งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 68
บทที่ 68 ให้ประธานซูทาสีเล็บให้คุณ
โล่หยิวชิวโทรมา
อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่โล่หยิวชิวรู้เบอร์โทรศัพท์ของซูซีมู่มาจากโล่เฟยเอ๋อ ก็ใช้นามสกุลของซูซีมู่และเบอร์โทรนี้ หาคนสืบหาข้อมูลของซูซีมู่
ผลที่ได้คือสิ้นเปลืองเวลาไปหนึ่งเดือน นึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์ที่ได้คือหาคนคนนี้ไม่พบ
หลังจากรู้ข่าว โล่หยิวชิวก็นั่งไม่ติดอีกเลย
จึงอยากจะมากินข้าวกับโล่เฟยเอ๋อ และจะได้ถามเรื่องที่เกี่ยวกับซูซีมู่จากปากของโล่เฟยเอ๋อด้วย
“ เฟยเอ๋อ เธออยู่ไหน? กินข้าวด้วยกันหน่อยสิ ”
“ พี่ โทษที ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่เมืองA ” โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยสีหน้าขอโทษ
โล่หยิวชิวถามขึ้นอย่างสงสัย “ ไม่อยู่เมืองA? แล้วอยู่ที่ไหน? ”
“ พี่ ฉันมาเมืองหลวง ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าอยู่เมืองหลวง โล่หยิวชิวก็รู้สึกตกใจมาก “ เธอไปทำไมที่เมืองหลวง? ”
“ มาเที่ยวกับเพื่อน ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าอยู่เมืองหลวง อารมณ์ของโล่หยิวชิวก็เหี่ยวเฉาทันที “ งั้นรอให้เธอกลับมาก่อนแล้วค่อยกินข้าวกันนะ ”
“ ได้ค่ะ พี่ ” โล่เฟยเอ๋อเห็นด้วย
โล่หยิวชิวไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ จึงไม่ได้พูดอะไรกับโล่เฟยเอ๋อมากนัก เธอพูดกับโล่เฟยเอ๋อลวกๆ และวางสายไป
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ความคิดของโล่หยิวชิวเลยสักนิด เธอวางสายจากโล่หยิวชิวแล้ว ก็ได้เดินไปที่ร้านเคเอฟซีกับ สงเฟยเหวิน
กินอาหารกลางวันที่ร้านเคเอฟซีเสร็จแล้ว สงเฟยเหวินก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อด้วยน้ำเสียงปรึกษาหารือ: “ คุณหนูโล่คะ คุณอยากไปที่ไหนไหม? ถ้าไม่มี ฉันขอพาคุณไปที่ที่นึงได้ไหมคะ? ”
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อก็ไม่มีสถานที่ที่อยากไปอยู่แล้ว อีกอย่างให้ สงเฟยเหวิน อยู่เป็นเพื่อนเธอแบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงตอบตกลงไปว่าได้
เห็นโล่เฟยเอ๋อตกลง สงเฟยเหวิน จึงพูดขอบคุณโล่เฟยเอ๋อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้นก็พาโล่เฟยเอ๋อขึ้นรถ
หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว สงเฟยเหวิน ก็บอกจุดหมายปลายทางกับคนขับ หลังจากนั้นก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อยิ้มๆ: “ ช่วงที่ผ่านมาที่ห้องทำงานจองภาพวาดทัศนียภาพเอาไว้ ไม่มีเวลาไปเอา จึงเสียเวลาคุณหนูโล่ให้ไปกับฉันด้วย ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อสายหน้า ไม่ได้ถือสาอะไร
นั่งรถประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
“ คุณหนูโล่คะ ที่นี่ไงคะ ”
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าสังเกตหน้าร้าน หลังจากนั้นก็พยักหน้าและเดินเข้าไป
ของของ สงเฟยเหวิน เป็นของที่สั่งทำโดยเฉพาะ พนักงานร้านพาเธอเข้าไปรับของ
โล่เฟยเอ๋อรอเธออยู่ที่ด้านนอก พนักงานร้านมาเสิร์ฟกาแฟให้เธอ และส่งนิตยสารให้เธออ่านฆ่าเวลา
โล่เฟยเอ๋อยกกาแฟด้วยมือข้างเดียว และพลิกหน้านิตยสารไปด้วย
อยู่ๆเธอก็ถูกนิทานในนิตยสารดึงดูดเข้าให้
ในนิตยสารบอกว่า ที่ประเทศฝรั่งเศสมีตำนานที่โรแมนติกอยู่ตำนานหนึ่ง ถ้าผู้ชายช่วยผู้หญิงที่ตัวเองชอบทาสีทาเล็บที่ไม่เหมือนกันตรงนิ้วนางข้างขวา แสดงว่าใจของผู้หญิงคนนั้น มีแค่ผู้ชายคนนั้นตลอดไป
และที่ผู้หญิงยอมให้ผู้ชายทาสีทาเล็บที่นิ้วนางข้างขวานั้น ก็หมายความว่าเธอรักและสนใจผู้ชายคนนั้น
“ รักเขาก็วางเขาไว้ในใจ…… ” โล่เฟยเอ๋ออ่านนิตยสารอย่างงุนงง และได้ใจลอยไปไกล
สงเฟยเหวิน รับของเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาจากในร้าน และเดินไปที่ด้านหน้าโล่เฟยเอ๋อ “ คุณหนูโล่คะ? ”
โล่เฟยเอ๋อจ้องนิตยสารบนมือ ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ได้ตอบเธอ
“ คุณหนูโล่คะ? คุณหนูโล่? ” สงเฟยเหวิน เรียกโล่เฟยเอ๋อติดต่อกันสองครั้ง
ครั้งนี้โล่เฟยเอ๋อได้สติ “ หือ? ”
“ คุณหนูโล่ คุณกำลังอ่านอะไรคะ? ดูสะจนเคลิ้มเชียว ” สายตาของ สงเฟยเหวิน ไปตกอยู่บนนิตยสารที่อยู่บนมือของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อพูดยิ้มๆ: “ แค่นิทานเองค่ะ ”
“ นิทานอะไรคะ? ” สงเฟยเหวิน ถามอย่างสนใจ
โล่เฟยเอ๋อส่งนิตยสารบนมือให้ สงเฟยเหวิน “ คุณดูเองดีกว่าค่ะ ”
“ อือ ” สงเฟยเหวิน รับนิตยสารมา และอ่านดู
อ่านเสร็จ เธอก็พูดขึ้นมายิ้มๆ: “ ตำนานเรื่องนี้น่าสนใจดีนะคะ คุณหนูโล่ลองสักหน่อยไหม? ”
“ เอ่อ…… ” โล่เฟยเอ๋อชะงักไปเล็กน้อย ลอง? ลองกับใคร? เธอไม่มีแฟนนี่นา
สงเฟยเหวิน ไม่รู้ความคิดของโล่เฟยเอ๋อ เธอเข้าใจว่าโล่เฟยเอ๋อกับท่านประธานของพวกเขาเป็นคู่กัน จึงไม่ยอมให้โล่เฟยเอ๋อกับท่านประธานของพวกเขาพลาดเรื่องที่โรแมนติกแบบนี้ไปอย่างแน่นอน เธอจูงมือโล่เฟยเอ๋อไปด้านนอก “ มาค่ะ คุณหนูโล่ ไปลองกันดีกว่า ด้านหน้ามีตู้กดเครื่องสำอาง ไปซื้อสีทาเล็บกันค่ะ ”
หลังจากนั้นโล่เฟยเอ๋อก็ถูก สงเฟยเหวิน จูงไปที่หน้าตู้กดเครื่องสำอางอย่างงงๆ และทำการเลือกสีทาเล็บ เป็นสีทาเล็บสีแดงที่มันวาว
ตามที่ สงเฟยเหวิน บอก สีแดงแสดงถึงหัวใจของโล่เฟยเอ๋อ และมันสามารถแสดงความรักของเธอ
แต่ความรักของเธอกลับแสดงออกมาไม่ได้นี่นา! โล่เฟยเอ๋ออยากร้องไห้จริงๆ
สงเฟยเหวิน เห็นสีหน้าของโล่เฟยเอ๋อ นึกว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังกังวลว่าซูซีมู่จะไม่ทาสีทาเล็บให้เธอ
พิจารณาอยู่ในใจ รอสักพักค่อยเตือนประธานซู ให้ประธานซูช่วยทาสีทาเล็บให้คุณหนูโล่ แน่นอนว่าห้ามพูดจนหมดเปลือก ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทำลายสิ่งที่คุณหนูโล่ตั้งใจจะให้กับประธานซูได้
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ความคิดของ สงเฟยเหวิน ถ้าเธอรู้ คงจะร้องออกมาจริงๆ
ตอนนี้เธอกำลังปกปิดความชอบที่มีต่อซูซีมู่?
อีกอย่าง เธอไม่ได้สนใจสีทาเล็บสักเท่าไหร่หรอก
ที่เธอสนใจก็คือตำนานโรแมนติกเรื่องนั้นต่างหาก เอาเธอ/เขาวางไว้ในใจ
ที่เธอคิดได้คือ ออกแบบแหวนหนึ่งวง ให้ผู้ชายสามารถแสดงออกถึงการเอาฝ่ายตรงข้ามวางไว้ในใจของเขา
ภายใต้การพูดจูงใจของ สงเฟยเหวิน โล่เฟยเอ๋อไม่สามารถปฏิเสธเธอได้ สุดท้ายจึงทำได้เพียงซื้อสีทาเล็บ
ทั้งสองคนเดินเล่นสักพัก ก็กลับโรงแรม
หลังจากที่กลับโรงแรมมา โล่เฟยเอ๋อก็นั่งบนเก้าอี้โยก และโยกไปมาอย่างไม่มีอะไรทำ
สงเฟยเหวิน กลัวว่าเธอจะเบื่อ จึงลงไปซื้อขนมให้เธอ
ตอนเธอซื้อขนมถุงใหญ่ และกลับมาที่โรงแรม นึกไม่ถึงว่าจะเห็นโล่เฟยเอ๋อนอนหลับอยู่บนเก้าอี้โยก
สงเฟยเหวิน วางขนมลง ตอนที่เตรียมเดินไปที่ห้องนอน เพื่อจะหยิบพรมมาคลุมให้โล่เฟยเอ๋อ ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก
สงเฟยเหวิน กลัวว่าจะทำให้โล่เฟยเอ๋อตื่น จึงหมุนตัว และเดินไปเปิดประตูก่อน
ด้านนอกคือซูซีมู่ที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมเสร็จ
“ ประธานซู…… ” เสียงของ สงเฟยเหวิน เบามาก
ซูซีมู่พยักหน้า และเดินเข้าไปในห้อง มองไปรอบๆก็ไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ จึงขมวดคิ้วและพูดขึ้น: “ เธอละ? ”
“ คุณหนูโล่หลับไปแล้วค่ะ ” สงเฟยเหวิน ชี้ไปทางเก้าอี้โยก
ซูซีมู่เอียงหัว จ้องโล่เฟยเอ๋อที่นอนหลับสนิทอยู่บนเก้าอี้โยก หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ ไปหยิบพรมมา ”
“ ได้ค่ะ ” สงเฟยเหวิน เดินไปหยิบพรมมาจากในห้องนอน เตรียมจะไปคลุมให้โล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่กลับพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน: “ เอามาให้ผม ”
“ ค่ะ ประธานซู ” สงเฟยเหวิน ส่งพรมบนมือให้ซูซีมู่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ ประธานซูคะ คุณหนูโล่ซื้อหนังสือภาพหนึ่งเล่มกับสีทาเล็บหนึ่งขวด เธอยืนหยัดจะจ่ายเงินด้วยตัวเองค่ะ ”
ซูซีมู่ชะงักไปนิดหน่อย และสิ่งเสียงอือนิ่งๆ หลังจากนั้นก็ถือพรมไปที่ด้านหน้าเก้าอี้โยก
สายตาของ สงเฟยเหวิน สั่นไหวนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ คุณหนู่โล่ชอบสีทาเล็บขวดนั้นมาก แต่เหมือนไม่อยากทาด้วยตัวเอง ประธานซูช่วยทาให้เธอหน่อยสิคะ ”
การกระทำของซูซีมู่ที่กำลังคลุมพรมให้โล่เฟยเอ๋อหยุดลง เขาไม่ได้พูดอะไร
สงเฟยเหวิน คิดว่าเธอพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ท่านประธานซูของพวกเขาก็น่าจะรู้ว่าหมายความว่าอะไร และพูดขึ้นมาอีกครั้ง: “ ประธานซูคะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ ”
“ รอเดี๋ยว ” ตอนที่ สงเฟยเหวิน กำลังหมุนตัว ซูซีมู่เรียกเธอเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาเสียงเบา: “ คุณไปเอาแผ่นหนังเรื่อง zero ที่บริษัทมาให้ผมหน่อย ”
“ ค่ะ ประธานซู ” สงเฟยเหวิน พยักหน้า หลังจากนั้นก็เดินออกไปจากในห้อง