งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 74
บทที่74 แรงบันดาลใจในการแข่งขันการออกแบบของโล่เฟยเอ๋อ
วันนี้ในที่ทำงาน โล่เฟยเอ๋อล้วนดูไม่ปกติ
ไม่เพียงเบลอเพราะเมื่อคืนนอนน้อย เธอยังใจลอย คิดถึงแต่ซูซีมู่
คิดว่าเขายังโกรธอยู่ไหม
คิดว่าเมื่อคืนเขาพักผ่อนที่โรงแรมสบายดีไหม
…
คิดมากทั้งเรื่องที่เป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้
คิดแล้วยังไม่พอ ยังจับโทรศัพท์ตลอด คิดทบทวนว่าจะโทรหาเขาดีไหม พอโทรหาเขาแล้วควรจะพูดอะไรดี เป็นต้น
โล่เฟยเอ๋อเกือบทำให้ตัวเองเป็นบ้า
โล่เฟยเอ๋อข้ามผ่านครึ่งค่อนวันด้วยความสะลึมสะลือ ตอนบ่ายรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอชื่อซิวหนิงมาพบเธอเพื่อพูดคุย สรุปพบว่ามีปัญหา
ในระหว่างที่พูดคุยกัน โล่เฟยเอ๋อใจลอยตลอด จากที่ซิวหนิงไม่เคยด่าเธอเลย ก็ด่าเธอเป็นครั้งแรก
“เฟยเอ๋อ ถ้าคุณไม่อยากฟังที่ฉันพูด คุณออกไปจากห้องทำงานเดี๋ยวนี้”
โล่เฟยเอ๋อรู้ว่าเป็นความผิดของตัวเอง เธอก้มหน้า ขอโทษพี่หนิงด้วยเสียงต่ำ “ขอโทษคะ พี่หนิง ฉันผิดไปแล้ว”
ซิวหนิงมองรุ่นน้องที่พึงพอใจมากที่สุดที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความโกรธและผิดหวัง “ตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่ ถ้าไม่อยากเข้าร่วมในการแข่งขันของแผนกออกแบบนี้ เธอก็บอกฉันก่อนล่วงหน้า ฉันจะเอาโควตาของคุณให้กับคนอื่น”
ได้ยินซิวหนิงบอกว่าจะเอาโควตาให้คนอื่น โล่เฟยเอ๋อก็รีบพูด “พี่หนิง ฉันอยากเข้าร่วม ฉันอยาก”
“สภาพของเธอแบบนี้จะเข้าร่วมการแข่งขัน เปลืองโควตานี้นะสิ” น้ำเสียงของซิวหนิง ไม่เคยเข้มงวดแบบนี้มากก่อน
โล่เฟยเอ๋อกำชายเสื้อ จากนั้นพูดอย่างรับประกัน “ฉันสัญญาว่าจะปรับอารมณ์ให้ดีเดี๋ยวนี้”
ซิวหนิงจ้องโล่เฟยเอ๋ออยู่นานสักพัก จากนั้นถอนหานใจ “เฟยเอ๋อ ไม่ใช่ว่าฉันเข้มงวดกับเธอเกินไป แต่การแข่งขันนี้มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนกออกแบบของเธอในอนาคต ไม่ใช่การล้อเล่น”
“คะ ฉันรู้ความพยายามของพี่หนิง” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
ซิวหนิงพูด “อึม” เบาๆ คำหนึ่ง จากนั้นหยิบซองจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะยืนให้เธอ
“กลุ่มAของพวกเรามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดสิบคน นี่คือใบเข้าสนามแข่งขันของเธอ พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า ประชุมผู้ร่วมแข่งขันทั้งหมดของแผนกออกแบบ และข้อหัวหลักในการแข่งขันก็จะประกาศในที่ประชุมวันพรุ่งนี้”
“คะ ขอบคุณคะพี่หนิง” โล่เฟยเอ๋อรับเอาซองจดหมายจากในมือของซิวหนิงอย่างระวัง
ซิวหนิงมองโล่เฟยเอ๋อเขม็งแวบหนึ่ง จากนั้นโบกมือให้เธอ “ออกไปเถอะ”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วเดินออกจากห้องทำงานของซิวหนิง
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อถือจดหมายกลับถึงห้องทำงานของกลุ่มA หลายคนในห้องทำงานมองเธออย่างอิจฉา
“โล่เฟยเอ๋อก็มีโควตาอะ”
“อึม พี่หนิงเป็นคนให้” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
มีคนเอ่ยปากถามว่า “ห้องทำงานของพวกเรารวมกับเฟยเอ๋อ มีสิบคนที่มีโควต้าแล้ว ไม่รู้ว่ายังมีโควต้ามากกว่านี้ไหม”
“อันนี้ก็ไม่รู้ ที่จริงยังมีกลุ่มB และกลุ่มC ตามโควต้าแล้วมีทั้งหมดยี่สิบห้าคน…”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ฟังที่พวกเขาถกเถียงกัน เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอ
เธอจ้องจดหมายที่อยู่ในมือ แอบให้กำลังใจตัวเองในใจลึกๆ
“โล่เฟยเอ๋อ เธอทำได้แน่ เธอจะไม่มีทางทำให้ความคาดหวังของ พี่หนิงที่มีต่อเธอ ผิดหวังแน่…”
วันที่สอง เก้าโมงตรง ผู้เข้าร่วมทั้งหมดในแผนกออกแบบรวมตัวกันเพื่อประชุม
มีบางอย่างที่คาดไม่ถึงเล็กน้อย โล่เฟยเอ๋อเห็นถังหซิวฉีอยู่ในนั้นด้วย
เนื่องจากพวกเธอยืนอยู่คนละทีม โล่เฟยเอ๋อชำเลืองมองถังหซิวฉีจากไกลๆแวบหนึ่ง แล้วเลิกมอง เธอกลับไม่รู้ว่าตอนที่เธอเบือนสายตาหนี ถังหซิวฉีมองเธอด้วยสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ในที่ประชุม ก็ได้ประกาศหัวข้อหลักของการแข่งขันในครั้งนี้
คำง่ายๆคำหนึ่ง “ความรัก”
กำหนดให้ “ความรัก” เป็นหัวข้อหลัก วาดออกแบบเครื่องประดับหนึ่งชุด
ไม่มีข้อจำกัดในการวาดอะไร แต่แนวคิดการออกแบบหลักต้องสอดคล้องกับ “ความรัก”
จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย
มีเวลาเพียงวันเดียว วันที่สองก็ต้องส่งภาพออกแบบ
หลังจากประชุมเสร็จ ทุกคนก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองเพื่อวาดภาพออกแบบ
โล่เฟยเอ๋อก็ไม่เว้น
นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เธอหยิบปากกา จ้องกระดาษวาดภาพสีขาวอยู่นานไม่เริ่มลงมือ
ความจริงคือธีม “ความรัก” ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเริ่มลงมือ เนื่องจากการออกแบบเกี่ยวกับ “ความรัก” มีมากเกินไป ความประมาทเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็กลายเป็นลอกเลียนแบบได้
ในขณะลังเล ทันใดนั้นโล่เฟยเอ๋อก็จ้องไปที่น้ำยาทาเล็บที่นิ้วนางขวาของตัวเอง ตาก็ประกายขึ้นมา
เมื่อก่อนตอนที่เธอดูนิตยสารแนวคิดที่โรแมนติกของยาทาเล็บในประเทศฝรั่งเศส ก็อยากจะออกแบบแหวนคู่รักไม่ใช่หรอ
นั่นก็เป็นแนวคิดเกี่ยวกับ “ความรัก” พอดีไม่ใช่หรอ
คิดเช่นนี้แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็รีบลงมือทันที
เนื่องจากมีแรงบันดาลใจ ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงวาดได้อย่างราบรื่น
เธอวาดแหวนของผู้หญิงก่อน
เนื่องจากโล่เฟยเอ๋อวาดตามแนวคิดของน้ำยาทาเล็บของฝรั่งเศส ดังนั้นตอนที่โล่เฟยเอ๋อออกแบบแหวนของผู้หญิง สีอัญมณีบนแหวน โล่เฟยเอ๋อใช้สีแดงสดเหมือนสีเลือด และยังเพิ่มไอเดียที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองลงบนหน้าแหวน โดดๆแบบนี้ นี่คือการออกแบบที่ดีมาก โล่เฟยเอ๋อยังเพิ่มการออกแบบเล็กๆ ที่เหมาะสมกับแหวนผู้ชาย
สองชั่วโมงต่อมา โล่เฟยเอ๋อมองแหวนผู้หญิงในภาพวาดด้วยความพึงพอใจ แล้วสูดหายใจลึก
“เพียงแค่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็เกือบละ…”
ช่วงเช้าวาดออกแบบหวานผู้หญิงเสร็จ โล่เฟยเอ๋อดีใจเป็นที่สุด
หลังจากกินอาหารเที่ยงแล้ว เธอยังนอนฟุบบนโต๊ะทำงานอย่างขี้เกียจในตอนกลางวัน
ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหรี่ตา คลำหาโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะจนเจอ จากนั้นใช้นิ้วมือเลื่อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรมา แล้ววางไว้ข้างหู “ฮัลโหล”
ปลายสาย โล่หยิวชิวถามด้วยความสงสัย “เฟยเอ๋อหรอ”
พอฟังออกว่าเป็นเสียงของโล่หยิวชิว โล่เฟยเอ๋อทั้งหาวทั้งถาม “พี่ มีอะไรหรอ”
“เฟยเอ๋อ เธอยังนอนหลับอยู่เหรอ” มีเสียงหัวเราะในน้ำเสียงของโล่หยิวชิว
“อึม นอนกลางวัน” โล่เฟยเอ๋อเงียบไปสักพัก จากนั้นถาม “พี่ พี่โทรหาฉันมีอะไรหรอ”
“หลังเลิกงานอยากไปหาเธอแล้วไปช๊อปปิ้ง ว่างไหม” ในน้ำเสียงของโล่หยิวชิวมีคำสั่งปนเล็กน้อย
“พี่ วันนี้ฉันไปไม่ได้ วันนี้ฉันต้องวาดภาพออกแบบ…” โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่จบ โล่หยิวชิวก็ขัดจังหวะเธอ
“เลิกงานแล้ว เธอก็ตรงไปที่ลานกว้างหวั้นด๋า ฉันจะรอเธออยู่ที่นั่น” พูดจบ โล่หยิวชิวไม่ปล่อยโอกาสให้โล่เฟยเอ๋อปฏิเสธ กดวางสายทันที
โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงตู๊ดตู๊ดในโทรศัพท์ วางโทรศัพท์ลงอย่างจนใจ
หลังจากเลิกงานต้องไปช๊อปปิ้งกับโล่หยิวชิว งั้นแผนการที่เดิมทีหลังจากเลิกงานค่อยกลับไปวาดแบบแหวนผู้ชาย ทำได้แค่เปลี่ยนเป็นตอนบ่ายนี้แล้ว
โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจ บิดขี้เกียจ บริหารนิ้วมือ
จากนั้นหยิบแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะ กำลังจะดื่มน้ำ แล้ววาดภาพต่อ
ผลลัพธ์คือหลังจากยกแก้วน้ำขึ้น ถึงพบว่าในแก้วไม่มีน้ำแล้ว
หลับไปนานขนาดนี้ ปากคอแห้งมาก โล่เฟยเอ๋อต้องลุกขึ้นไปที่ห้องพักเบรกเพื่อเทน้ำสักแก้วให้ตัวเอง