จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 126
มองดูแผ่นหลังของหวังชิงชิงที่จากไป ในใจของเย่ชิงหยู่ก็ยิ่งว้าวุ่น เธอไม่รู้ว่านี่ดีหรือแย่ และยิ่งไม่รู้เลยว่าตระกูลฟางจะเพ่งเล็งเธอมั้ย! ถ้าหากว่าถูกตระกูลฟางจัดการ คงจะแย่ยิ่งกว่าการถูกขโมยภาพออกแบบอีก!
ถ้าหากว่าตระกูลฟางแพร่กระจายเรื่องการกระทำของเธอ ถ้าอย่างนั้นตัวเธอก็ยิ่งแย่นะสิ!
ตอนนี้ เย่ชิงหยู่หวังเพียงว่าเกียรติของลุงโจวจะช่วยเธอได้สักครั้ง!
หวังชิงชิงมาถึงห้องทำงานแล้วโทรออกเบอร์ของฟางเหยียน
“ฮัลโหลค่ะ คุณชาย เซียวเจิ้นเที่ยนมาพบคุณค่ะ บอกว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะปรึกษากับคุณค่ะ”
อีกฝ่ายส่งเสียงเย็นชาของฟางเหยียนออกมา “บอกเขาว่าตอนนี้ฉันไม่ว่าง รอฉันว่างแล้วค่อยคุยกัน”
หวังชิงชิงลังเลไปสักพัก พูดว่า “คุณชายคะ แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้งคะ! ยังไงซะในเมืองจินโจวท่านเซียวก็ถือเป็นบุคคลที่มีอำนาจนะคะ เขามาที่นี่สองครั้งแล้ว ครั้งก่อนยังมอบบริษัทให้คุณ ฉันคิดว่า….”
“เธอกำลังสอนฉัน?” น้ำเสียงของฟางเหยียนเย็นชามาก ฟังแล้วน่าหวาดกลัว
ถึงแม้ว่าหวังชิงชิงจะเคยเจอกับคุณชายคนนี้แต่ครั้งเดียว แต่เธอก็รู้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนที่จะเข้าหาได้ง่าย ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นสาวสวยก็เถอะ แต่ในสายตาเขาไม่เคยหยุดมองแม้แต่ 5 วินาทีเลย
ดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า “ไม่กล้าค่ะ คุณชาย ฉันจะไปบอกเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ฟางเหยียนที่กำลังจะวางสาย หวังชิงชิงก็นึกถึงเย่ชิงหยู่ แล้วรีบพูดว่า “ใช่สิ คุณชายคะ ยังมีคนที่ชื่อเย่ชิงหยู่มาหาคุณอีกคนค่ะ เหมือนว่าจะเป็นประธานบริษัทตงข่ายกรุ๊ป ธุรกิจเล็กๆ เห็นบอกว่าอยากจะขอความช่วยเหลือจากบริษัทเราค่ะ”
หวังชิงชิงพูดไปอย่างนั้น คิดว่าคุณชายคนนี้จะไม่สนใจ แต่ใครจะไปรู้ว่าน้ำเสียงของคุณชายจะหวาดระแวงขึ้นมาในทันที “เธอบอกว่าใครนะ? ประธานบริษัทตงข่ายกรุ๊ปงั้นหรอ?”
หวังชิงชิงตอบ “ใช่ค่ะคุณชาย นี่ก็แค่คนที่ไม่สำคัญอะไร กล้าขอให้ฟางซื่อกรุ๊ปของเราช่วยแก้ไขภาพออกแบบของเสื้อผ้าให้ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในฟางซื่อกรุ๊ปของเรา เมื่อก่อนผู้ร่วมธุรกิจด้วยไม่ว่าเจอปัญหาอะไรก็ไม่กล้าขออะไรที่ไร้เหตุผลแบบนี้กับฟางซื่อกรุ๊ปของเรา ฉันคิดว่าคุณผู้หญิงคนนี้ไร้สาระอยู่สักหน่อย!”
ได้ยินคำพูดของหวังชิงชิงที่มีท่าทางดูถูก น้ำเสียงของฟางเหยียนก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้น “ไปขอโทษเย่ชิงหยู่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ อีกอย่าง ฟางซื่อกรุ๊ปตอบสนองทุกคำขอของเย่ชิงหยู่ ให้นักออกแบบที่เก่งที่สุดออกแบบให้เธอ! อีกอย่าง ฉันขอเตือนเธอเคร่งครัดว่านี่ไม่ใช่คนที่ไม่สำคัญอะไร”
ประโยคเดียวทำเอาหวังชิงชิงนิ่งอึ้ง เธอเงียบไปสักพัก ถามว่า “คุณชายคะ คุณจริงจังหรอคะ?”
“เธอคิดว่าฉันจำเป็นต้องล้อเล่นกับเธอหรอ?” คำพูดของฟางเหยียนยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิม
หวังชิงชิงรีบพูดว่า “ค่ะ คุณชาย!”
ถึงแม้ว่าเธอจะอยากถามมากว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับเย่ชิงหยู่ นั่นก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาดีหน่อย แต่ท่าทางกิริยานั้นไม่สามารถเทียบกับตัวเธอเองได้เลย คุณชายทำตัวแบบนี้กับเธอ หรือว่าเธอเป็นอะไรกับคุณชายงั้นหรอ?
คิดแต่เธอก็ไม่กล้าถาม คุณชายคนนี้ทำอะไรมักจะแปลกๆ ตั้งแต่มาถึงเมืองจินโจวจนถึงตอนนี้ เธอเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว แต่เขานั้นไม่ได้วางฟางซื่อกรุ๊ปไว้ในสายตาด้วยซ้ำ
คุณท่านธุรกิจยิ่งใหญ่ มีคนเก่งในบ้านตั้งเยอะแยะ แล้วทำไมถึงได้เป็นคนนี้กันนะ?
หวังชิงชิงคิดไม่ออก แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่คนฐานะอย่างเธอจะมาคิดได้
หวังชิงชิงลงมาใต้ตึกอีกครั้ง เซียวเจิ้นเที่ยนรีบลุกจากเก้าอี้ ท่าทางรีบร้อน เอาแต่มองทางด้านหลังของหวังชิงชิง แต่ไม่เห็นใคร เขาก็เลยถามว่า “ประธานหวังครับ คุณชายมารึยังครับ?”
“ท่านเซียวคะ รอสักครู่ค่ะ!” หวังชิงชิงพูดกับเซียวเจิ้นเที่ยน
จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าของเย่ชิงหยู่ พูดว่า “คุณเย่คะ เอาภาพออกแบบทั้งหมดมาให้ฉันเถอะค่ะ ทางฉันจะติดต่อนักออกแบบที่ดีที่สุดให้คุณค่ะ”
เย่ชิงหยู่อึ้ง กะพริบตาอย่างไม่เชื่อว่านี่คือความจริง
หวังชิงชิงพูดประโยคเมื่อกี้อีกครั้ง เย่ชิงหยู่ถึงได้เอาUSBภาพออกแบบให้หวังชิงชิงอย่างเบลอๆ “ประธานหวังคะ ฟางซื่อกรุ๊ปยินดีให้คำแนะนำกับภาพออกแบบของฉันจริงๆหรอคะ?”
หวังชิงชิงส่ายหัว “ไม่ใช่ค่ะ พวกเรายินดีแก้ไขให้คุณค่ะ”
“ห้ะ!” เย่ชิงหยู่อ้าปากกว้าง มองดูหวังชิงชิงอย่างตกใจ นี่มันความจริงงั้นหรอ? ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?
เย่ชิงหยู่ยกมือตัวเองมาวางบนหน้าอย่างไม่รู้ตัว นี่มันความจริง มีความรู้สึกนี่
“พรุ่งนี้บ่าย คุณเย่มารับไปแล้วกันค่ะ!” หวังชิงชิงพูดยิ้มๆ
จากนั้นเธอก็มองซ้ายขวา แล้วมั่นใจว่าไม่มีคนแล้วเธอก็พูดว่า “เรื่องเมื่อกี้ ขอโทษนะคะ คุณเย่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้น ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณรู้จักกับคุณชายของเรา”
“อะไรนะ?” เย่ชิงหยู่ตกใจ ถามว่า “ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของประธานหวังค่ะ! ฉันรู้จักกับคุณชายของพวกคุณ?”
หวังชิงชิงยิ้มกลับ “หรือว่าไม่ใช่งั้นหรอคะ?”
เย่ชิงหยู่ยังงงมาก ไม่เข้าใจความหมายคำพูดนี้ของหวังชิงชิงสักนิด
แต่ว่าหวังชิงชิงไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วเดินจากไป
เย่ชิงหยู่ก็ยังรู้สึกว่าน่าเหลือเชื่ออยู่เหมือนเดิม ค่อยๆก้าวขาเดินออกมาจากฟางซื่อกรุ๊ป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ล้วนกะทันหันมาก กะทันหันเหมือนกับตอนที่เซ็นสัญญากับซีหนานกรุ๊ปเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เซียวเจิ้นเที่ยนมองดูเย่ชิงหยู่ที่เหม่อลอยจากที่ไกลๆ ในใจคิดว่าเธอนับว่าเป็นอะไรกัน จะมาเทียบกันฉันได้ยังไงละ?
ต่อหน้าตระกูลฟาง อย่าว่าแต่เย่ชิงหยู่เลย แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่มีสิทธิ์
เขาไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน แต่ว่าดูสีหน้าของเย่ชิงหยู่ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่นอน คิดว่าตัวเองยังไม่ได้เจอกับคุณชายตระกูลฟางเลย ไม่ต้องพูดถึงเย่ชิงหยู่ด้วยซ้ำ
จัดการเรื่องของเย่ชิงหยู่เสร็จแล้ว หวังชิงชิงถึงได้เดินกลับมาบอกเซียวเจิ้นเที่ยนว่าคุณชายไม่ว่าง เซียวเจิ้นเที่ยนนั้นก็ไม่กล้าโมโห ทำได้แค่ออกมาจากฟางซื่อกรุ๊ปอย่างไม่พอใจ
เมื่อกลับถึงบ้าน เล่าเรื่องที่เย่ชิงหยู่ถูกไล่ออกมาจากฟางซื่อกรุ๊ปอย่างน่าสมเพชให้เซียวห้านฟัง ปู่หลานสองคนก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าฟางเหยียนไม่เกี่ยวข้องอะไรตระกูลฟางสักนิด
หลังจากนั้นสามวัน ตงข่าวกรุ๊ปของเย่ชิงหยู่เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นหนึ่งอย่างเป็นทางการ แล้วยังเชิญนักแสดงรุ่นใหม่อย่างเวินหลานมาเป็นนางแบบด้วย ฟางเหยียนที่รับมือการทำอย่างนั้นของเวินหลานไม่ได้ถึงได้ตอบตกลงให้เธอเป็นนางแบบ เมื่อเสื้อผ้าออกขายสู่ตลาด ก็ดึงดูดความสนใจจากโลกอินเทอร์เน็ต
“พระเจ้า เสื้อผ้าล็อตนี้สวยกว่าคอลเลคชั่นใหม่ล็อตเยอะมาก นี่มันเป็นการออกแบบตามฉบับแบรนด์หรูระดับต้นเลย ตงข่ายกรุ๊ปนี้ก็เก่งเกินไปแล้วมั้ง”
“เสื้อผ้าจากไหนนะ? ตงข่ายกรุ๊ป? ตงข่ายกรุ๊ปของเมืองจินโจวนั่นหรอ? เป็นไปได้ยังไง? โรงงานเสื้อผ้านั้นผลิตเสื้อผ้าแบบนี้ได้ ฉันไลฟ์สดกินขี้เลย”
“ตงข่ายกรุ๊ปนี้เป็นธุรกิจที่มีจริยธรรมจริงๆ ผลิตเสื้อผ้าแบบนี้ ราคายังไม่ขึ้น เหมาะกับความต้องการของบุคลากรชนชั้นกลางอย่างพวกเราจริงๆ ประเทศหวาของพวกเราควรจะสนับสนุนธุรกิจที่มีจริยธรรมแบบนี้ให้มากๆ”
“กลัวมันจะขึ้นราคากลางทางนะสิ เสื้อผ้านี้ เพียงแค่ออกแบบก็ไม่คุ้มที่จะขายราคาเท่านี้ จากที่ดูในวางการเสื้อผ้า นอกจากแบรนด์ใหญ่ๆพวกนั้น จะมีธุรกิจกิจการอีกกี่ที่ที่สามารถผลิตเสื้อผ้าอย่างนั้นออกมาได้?”
เสื้อผ้าที่ออกแบบมาใหม่ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากโลกภายนอก เพียงชั่วพริบตา ตงข่ายกรุ๊ปก็ติดอันดับการค้นหา