จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 16
บทที่ 16 คืนนี้นอนด้วยกันไหม
เมื่อสามปีก่อน หลิวเหอฉางเจรจาธุรกิจกับชาวต่างชาติที่ชายแดนภาคเหนือ ไม่คิดเลยว่าจะถูกทหารที่น่าหวาดผวาจับเป็นตัวประกัน คนรอบข้างของเขาถูกฆ่าตายไปทีละคน ในขณะที่เขาสิ้นหวัง ฟางเหยียนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
ทำให้กองทัพที่ดุร้ายอันน่าหวาดผวา กลับหวาดหวั่นขึ้นมาเมื่อได้พบกับฟางเหยียน หลังจากนั้น ฟางเหยียนคนเดียวจัดการกองทัพทหารจนราบคาบ เหตุการณ์นั้น เขาประจักษ์แก่สายตาด้วยตัวเอง
บางทีฟางเหยียนอาจจะจำเขาไม่ได้แล้ว แต่เขาไม่เคยลืมเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ผู้มีพระคุณ เมื่อสักครู่นี้ ต้องขอโทษจริงๆ”
“ไม่เป็นไร” ฟางเหยียนกล่าวตอบ
“ใช่สิ ท่าน จะซื้อของไปเป็นของขวัญให้กับใคร?”
ฟางเหยียนคงสีหน้าเรียบเฉย ไร้ปฏิกิริยาใด
“ภรรยาของผมเอง”
“หืม?” หลิวเหอฉางเพ่งพินิจฟางเหยียนด้วยความตกตะลึง ก่อนที่จะเอ่ย “ไม่คิดเลยว่าท่านยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้แต่กลับแต่งงานแล้ว! ภรรยาของท่านต้องงดงามอย่างยิ่งเป็นแน่”
ฟางเหยียนถ่อมตน “ก็พอใช้ได้!”
“ในเมื่อท่านจะ.ท้อไปให้กับภรรยา ถ้างั้นก็มากับผมเลย ภรรยาของท่าน ของธรรมดาพวกนั้นไม่คู่ควรเลยสักนิด”
ของที่ตั้งอยู่ข้างนอกอย่างน้อยก็15ล้านขึ้น จนถึงร้อยล้าน
แต่กลับกลายเป็นของธรรมดาในสายตาของหลิวเหอฉาง
หลิวเหอฉางพาฟางเหยียนมาที่ห้องลับพิเศษ เมื่อประตูถูกเปิดออกก็ได้พบกับเครื่องประดับแปลกตาสุดพิเศษมากมาย
ของเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของหายากในท้องตลาด และไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้าน
“ของวิเศษของคุณหลิวมีอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ” ฟางเหยียนเอ่ยชม
เถ้าแก่หลิวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านล้อผมแล้ว ของพวกนี้แค่จองภายนอก ผมสนใจในสิ่งของพวกนี้ ได้พบอะไรที่ว่าดีผมก็เก็บสะสมเอาไว้ ของที่อยู่ในนี้ไม่เพียงแค่เป็นของผมเท่านั้น ยังมีของที่ท่านพ่อและท่าปู่ของผมส่งทอดต่อมาด้วย”
“พ่อท่านและท่านปู่ของผมเป็นพ่อค้าที่เดินทางขายของไปทั่ว พวกท่านได้เดินทางไปตามชนบทเมื่อตอนยังหนุ่ม ก็เลยได้ของมีมูลค่ามาไม่น้อย”
“ของที่อยู่ในนี้ ท่านชอบชิ้นไหน เลือกได้เลยตามใจชอบ”
“ของที่อยู่ในนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ของที่มีมูลค่ามากมาย แต่ถ้านำออกไปตีราคายังท้องตลาด ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องหลายร้อยล้าน มีเพียงแค่ของพวกนี้เท่านั้น ถึงจะคู่ควรกับภรรยาของท่าน”
ฟางเหยียนไม่เกรงใจ เขาหยิบเครื่องประดับมาสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็นอัญมณีเลือดทอง อีชิ้นหนึ่งคือมรกตที่ภรรยาของผู้ดีเคยสวมใส่ มรกตนั้นหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่อัญมณีเลือดทองนั้นเป็นของล้ำค่าที่ไม่สามารถตีค่าด้วยราคาได้
เมื่อเห็นฟางเหยียนหยิบอัญมณีเลือดทอง หลิวเหอฉางหัวเราะออกมาพลันยกนิ้วโป้งขึ้นให้กับเขา “ท่านผู้มีพระคุณ ของชิ้นนี้ไม่สามารถตีค่าด้วยเงินทองได้ ท่านสายตาหลักแหลม พริบตาก็ดูออกว่าของในนี้ชิ้นไหนที่ล้ำค่าที่สุด!”
“ถ้างั้นผมคงจะทำเกินไปใช่ไหม?” ฟางเหยียนเอ่ยถาม
หลิวเหอฉางกล่าวทันควัน “ไม่เลยครับ ของพวกนี้เป็นความภาคภูมิใจ”
“ของชิ้นนี้คุณปู่ผมได้มาจากชนบทแห่งหนึ่งในทิศตะวันออก ว่ากันว่านางในคนหนึ่งนำออกมาจากราชวัง หลังจากที่นางในคนนั้นได้เสียชีวิตลงก็ถูกส่งต่อให้กับลูกหลาน ลูกหลานเห็นว่าเป็นของล้ำค่า จึงขายให้กับท่านปู่ของกระผม บางทีอาจจะเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของอัญมณีเลือดทอง วันนี้ก็เลยตกไปอยู่กับท่าน ท่านปู่ของผมบอกว่า ของชิ้นนี้ล้ำค่ามาก บนโลกใบนี้มีเพียงแค่สามชิ้นเท่านั้น คงจะมีเพียงแค่ภรรยาของท่านเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับมัน”
ฟางเหยียนเข้าใจหยก หยกที่เขาเลือกเป็นหยกชั้นดีที่หายากจริงๆ ด้วย
หลิวเหอฉางพูดไม่ผิดหรอก อัญมณีเลือดทองมีเพียงแค่สามชิ้นในโลก และทั้งสามชิ้นนี้ต่างก็มาจากแผ่นดินประเทศหวาทั้งนั้น
หลังจากที่เลือกของเสร็จ หลิวเหอฉางยังไงซะก็จะเลี้ยงอาหารฟางเหยียนให้ได้ ฟางเหยียนจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
——
ท้องฟ้ามืดหม่น ฟางเหยียนยังไม่ได้กลับบ้าน เย่ชิงหยู่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาอย่างใจไม่อยู่กับตัว ใจของเธอลอยไปไหนต่อไหนตั้งนานแล้ว ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา หรือว่าเขาทำงานสองส่วนหรือ? เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นึกถึงทีท่าของคนในครอบครัวที่ปฏิบัติต่อเขา แค่คิดก็รู้สึกเจ็บปวดใจแล้ว
ในเวลานี้เอง ประตูถูกผลักออก ฟางเหยียนเดินเข้ามาจากด้านนอก
เขาเห็นว่าเย่ชิงหยู่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟา ด้วยชุดนอนที่บางเฉียบ
เมื่อเปิดประตูเข้ามา ฟางเหยียนก็ได้พบกับขาวเรียวยาวขาวนวลที่น่าดึงดูด ดวงตากลมโตกะพริบปริบ เดินเข้ามาในตัวบ้าน พลันกล่าวถาม “ทำไมคุณยังไม่นอนอีกล่ะ?”
เย่ชิงหยู่ขยับหัวเล็กน้อย “อืม นอนไม่หลับ ใช่สิ ทำไมนายถึงเพิ่งกลับมา?”
“เพื่อนเลี้ยงข้าวน่ะ”
“เลี้ยงข้าว?” เย่ชิงหยู่คิดว่าฟางเหยียนคงอยากได้หน้า ไปทำงานสองส่วนมาแท้ๆ ยังไงแสร้งว่ามีคนเลี้ยงอาหารอีก เขามาอยู่ที่จินโจวเพียงแค่กี่วัน เพียงแค่ถึงได้มีคนเลี้ยงอาหารตลอด3วัน5วันซะล่ะ?
เย่ชิงหยู่แค่คิดก็ไม่เชื่อแล้ว!
เธอจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “คุณทานอิ่มหรือยัง?”
ฟางเหยียนนิ่งไป คืนนี้เย่ชิงหยู่แปลกๆ แฮะ
“อิ่มแล้วสิ! ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?”
เย่ชิงหยู่ยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าหากว่าคุณยังไม่อิ่ม ก็ไปทานซะสิ บนโต๊ะยังมีอยู่ ฉันเพิ่งจะอุ่นให้คุณเมื่อสักครู่นี้”
“คราวหน้าจะกลับมาดึกดื่นไม่ได้แล้ว ต่อให้กลับดึก ก็ต้องโทรมาบอกให้ก่อน โอเค ฉันไปนอนก่อน คุณทานอิ่มแล้วก็รีบพักผ่อนซะ”
จับจ้องแผ่นหลังของเย่ชิงหยู่ ฟางเหยียนยากที่จะเชื่อ
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้อง เย่ชิงหยู่กัดริมฝีปากแน่น ชะลอตัวลง เสมือนกับว่าตัดสินใจอะไรอยู่ ผ่านไปนาน เธอจึงได้ตัดสินใจ หันไปพูดกับฟางเหยียน “นาย คืนนี้จะนอนด้วยกันไหม?”