จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 17
บทที่ 17 สองข้อเรียกร้อง
เมื่อจบคำถาม แก้มนวลของเย่ชิงหยู่ก็แดงเถือกขึ้นมา
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ฟางเหยียนนอนบนโซฟามาโดยตลอด แม้เขากับเย่ชิงหยู่จะแต่งงานกันแล้ว แต่หลังจากแต่งงานฟางเหยียนก็ไปเป็นทหารทันที ทั้งคู่ไม่เคยนอนหลับในห้องเดียวกันมาก่อน
ฟางเหยียนเป็นผู้ชาย เขาเองก็มีความต้องการเหมือนกับผู้ชายคนอื่นทั่วๆ ไป โดยเฉพาะเมื่อมีภรรยาที่สวยอย่างเย่ชิงหยู่ ใครบ้างล่ะที่อยากมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
แต่ เขาเป็นทหาร เขารู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ ก่อนที่เย่สวนจะตกหลุมรักเขา เขาไม่มีทางทำอะไรที่เกินเลยแน่นอน
เพราะงั้นเขาจึงกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนเอ่ยตอบ “ไม่เป็นไร ผมนอนที่นี่แหละ”
เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้ว อย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ตามใจ”
จบคำเธอปิดประตูห้องทันที แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับประตูห้อง กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
ขายขี้หน้าชะมัด เธอหวังดีให้ฟางเหยียนเข้ามานอนในห้อง แต่กลับถูกปฏิเสธ
เธอจับจ้องที่พื้นที่ถูกปูเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เธอจะกระทืบลงบนพื้นอย่างแรงอีกหลายที
แม้ว่าจะให้ฟางเหยียนเข้ามานอนในห้อง แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ฟางเหยียนคิด เธอแค่จะให้ฟางเหยียนนอนที่พื้นก็เท่านั้น
เย่ชิงหยู่นอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ
กระทั่งเธอหลับไปอย่างยากลำบาก เสียงเคาะประตูด้านนอกกลับดังขึ้นซะอย่างนั้น
“ชิงหยู่ คุณตาคุณอาและพี่ชายคุณมา”
“อะไรนะ?” เย่ชิงหยู่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย
ไม่ทันได้ล้างหน้าล้างตา ก็ได้พบกับคุณตาและคุณอานั่งรออยู่บนโซฟา
เมื่อได้พบเย่ชิงหยู่ ทั้งหมดก็ฉีกรอยยิ้มกว้างออกมา “ชิงหยู่ ตื่นแล้วเหรอ?”
“คุณตา คุณอาใหญ่ พี่ชาย!” เย่ชิงหยู่กล่าวทักทาย ก่อนที่สายตาของเขาจะตกไปอยู่ที่ฟางเหยียน
ฟางเหยียนยังคงมีทีท่าไม่รับรู้ถึงความตายที่กำลังเยือนเข้ามาใกล้ สีหน้าเขายังคงนิ่งเฉย
เธอเดินมานั่งลงบนเบาะข้างฟางเหยียน จางฉี่เหากล่าวขึ้นอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม “ชิงหยู่ สถานการณ์ของตระกูลเราตอนนี้เธอรู้ดีที่สุด ที่ผ่านมาคุณตาทำอะไรที่ผิดต่อหนู หนูอย่าถือสาตาเลย”
“คุณตา หนูจะเอาความคุณตาได้ยังไงคะ ท่านเป็นผู้อาวุโส หนูยังเป็นเด็ก หนูต้องเคารพท่านสิคะ” เย่ชิงหยู่ตอบ
จางฉี่เหาพยักหน้ารับ “หนูคิดแบบนี้ได้ เป็นดีที่สุด หนูเป็นคนคว้าโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับท่านหวงมาได้ การที่ให้พี่ชายหนูไปแทน เป็นความผิดของตาเอง แต่ว่า ตาเองก็ทำเพื่อตระกูลจาง การเซ็นสัญญายิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายกลับคำขึ้นมา ชิงหยู่ เอางี้แล้วกัน ขอเพียงแค่หนูยอมตกลงไปเซ็นสัญญา เรื่องที่ตาทำให้หนูได้ ตาจะสมปรารถนาหนูแน่นอน”
ไม่รอให้เย่ชิงหยู่ปริปาก ฟางเหยียนขัดขึ้นเสียก่อน “ก็ได้ ชิงหยู่ต้องการหุ้นส่วนร้อยละ51ของตงข่ายกรุ๊ป”
ประโยคตอกกลับของฟางเหยียน ทำให้จางฉี่เหานั่งนิ่งอยู่กับที่
ต้องการหุ้นส่วนของตงข่ายกรุ๊ปร้อยละ51 นั่นก็เท่ากับว่าเธอเป็นผู้ควบคุมตระกูลจาง
เย่ชิงหยู่เองก็จับจ้องฟางเหยียนด้วยความประหลาดใจ
อันที่จริงเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ
ฟางเหยียนเอ่ยเสริม “นอกจากนี้ อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะถึงวันเกิดของชิงหยู่แล้ว ตระกูลจางต้องจัดงานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ให้กับชิงหยู่ ต้องเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในเมืองจินโจวมาด้วย เพื่อเป็นการขอโทษชิงหยู่ด้วยความจริงใจ”
จางฉี่เหา จางซื่อตง จางไห่เฟิง เย่ชิงหยู่และจางเจียวเจียวต่างก็นิ่งอึ้งไป
พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าฟางเหยียนจะมีข้อเรียกร้องแบบนี้
อย่าว่าแต่เย่ชิงหยู่เลย ต่อให้เป็นจางฉี่เหาเอง เขาไม่กล้าเชื้อเชิญเหล่าผู้มีชื่อเสียงของจินโจวมาในงานวันเกิด
จางฉี่เหาจับจ้องเย่ชิงหยู่นิ่ง สลับกับฟางเหยียน “ชิงหยู่ นี่เป็นความต้องการของแก?”
ฟางเหยียนยกแขนขึ้นโอบเย่ชิงหยู่ “ไม่ผิดหลอก นี่เป็นความต้องการของเย่ชิงหยู่”
“ให้ชิงหยู่พูดเอง แกก็แค่เขยแต่งเข้า ทำไมถึงได้พูดมากนัก” จางซื่อตงจ้องฟางเหยียนเขม็ง
เมื่อจางฉี่เหาเห็นว่าเย่ชิงหยู่นิ่งเงียบ จึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “ชิงหยู่ นี่เป็นความต้องการของเธองั้นเหรอ?”
เย่ชิงหยู่ตอบรับอย่างมึนงง เหลือบสายตาไปที่ฟางเหยียน ฟางเหยียนพยักหน้าให้กับเธออย่างมุ่งมั่น เพื่อแสดงให้เธอเชื่อมั่นในตัวเขา
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้พยักหน้ารับ “คำพูดของฟางเหยียน คือความต้องการของหนูเอง”
จางฉี่เหาสูดหายใจเข้าอย่างหนัก ถลึงตาใส่ฟางเหยียน ส่วนฟางเหยียนนั้น จับตาเขากลับอย่างไม่หวาดหวั่น
จางซื่อตงและจางไห่เฟิงเพ่งมองเย่ชิงหยู่ด้วยความโกรธเกลียด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จางฉี่เหาเห็นแววตาของนักฆ่าที่หลบซ่อนอยู่ในสายตาของฟางเหยียน เขาเคยได้พบเห็นสายตาแบบนี้มาก่อน นั่นคือการทำศึกสงครามในสนามรบ เป็นสิ่งที่กลั่นออกมาจากการนองเลือดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่เขาเป็นจอมพลท่านหนึ่ง เขายากที่จะเชื่อว่าจะได้เห็นของแบบเดียวกันนี้ในสายตาของฟางเหยียน
แววตาแบบนั้น เขาไม่กล้าสบสายตาโดยตรง ที่สุด เขาก็เป็นฝ่ายพ่ายไปเอง
เขาปริปากอย่างยากลำบาก “ข้อที่สองฉันทำให้ได้ จะจัดการวันเกิดให้กับเย่ชิงหยู่ เชิญผู้มีชื่อเสียงมาในงาน แต่ข้อแรก การต้องการหุ้นส่วนของตงข่ายกรุ๊ปร้อยละ51 ฉันอยากที่จะตกลงด้วยได้”
ฟางเหยียนตัดทางของเขาในดาบเดียว “ไม่เป็นไร คุณไม่ตกลงก็ได้ สัญญานี่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเซ็น ตอนนี้ ผมจะพาเย่ชิงหยู่และคุณน้าจางออกจากตระกูลจางได้เลย ผมจะเลี้ยงดูพวกเธอเอง”
เย่ชิงหยู่ตระหนก คำพูดของฟางเหยียน เกินไปหน่อยแล้ว
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีงานทำแล้ว แต่นั่นก็แต่พนักงานเสิร์ฟทั่วไป เดือนหนึ่งได้แค่ไม่กี่พับเท่านั้น ต่อให้เขาทำงานสองส่วน แค่ค่าเช่าห้องก็หมดแล้ว
หากแต่ เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา ในตอนนี้ เธอเลือกที่จะเชื่อฟางเหยียน
จางฉี่เหาเองก็รู้ดี หากสัญญาฉบับนี้ไม่สามารถเซ็นได้ ครอบครัวของเย่ชิงหยู่ย้ายออกไปเมื่อไหร่ ตระกูลจางจบเห่แน่
หากตระกูลจางแตกสลาย ครอบครัวของเขาจะทำยังไงต่อไป?
หากเซ็นสัญญาฉบับนี้ได้ ตระกูลจางก็จะโบยบิน ต่อให่ได้หุ้นส่วนร้อยละ49 ก็ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแน่นอน
เขากัดฟันแน่น ไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดก็หยักหน้ารับอย่างไร้หนทาง“ได้ ฉันตกลง”
“โอเค ถ้างั้นก็จัดงานวันเกิดของเย่ชิงหยู่ก่อน หลังผ่านงานวันเกิด ชิงหยู่จะเซ็นสัญญากับหวงหยวนฉาวทันที”
“ได้!” ฉางฉี่เหาลุกขึ้นซอยฝีเท้าเดินออกไปอย่างไว
เดินออกจากบ้านของเย่ชิงหยู่ ด้วยทีท่าโมโหกระฟัดกระเฟียด เขาควบคุมดูแลกิจการมาแต่ยาวนาน ไม่เคยมีครั้งไหนที่น่าอนาถเท่ากับครั้งนี้ แต่ก่อน เพียงแค่สายตาของเขาก็สามารถทำให้ใครต่อใครสั่นเทาไปตามๆ กัน แต่วันนี้ เขากลับพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า
พ่ายแพ้ให้กับเขยแต่งเข้าคนหนึ่ง
“ปู่ครับ ทำไมท่านถึงได้ยอมรับข้อเสนอที่ไร้เหตุผลแบบนี้ล่ะครับ? ถ้าเป็นแบบนี้ ตงข่ายกรุ๊ปในอนาคตก็จะเป็นของสกุลเย่นะครับ นางเย่ชินเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ตระกูลจางของเรา ก็จะไร้อภิสิทธิ์ใดๆ นะครับ”
“นั่นสิ ท่านพ่อ เรื่องนี้เราวู่วามเกินไปหรือเปล่า?”
“พวกแกจะไปรู้อะไร? หากไม่ได้เซ็นสัญญา แค่ใช้ชีวิตยังยากลำบาก หนทางที่รอเรามีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น คือล้มละลาย”
“คุณปู่ เราสามารถขอความช่วยเหลือจากบริษัทของประธานลู่ได้! ก่อนหน้านี้ เราตกลงกันเอาไว้เรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือไง”
“แกคิดว่าฉันคิดไม่ได้หรือยังไง? ตอนนี้ลู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้เป็นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ช่วงนี้พวกเขาเกิดปัญญาขึ้นมากมาย” จางฉี่เหาส่ายหน้าถอนหายใจออกมา “ช่วงนี้ มีผู้มีอำนาจคนหนึ่งได้เดินทางมาที่เมืองจินโจว ตระกูลเซียวถูกเล่นงาน และลู่ซื่อกรุ๊ป ตระกูลเซียวเป็นผู้ลงทุน”
“ฉันทำเพื่อทุกชีวิตในตระกูลจาง!” จางฉี่เหาสะบัดมือ ก่อนที่จะก้าวออกจากที่
อีกด้าน หลังจากที่จางซื่อตงและจางไห่เฟิงจากไป เย่ชิงหยู่ถึงได้สติกลับคืนมา เธอเอ่ยถามฟางเหยียนด้วยความตกใจ “ฟางเหยียน ทำไมนายถึงได้เรียกร้องข้อเสนอแบบนั้นไป เราทำเกินไปหรือเปล่า?”
ฟางเหยียนเผยรอยยิ้มออกมา “ไม่ ไม่เกินไปเลยสักนิด หุ้นส่วนนี้เป็นของคุณตั้งแต่แรก บริษัทแห่งนี้คุณพ่อของคุณเป็นคนยกให้แก่พวกเขานะ เซ็นสัญญาเมื่อไหร่ มูลค่าจะเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า เหลือหุ้นร้อยละ49ให้กับพวกเขา ก็ถือว่าเยอะมากพอแล้ว”
เย่ชิงหยู่อยากจะต่อต้าน แต่กลับหาคำอธิบายใดๆ ไม่ได้