งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 80
บทที่80 ซูซีมู่อิจฉา
หลังจากที่ลู่ยู่หยิบแก้วชาบนโต๊ะกินข้าวขึ้นมาแล้วดื่ม ถึงตอบคำถามของซูซีมู่ “เธออยู่กับเพื่อนร่วมงานของเธออะ…”
หลังจากที่วางแก้วชาลงบนโต๊ะกินข้าว เขาก็พูดต่อ “ฉันยังชวนให้เธอมากินข้าวด้วยกันกับพวกเรา แต่เธอนัดกับเพื่อนร่วมงานของเธอไว้แล้ว”
ซูซีมู่พูด “โอ้”อย่างนิ่งเฉยคำหนึ่ง แล้วไม่พูดอะไร
ลู่ยู่พูดอวดให้เขาฟังอย่างกระตือรือร้น “แต่เธอบอกว่าครั้งหน้าจะเลี้ยงข้าวพวกเรา”
ซูซีมู่ยักคิ้ว ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของลู่ยู่
เห็นซูซีมู่เหมือนกับไม่กล้าเชื่อ ลู่ยู่ก็พูดเสียงดัง “ซูซีมู่ ถ้านายไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันสามารถให้โล่เฟยเอ๋อบอกนายได้”
“หึม” สายตาของซูซีมู่มองลู่ยู่
ลู่ยู่หยับโทรศัพท์ออกมาอย่างพอใจ เปิดเบอร์โทรของโล่เฟยเอ๋อในบัญชีรายชื่อให้ซูซีมู่ดู
เหซิงโม่ที่อยู่ข้างๆกรอกตามองบน แล้วพูด “ลู่ยู่ นายอย่าอวดอีกเลย”
“เหซิงโม่ นายกำลังอิจฉาฉัน” ลู่ยู่โต้กลับอย่างขนลุก
เหซิงโม่ยักไหล่ พูดอย่างดูถูก “ทำไมฉันต้องอิจฉานาย นายเพียงแค่หน้าด้านขอเบอร์เธอ”
ซูซีมู่มองแวบเดียวก็ดูออกว่าเป็นเบอร์ของโล่เฟยเอ๋อ สายตาเย็นชาขึ้นมาในทันที
โล่เฟยเอ๋อและลู่ยู่สนิทกันมากเพียงใด ถึงขั้นสามารถแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือได้
พวกเขาเคยเจอกันแค่สองสามครั้งเอง
นึกถึงเขาช่วยเธอตั้งหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยขอเบอร์เขา สุดท้ายโจวเฉิงเป็นคนเอาเบอร์เขาให้เธอเอง
หรือว่าในสายตาของเธอ เขาเทียบกับลู่ยู่ไม่ได้ อารมณ์ของซูซีมู่เย็นชา ตอนที่กำลังเตรียมจะขัดจังหวะเหซิงโม่และลู่ยู่
ก็ได้ยินเหซิงโม่พูด “ทำไมฉันต้องอิจฉานาย นายเพียงแค่หน้าด้านขอเบอร์เธอ”
ที่แท้ลู่ยู่คนนี้หน้าด้านขอเบอร์เธอเอง ถึงว่าเธอทำไมถึงขอเบอร์โทรของลู่ยู่ก่อน
ก่อนหน้าซูซีมู่กลัดกลุ้ม ทันใดนั้นก็หายไปหมด เบะปาก จากนั้นหัวเราะเบาๆ
เสียงของซูซีมู่เบามาก แต่ในห้องที่ปิดตายนี้ กลับดังชัดเจน
ลู่ยู่และเหซิงโม่เดิมกำลังทะเลาะกันอยู่ได้ยินเสียงเขาหัวเราะ ก็พากันมองมาที่เขา
จากนั้นตอนที่เห็นรอยิ้มที่สดใสจางๆบนใบหน้าของเขา ในตาลู่ยู่และเหซิงโม่ก็ประกายความตกใจ
“ซูซีมู่ นายกำลังหัวเราะเหรอ”
“ซูซีมู่ นายหัวเราะก็เป็นด้วยเหรอ”
ได้ยินที่พวกครับพูด ซูซีมู่ พูด”อึม” คำหนึ่ง เงยหน้า มองพวกเขา
ดวงตาจากที่เย็นชามาตลอด เนื่องจากถูกย้อมด้วยรอยยิ้ม สายตาจึงแสดงความอ่อนโยนเป็นพิเศษ
“สวยจะตาย……” ลู่ยู่ยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นเหซิงโม่ก็ใช้ข้อศอกสะกิดไหล่เขา
ลู่ยู่พูดกับเหซิงโม่อย่างไม่พอใจ “เหี้ยเหซิงโม่นายตีฉันทำไม”
เหซิงโม่ไม่พูดอะไร เพียงแค่เงยหน้าไปทางซูซีมู่
สายตาของลู่ยู่มองไปทางซูซีมู่ ตอนที่สังเกตเห็นสายตาของซูซีมู่จากเดิมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไร
เขาพูดสวยจะตาย……ต่อหน้าซูซีมู่
โอ้มายก๊อด ใครจะมาช่วยเขาอะ
ลู่ยู่แอบใช้แขนสะกิดเหซิงโม่ ขอความช่วยเหลือจากเขา
เดิมทีเหซิงโม่ไม่คิดจะสนใจลู่ยู่ สุดท้ายทนไม่ได้กับสายตาส่งสัญญาณของความช่วยเหลือจากเขา จึงพูดอย่างอ่อนโยน “เรียกพนักงานเข้ามาสั่งอาหารปะ”
“ใช่สิ สั่งอาหาร..” เดิมทีลู่ยู่อยากจะประจบคำพูดของเหซิงโม่ แต่สายตาของซูซีมู่มองเขาอย่างเย็นชา เขาจึงรีบหุบปาก
“ไม่มีธุระอย่าไปรังควานเธอตามอำเภอใจ” ซูซีมู่ พูดอย่างเรียบเฉย
อย่าไปรังควานใคร ลู่ยู่ไม่เข้าใจ แต่ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ไม่มีทาง”
ซูซีมู่ส่งเสียงฮึ จากนั้นเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
ลู่ยู่เห็นแบบนี้แล้วก็แอบโล่งอก เขาสาบานว่าต่อไปอยู่ต่อหน้าซูซีมู่ เขาจะไม่พูดไร้สาระอีก
หลังจากที่ซูซีมู่และพวกลู่ยู่กินข้าวกลางวันเสร็จ ก็กลับบริษัท
ตอนที่เข้าบริษัท เลขาผู้ผญิงเรียกเขาไว้ “ประธานซู นี่เป็นเอกสารเร่งด่วนที่ผู้ช่วยโจวส่งให้ ต้องการให้คุณเซนต์อนุมัติ”
ซูซีมู่พูด “อึม”คำหนึ่ง รับเอกสารจากในมือเลขาผู้หญิงมา แล้วเดินเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ก่อนผลักเปิดประตู เขาเหมือนกับคิดอะไรขึ้นได้ เอียงคอชำเลืองมองห้องทำงานของโจวเฉิงที่อยู่ห้องข้างๆ พบว่าในนั้นไม่มีคน คิ้วก็ขมวดขึ้นมา จากนั้นหันไปถาม “โจวเฉิงละ”
“ผู้ช่วยโจวยุ่งตลอด เมื่อกี้ไปกินข้าวที่โรงอาหาร” เลขาผู้หญิงพูดจบ ก็พูดเพิ่มประโยคหนึ่ง “รอเขากลับมา ฉันจะให้เขาไปพบคุณที่ห้องทำงาน”
ซูซีมู่พยักหน้าอย่างสีหน้านิ่งเฉย แล้วยืนมือไปผลักประตูเปิดออก เดินเข้าไปในห้องทำงาน
เขาถอดเสื้อนอกออก แขวนไว้ที่แขวนเสื้อ แล้วนั่งด้านหน้าโต๊ะทำงาน
ตอนที่ยืนมือไปเปิดใส่รหัสคอมพิวเตอร์ เขามองที่แป้นพิมพ์สักครู่ สุดท้ายดึงมือกลับมา แล้วจับโทรศัพท์บ้าน กดเบอร์โทรของโล่เฟยเอ๋อที่เขาจำได้อย่างแม่นยำ
โทรศัพท์อยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย
ซูซีมู่ขวมดคิ้ว ตอนที่เตรียมจะวางสาย อีกด้านก็รับสาย
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างมีมารยาท “ฮัลโหล”
ซูซีมู่พูดเสียงต่ำ “ฉันเอง”
สิ้นเสียงซูซีมู่ อีกปลายก็มีเสียงดังปัง
เกิดอะไรขึ้น ซูซีมู่ขวมดคิ้ว “เป็นอะไรเหรอ”
เสียงของโล่เฟยเอ๋อดังมาจากด้านนั้น “ไม่มีอะไร เมื่อกี้ฉันทำของหล่น”
ซูซีมู่พูด”อึม”เบาๆ คำหนึ่ง จากนั้นก็เงียบไป
โล่เฟยเอ๋อได้ยินซูซีมู่เงียบไป ก็ออกแรงบีบโทรศัพท์
จากนั้นหัวเราะแล้วพูด “เห็นเบอร์นี้ ฉันคิดว่าเป็นเบอร์ของคนแปลกหน้า”
“เบอร์ที่บริษัท” ซูซีมู่หยุดพูดแป็บหนึ่ง แล้วพูดเพิ่มอีกประโยค “โทรศัพท์มีปัญหานิดหน่อย เอาไปจัดการแล้ว”
“โอ้ มิน่าละโทรไม่ติด” โล่เฟยเอ๋อกระพริบตาปริบๆตอบ
“คุณโทรหาผมเหรอ” มีความแปลกใจในน้ำเสียงของซูซีมู่
“อึม เมื่อวานโทร” หยุดนิ่งไปแป๊บหนึ่ง โล่เฟยเอ๋อพูดต่อ “ได้มาว่าคุณยุ่งมาก คุณต้องดูแลตัวเองดีดีนะ อืม วันนี้ฉันบังเอิญเจอกับคุณลู่และคุณเหซิง พวกเขาเป็นคนพูด”
“อึม ผมรู้แล้ว สองวันมานี้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ยังคงเป็นน้ำเสียงที่เย็นชา แต่เหมือนกับจะมีความอบอุ่นแฝงอยู่ด้วย
โล่เฟยเอ๋อยิ้มแล้วตอบ “ฉัน ก็ดีอะ ก็ยุ่งแค่เรื่องการแข่งขัน”
ซูซีมู่ถามอย่างไม่คิด “การแข่งขันอะไร”
“การแข่งขันในแผนกออกแบบของพวกเราอะ คุณไม่รู้เหรอ” มีความแปลกใจในน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่ถึงนึกขึ้นมาได้ ในความคิดของโล่เฟยเอ๋อเขาเป็นบุคคลระดับสูงของบริษัทดี้ก้วน บุคคลระดับสูงของบริษัทดี้ก้วนแม้แต่การแข่งขันของแผนกออกแบบก็ไม่รู้ มิน่าละโล่เฟยเอ๋อถึงรู้สึกแปลกใจ