งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 98
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่98 เรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษ
เย่รู่ไป๋พยักหน้า ลุกจากเก้าอี้ทำงาน:”ตามฉันมา”
โล่เฟยเอ๋อถือกระเป๋า เดินตามหลังเย่รู่ไป๋
พวกเขาออกมาจากห้องทำงานหัวหน้า ขึ้นลิฟต์ เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ หยุดที่ชั้นบนสุด
เย่รู่ไป๋พาโล่เฟยเอ๋อถึงหน้าประตูบานใหญ่ หยิบการ์ดที่คล้ายๆกับบัตรประจำตัวออกมาจากกระเป๋า เปิดประตู รอโล่เฟยเอ๋อเข้าไป
เดินผ่านโถงทางเดิน ถึงหน้าประตูห้องที่ติดป้าย‘คลาสฝึกอบรมพิเศษ’
เย่รู่ไป๋ผลักประเข้าไปในห้อง มีคนประมาณ30คนนั่งอยู่ และมีผู้หญิงต่างประเทศคนนึวที่แต่งชุดสง่างามกำลังพูดอยู่ด้านหน้าสุด
แว็บแรกที่เห็นผู้หญิงต่างประเทศคนนี้ โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
มองอีกครั้งหนึ่ง เธอจำอีกฝ่ายได้
นักออกแบบของบริษัท จิวเวลรี่ชื่อดังระดับประเทศ เคยคว้าอันดับที่ไม่เลวเลยในการแข่งขันอัญมณีระดับโลก
ให้เธอเป็นคนมาสอนให้คลาสฝึกอบรมพิเศษ ทรัพยากรดีจริงเลย
พอเห็นเย่รู่ไป๋เข้าไปด้านใน คาริน่าหยุดบรรยายต่อ และเข้ามาหาเย่รู่ไป๋
“เย่”
เย่รู่ไป๋”ครับ” และกล่าวต่อ:”คาริน่า ฉันเอานักเรียนมาให้เธอคนนึง”
“เธอเหรอ?”คาริน่าทอดสายตามองโล่เฟยเอ๋อรอบนึง แล้วไปมองเย่รู่ไป๋ “เย่” คุณเอานักเรียนในโรงเรียนให้สอนหมายถึงอะไร?”
“เธอไม่ใช่นักเรียนในโรงเรียน แต่เป็นนักออกแบบของบริษัทดี้ก้วน”เย่รู่ไป๋ตอบ
“นักออกแบบกี่ปีแล้ว?คาริน่าขมวดคิ้วมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อตอบคาริน่าด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว “สามเดือนค่ะ”
คาริน่าอุทานอย่างตกใจ:”โอ้ พระเจ้าช่วย แค่สามเดือน? เย่ คุณกำลังพูดตลกอยู่ใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่พูดตลกเลย เธอเป็นนักเรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษ “เย่รู่ไป๋ตอบย่างกระฉับกระเฉง
คาริน่าทำหน้ายู่ถาม:”พระเจ้าช่วย เย่ ฉันปฏิเสธได้มั้ย?”
“ไม่ได้”เย่รู่ไป๋ส่ายหน้า และกล่าว:”โอเคคาริน่า คนฉันส่งให้คุณละ จะสอนยังไงก็เรื่องของคุณนะ ฉันมีธุระ ต้องขอตัวก่อนละ”
พอพูดจบ เย่รู่ไป๋ก็ไม่รอให้คาริน่าตอบอะไรทั้งสิ้น รีบเดินจากไป
คาริน่ามองเย่รู่ไป๋เดินออกไปแต่ทำไรไม่ได้เลย แล้วสุดท้ายก็หันมามองที่โล่เฟยเอ๋อ
“ฉันไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีไหนทำให้เย่ส่งคุณมาคลาสฝึกอบรมพิเศษ แต่เธอต้องรู้ อยู่ในคลาสฝึกอบรมพิเศษของฉัน ก็ต้องเชื่อฟังฉัน ไม่อย่างงั้น ฉันให้คุณออกได้ทุกเมื่อ ถึงตอนนั้น ไม่ว่าเย่จะขอร้องยังไงก็ไร้ประโยชน์”
“ค่ะ คุณครูคาริน่า”โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างเชื่อฟัง
คาริน่ากล่าวอย่างเย็นชา:”ไปหาที่นั่งนั่งลง”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า และเลือกที่ว่างแถวสุดท้ายนั่งลง
หลังจากนั่งลง เธอจึงมองดูผู้คนที่มาเรียนในนี้ มีแค่ไม่กี่คนที่เคยเห็นหน้า ส่วนใหญ่จะไม่เคยรู้จัก
คนที่เคยเห็น ก็เป็นนักออกแบบนักออกแบบชั้นสูงในแผนกนักออกแบบ โล่เฟยเอ๋ออดตะลึงไม่ได้
ตอนนี้เอง เสียงมือถือของโล่เฟยเอ๋อดังขึ้น
ภายในห้องเรียนที่เงียบสงบ เสียงสายเรียกเข้าของมือถือ ฟังชัดแจ๋วมาก
คาริน่ากล่าวอย่างโมโห:”มือถือใครดัง ไม่รู้เหรอว่าเวลาเรียนห้ามเปิดเครื่อง?”
“ขอโทษค่ะ หนูปิดเครื่องเดี๋ยวนี้ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อกล่าวโทษไปด้วยพร้อมปิดเครื่องมือถือที่กำลังดังอยู่ด้วย
คาริน่าพูดกับโล่เฟยเอ๋อย่างไม่พอใจ:”ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง เธอออกจากคาบเรียนฉันได้เลย”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า”ค่ะ”
คาริน่าจ้องตาโล่เฟยเอ๋อ และบรรยายต่อ
โล่เฟยเอ๋อเก็บมือถือที่เพิ่งปิดเครื่องใส่กระเป๋าไว้ แล้วตั้งใจฟังบรรยายต่อ
สำหรับโล่เฟยเอ๋อแล้ว การสนทนาภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหาแน่นอน แต่ถ้าใช้ภาษาอังกฤษตลอดคาบเรียน มันยาก โดยเฉพาะศัพท์เฉพาะทางในการออกแบบการออกแบบเครื่องประดับ ทำเอาคนมึนตื้บเลย
เรียนครึ่งวัน เหนื่อยยิ่งกว่าทำงานทั้งวันเลย
หลังเลิกเรียน โล่เฟยเอ๋อลากฝีเท้าที่หนักหน่วงเดินตรงไปทางออก แต่ขณะที่เดินผ่านคาริน่าเธอถูกคาริน่าเรียกตัวไว้ก่อน
“นี่คือสมุดเอกสารของเธอ และบัตรประจำตัวของเธอ ถ้าทำหาย ต้องรับผิดชอบเอง”คาริน่ายื่นถุงๆนึงให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อรับถุงจากมือคาริน่าอย่างมีมารยาท:”ขอบคุณค่ะคุณครูคาริน่า”
คาริน่าทำเสียงอือแบบเย็นชา และเดินจากไป
โล่เฟยเอ๋อทอดสายตาส่งคาริน่าไปก่อน แล้วเธอจึงใชบัตรประจำตัวเปิดประตู และออกจากคลาสฝึกอบรมพิเศษ
เธอไม่ได้กลับไปแผนกนักออกแบบ แต่เธอขึ้นลิฟต์ไปโรงอาหารพนักงาน
ขณะที่โล่เฟยเอ๋กำลังซื้อข้าว เธอนึกได้ว่าตอนเรียนอยู่คลาสฝึกอบรมพิเศษเธอได้ตัดสายของซูซีมู่ไป หลังจากเธอซื้อข้าวเสร็จก็ได้หยิบมือถือจากกระเป๋าออกมาเปิดเครื่อง และโทรกลับสายซูซีมู่
เสียงสายมือถือดังไม่กี่วิ ก็มีคนรับสาย
ไม่รีรอซูซีมู่พูด โล่เฟยเอ๋อรีบร้อนพูดอธิบายก่อน:”ก่อนหน้านี้ฉันเรียนอยู่ที่คลาสฝึกอบรมพิเศษค่ะ ก็เลยต้องตัดสายคุณทิ้ง”
“ครับ” ซูซีมู่น้ำเสียงเย็นชา ฟังไม่ออกเลยว่ารู้สึกโกรธอะไรมั้ย
แสดงว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องที่เธอตัดสายเขา
โล่เฟยเอ๋อหายใจโล่งอก แต่เธอก็แอบรู้สึกเศร้าๆ
โล่เฟยเอ๋อหายใจเข้า เก็บอารมณ์นั้นกลับเข้าในใจ “ที่คุณโทรหาฉัน มีเรื่องอะไรมั้ยคะ?”
เงียบไปหลายวิ ซูซีมู่ค่อยตอบ:”ไม่มีอะไร แต่จะถามคุณว่าหายดีหรือยัง”
“ออ หายดีแล้วค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
“ซูซีมู่”ครับ” ผ่านไปแป๊บนึง ค่อยถามอีก:”เรียนเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก็ไม่เป็นยังไงค่ะ ที่ไม่เข้าใจก็เยอะอยู่ค่ะ” ต่อหน้าซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่เก็บซ่อนอีกต่อไป
ซูซีมู่สงสัย:”ห๊ะ?”คำหนึ่ง
“คนบรรยายคือครูคาริน่า เธอใช้ภาษาอังกฤษตลอดคาบ เป็นภาษาที่เชี่ยวชาญลึกซึ้งมาก ฉันฟังไม่เข้าใจค่ะ:” โล่เฟยเอ๋อหยุดแป๊บ แล้วกล่าวต่อ:”ฉันคิดว่าฉันควรซื้อเครื่องบันทึกเสียงอันนึง มาบันทึกเสียงในคาบเรียน ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยไปค้นตรวจสอบข้อมูลเอา”
“วิธีนี้ก็ไม่เลวนะ แต่คำศัพท์เฉพาะด้านที่คุณไม่เข้าใจ คุณจะค้นหาข้อมูลยังไง?” ซูซีมู่ชี้ถึงปัญหาสำคัญในวิธีของโล่เฟยเอ๋อ
“งั้นฉันควรทำยังไงดีคะ?” โล่เผยเอ๋อทำหน้าดูเครียดๆ
ซูซีมู่เงียบไปหลายวินาที แล้วบอก:”ถึงตอนนั้นผมช่วยคุณหาเอง”
“จริงเหรอคะ?”โลเฟยเอ๋อถามเสร็จนึกขึ้นได้ว่าซูซีมู่ทำงานทุกๆวันคงเหนื่อยน่าดู ยังจะให้เขาช่วยเธอหาข้อมูลอีก งั้นยิ่งเหนื่อยมากกว่าเดิมอีก เธอจะยอมได้ยังไง? จึงกล่าว:”ไม่ดีกว่าค่ะ คุณงานยุ่งทุกวัน”
“ไม่เป็นไร ช่วงนี้ไม่ยุ่งครับ”ซูซีมู่ตอบ
โจวเฉิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากซูซีมู่ กำลังยุ่งจัดเมื่อได้ยินประธานของเขาพูดไม่ลืมตาแบบนี้ แทบอวกจริงๆ
ประธานซู ท่านหลับตาพูดปลอบคุณโล่แบบนี้ ท่านคิดดีแล้วเหรอ?
อย่าสงสัยเลยว่าเขารู้ได้ยังไงว่าคนที่กำลังคุยกับประธานซูคือคุณโล่ นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ คนที่ทำให้ประธานซูพูดไม่ลืมตาแบบนี้ นอกจากคุณโล่ ยังมีใครอีกล่ะ?
ซูซีมู่ก็พูดขนาดนี้แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ปฏิเสธไม่ลงละ ก็เลยยอมตกลง