งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 64
บทที่ 64 คนที่ถูกซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
“ ใช่ ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า หลังจากนั้นก็ก้มหน้าลง และเบนสายตาไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในกล่อง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
หซิวหชูเฉียวมองโทรศัพท์ที่อยู่บนมือของโล่เฟยเอ๋อ และหันมามองโล่เฟยเอ๋อ หลังจากนั้นก็พูดถามขึ้นมา “ เฟยเอ๋อ เขาให้โทรศัพท์ที่มีราคาแพงขนาดนี้กับเธอ เธอแน่ใจหรอว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ? ”
“ แน่ใจสิ ” โล่เฟยเอ๋อไม่ได้แปลกใจต่อของที่ซูซีมู่ซื้อให้ เพราะเสื้อผ้าที่มีราคาแพงกว่านี้ ซูซีมู่ก็เคยซื้อให้เธอมาแล้ว
เพียงแต่ในสายตาของเขา ไม่ว่าจะให้ของอะไรกับเธอ เขาก็คิดว่ากับเธอแค่เพื่อนมาโดยตลอด
และสิ่งของราคาแพงที่เขาให้มาแต่ละชิ้น เธอก็คืนไม่ไหวเช่นกัน
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกปวดใจทันที
“ เขาคิดกับฉันแค่เพื่อน ”
หซิวหชูเฉียวอ้าปากอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
โล่เฟยเอ๋อมองสีหน้าของหซิวหชูเฉียว และหัวเราะออกเสียง “ ฉันไม่เป็นอะไร จริงๆนะ เพียงแค่ได้อยู่ข้างกายเขา จะเป็นเพื่อนก็ได้ ”
หซิวหชูเฉียวถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นก็พูดถามขึ้น “ หิวหรือยัง? ฉันจะไปทำกับข้าว เธออยากกินอะไร? ”
“ อะไรก็ได้ ” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างยิ้มอ่อน
หซิวหชูเฉียวมองเธอเล็กน้อย หลังจากนั้นก็หมุนตัวเดินเข้าห้องครัวไป
โล่เฟยเอ๋อรอจนหซิวหชูเฉียวเดินออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆหายไป เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดแทน
เขายิ่งดีกับเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตกลงไปในหลุมลึกเท่านั้น
ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่าจะไม่ละโมบอีก แต่ใจของเธอยังคงเจ็บปวดอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
ยื่นมือหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกล่องโทรศัพท์ โล่เฟยเอ๋อมองอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็กดปุ่มเปิดเครื่อง
นิ้วมือเลื่อนไปบนหน้าจอ สุดท้ายก็ไปหยุดที่บนรายชื่อผู้ติดต่อที่ว่างเปล่า
ถึงแม้ว่าโจวเฉิงจะไปทำซิมที่บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ให้เธอแล้ว แต่ข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องเดิมกลับหายไปจนหมด
โล่เฟยเอ๋อเม้มปาก ค่อยๆกดเบอร์11หลักที่จำได้ขึ้นใจลงไปบนแป้นพิมพ์
กดเบอร์เสร็จแล้ว เธอก็กดสร้างรายชื่อใหม่ หลังจากนั้นก็พิมพ์ชื่อลงไป
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อพิมพ์คำว่า ‘ ซูซีมู่ ’ เสร็จ ก็ลังเลเล็กน้อย เธอลบชื่อนั้นอีกครั้ง และได้กดพิมพ์ใหม่
สุดท้ายเธอพิมพ์คำว่า ‘ คนที่ถูกซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ’
เขาทำได้แค่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอเท่านั้น
โล่เฟยเอ๋อก้มหน้าลง และกดบันทึก
หลังจากที่สร้างรายชื่อผู้ติดต่อใหม่แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็เลือกเพลงเก็บซ่อนเธอไว้ในใจ และโหลดจากอินเตอร์เน็ต ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเบอร์ของซูซีมู่
ทำทุกอย่างเรียบร้อย โล่เฟยเอ๋อกดที่เบอร์ของซูซีมู่ เตรียมจะกดโทร
ตอนสังเกตว่าเวลาในโทรศัพท์ยังไม่ห้าโมง การกระทำบนมือของเธอก็หยุดลงทันที หลังจากนั้นก็กดออกจากรายชื่อผู้ติดต่อ รออีกสักพักค่อยกดโทรหาซูซีมู่
และเธอยังไม่ทันได้วางโทรศัพท์ลง เสียงเพลงเก็บซ่อนเธอไว้ในใจที่เธอเพิ่งตั้งเสร็จเมื่อสักครู่ ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
ตอนที่ซูซีมู่ประชุมวีดีโอเสร็จ ก็ยังไม่ห้าโมง เขาคาดการณ์ว่าตอนนี้โจวเฉิงคงจะเอาโทรศัพท์ไปให้โล่เฟยเอ๋อแล้ว จึงกดโทรหาโล่เฟยเอ๋อ
“ เฟยเอ๋อ? ” ซูซีมู่รีบพูดกับโทรศัพท์ทันที
“ อือ ฉันเอง ” โล่เฟยเอ๋อชะงักไปนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมา: “ ลำบากคุณต้องออกเงินซื้อโทรศัพท์เลย รอให้ฉันมีเงิน แล้วฉันจะคืนคุณนะ ”
ได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ก็ขมวดคิ้วทันที
เขาไม่ชอบให้เธอพูดแบบนี้ ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ ถึงขนาดมีความรู้สึกโมโหนิดหน่อย เหมือนตอนที่ซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่เขตซีหลัน
เขาไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอถึงไม่สามารถรับไปได้อย่างสบายใจ
เพราะซูซีมู่โกรธ จึงไม่ได้พูดตอบโล่เฟยเอ๋อ
และโล่เฟยเอ๋อเห็นว่าซูซีมู่ไม่พูดอะไร เธอก็เงียบลงเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะเงียบ แต่ทั้งสองคนมีความรู้สึกที่รู้กันทั้งสองฝ่าย ใครก็ไม่ยอมวางสาย
ต่อให้เรขาเข้ามาและหยิบเอกสารให้ซูซีมู่เซ็นชื่อ ซูซีมู่ก็มือนึงถือโทรศัพท์ และอีกมือพลิกเอกสารเซ็นชื่อ
รอจนซูซีมู่เซ็นชื่อเสร็จแล้ว เรขาก็ได้พูดกับเขาอีกครั้ง ว่าผู้จัดการแต่ละแผนกกำลังรอพบเขาอยู่ที่ด้านนอกห้องทำงาน
ซูซีมู่ตอบแบบไม่คิดเลยสักนิด “ ให้พวกเขารอก่อน ”
โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงเรขาบอกว่ามีคนมารอพบเขา จากในโทรศัพท์ของซูซีมู่อย่างเลือนราง ซูซีมู่กลับให้คนพวกนั้นรอไปก่อน
โล่เฟยเอ๋อปะติดปะต่อหน้าหลัง ก็รู้ว่าคำพูดของซูซีมู่หมายความว่าอะไร เธอจึงรีบตะโกนเรียกเขาทันที “ ซูซีมู่? ”
ซูซีมู่ที่ได้ยินเสียงโล่เฟยเอ๋อก็ได้ชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็พูดบอกเรขาว่ารอสักครู่อย่างเย็นชา และส่งเสียงอือใส่โทรศัพท์
ก่อนหน้าที่ใช้พูดกับเรขาเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาออกจะไร้ความรู้สึก แต่ตอนที่พูดกับโล่เฟยเอ๋อกลับเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงนุ่มนวลขึ้นมาทันที
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สังเกตเลยสักนิดเดียว เธอทำแค่พูดขึ้นมา: “ ถ้าคุณมีงานก็ไปทำงานเถอะ ”
“ ไม่รีบ ” ซูซีมู่ตอบอย่างเรียบง่าย
“ อะไรคือไม่รีบ? คนอื่นกำลังรอคุณอยู่ไม่ใช่หรอ? รีบไปพบพวกเขาสะ หลังจากนั้นก็ทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ และกลับบ้านเร็วๆ พักผ่อนเยอะๆ แล้วอย่าทำงานล่วงเวลาจนถึงตอนดึกอีกละ…… ” โล่เฟยเอ๋อพูดบ่นยาว ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยการตำหนิ
ตอนนี้พระอาทิตย์ยามเย็นนอกหน้าต่างกำลังสวยได้ที่ ย้อมทั้งเมืองให้เป็นสีแดง
ซูซีมู่นั่งฟังคำตำหนิของโล่เฟยเอ๋ออยู่บนเก้าอี้ทำงาน ใบหน้ากลับไม่มีความหงุดหงิดเลยสักนิดเดียว
สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อก็พูดขึ้นมา: “ ไอยา ไม่พูดกับคุณแล้ว คุณรีบไปทำงานเถอะ ”
ซูซีมู่ส่งเสียงอือ หลังจากนั้นก็พูดเสริมขึ้นมาอย่างงงๆ “ พรุ่งนี้ผมไม่ยุ่ง ”
พรุ่งนี้เขาไม่ยุ่ง? โล่เฟยเอ๋องงไปสักพักและยังไม่ได้ตอบสนองกลับมา
ซูซีมู่ก็พูดขึ้นมาอีก “ หนังเรื่อง zero คุณยังอยากจะดูอยู่ไหม? ”
“ อยาก ” โล่เฟยเอ๋อตอบแบบไม่คิดเลยสักนิดเดียว
“ ที่บ้านมีแผ่น จะดูไหม? ” เพราะครั้งที่แล้วโล่เฟยเอ๋อมาอยู่เป็นเพื่อนซูซีมู่จึงไม่ได้ไปดูหนังที่ โรงหนังศตวรรษใหม่ ซูซีมู่จึงให้โจวเฉิงเอาแผ่นซีดีเรื่อง zero มาให้เขาที่นั่น เพียงแค่เขาไม่มีโอกาสได้บอกเรื่องนี้กับโล่เฟยเอ๋อมาโดยตลอด
“ อือ งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันไปหาคุณที่นั่น ” โล่เฟยเอ๋อพูดจบก็ได้พูดเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค “ เอาอาหารเช้าไปให้? ”
“ ได้ ”
ตอนเช้าวันต่อมา โจวเฉิงโทรแจ้งซูซีมู่ว่า เป็นเพราะโครงการครั้งนี้เกิดความผิดพลาด กลุ่มนายทุน LM จึงส่งรองประธานของพวกเขามาเจรจาหารือ ตอนนี้เขามาถึงสำนักงานใหญ่แล้ว
กลุ่มนายทุน LM เป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก รองประธานบริษัทมาจัดการโครงการนี้ที่บริษัทซูซื่อด้วยตัวเอง ซูซีมู่เป็นที่ประธานของบริษัทซูซื่อ ไม่ไปต้อนรับด้วยตัวเองก็คงจะไม่ถูกต้อง เขาจึงโทรหาโล่เฟยเอ๋อ
“ เฟยเอ๋อ คุณออกมาแล้วหรือยัง? ”
“ อือ ฉันใกล้ถึงชุมชนแล้ว ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าใกล้ถึงชุมชนแล้ว ซูซีมู่ก็เม้มปาก “ เฟยเอ๋อ ผมมีเรื่องต้องไปเมืองหลวง ”
ได้ยินซูซีมู่บอกจะไปเมืองหลวง โล่เฟยเอ๋อก็พูดขึ้นมาอย่างเข้าใจ: “ อือ คุณไปเถอะ หนังค่อยดูวันอื่นก็ได้ ”