีบร้อน
หลังจากที่กู้ชิงหลันจากไป ถังหซิวฉีก็เปลี่ยนจากที่เมื่อกี้ดูอ่อนแอ เขายิ้มและพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “โล่เฟยเอ๋อ เห็นแล้วหรือยัง รุ่นพี่กู้ที่เธอชอบ ตอนนี้เป็นแฟนฉันแล้ว มองดูผู้ชายที่ตัวเองชอบมาตั้งหลายปี กลับชอบผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดที่สุด เธอรู้สึกไหมว่านี่เป็นความทรมานที่ตายดีกว่าอยู่…”
“รุ่นพี่กู้ชอบเธอขนาดนี้ เธอก็คบกันเขาให้ดีดี” โล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมาอย่างแข็งแกร่ง ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอกำมัดไว้แน่นมากจนเปลี่ยนสีซีดเซียว เล็บถูกฝังอยู่ลึกเข้าไปในเนื้อ ความเจ็บปวดที่เหมือนกับโดนเจาะหัวใจ
ได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ,ถังหซิวฉีก็หัวเราะ “โล่เฟยเอ๋อ,พูดคำพูดที่ขัดกับใจ เธอเจ็บใจมากใช่ไหมล่ะ”
“โล่เฟยเอ๋อ เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา” ถังหซิวฉีพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดลง จากนั้นเข้าใกล้ข้างหูของโล่เฟยเอ๋อ ตั้งใจพูดกดเสียงต่ำ “ง่ายนิดเดียว ฉันก็จะแย่งของที่เธอชอบไปยังไงล่ะ”
ได้ยินที่ถังหซิวฉีพูด ไม่เพียงเพราะเธอชอบกู้ชิงหลันเขาถึงแย่งไป ก้นบึงหัวใจของโล่เฟยเอ๋อเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
เงียบขรึมอยู่หลายวิ เธอถึงเงยหน้าขึ้น เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน กวาดสายตาจ้องมองถังหซิวฉีบนล่างรอบหนึ่ง จากนั้นแสยะยิ้มพูด “ฉันว่า ถังหซิวฉีแท้จริงแล้วหลายปีมานี้เธอตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันตลอด ก็เพราะว่าอิจฉาริษยาเหรอ” พูดถึงตรงนี้โล่เฟยเอ๋อก็หยุดแป๊บหนึ่ง แล้วพูดต่อ “ที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องอิจฉาฉัน เพราะว่าด้านวิธีใช้กลอุบายที่ต่ำตมฉันเทียบไม่ได้เลยจริง ๆ”
ตอนที่ถังหซิวฉีได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่าอิจฉา โกรธมือกำมัดแน่น ตอนที่ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดประโยคสุดท้าย ในที่สุดก็ทนไม่ได้ ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้น ตบไปที่หน้าของโล่เฟยเอ๋อ
ถังหซิวฉียกมือกะทันหัน ความเร็วก็ไว ทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่ทันตั้งรับ ทำให้เธอไม่มีเวลาตอบสนองใดใดและหลบได้
ตอนที่เห็นมือของถังหซิวฉี ตบไปที่หน้าของโล่เฟยเอ๋อ…